ตอนที่ 77-78
ตอนที่ 77 : จี้อู๋ฮุยตัดสินใจ
จี้อู๋ฮุยสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมก้าวเดินไปในภัตตาคารเซียนวิหคอมตะ
ความเป็นจริงนั้น พื้นเพของภัตตาคารแห่งนี้ถือว่าเป็นเรื่องราวลึกลับในนครจิ่วเหยามาโดยตลอด
ผู้คนเพียงทราบว่ามีพื้นเพอันยิ่งใหญ่ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีทางได้กลายเป็นภัตตาคารอันดับหนึ่งแห่งนครจิ่วเหยา
และก็หาได้มีผู้ใดทราบไม่ ว่าแท้จริงราชวงศ์คือนายใหญ่ของภัตตาคารแห่งนี้!
“เหตุใดฝ่าบาทมาเยือนด้วยตนเอง?”
“ก่อนหน้านี้เหล่าไป่มาเยือน ครั้งนี้เป็นฝ่าบาท หรือว่าเหล่าไป่ไม่อาจจัดการเรื่องราวได้?”
“น่าสงสัยนักว่าเกิดเรื่องราวใดขึ้นที่ภายในอาคาร”
“เช่นนั้นเข้าไปรับชม!”
“เหอะเหอะ เจ้าไม่เกรงกลัวความตาย เช่นนั้นไป...”
ขณะนี้ ภัตตาคารเซียนวิหคอมตะกลายเป็นสถานที่ต้องห้าม
ผู้คนภายในไม่อาจออก และผู้คนภายนอกก็ไม่อาจเข้า
ความเงียบ คือคำบรรยายเพียงหนึ่งเดียวของสถานการณ์ภายใน
ทุกคนแทบไม่กล้าสูดลมหายใจดัง สายตาได้แต่จับจ้องคนหนุ่มที่นั่งเก้าอี้อยู่
สีหน้าลั่วฉวนเฉยชา ไม่ทราบว่าขณะนี้มีความคิดอันใดอยู่
เหยาซือหยานที่อยู่ข้างกายไม่กล่าวคำใด เพียงแต่รับชมลั่วฉวนที่ไม่ทราบว่าขณะนี้คิดอะไร
ตึก ตึก ตึก...
เสียงฝีเท้าก้าวเดินเข้ามา
ผู้มาเยือนสวมใส่ชุดมังกร สีหน้านั้นไม่โกรธหรืออหังการ บรรยากาศอันสูงส่งมาเยือนสถานที่แห่งนี้
แม้ไม่พบเห็นใบหน้า ผู้คนก็ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
จักรพรรดิเทียนชิง จี้อู๋ฮุย!
กระนั้นหาได้มีผู้ใดกล่าวคำใดออกมาไม่
เพราะผู้ยิ่งใหญ่ที่นี้จึงเป็นลั่วฉวน!
ทันทีเมื่อจี้อู๋ฮุยเข้ามาถึงด้านในภัตตาคารเซียนวิหคอมตะ เขาจึงได้พบลั่วฉวน
เขาทราบจากเหล่าไป่มาแล้วว่าผู้แข็งแกร่งลึกลับนั้นยังเยาว์
พบเห็นด้วยตาตนเอง จี้อู๋ฮุยอดไม่ได้ที่จะตกใจ
ด้วยอายุเพียงนี้ มันไม่ต่างอะไรกับคนหนุ่ม
พิจารณาอยู่ครู่ จี้อู๋ฮุยจึงคาดเดาว่าลั่วฉวนเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าฟื้นคืนความเยาว์วัย
ลั่วฉวนไม่กล่าวคำใด กระนั้นจี้อู๋ฮุยทราบดีว่าเป็นลั่วฉวนให้ทางเลือกแก่ตนเอง
จี้อู๋ฮุยสูดลมหายใจเข้าลึก เขาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
ฝีเท้าก้าวเดินออกไปยังร่างจี้เทียนเฮา จากนั้นจึงตบที่ใบหน้าอีกฝ่ายรุนแรง
“สร้างแต่เรื่อง!”
จี้เทียนเฮาเกิดสับสน กระนั้นไม่กล้ากล่าวคำใดออก
เขาทราบว่าตนได้ก่อหายนะภัยขึ้นแล้ว
ครั้งล่าสุดที่จี้อู๋ฮุยมีโทสะ ก็ครั้งที่กองกำลังจักรวรรดิหยุนเซียวเข้ารุกราน
ลั่วฉวนก็ยังไม่พูดกล่าวคำใดออก
”
จี้อู๋ฮุยกัดฟัน สายตาเผยความเด็ดเดี่ยว “เหล่าไป่ ปลดสถานะขององค์ชายจี้เทียนเฮา ทำลายพื้นฐานการฝึกฝน ส่งไปอยู่ชายแดนใต้ อย่าได้ให้กลับมายังนครจิ่วเหยาอีก!”
“ขอรับองค์เหนือหัว!” เหล่าไป่รับคำเสียงลุ่มลึก
สีหน้าตื่นตะลึงบังเกิดที่ใบหน้าจี้เทียนเฮา
ชายแดนใต้ นั่นคือสถานที่อันอ้างว้างที่สุดของจักรวรรดิเทียนชิงแล้ว
ไม่เกินเลยหากจะบอกว่าเป็นสถานที่รกร้างไร้ผู้คน
ผู้คนที่ไร้ซึ่งระดับการฝึกฝนแทบไม่อาจใช้ชีวิตที่นั่นได้
จี้อู๋ฮุยออกคำสั่ง นั่นหมายถึงเป็นการตัดอนาคตจี้เทียนเฮา!
“ผู้อาวุโสพึงพอใจต่อการตัดสินใจนี้หรือไม่?” จี้อู๋ฮุยหันมองทางลั่วฉวนพร้อมกล่าวถามด้วยความระมัดระวัง
แม้ลั่วฉวนไม่ทราบว่าชายแดนใต้เป็นสถานที่เช่นไร แต่พิจารณาจากสีหน้าผู้อื่นในร้าน เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สถานที่ที่ดีแต่อย่างใด
ลั่วฉวนพยักหน้ารับพร้อมกล่าวคำเสียงเบา “พอแล้ว”
สำหรับจี้เทียนีเฮา จุดจบเช่นนี้ดียิ่งกว่าสังหารให้ตกตาย
อย่างไรแล้วลั่วฉวนก็ไม่ใช่ผู้รักชอบสังหารไปทั่ว ให้จี้เทียนเฮาได้สำราญกับชีวิต “สุขสันต์” ที่ชายแดนใต้ในฐานะคนธรรมดาก็ถือเป็นเรื่องดี...
จี้อู๋ฮุยค่อยถอนหายใจโล่งอกได้
สายเลือด อย่างไรแล้วก็ไม่มีทางสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของทั้งจักรวรรดิเทียนชิง
ขณะนี้ลั่วฉวนพูดกล่าวออก หมายความถึงเขายอมรับการตัดสินใจนี้
ทว่าจี้อู๋ฮุยไม่คิดปล่อยให้เรื่องราวผ่านไปเช่นนี้ เขากล่าวคำต่อ “ภายหน้า ข้าจะให้เหล่าไป่นำห้าหมื่นผลึกวิญญาณไปมอบเป็นการชดใช้ และนับจากนี้ท่านเข้าใช้งานภัตตาคารเซียนวิหคอมตะได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด!”
ตอนที่ 78 : เถ้าแก่ร้านแห่งตำนาน
ได้ยินคำของจี้อู๋ฮุย ผู้อื่นที่รับประทานมื้อเย็นต่างต้องจับจ้องดวงตาแทบถลนออก
กล่าวตามตรง ครั้งพบเห็นจี้อู๋ฮุยมาด้วยตนเอง พวกเขาคิดว่าจะเกิดเป็นความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย
อย่างไรแล้วจี้อู๋ฮุยก็เป็นถึงจักรพรรดิเทียนชิง เป็นจักรพรรดิผู้สูงส่ง
แต่ความเป็นจริงกลับเกินกว่าผู้ใดคาดคิดถึงได้
จักรพรรดิผู้สูงส่งแห่งเทียนชิงถึบกับเผยตัวพร้อมความนอบน้อม!
.
เพราะเรื่องนี้ ผู้คนจึงยิ่งเกิดความสงสัยต่อลั่วฉวนยิ่งขึ้น
บุคคลนี้เป็นใคร?
ขณะนี้เองที่คนหนึ่งได้นึกถึงเรื่องราวใหญ่โตในนครจิ่วเหยาเมื่อหลายวันก่อน
หรือจะเป็นชายหนุ่มผู้นี้ที่เป็นยอดฝีมือลึกลับท่านนั้น?
สายตาที่มองลั่วฉวนขณะนี้ต้องแปรเปลี่ยน
นี่คือยอดฝีมือแข็งแกร่งอย่างมากล้น
หลังจากปู้หลี่เกื๋อและเจียงเฉิงจวินได้พบเห็นผลลัพธ์ พวกเขาจึงค่อยถอนหายใจโล่งอก
พวกเขาทราบกำลังของลั่วฉวน ดังนั้นจึงไม่คิดอยากให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความขัดแย้งต่อกัน
หากสองฝ่ายลงมือจริง เช่นนั้นทั้งนครจิ่วเหยาอาจถึงจุดจบ
จึงเป็นคำกล่าวว่า แข็งแกร่งจึงมีชัย
จี้อู๋ฮุยและเหล่าไป่นำจี้เทียนเฮากลับ บรรดาผู้รับประทานมื้อค่ำค่อยได้สำราญกับมื้ออาหารอย่างเงียบงันพร้อมความเย็นเยือกที่สันหลัง
อาหารเหล่านี้ถูกนำมานานแล้ว ขณะนี้จึงเย็นชืด
หากลั่วฉวนไม่ไป ผู้อื่นก็ไม่กล้าเดินออก!
เมื่อมองที่สองร่างตรงมุมนั้น สายตาพวกเขามีแต่ความหวาดกลัว
อีกฝ่ายแข็งแกร่งจนเพียงแค่รับชมก็สร้างความหวาดกลัว!
เวลานี้ ผู้อื่นต่างคิดแต่ถอยห่างออกมา
ทางด้านหลี่มู่ ตัวเขานั้นถูกลืมเลือนไปเรียบร้อยแล้ว...
ไม่ช้า อาหารร้อนสดใหม่ค่อยได้เสี่ยวเอ้อนำมาให้ที่โต๊ะ
ที่นี่คือภัตตาคารซึ่งใหญ่ที่สุดของนครจิ่วเหยา ภัตตาคารเซียนวิหคอมตะไม่ใช่อะไรที่รสชาจะตั้งคำถามได้
ทั้งลั่วฉวนและเหยาซือหยานต่างพอใจกับมื้ออาหาร
แน่นอนว่า ผู้อื่นนั้นไม่ทราบรสชาติอาหารกันแล้ว...
รับประทานเรียบร้อย คนทั้งสองจึงค่อยฉีกห้วงมิติกลับไปยังร้านในตรอก
กล่าวได้ถูกต้องแล้ว ฉีกห้วงมิติ!
เพราะลั่วฉวนทราบ ว่าหากเดินทางกลับตามปกติ คงมีสายตาจำนวนมากเฝ้ามองที่ภายนอก
สำหรับลั่วฉวน การฉีกกระชากมิติถือเป็นเรื่องง่ายประหนึ่งเทน้ำดื่ม
สำหรับผู้คนที่ได้ทราบเรื่อง ความวุ่นวายจึงบังเกิดกระจายทั่วทั้งนครจิ่วเหยา
เรื่องราวที่ภัตตาคารเซียนวิหคอมตะเมื่อคืนได้แพร่กระจายไปยังทั้งเมืองในระยะเวลาอันสั้น
ครั้งนี้มันแตกต่างจากเรื่องราวใหญ่ครั้งก่อน
เพราะครั้งนี้มีผู้ฝึกตนนับร้อยเป็นประจักษ์พยานพบเห็น
“ทราบหรือไม่? เมื่อคืนเกิดเรื่องใหญ่ที่ภัตตาคารเซียนวิหคอมตะ!”
“เรื่องใหญ่เพียงใดงั้นหรือ? มารับฟัง”
“……”
“ว่าอะไร?! ล้อกันเล่นงั้นหรือ? ยอดฝีมือลึกลับปรากฏตัวที่ภัตตาคารเซียนวิหคอมตะ และจักรพรรดิเทียนชิงกระทั่งปรากฏตัว ไม่ใช่เพื่อต่อสู้ แต่เป็นอ่อนน้อมงั้นหรือ?!”
“ก็น่าสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เรื่องนี้ไม่มีหลักฐาน!”
“ไฉนจึงไม่มีหลักฐาน ข้าได้พบเห็นกับตาตนเอง หากไม่เชื่อจงไปถามเจ้านี่ เมื่อวานก็นั่งอยู่โต๊ะข้างข้า!”
“ใช่ ใช่ ข้ายืนยันให้ได้!”
“น่าเสียดายนักที่ผู้อาวุโสท่านนั้นฉีกกระชากมิติเดินทางกลับ จึงทำให้ไม่มีผู้ใดทราบว่ากลับไปยังที่ใด...”
โดยสรุปแล้ว เรื่องราวที่เหล่าผู้ฝึกตนพูดคุยต่อกันวันนี้จึงมีแต่เรื่องนี้
แต่หากจะกล่าว ก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกกล่าวถึง
ผู้คนล้วนทราบว่าเมื่อลั่วฉวนไม่ได้ลงมือใด เขาก็เปรียบเสมือนคนหนุ่มไร้พิษภัยผู้หนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีโฉมงามที่ไม่อาจไม่กล่าวถึงอย่างเหยาซือหยาน ที่เป็นต้นตอของปัญหาทำให้จี้เทียนเฮาสร้างเภทภัยแก่ตนเอง
เพราะเรื่องนี้ บุตรหลานของตระกูลใหญ่ทั้งหลายในนครจิ่วเหยาจึงถูกสั่งให้อยู่แต่ภายในบ้าน
ยามนี้ไม่เหมือนก่อนหน้า นครจิ่วเหยามีแต่เสือร้ายมังกรซ่อน ผู้เยาว์ไม่รู้ความอาจก่อร่างสร้างปัญหาที่ไม่อาจแบกรับขึ้นมาได้
องค์ชายสอง ไม่ใช่... ตอนนี้จึงเป็นเพียงจี้เทียนเฮา อีกฝ่ายคือตัวอย่างบทเรียน!
บางทีอาจเป็นเพราะเกิดเหตุแล้วจึงค่อยหาทางแก้ปัญหา ระดับการระวังภัยของนครจิ่วเหยาเวลานี้ดีขึ้นมาก
อย่างไรแล้วก็ไม่มีผู้ใดทราบ ว่าบุคคลธรรมดาผู้ใดแท้จริงเป็นยอดฝีมือซุกซ่อนระดับการฝึกฝนอันสูงส่งหรือไม่