ตอนที่แล้วบทที่ 144
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 146

บทที่ 145


หลังจากที่ทั้งสามทานบะหมี่จนอิ่ม ต้องหยุดพักเกือบชั่วยามถึงจะเดินทางต่อได้ เนี่ยฟงต้องหาซื้อบ๊วยดองให้หยางเวยทานเพื่อล้างพิษของสมุนไพรเล็บมือมังกรแดง เพราะหยางเวยเองซดน้ำซุปไปถึงสี่ถ้วย ทั้งสามมุ่งหน้าออกจากเมืองหน้าด่าน เย่เตาพาทั้งสามมุ่งหน้าไปทางเขตภูเขาไฟ แสงอรุณใกล้ลาลับขอบฟ้า ทั้งสามยังไม่ถึงที่หมาย จึงหยุดพักบริเวณชายป่าใกล้เขตภูเขาไฟใกล้แม่น้ำสายหนึ่ง หยางเวยยังคงทำหน้าที่เช่นเดิมในการจัดการก่อไฟสำหรับทำอาหาร เนี่ยฟงและเย่เตาหาปลาในแม่น้ำได้เยอะพอสมควร หลังจากทานอาหารจนอิ่มทั้งสามก็แยกย้ายกันพักนั่งโคจรลมปราณบนกิ่งไม้ใหญ่

อรุณเริ่มทอแสงสัตว์อสูรประเภทนกบินเป็นฝูงร้องขับขานในตอนเช้า หลังจากทานอาหารเช้า เย่เตารีบพาทั้งสองขึ้นไปบนเขาเดินลัดเลาะสันเขา เกือบชั่วยามเย่เตาก็พาทั้งสองเข้าไปยังช่องแคบระหว่างภูเขาไฟสองลูก ไม่นานก็พบกับบ้านพักหลังหนึ่งทำด้วยหินภูเขาไฟ ด้านนอกมีกองเหล็กและแร่ต่างๆมากมายวางกองอยู่เต็มไปหมดและยังมีส่วนของอาวุธจำนวนมากที่สร้างเสร็จแล้วตั้งไว้บนแท่นหิน มีทั้งดาบ กระบี่ ทวน หอก และธนู เย่เตารีบเอ่ยวาจาออกมาเสียงดัง

“ท่านผู้อาวุโสกู่อิ๋งจิ้นขอรับ ข้าน้อยเย่เตามาเพื่อเยี่ยมเยียนขอรับ”

สิ้นเสียงกล่าวของเย่เตา ประตูหินด้านหน้าบ้านพักก็ค่อยๆเปิดออก ชายชราผมสีดอกเลา สวมแต่กางเกงมีมัดกล้ามขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดินออกมา

“คุณชายเย่เตา มีเรื่องอันใดรึ หรือว่าดาบมีปัญหา แล้วนั้นท่านพาผู้ใดมาด้วยรึ”

“คารวะท่านผู้อาวุโส ดาบยังใช้งานได้ดีอยู่ขอรับ ส่วนทั้งสองคนเป็นเพื่อนข้าเอง เนี่ยฟงและหยางเวย ที่พวกข้าทั้งสามมาเยี่ยมท่านวันนี้ มีเรื่องรบกวนขอรับ”

สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงและหยางเวยก็ก้มคารวะ

“คารวะท่านผู้อาวุโสกู่อิ๋งจิ้นขอรับ”

“พวกทั้งสามมีสิ่งใดรึ บอกไว้ก่อนหากจะให้ข้าทำอาวุธให้คงเป็นไปไม่ได้”

เนี่ยฟงขมวดคิ้วทั้งสองขึ้น สะบัดมือขวานำจดหมายออกมายื่นให้แก่กู่อิ๋งจิ้น เมื่อเปิดอ่านข้อความในจดหมายกู่อิ๋งจิ้นก็จ้องมองเนี่ยฟงอย่างไม่วางตา

“เชิญคุณชายเย่เตาและเพื่อนอีกคนของท่านออกไปรอด้านนอกก่อน ส่วนคุณชายเนี่ยฟงรออยู่ก่อน”

เย่เตาเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เดินออกไปรอด้านนอกกับหยางเวย ไม่นานกู่อิ๋งจิ้นก็กล่าวกับเนี่ยฟง

“เอาละไหนเจ้าทดลองใช้พลังของเจ้าสิพ่อหนุ่มน้อย”

“เรียนผู้อาวุโสขอรับ อาวุธในตัวข้าเสียหายหมดแล้วท่านพอมีอาวุธให้ข้าหยิบยืมได้หรือไม่ขอรับ”

กู่อิ๋งจิ้นชี้ไปที่กองอาวุธที่ตั้งวางไว้ เนี่ยฟงเดินเข้าไปหยิบดาบออกมาเล่มหนึ่งตัวดาบและด้ามมีสีดำ เมื่อโคจรลมปราณไปที่ดาบแล้วฟาดฟันไปที่ผนังหินภูเขา ปราณดาบสีฟ้ามีประกายสายฟ้าล้อมรอบพุ่งเข้าปะทะผนังหินเสียงดังสนั่น เปรี้ยง ผนังหินถูกฟันเป็นรอยดาบฝังอยู่ ดาบในมือเนี่ยฟงเกิดรอยร้าวไปที่ใบดาบอย่างเห็นได้ชัด กู่อิ๋งจิ้งจ้องมองไปที่ดาบมือเนี่ยฟงไม่นานก็ยกยิ้มออกมา ในขณะเดียวกันเย่เตาและหยางเวยก็รีบพุ่งทะยานเข้ามาด้านใน

“แปลกประหลาดนัก เจ้ารู้หรือไม่ว่าดาบในมือเจ้า สร้างมาจากแร่หินดำในภูเขาแห่งนี้ ตัวมันมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก สามารถตัดดาบเหล็กธรรมดาทั่วไปประดุจเต้าหู้ แต่ตอนนี้มันกลับถูกทำลายลงเพราะการฟาดฟันเพียงครั้งเดียว ดี ดียิ่งนัก ข้าไม่เคยตื่นเต้นเช่นนี้มานานมากแล้ว ว่าแต่เจ้าจะให้ข้าสร้างอาวุธใดรึ”

เนี่ยฟงรับก้มคารวะกู่อิ๋งจิ้นอีกครั้งหลังจากนั้นฝากดาบในมือให้หยางเวย พร้อมกับสะบัดมือขวานำผนึกสายฟ้าก้อนสีดำทมิฬออกมา

“ข้าต้องการให้ท่านสร้างดาบให้ข้าหนึ่งเล่ม โดยใช้ผนึกสายฟ้าก้อนนี้ขอรับ”

“เจ้ามีแบบร่างของดาบหรือไม่”

“มีขอรับ”

เมื่อกล่าวสิ้นเสียง เนี่ยฟงก็สะบัดมือขวานำกระดาษแผ่นหนึ่งออกมายื่นให้แก่กู่อิ๋งจิ้น ด้านในมีแบบร่างของดาบ ที่มีลักษณะคล้ายกับดาบสายฟ้าในตันเถียน ตัวดาบมีขนาดใหญ่กว่าดาบทั่วไป คมดาบมีอยู่ทั้งสองฝั่งเช่นเดียวกับกระบี่ ปลายด้ามดาบมีรูสำหรับห้อยบางอย่าง

“จากลักษณะดาบของเจ้า ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่ผนึกสายฟ้าก้อนนี้ทำได้อยู่ เจ้ารีบใช้หรือไม่พ่อหนุ่ม”

“หากเป็นไปได้ข้าอยากได้เร็วที่สุด”

กู่อิ๋งจิ้นยืนครุ่นคิดอยู่นาน

“หากว่าเจ้าอยากได้เร็ว เจ้าคงต้องอยู่ทำดาบกับข้า ไม่เกินสิบสี่วัน หรือไม่เช่นนั้นก็คงต้องรออีกหนึ่งเดือน”

เนี่ยฟงยื่นครุ่นคิด หยางเวยเมื่อเห็นเช่นนั้นก็กล่าวออกมา

“ไอ้บ้าเนี่ยฟง เจ้าอยู่สร้างดาบของเจ้าที่นี่เถอะ เมื่อเสร็จสิ้นเมื่อไรก็รับตามพวกข้าไปก็แล้วกัน เจ้าไม่ต้องห่วง”

“แต่ว่า”

“เรื่องที่จะจัดการเจ้าปล่อยให้ข้าและหยางเวยจัดการเถอะ เจ้าอยู่สร้างดาบที่นี่เถอะ หากได้ดาบเมื่อไรรีบติดตามพวกข้าไปก็ยังไม่สาย”

นานนับหนึ่งเค่อเนี่ยฟงก็ตอบตกลง กู่อิ๋งจิ้นเองก็ยกยิ้มเช่นกัน

“เอาเถอะตกลงกันเช่นนั้นแล้ว เราไปที่เตาหลอมกันเถอะ”

เย่เตาเองรับรู้ว่าเมื่อเข้าเตาหลอมแล้วกู่อิ๋งจิ้นจะอยู่ที่นั่นจนกว่าจะสร้างดาบเสร็จ หยางเวยนำดาบไปเก็บบนแท่น ไม่นานทั้งสองก็กล่าวร่ำลา เนี่ยฟงจ้องมองแผ่นหลังของทั้งสองเดินหายไปในช่องเขาทางออก กู่อิ๋งจิ้นก็เอ่ยปากเรียกเนี่ยฟง

“เราไปกันเถอะพ่อหนุ่ม ดูจากสีหน้าและแววตาของเจ้าแล้ว คงรีบใช้ดาบไม่น้อย”

สิ้นเสียงกล่าวกู่อิ๋จิ้นก็เดินหายเข้าไปด้านหลังของกองเหล็กและแร่ เนี่ยฟงรีบเก็บผลึกสายฟ้าติดตามไป ด้านหลังของกองเหล็กและแร่มีช่องทางเดินขนาดเล็กพอให้เดินผ่านสามคน รอบด้านเป็นผนังหิน เมื่อเดินเข้าไปลึกพอสมควร เนี่ยฟงก็พบว่าด้านในมีความร้อนสูงขึ้นเรื่อย ๆเม็ดเหงื่อเริ่มไหลจนเสื้อที่สวมใส่เปียกชุ่ม เกือบสองเค่อทั้งสองก็เดินออกมาพบเห็น ลานกว้างขนาดพอสมควร ตรงกลางมีเตาเผาขนาดใหญ่สร้างมาจากหินภูเขาไฟ มันถูกสร้างใกล้ๆกับลาวาอันร้อนระอุ ด้านข้างมีแท่นหินขนาดใหญ่และมีอุปกรณ์สร้างอาวุธจำนวนมากวางกองอยู่บนพื้น

“เจ้าพร้อมแล้วใช่หรือไม่พ่อหนุ่ม นำผลึกสายฟ้าออกมาเถอะ”

เนี่ยฟงรีบนำผลึกสายฟ้าออกมา กู่อิ๋งจิ้นเดินไปหยิบผลึกสายฟ้าโยนเข้าไปในเตาหลอม พร้อมกับเดินไปด้านข้างเตาหลอมโคจรลมปราณซัดฝ่ามือลงไปที่ช่องขนาดเล็กข้างๆเตาหลอม ไม่นานลาวาอันร้อนระอุก็ไหลเข้ามาที่เตาหลอม เกือบชั่วยามในการเผา กู่อิ๋งจิ้นก็ถอนฝ่ามือออกใช้คีมขนาดใหญ่ดึงเอาผลึกสายฟ้าออกมา ตอนนี้มีสภาพเป็นสีแดงฉาน

“เอาละ เจ้าเห็นค้อนขนาดใหญ่ตรงนั้นหรือไม่ หยิบมันมา แล้วทุบไปที่ผลึกสายฟ้า”

เนี่ยฟงรีบกล่าวตอบรับ เมื่อเดินเข้าไปหยิบค้อนขนาดใหญ่ พบว่ามันมีขนาดที่หนักพอสมควร กู่อิ๋งจิ้นยกยิ้มเอ่ยวาจาออกมา

“เจ้าโคจรลมปราณไปที่มือ ย้ำว่าแค่มือเท่านั้นอย่าโคจรลมปราณไปที่ค้อน ไม่เช่นนั้นค้อนในมือเจ้าจะถูกทำลายด้วยพลังปราณของเจ้า”

เนี่ยฟงรีบทำตามก็พบว่าค้อนในมือเริ่มมีน้ำหนักเบาขึ้น

“เอาละ เจ้าใส่แรงที่มีทั้งหมดทุบมาที่ผลึกสายฟ้าได้เลย”

“ขอรับ”

สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงก็เดินเข้าไปหวดค้อนขนาดใหญ่ในมือลงไปที่ผลึกสายฟ้าสีแดงฉาน เปรี้ยง ครั้งแรกที่ค้อนขนาดใหญ่ปะทะกับผลึกสายฟ้า เนี่ยฟงรู้สึกปวดไปที่มือทั้งสองข้าง แต่ทว่าเนี่ยฟงก็ยังคงทุบค้อนในมืออย่างไม่ลดละ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ไม่นานผลึกสายฟ้าก็ค่อยๆกลายเป็นสีดำเช่นเดิมกู่อิ๋งจิ้นก็นำผลึกสายฟ้ายัดเข้าเตาหลอมพร้อมกับซัดฝ่ามือลงไปในช่องด้านข้างเตาอีกครั้ง

ผ่านไปสองวันเย่เตาและหยางเวยก็มาสมทบกับพวกคนของสำนักพยัคฆ์สายลมภายในเมืองหน้าด่านมีผู้อาวุโสสี่คนติดตามมาด้วย กลุ่มของสำนักต่างๆเริ่มที่จะรวมตัวกันครบแล้ว ตอนนี้กำลังเข้าปะทะกับคนของผาไม้ดำที่ดักซุ่มโจมตีอยู่ในเมืองหน้าด่าน เสียงการปะทะดังสนั่น เลือดสีแดงสาดกระจายไปตามพื้น แต่ด้วยจำนวนคนที่มากกว่าคนของผาไม้ดำจึงถูกจัดการจนหมด ยังไม่รวมถึงกำลังทหารที่แต่ละเขตส่งออกมาอีกนับพันคนที่กำลังเดินทางเข้ามายังเขตแห่งไฟ หยางเวยและเย่เตาไม่ลืมที่จะปลดแหวนออกจากซากศพที่ตนสังหาร หลังจากจัดการที่เมืองหน้าด่านเสร็จสิ้นทั้งหมดก็เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าขึ้นเขาซิงซาน ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเขตแห่งไฟ

ข้อมูลที่ได้ มาจากการสอบปากคำของเสิ่นฟูหลิน ทำให้หวังหลินกลายเป็นผู้นำไปโดยปริยาย แต่ด้วยจำนวนคนที่เยอะและต่างฝ่ายต่างมาจากสำนักใหญ่ทั้งแปดแห่ง ทำให้หลายต่อหลายสำนักอยากที่จะขึ้นเป็นผู้นำ ทำให้ระหว่างการเดินทางเริ่มที่จะมีปัญหากันเกิดขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด