ตอนที่แล้วL.P.T ตอนที่ 46 สมาชิกใหม่และการชุมนุม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปL.P.T ตอนที่ 48 การต่อสู้ภาคสนาม

L.P.T ตอนที่ 47 ป่าโทคิวะและการทดลองภาคสนาม


หากมีคนถามว่าป่าผืนไหนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโต? ถ้าคนที่ถูกถามเป็นคนคันโตนั้นเขาก็จะไม่ลังเลที่จะพูดคำว่าป่าโทคิวะเลย

ใช่แล้ว ป่าโทคิวะเป็นป่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโต ตั้งอยู่ระหว่างเมืองโทคิวะและเมืองนิบิในภูมิภาคคันโตนอกจากนั้นมันยังมีภูติป่าจำนวนมากอาศัยอยู่ที่นั้น

แน่นอนเช่นเดียวกับป่าอื่นๆในโลกของโปเกมอน โปเกมอนที่อาศัยอยู่ในนั้นส่วนใหญ่เป็นโปเกมอนสายพันธ์แมลงและพืช

อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นป่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโตประเภทของโปเกมอนที่อาศัยอยู่ในป่าโทคิวะนั้นจึงมีโปเกมอนสายพันธ์อื่นอยู่รวมกันมากกว่าโปเกมอนแมลงและพืชตามธรรมชาติมาก

และในขณะที่การแลกเปลี่ยนระหว่างภูมิภาคต่างๆของโลกโปเกมอนเริ่มมีบ่อยขึ้น ภูติบางตัวที่ควรอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวก็ปรากฏตัวในพื้นที่อื่นๆได้เช่นกันจากภายใต้อิทธิพลของกิจกรรมของมนุษย์โดยจะตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจก็ตาม และพวกโปเกมอนต่างถิ่นที่หลงเข้ามานี้ก็จะปรับตัวเข้ากับท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อมอย่างดื้อรั้นก็มี (ก็หลงมาจากสาเหตุพวก อุบัติเหตุจากการทดลองของโปเกมอนป่า,อุบัติเหตุในกระบวนการขนส่ง,การจับโปเกมอนโดยพวกลักลอบล่าโปเกมอน,เทรนเนอร์ที่ไร้ยางอายที่ได้ทิ้งโปเกมอน ฯลฯ )

แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้วจำนวนโปเกมอนต่างถิ่นเหล่านี้หาได้ยากมากในสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น

มีสาเหตุหลายประการสำหรับเรื่องนี้ อาจเป็นไปได้ว่าอาจจะเพราะไม่ชินกับสภาพแวดล้อมและไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างเต็มที่หรืออาจถูกปฏิเสธโดยภูติป่าในท้องถิ่นจึงถูกขับไล่และปิดล้อม

ในหมู่พวกโปเกมอนท้องถิ่นที่กีดกันโปเกมอนที่บุกรุกจากต่างถิ่นออกจากป่าในท้องถิ่น ก็เป็นเหตุผลที่ใหญ่ที่สุดแต่ก็มีสาเหตุคร่าวๆสองประการสำหรับเหตุผลในเรื่องนี้

ประการแรกเนื่องจากโปเกมอนที่รุกรานมายังไม่สามารถยืนหยัดในสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นได้จึงยากที่จะเจริญเติบโตและพัฒนาให้สายพันธ์ของโปเกมอนที่บุกรุก จึงทำให้พวกมันอ่อนแอและถูกขับไล่โดยโปเกมอนป่าในท้องถิ่นที่มีอำนาจได้อย่างง่ายดาย

เหตุผลประการที่สองคือโปเกมอนที่บุกรุกได้ทำลายผลประโยชน์ของโปเกมอนป่าในท้องถิ่น ทำให้พวกโปเกมอนท้องถิ่นไม่พอใจและได้ออกมาทำลายโปเกมอนที่รุกรานในทันที

ในความเป็นจริง องค์กรพนธมิตรลีกได้ทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลสมาชิกสายตรงของตัวเอง สิ่งที่พวกเขาทำไม่เพียงแต่จะเป็นการสร้างการแข่งขันลีกเกมที่ดึงดูดเทรนเนอร์ในลีกนับไม่ถ้วน แต่ยังได้จัดตั้งโปรแกรมความปลอดภัยพิเศษในภูมิภาคต่างๆ เพื่อที่อยู่อาศัยของโปเกมอนในแต่ละเขตนั้นๆด้วย(อันนี้คนเขียนแต่งเอง)

ที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยสำหรับภูติป่านั้น จะเรียกว่าพื้นที่ปลอดภัย(เอ๊ะ? ซาฟารีป่าวนิ??) มันเป็นที่ที่ลีกสร้างขึ้นมาด้วยกำลังของพวกเขาเอง (สำหรับใครที่ไม่รู้นะครับ ซาฟารี หรือ safari zone คือที่ในเกม ที่เราจะสามารถเข้าไปจับโปเกมอน โดยไม่สามารถนำโปเกมอนของเรามาต่อสู้กับพวกโปเกมอนป่าได้ แต่ทางซาฟารีจะให้บอลกับเรามาไว้ใช้ในการจับครับ แน่นอนครับ โปเกมอนเลือดเต็มแม่งจับอย่างยาก แถมมีจับไม่ติดไปสักพักก็หนีไปเลยอีก แต่ก็มีพวกตัวเก่งๆในนี้เยอะทุกภาคที่ผมเล่นก็เลยต้องแวะแถวๆนี้ตลอด)

พวกโปเกมอนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเหล่านี้มีระดับต่ำมากและโปเกมอนบางตัวที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ก็แทบจะไม่ปรากฏในพื้นที่ปลอดภัยเหล่านี้เลย

ในหมู่พวกเขาเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีบทบาทสำคัญมากในที่อยู่อาศัยของโปเกมอนป่าที่ต้องการการดูแลเหล่านี้ และเทรนเนอร์ที่ทรงพลังเหล่านี้ก็อยู่ภายใต้ลีกโดยตรง พวกเขาคือหลักประกันที่ลีกวางไว้ในการรักษาพื้นที่ปลอดภัย

ก็ไม่ผิดอะไร เหตุผลใหญ่ที่ว่าทำไมที่อยู่อาศัยของโปเกมอนป่าที่ปลอดภัยจึง"ปลอดภัย"ก็คือเจ้าหน้าที่พรานเหล่านี้ทำงานหนักทุกวันเพื่อขับไล่ภูติป่าตัวอื่นทรงพลังออกจากพื้นที่ปลอดภัยเสมอ

แน่นอนว่าพื้นที่ปลอดภัยนั้นมีเพียงส่วนเล็กๆของที่อยู่อาศัยของโปเกมอนป่าเท่านั้น ท้ายที่สุดก็ไม่ใช่ว่าโปเกมอนป่าทุกตัวจะเป็นมังสวิรัติ

หากมีแรงกดดันที่มากพอ โปเกมอนที่ทรงพลังบางตัวจะใช้ทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของตัวมันเองหรือกลุ่ม ดังนั้นนี้คือเหตุผลที่ทำให้พวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นแผนกที่มีอัตราการตายสูงสุดในลีก

เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึง 10 โมงเช้าที่บริเวณนอกเขตปลอดภัยในป่าโทคิวะเด็กวัยรุ่นที่สวมชุดแก๊งร็อคเก็ตกำลังนอนอยู่ในทุ่งหญ้ารกทึบ วัชพืชที่เติบโตในทุ่งหญ้านี้แต่ละต้นสูงอย่างน้อยหนึ่งเมตรและยังแข็งแรงมาก

ชายหนุ่มที่อยู่ในอาการโคม่าในพงหญ้าทึบคนนี้ก็คือซาโต้นั้นเอง

เมื่อเมฆหนาปกคลุมพื้นหญ้าถูกพัดหายไปแสงแดดก็ส่องเข้ามาในหญ้าตามที่ต้องการ

ในเวลานี้ซาโต้ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายตัวเนื่องจากการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานและสติของเขาก็เริ่มฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว

ซาโต้ลืมตาขึ้นช้าๆ แต่เพราะแสงจ้าของดวงอาทิตย์เขาจึงต้องเอามือปิดมันไว้ หลังจากที่ดวงตาของเขาปรับให้เข้ากับแสงที่อยู่ใกล้ๆดวงตาที่ง่วงนอนของเขาก็กลับมาเฉียบคมและสงบตามปกติ

"ที่นี่คือที่ไหนฉันจำได้ว่าฉันควรจะอยู่ในจัตุรัส แต่ฉันถูกวางยาด้วยแก๊สนอนหลับ" เมื่อมองไปที่สภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาดรอบๆ ซาโต้ยังคงรู้สึกปวดที่หัวเล็กน้อยเขาจึงใช้มือนวดมันให้ดีขึ้น

ในท้ายที่สุดความทรงจำของซาโต้ก็ทำให้เขาจำได้ว่าเขาถูกแก๊สนอนหลับ ก่อนที่เขาจะใกล้หมดสติเขาได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหาเขาด้วยความงุนงง จากนั้นเขาก็ได้สลบไปในทันที แล้วก็พบว่าตัวเองอยู่ที่นี้หลังจากตื่น

หนึ่งนาทีต่อมา ซาโต้มองไปที่แผนที่ตรงหน้าเขาอย่างเคร่งขรึม หลังจากพักฟื้นเพียงเล็กน้อยเขาก็พบว่าไม่มีสิ่งใดในร่างกายของเขาหายไป นาฬิกาพกพาของแก๊งและภูติของเขาที่สำคัญที่สุดล้วนอยู่บนร่างกายของเขา และสิ่งเดียวที่เพิ่มมาคือกระเป๋าเป้ใบเล็กข้างๆเขา

นี่คือกระเป๋าเป้มิติและมีของอีกสองอย่างในนั้นคือปืนไฟและซองที่ยังไม่ได้เปิด

เมื่อซาโต้คาเอเดะแกะซองออกจากกระเป๋าเป้และเจอซองจดหมายข้างในและหลังจากที่เขาอ่านเสร็จเขาก็เข้าใจด้วยว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนและทำไมเขาถึงมาที่นี่

นี่คือแผนที่ป่าโทคิวะที่วาดด้วยมือและภาพวาดนั้นค่อนข้างประณีต ข้อมูลของภูมิประเทศต่างๆถูกทำเครื่องหมายไว้อย่างละเอียด น่าเสียดายที่ไม่มีข้อมูลที่อยู่อาศัยของโปเกมอนต่างๆ

และตัดสินจากข้อมูลที่ระบุบนแผนที่เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงภาพเสีย แผนที่ระบุตำแหน่งปัจจุบันของเขาอย่างชัดเจนด้วยดาวสีแดงและสัญลักษณ์รูปหัวกะโหลก (สีขาวและสีแดง) ยังใช้เพื่อระบุอันตรายบางอย่างในบริเวณใกล้เคียง ในที่สุดพื้นที่ก็มีเครื่องหมายสามเหลี่ยมบนแผนที่และเครื่องหมายเหล่านี้ตกในบางพื้นที่ที่มีกะโหลกสีแดง

เป็นที่น่าสังเกตว่าพื้นที่ที่ซาโต้กำลังอยู่ตอนนี้มีหัวกะโหลกสีขาววาดอยู่บนแผนที่

เมื่อแผนที่กลับด้านจะกลายเป็นตัวอักษร เมื่อพิจารณาจากลายมือที่ละเอียดอ่อนจดหมายฉบับนี้น่าจะเขียนโดยผู้หญิงคนหนึ่ง

เนื้อหาของจดหมายอาจเป็นแบบนี้: "ซาโต้นายจะต้องทำการทดลองการเอาตัวรอดภาคสนามเป็นเวลา 2 สัปดาห์ในขณะนี้ ถ้านายเลือกที่จะยอมแพ้ นายสามารถใช้ปืนไฟเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทุกที่ทุกเวลา และผลที่ตามมาของความล้มเหลวก็คือการถูกยึดโปเกมอนประจำตัวและลดตำแหน่งเป็นช่างซ่อมบำรุง"

ขณะเดียวกันเนื้อหาของจดหมายระบุชัดเจนว่าเครื่องหมายสามเหลี่ยมสีเขียวแสดงถึงรายการภารกิจ เขาต้องได้รับไอเท็มภารกิจเหล่านี้ทั้งหมดภายในเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นแม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้2สัปดาห์ แต่การทดลองเอาชีวิตรอดในป่านี้จะถือว่าล้มเหลว

"ไม่แปลกใจเลยที่ฉันจะถูกวางยาแล้วพามาที่นี้ ที่แท้มันก็เพราะว่านี่คือการฝึกภาคสนามที่แท้จริง" หลังจากอ่านเนื้อหาของจดหมาย ซาโต้ก็ได้คิดอย่างจริงจัง

จากนั้นตามข้อมูลที่ระบุไว้บนแผนที่ ซาโต้ยืนนิ่งอยู่ตรงจุดนั้นแล้วตั้งแท่งไม้ให้ตรงและใช้วิธีแสงอาทิตย์และเงาแท่งไม้เพื่อระบุทิศทางจากนั้นก็รีบเคลื่อนที่ไปยังทิศทางของเสบียงที่ใกล้เคียงที่สุด

และเมื่อซาโต้ออกจากสถานที่ในปัจจุบันไป พิเจียตที่กำลังบินอยู่เหนือซาโต้ก็ได้มองซาโต้ก่อนจะส่องแสงเป็นประกายจากนั้นบินด้วยปีกทั้งสองข้างของมันไปทางทิศเหนือทันที

ไม่นานหลังจากที่พิเจียตบินจากไป พงหญ้าที่ตอนแรกปรกติก็เริ่มอยู่ในสภาพที่แปลกประหลาดเรื่อยๆ จากที่เคยเงียบสงบก็กลับมามีเสียงดังตามปกติและเกิดเสียงกรอบแกรบไปทั่วพื้นที่จากทุกทิศทางของพงหญ้าที่หนาทึบ

"เขาตื่นแล้วเหรอ? หึหึ ให้ฉันดูเถอะซาโต้ว่านายจะเก่งแค่ไหนถ้าแม้แต่การทดสอบเล็กๆพวกนี้นายยังผ่านไม่ได้ นายก็คงจะไม่สามารถชนะการแข่งขันมือใหม่ได้หรอก ที่นายจะทำได้มากที่สุดในตอนนั้นก็คงเป็นแค่ตัวประกอบที่ไม่เด่นเท่านั้นนั้นแหละ" หลังจากที่ได้เห็นพิเจียตตัวเองกลับมา โซเฟียซึ่งตอนนี้อยู่บนภูเขาที่เงียบเหงาก็แตะที่หัวของพิเจียตแล้วพูดกับตัวเองด้วยสีหน้าครุ่นคิด

พิเจียต

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด