ตอนที่แล้วบทที่ 145
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 147

บทที่ 146


ตลอดระยะเวลาหลายวัน เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เสียงปะทะกันของอาวุธหลากหลายชนิดดังลั่นออกมาบริเวณชายป่า คนของผาไม้ดำหลายร้อยคนดักซุ่มโจมตี เกือบชั่วยามคนของสำนักใหญ่ทั้งแปดก็พากันถอยหนีออกมาตั้งค่ายด้านนอก นั้นเพราะว่าแต่ละสำนักต่างถือตัวว่าเป็นสำนักใหญ่ ออกกระจายไปตามพื้นที่ไม่รวมกลุ่มกัน ทำให้กลุ่มคนของผาไม้ดำที่แอบซุ่มโจมตีลงมือได้สะดวกมากขึ้น ศิษย์สำนักใหญ่ทั้งแปดหลายคนถูกสังหารลงอย่างรวดเร็ว มีเพียงสำนักพยัคฆ์สายลมเท่านั้นที่ยังไม่มีผู้ได้ตกตาย มีเพียงบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น

หลังจากที่ถอยออกมาตั้งค่าย แน่นอนว่าแต่ละสำนักก็ยังไม่คิดที่จะรวมกลุ่มกันเช่นเดิม มีปากเสียงกันอยู่ตลอดเวลา สำนักเจ็ดดาวถือตัวว่าเคยเป็นสำนักใหญ่และเป็นเจ้าถิ่นในเขตแห่งไฟ มักจะออกมาแสดงว่าคิดเห็นต่างออกไป พร้อมกับอ้างว่าตัวเองรู้เส้นทางในพื้นที่จึงคิดเป็นหัวหน้ากลุ่ม แน่นอนว่าสำนักอื่นๆอีกเจ็ดสำนักหาได้ติดตามด้วย หลายสำนักเริ่มที่จะเข้าร่วมกับสำนักพยัคฆ์สายลม เพราะว่าหวังหลินเป็นผู้นำและวางแผนจัดการรับมือเป็นอย่างดี ทำให้การซุ่มโจมตีหลายวันมานี้ ไม่มีผู้ใดในสำนักตกตายแม้แต่ผู้เดียว

อรุณลาลับขอบฟ้า การประชุมในกระโจมใหญ่ศิษย์สำนักทั้งแปดผู้อาวุโสและเหล่าหัวหน้าทหารประจำเขต ประชุมกันอย่างเข้มข้น แต่ทว่าการประชุมก็ต้องจบลงเพราะของคนจากสำนักเจ็ดดาวที่อยากจะเป็นหัวหน้าในการนำทีมบุกเข้าไปบนเขา แน่นอนว่าคนอื่นๆไม่เห็นด้วยจึงมีการคัดค้านกันทำให้เกิดการแบ่งฝ่ายเกิดขึ้น ทำให้คนจากสำนักเจ็ดดาวเจ็บแค้นไม่น้อยพากำลังคนทั้งหมดออกไปจากกระโจมใหญ่ เหลือเพียงเจ็ดสำนักใหญ่และเหล่าหัวหน้าทหารที่ยังประชุมกันอยู่ หยางเวยและเย่เตาหาได้เข้าร่วมประชุม ทั้งสองนั่งโคจรลมปราณอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่เพื่อรอเวลาบางอย่าง

“เย่เตาเจ้าคิดว่าคนของสำนักเจ็ดดาวรู้เห็นเป็นใจต่อคนของผาไม้ดำหรือไม่”

“จากที่ข้าสังเกต ทุกครั้งที่ศิษย์พี่หวังหลิน นำกำลังบุกขึ้นไป จะพบเจอคนของผาไม้ดำดักซุ่มโจมตีตลอดประดุจรับรู้เส้นทางที่เราจะบุก แน่นอนว่าก่อนการบุกข้าแอบตรวจสอบคนของสำนักทั้งแปด มีเพียงคนของสำนักเจ็ดดาวที่น่าสงสัย และมีบางคนรีบออกไปจากค่ายแต่ว่าข้ายังไม่สามารถติดตามไปตรวจสอบได้ แต่ข้ามั่นใจว่าต้องมีใครสักคนในสำนักเจ็ดดาว หรือคนจากสำนักทั้งหกส่งข่าวให้คนจากผาไม้ดำรับรู้เป็นแน่”

“เห็นทีก่อนการบุกครั้งหน้าเราต้องจับคนที่แอบส่งข่าวให้ได้”

ในระหว่างนั้นเองทั้งสองที่แอบอยู่บนกิ่งไม้ ก็เห็นเงาคนผู้หนึ่งพุ่งออกมาทางด้านที่ทั้งสองแอบอยู่ หยางเวยและเย่เตาหันมาสบตากัน จึงพุ่งทะยานไปตามกิ่งไม้แอบติดตามเงาคนผู้นั้นไป เกือบสองเค่อก็พบว่าคนที่ออกมาแอบพบใครบางคนและยังเป็นคนของผาไม้ดำด้วย หยางเวยก็สบถออกมา

“บัดซบ เป็นผู้ใดกันที่เป็นส่งข่าว”

“หยางเวยเจ้าพร้อมหรือไม่”

หยางเวยไม่กล่าวสิ่งใดตอบเย่เตา สะบัดมือขวากำชับมีดอันแปลกประหลาดในมือ เย่เตาที่เห็นเช่นนั้นก็เอ่ยวาจาออกมา

“ทำตามแผนเดิม เจ้าเข้าไปปะทะ ข้าจะช่วยเหลือด้านนอกเอง”

“ฝากด้วยเย่เตา”

สิ้นเสียงกล่าวหยางเวยก็ฟาดฟันมีดในมือออกไปที่คนทั้งสองด้านล่าง ปราณมีดสีม่วงพุ่งเข้าหาคนทั้งสองอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง แต่ทว่าก็ถูกปราณดาบอีกเล่มพุ่งเข้าปะทะจากด้านข้าง ไม่ถึงสองลมหายใจก็ได้ยินเสียงหัวเราะออกมา

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า มีหนูสกปรกติดตามเจ้ามา หาที่ตายโดยแท้ พวกเจ้าจัดการมันซะ”

ไม่ถึงสองลมหายใจหยางเวยก็ถูกคนจากผาไม้ดำสี่คนล้อมอยู่ตรงกลาง มีดในมือต้านรับคมดาบทั้งสี่เล่ม เสียงดังลั่นป่า หยางเวยรีบระเบิดปราณพิษออกมาทันที ตูม ควันพิษสีม่วงฟุ้งกระจาย คนที่แอบออกมาส่งข่าวสบถเสียงดังลั่น

“บัดซบ มันคือหยางเวย คนของสำนักพยัคฆ์สายลม พวกเจ้าต้องสังหารมันให้ได้ ไม่เช่นนั้นมันผู้นี้ต้องเปิดโปงข้าเป็นแน่”

“พวกเจ้าคงได้ยินแล้วรีบสังหารหนูสกปรกตัวนั้นซะ”

เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง ในระหว่างที่หยางเวยกำลังต้านรับอยู่ก็หรี่ตามองพบเห็นว่าผู้ใดออกมาส่งข่าวก็ส่งเสียงร้องคำรามออกมาเสียงดัง

“เหอะ ข้าคิดว่าใครที่ไหน ที่แท้ก็เป็นเจ้าเองรึ ซ่งจวินซือ ไม่คิดว่าศิษย์สำนักอินทรีทองจะเป็นคนทรยศ”

“เจ้าจดจำข้าได้รึ”

“แน่นอน เจ้าลืมไปแล้วรึการประลองเขตทั้งแปดเจ้าอยู่ในกลุ่มเดียวกับข้าตอนคัดเลือก”

“ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าข้าเป็นคนจากผาไม้ดำ เช่นนั้นก็เตรียมตัวตายเสียเถอะ”

ซ่งจวินซือหันไปมองคนจากผาไม้ดำ หลังจากนั้นหันหลังพุ่งทะยานออกไป แต่ทว่าก็พุ่งไปไม่ได้ไกลเย่เตาที่แอบอยู่บนกิ่งไม้ก็ฟาดฟันดาบในมือออกไปอย่างรวดเร็ว ปราณดาบสีแดงพุ่งปะทะร่างซ่งจวินซือ เปรี้ยง กระเด็นออกไปด้านข้าง หยางเวยเมื่อเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาดังลั่น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คิดว่าข้าจะมาเพียงผู้เดียวรึ รอก่อนเถอะ หากคนในค่ายรับรู้ว่าเจ้าเป็นคนทรยศศิษย์สำนักอินทรีทองจะทำหน้าเช่นไร”

เย่เตาที่เปิดเผยตัวแล้วก็รีบเข้าไปช่วยหยางเวยปะทะ ไม่ถึงหนึ่งเค่อพิษของหยางเวยก็เริ่มออกฤทธิ์ คนจากผาไม้ดำจึงถูกสังหารทั้งหมด เย่เตาและหยางเวยใช้เชือกสานมัดคนของผาไม้ดำและซ่งจวินซือลากไปตามพื้นมุ่งหน้ากลับไปยังค่าย

ในระหว่างนั้นเองที่หน้าเตาหลอม เนี่ยฟงยังคงกระหน่ำทุบค้อนเหล็กในมืออย่างไม่ลดละ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ผ่านไปหลายวันกู่อิ๋งจิ้งเองก็สอนเทคนิคการตีดาบการใช้ค้อนให้เนี่ยฟงไม่น้อย ผลึกสายฟ้าเริ่มที่จะมองเห็นเป็นรูปร่างดาบมากขึ้น

“คาดว่าดาบของเจ้าคงจะเสร็จเร็วกว่ากำหนดแน่นอน”

“ต้องขอบคุณท่านผู้เฒ่ามากขอรับ ที่สั่งสอนข้าถึงเทคนิคการตีดาบหลายวันมานี้”

“เช่นนั้นผลึกสายฟ้าที่เหลือข้าจะทำมีดสั้นให้เจ้าอีกเล่มหนึ่งก็แล้วกัน”

“ขอบคุณท่านผู้เฒ่าขอรับ”

“แต่คนลงมือตีต้องเป็นเจ้านะ”

เนี่ยฟงลอบเหงื่อเย็นไหลผ่านหลัง กล่าวตอบรับด้วยเสียงสั่นๆ สร้างเสียงหัวเราะจากกู่อิ๋งจิ้งไม่น้อย เสียงค้อนเหล็กทุบตีผลึกสายฟ้ายังคงดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง ไม่นานเนี่ยฟงก็หยุดมือลง

“เอาละเจ้าไปพักเถอะวันนี้คงพอแค่นี้ ข้าจะเผามันต่ออีกสักหน่อยรุ่งเช้าเจ้าจะได้ทำงานต่อ”

“ขอรับ”

หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็หามุมผนังหิน นั่งหลับตาโคจรลมปราณรักษาอาการเหนื่อยล้าจากการยกค้อนเหล็กทุบตีผลึกสายฟ้ามาแทบทั้งวัน

ทางด้านหยางเวยและเย่เตา ทั้งสองเมื่อกลับเข้ามายังค่ายก็สร้างเสียงฮือฮาแก่ผู้คนในค่ายไม่น้อย แต่ละคนถูกปลุกจากกระโจมที่พักกลางดึก ศิษย์สำนักอื่นๆหลายคนเริ่มมีอาการไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นกองซากศพของคนจากผาไม้ดำ และมีชายผู้หนึ่งถูกทำร้ายบาดเจ็บถูกคุมตัวอยู่ หลายคนเริ่มมีความสงสัย ศิษย์สำนักอินทรีทองรู้สึกว่าเป็นผู้ใดก็อับอายไม่น้อยเช่นกัน หยางเวยนำจดหมายติดต่อระหว่างซ่งจวินซือและคนจากผาไม้ดำออกมาเปิดเผย แน่นอนว่าระหว่างนั้นเองเย่เตาก็กวาดสายมองผู้คนด้านหน้า ไม่ถึงห้าลมหายใจ เย่เตาก็สะบัดมือขวาถือดาบคู่ใจในมือ ยกพาดคอศิษย์ผู้หนึ่งของสำนักเจ็ดดาว ศิษย์สำนักมากมายล้วนจ้องมองการกระทำของเย่เตาด้วยความสงสัย เช่นเดียวกับหยางเวย

“หยางเวยค้นตัวมันผู้นี้”

หยางเวยแสยะยิ้มพุ่งทะยานเข้าไปที่ชายผู้นั้น แน่นอนว่าคนของสำนักเจ็ดดาวเข้ามาขวางไว้พร้อมกับเรียกอาวุธคู่ใจออกมาถือไว้เช่นกัน หยางเวยหาได้มีท่าทีหวาดกลัว เอ่ยวาจาออกมา

“หากว่าพวกเจ้าคิดว่าคนผู้นี้ไม่เกี่ยวข้องกับคนจากผาไม้ดำ ก็ยินยอมให้ข้าตรวจค้น แต่หากพวกเจ้ายังคงกระทำเช่นนี้ ข้าจะคิดว่าพวกเจ้าเป็นคนจากผาไม้ดำจริง คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่หากว่าคนผู้นี้ตรวจสอบแล้วไม่เกี่ยวข้องอันใดกับคนจากผาไม้ดำ ข้ายินดีคุกเข่าขอขมา”

สิ้นเสียงกล่าวของหยางเวยคนจากสำนักเจ็ดดาวเริ่มขยับถอยออกมา หยางเวยถือวิสาสะค้นตัวพร้อมกับปลดแหวนในมือออกมาตรวจสอบ ไม่นานก็แสยะยิ้มเอ่ยวาจาออกมา

“บัดซบ คนจากผาไม้ดำแฝงตัวอยู่ทุกทีเสียงจริง เย่เตาคุมตัวชายผู้นี้เอาไว้”

แน่นอนว่าชายผู้นั้นคิดขัดขืน เย่เตาก็ไม่ปรานีแต่อย่างใดตวัดดาบในมือวาดผ่านลำคอ เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาประดุจน้ำพุชายผู้นั้นตกตายนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น สร้างความตื่นตกใจแก่คนทั้งหมดที่ออกมามุงดู ศิษย์สำนักเจ็ดดาวทั้งหมดเริ่มที่กำชับอาวุธในมือแน่น จ้องมองทั้งสองคนอย่างไม่วางตา หยางเวยโคจรลมปราณไปที่แหวนของชายผู้นั้นจดหมายฉบับหนึ่งก็ปรากฏในมือของหยางเวย หยางเวยรับอ่านข้อความในจดหมายทันที

“รายงานความเคลื่อนไหวของสำนักทั้งแปด ก่อกวนแยกสำนักต่างๆออกจากกันๆ หาทางล่อพวกมันไปที่ทุ่งสังหาร”

หวังหลินเองก็รีบเอ่ยวาจาออกมาเช่นกัน

“ข้าคิดว่าคนจากผาไม้ดำคงแฝงตัวอยู่ในทุกสำนักเป็นแน่ รบกวนพวกท่านตรวจสอบคนของพวกท่านด้วย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด