Ep.248 - กระสุนแสงศักดิ์สิทธิ์
1/3
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.248 - กระสุนแสงศักดิ์สิทธิ์
ภายนอกสถานชุมชน บนจอมอนิเตอร์ สัตว์ประหลาดร่างยักษ์ผุดขึ้นมาจากความมืดมิด ปรากฏขึ้นในกล้องโดรนสอดแนม
“นั่นมันอะไร?”
“รีบมาดูนี่กันเร็วเข้า!”
“ใหญ่โตถึงขนาดนี้ .. มันเป็นสัตว์ร้ายประเภทไหนกัน?”
ทุกคนต่างสูดหายใจลึก
เนื่องจากการปรากฏตัวของปีศาจเสพวิญญาณ เวลานี้ทุกคนเลยไปศึกษาข้อมูลของสิ่งมีชีวิตที่อาจเกี่ยวข้องกับมันมาเป็นพิเศษ
ทว่ารูปลักษณ์เบื้องหน้า พวกเขาไม่รู้หรือไม่เคยมีข้อมูลของมันมาก่อนเลย
“นี่คงจะเป็นการวิวัฒนาการแบบพิเศษของราชันย์สัตว์ร้าย น่ากลัวว่าไอ้ตัวยักษ์จะเป็นร่างที่แท้จริงของมัน!” ตันหยูกล่าว
เพราะยังไงซะ ก่อนต่อสู้ก่อนหน้านี้ที่แล้วๆมา ในฐานะราชันย์ถือว่าอ่อนแอเกินไป!
แต่ตันหยูคงไม่ทันคิด ว่าอันที่จริงปีศาจเสพวิญญาณมิได้อ่อนแอ แต่มันถูกกำราบไว้โดยฉินเฟิงต่างหาก
เวลานี้ฉินเฟิงซ่อนตัวอยู่ใจกลางซากปรักหักพัง กระจกหน้าต่างบานใหญ่ที่แตกร้าวแต่ยังคงสภาพไว้ได้คอยปิดบังร่างของเขา โดยมีโอบกอดทมิฬคอยปกคลุมอยู่อีกชั้นหนึ่ง
“ในที่สุดก็ออกมาสักที!”
ยักษ์ใหญ่เบื้องหน้า คือร่างสุดท้ายของปีศาจเสพวิญญาณ ซึ่งเป็นร่างเดียวที่ฉินเฟิงจะสามารถระเบิดอำนาจเลเวล E ของตนได้ถึงขีดสุดในยามต่อกรกับมัน
เหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะผลการต่อสู้จากชีวิตก่อนหน้าในผิงหยุน แน่นอนว่าเป็นปีศาจเสพวิญญาณที่ได้รับชัยชนะ ในขณะที่ตัวตนทรงพลังบางส่วนหารือกัน และได้ข้อสรุปออกมาว่า เฉพาะในยามที่ปีศาจเสพวิญญาณอยู่ในร่างนี้เท่านั้น มันถึงจะสามารถถูกสังหารลงได้
เนื่องจากหากอยู่ในสถานะวิญญาณ เมื่อคิดหนี มันก็สามารถหลบหนีไปได้ทันที
พลังสมาธิของฉินเฟิงแทรกเข้าไปในพื้นที่มิติของตน เรียกปืนใหญ่ออกมา
มันเป็นปืนใหญ่ประเภทขับไล่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางของปากกระบอกยาวกว่าครึ่งเมตร ซึ่งผู้ที่จะสามารถแบกมันได้ ต้องเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณที่ครอบครองพละกำลังระดับเลเวล D ขึ้นไปเท่านั้น
ซึ่งพละกำลังกายของฉินเฟิงเทียบเปรียบได้กับราชันย์สัตว์ร้าย ดังนั้นเลยสามารถใช้ปืนใหญ่ขับไล่ได้อย่างไม่มีปัญหา
“มาเจอกันสักตั้ง!”
ฉินเฟิงเติมกระสุนลงไป มันคือกระสุนแสงสีขาวราวหิมะ รังสีที่แผ่ออกมาชวนให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่น แต่ฉินเฟิงกลับไม่ชอบความรู้สึกนี้
คลิก!
กระสุนถูกบรรจุเสร็จสิ้น ฉินเฟิงขยับปากกระบอกเล็กน้อย เล็งไปยังทิศทางปีศาจเสพวิญญาณ และกระแทกมือลงบนสวิตซ์
ซี่----
ตรงปากกระบอกปืน เริ่มปรากฏแสงสีขาวควบรวมกันจนหนาแน่น ในวินาทีต่อมา มันก็ถูกยิงออกไปในฉับพลัน!
ประกายแสงสีขาวลอยข้ามผ่านผืนฟ้า ร่วงตกลงใจกลางร่างศพยักษ์ที่ถูกควบคุมโดยปีศาจเสพวิญญาณ
รังสีแสงโถมเข้าปกคลุมมันทันที
“อ๊ากกกก!”
ปีศาจเสพวิญญาณหวีดร้องน่าสยดสยอง มันเร่งควบคุมร่างศพยักษ์ วิ่งออกมาจากรัศมีแสงอย่างรวดเร็ว เมื่อออกมาพ้น ตรงส่วนท้องที่ถูกหัวกระสุนปักเข้าใส่ ก็เผยให้เห็นถึงรอยแผลเหวอะ และมีควันดำโขมงลอยฟุ้ง
คล้ายมีบางสิ่งบางอย่างถูกชำระล้าง
มุมปากของฉินเฟิงเผยอยิ้มเล็กน้อย มือที่กดสวิตซ์ค้างไว้ค่อยๆคลายลง
อันที่จริง กระสุนพลังงานแสงศักดิ์สิทธิ์นี้มีราคาแพงมาก แต่ละลูกมีมูลค่ามากถึง 300 ล้านเหรียญ การยิงมันแต่ละที ไม่แตกต่างจากการโยนเงินไปเผาเล่นเลย
แต่โชคยังดี ที่กระสุนนี้มิใช่ของฉินเฟิง เขาได้รับพวกมันมาจากกลุ่มมือปืนที่อยู่บนเกาะต่างมิติ ปัจจุบันสามารถนำมาใช้โจมตีปีศาจเสพวิญญาณได้ ถือว่าคุ้มค่า! ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว!
ทางฝั่งปีศาจเสพวิญญาณ พอถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว มันก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง --กระสุนนี้แผดเผาจิตวิญญาณของมัน
เส้นด้ายสีดำที่ขดตัวและคอยเชื่อมต่อซากศพเข้าด้วยกันจนเป็นร่างยักษ์ แท้จริงแล้วคือส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของมัน
หากเส้นด้ายเหล่านี้ถูกทำลาย จะเทียบเท่ากับจิตวิญญาณของมันถูกทำลายไปด้วย เมื่อถึงเวลานั้น หากยังโดนเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ต่อให้มันไม่ตาย แต่ก็จะมิอาจคงสถานะราชันย์เอาไว้ได้อีกต่อไป
ปีศาจเสพวิญญาณไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับกระสุนแสง หันหลังคิดหลบหนี อันที่จริงเวลานี้มันเสียใจสุดแสน เพราะทุกสิ่งที่ฉินเฟิงมีไว้ในครอบครอง ล้วนเป็นดาวข่มมันทั้งสิ้น
และคนอย่างฉินเฟิง มีหรือจะปล่อยมันไป?
ตูม!
ฉินเฟิงทุบทำลายกระจกที่บดบังตน ไล่ล่าซากศพยักษ์ ระดมยิงเข้าใส่อย่างเมามัน
ซี่---
แสงสว่างไสวอีกดวงหนึ่งถูกยิงออกมาจากปืนใหญ่ขับไล่ที่แบกไว้บนบ่าของเขา
เส้นแสงตัดผ่านผืนฟ้า ตรงเข้าหาปีศาจเสพวิญญาณอีกครั้ง
“กำแพงหมื่นศพ!”
ร่างศพยักษ์สะบัดมือไปเบื้องหลัง ระดมกองทัพซากศพเน่าเปื่อย ก่อตัวเป็นกำแพงหนา ปิดกั้นกระสุนแสงนี้
พรวด!
ทว่ากระสุนแสงกลับสามารถเจาะทะลุกำแพงได้ในทันที นอกจากนี้ ซากศพเน่าเปื่อยที่อยู่ภายใต้รังสีของแสง ยังค่อยๆแหลกเหลวกลายเป็นแอ่งหนอง
แต่ยังถือว่าโชคเข้าข้าง ที่ร่างศพยักษ์สามารถหลบกระสุนพ้น ดังนั้นไม่โดนรังสีแสงทำร้ายรอบสอง
แต่เนื่องจากมันต้องหันมาสร้างกำแพงศพ ฉะนั้นถูกชะลอความเร็ว ปัจจุบันฉินเฟิงเลยอยู่ห่างจากร่างศพยักษ์แค่ 50 เมตรเท่านั้น!
“อย่าหันหลังให้กันซี่ มาเล่นกันอีกสักตั้ง!”
ฉินเฟิงยิงปืนใหญ่ขับไล่ สาดรังสีแสงสักดิ์สิทธิ์ออกไปเป็นครั้งที่สาม
และในครั้งนี้ ร่างศพยักษ์ดูเหมือนจะนึกวิธีต่อต้านรังสีแสงได้แล้ว มันหันกลับมาเผชิญหน้าโดยตรงและ--
“สะท้อนกลับ!”
พลังสมาธิของปีศาจถูกถ่ายโอนเข้าสู่กระสุนแสง พยายามที่จะเบี่ยงทิศทางออกไป แต่เนื่องจากมันหนักกว่ากระสุนธรรมดามาก ทำให้ยากจะควบคุม แต่นั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับฉินเฟิง ผลการยื้อแย่งควบคุมกระสุนด้วยพลังสมาธิได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว
ในพริบตา รังสีแสงก็ขยับไปอีกทิศทางหนึ่ง แต่ทิศทางที่ว่าดันเป็นตำแหน่งของร่างศพยักษ์ซะเอง!
ตูม!
ร่างศพยักษ์ถูกระเบิดเข้าใส่อย่างจัง ลอยเคว้งไปในอากาศ อาคารตามทิศทางที่มันกระเด็นไป พังทลายลงหลายหลัง
หลังจากถูกรังสีที่สร้างขึ้นจากรูนแสงยิงเข้าเต็มๆกว่า 2 นัด ต่อให้ปีศาจเสพวิญญาณจะเป็นระดับราชันย์ แต่มันก็ยังมีขีดจำกัด
ร่างศพยักษ์พลันแหลกเป็นชิ้นๆ ทว่าในพริบตาเดียว มันก็สมานกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่เพียงมองด้วยตาเปล่าในเวลานี้ ก็สามารถบอกได้ว่าร่างศพยักษ์มีขนาดเล็กลง เหมือนจะหดไปกว่าครึ่งเมตร
ฉินเฟิงถอนปืนใหญ่ขับไล่ และใส่อุปกรณ์รูนอบิลิตี้บนแขนซ้ายแทน
จากนั้นก็เริ่มไล่ตามล่ามันอย่างเมามันอีกครั้ง
“ไอ้มนุษย์ขี้โกง! ตายซะ”
ปีศาจเสพวิญญาณควบคุมร่างศพยักษ์ ง้างกำปั้นชกสวนกลับไป
กำปั้นยักษ์กรีดผ่านอากาศ ส่งเสียงหอนหวีดหวิว ต่อให้เป็นฉินเฟิงเองก็ไม่กล้าที่จะรับมัน เพราะต้องไม่ลืมนะว่าทุกส่วนของร่างศพยักษ์เชื่อมต่อกับปีศาจเสพวิญญาณ ที่เกิดจากเส้นด้ายสีดำถักร้อยซากศพไร้หัวเอาไว้ด้วยกัน
ซึ่งซากศพเหล่านี้ เมื่อถูกเชื่อมต่อ มันเลยพลอยครอบครองพลังระดับราชันย์สัตว์ร้ายไปโดยปริยาย!
เปรี้ยง!
เมื่อต้องเผชิญกับอำนาจมหาศาล ตำแหน่งที่ฉินเฟิงเคยยืนอยู่ก่อนหน้า บัดนี้กลายเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่
แต่ฉินเฟิงได้หลบเลี่ยงไปยังตำแหน่งอื่นแล้ว
“หัตถ์แห่งความตาย!”
ปีศาจเสพวิญญาณไม่รั้งรอให้ฉินเฟิงตั้งตัว ระเบิดโจมตีอีกครั้ง มือของร่างศพยักษ์ผุดขึ้นมาจากในอากาศที่ว่างเปล่า กระแทกฝ่ามือลงกับพื้น
ยังไม่พอ บนฝ่ามือของซากศพยักษ์ ยังเต็มไปด้วยมือขนาดเล็กผุดงอกขึ้นมาอีกนับไม่ถ้วน เพียงมองก็บอกได้อย่างชัดเจน ว่าหากมือนี้สามารถคว้าจับศัตรู คงหมดโอกาสที่จะหลบหนี
ฉินเฟิงต้องการจะหลบเลี่ยงอีกครั้ง แต่คราวนี้มีเวลาไม่มากพอ!
“เทคนิคมังกรไฟ!”
หนึ่งมือวาดสะบัด หนึ่งมังกรผลุบออกมา ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า!!
...
พลังงานจากในเมืองที่ปลดปล่อยออกมา กระทั่งพลเรือนภายนอกผิงหยุนก็ยังรู้สึกได้ถึงมัน --ว่าเป็นอำนาจที่มากพอจะสั่นสะเทือนโลกหล้า!
ภายในรถศึกบัญชาการ ผู้คนที่คอยเฝ้ามองวิดีโอผ่านโดรนต่างรู้สึกกังวลใจ
“นายคิดว่าใครจะชนะ?” ผู้ใช้พลังเลเวล F คนหนึ่งเอ่ยปาก กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
หากพูดจากใจจริง แน่นอนทุกคนต่างหวังให้ฉินเฟิงจะชนะ
แต่ความแข็งแกร่งที่ปีศาจเสพวิญญาณแสดงออกมาให้เห็น ก็ช่างน่าตื่นตะลึง มิอาจดูแคลนได้เช่นกัน
อีกทั้งสถานการณ์ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าปีศาจเสพวิญญาณยิ่งนานก็ยิ่งค่อยๆแข็งกร้าวขึ้น
พวกเขาเลยทำได้เพียงอธิษฐาน ให้เทคนิคประจำตัวของฉินเฟิงใช้ได้ผล ไม่งั้นฝ่ายมนุษย์คงจะพ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม พวกเขาประเมินฉินเฟิงต่ำไป
เพราะในมุมมองของคนเหล่านี้ กำลังประเมินฉินเฟิงโดยอิงจากอบิลิตี้ของเขา
ทว่าสิ่งที่ฉินเฟิงแข็งแกร่งที่สุด จริงๆแล้วสมควรจะเป็นพลังในสถานะของผู้ใช้วรยุทธโบราณซะมากกว่า
เนื่องจากฉินเฟิงครอบครองความสามารถทางกายภาพที่สูงลิ่ว เปี่ยมไปด้วยกำลังภายใน ดังนั้นมีหรือที่เขาจะเป็นรองในการต่อสู้อันน่าตื่นเต้นนี้
หนึ่งมนุษย์หนึ่งปีศาจในเมืองผิงหยุน ระเบิดอำนาจเข้าห้ำหั่นกันจนผืนดินแตกร้าว
โผล๊ะ โผล๊ะ โผล๊ะ!
ท่ามกลางความโกลาหล เวลายิ่งผ่านพ้นโดรนหลายลำก็ยิ่งทยอยกันถูกทำลายลงจากผลพวงของการปะทะ เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่ง พลังสมาธิของฉินเฟิงก็กวาดออก และพบว่าบริเวณโดยรอบไม่มีโดรนหลงเหลืออีกต่อไป
จวบจนถึงช่วงเวลานี้ มันก็เป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมงแล้วที่ฉินเฟิงกับร่างศพยักษ์ต่อสู้กัน
ภายนอกผิงหยุน คนอื่นๆไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าคนๆหนึ่งสามารถยืนหยัดต่อกรกับศัตรูระดับราชันย์ได้ยาวนานถึงขนาดนี้
เพราะหากนับตั้งแต่คืนแรก เท่ากับว่าปัจจุบันฉินเฟิงต่อสู้เป็นเวลามากว่า 2 วันแล้ว!
และรุ่งอรุณ กำลังค่อยๆคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ
“โอบกอดทมิฬ!”
คล้ายกับว่าจะตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน ปีศาจเสพวิญญาณคิดเผด็จศึก ใช้ความมืดปกคลุมสนามรบ เตรียมหาจังหวะลอบสังหารฉินเฟิง
“จงแพร่กระจาย!”
แขนซ้ายของร่างศพยักษ์พลันสลายไป ซากศพไร้หัวนับสิบนับร้อยปรากฏออกมา ทั้งหมดแฝงตัวไปกับความมืดมิด
และที่สำคัญก็คือ … กลิ่นอายของพวกมันทุกตัว อยู่ในระดับราชันย์!