บทที่ 56 เซียนพลังจิต
บทที่ 56 เซียนพลังจิต
กุนไท่รู้สึกว่าร่างกายของเขาต้องการไปตามเสียงนั้น แต่ก็พยายามอดทนเอาไว้ เพราะมันอาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิต!
“มาเถอะ ข้ารอเจ้ามานานเหลือเกิน”
เสียงเรียกเริ่มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ชายหนุ่มรู้สึกศีรษะหนักอึ้ง สติเริ่มเลื่อนลาง ยามนี้เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้อีกต่อไป เขาเดินออกจากขบวนรถเดินทางไปโดยไม่มีใครรู้ ก่อนจะเดินเข้าไปในป่าลึก เมื่อเข้าไปลึกเมื่อไหร่หมอกเหล่านี้ยิ่งหนาขึ้น
ความรู้สึกโหยหวนเริ่มเด่นชัดมากขึ้น กุนไท่ในตอนนี้ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ แต่การก้าวเดินกลับมั่นคงและเงียบเชียบ
ชายหนุ่มได้เข้ามาถึงใจกลางป่าหมอกลึกลับ บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยมีซากปรักหักพัง มีสัญลักษณ์แปลกประหลาดจำนวนมากตามสิ่งปลูกสร้างที่แตกหักเหล่านั้น
กุนไท่เดินผ่านซากปรักหักพัง ตรงไปยังพื้นหินสีเทาที่ถูกปูเอาไว้อย่างประณีต แต่ทันใดนั้นเอง พลันเกิดเสียงดังขึ้น บริเวณที่เยียบยุบตัวลงไป แล้วเกิดบันไดทอดยาวตรงหน้า ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามันยาวลงไปแค่ไหน เพราะมันปกคลุมไปด้วยความมืดมิดที่แสงตะวันมิอาจเข้าถึงได้
กุนไท่เดินลงบันไดไปตามเสียงเรียกหา เมื่อมาถึงสุดทางของบันไดแล้ว ปรากฏทางโล่งกว้าง ผนังทางด้านซ้ายและขวามีเสาขนาดที่แตกต่างกันทอดเรียงไปตลอดทาง
เขาได้สติกลับคืนมาในฉับพลัน ความรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรงแทรกซึมเข้ามา ก่อนที่ภาพตรงหน้าของเขาจะปรากฏขึ้น ข้างหน้าของกุนไท่มีทางเข้าเล็กๆอยู่ทางหนึ่ง รอบตัวของเขานั้นมืดมิดไปหมด ไม่สามารถมองได้อย่างชัดเจนนัก แต่เขาสามารถใช้จิตสัมผัสมองเห็นโดยรอบแทนด้วยดวงตา
“ในที่สุดเจ้าก็มาถึง ข้ารอคอยมาเนินนานนัก ดวงวิญญาณใกล้ดับสูญแล้ว!” เสียงแหบแห้งดังขึ้น
“ท่านเป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงเรียกหาข้า?”
กุนไท่กล่าวถามขึ้นด้วยความสงสัยพลางมองไปโดยรอบเพื่อเสาะหาเจ้าของเสียง
“ไม่ต้องมองหาหรอกหนุ่มน้อย! ข้าคือซากปรักหักพังนี่แหละ ข้าใกล้จะหายไปจากโลกนี้แล้ว ข้าต้องการหาผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านพลังจิต ในที่สุดข้าก็พบเจอเสียที ก่อนที่ข้าจะหายไป ข้าต้องการให้เจ้าช่วย”
“ผู้อาวุโสมีเรื่องอะไรให้ข้าช่วยรึ?”
“ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงเจ้าแค่เดินเข้าไปในทางเล็กๆข้างหน้าของเจ้า มันจะเป็นสิ่งที่สามารถช่วยให้นายของข้าสามารถสืบทอดเจตจำนงของท่านต่อไปได้!”
“นายท่านของผู้อาวุโส?” กุนไท่ยิ่งถามมากขึ้นก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น!
“นายของข้าคือเซียนพลังจิต! ท่านคือผู้ที่สามารถไปถึงขั้นพลังจิตที่สูงมาก บนโลกนี้มีคนน้อยมากที่สามารถเทียบท่านได้ ยกเว้นผู้ที่มาจากแดนเทพ!” เสียงเก่าแก่นั้นดังขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
กุนไท่คิดตามคำพูดของอีกฝ่าย เขานึกถึงหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งที่เขาเคยอ่าน มันเป็นเรื่องราวของผู้ถูกขนานนามว่า ‘เซียนพลังจิต’ เขาเป็นผู้ที่มีพลังบ่มเพาะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ด้านพลังจิตของเขานั้นไม่เป็นสองรองใคร สามารถใช้พลังจิตสยบผู้ที่มีพลังบ่มเพาะสูงกว่ามาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน ทำให้กลายเป็นตำนานบทหนึ่ง แล้วตั้งแต่นั้นมา มนุษย์ก็ได้รับรู้แล้วว่าพลังจิตนั้นมีความสำคัญเทียบเท่ากับการบ่มเพาะ!
แต่มันเป็นเรื่องเมื่อนานมากแล้ว อีกฝ่ายเสียชีวิตไปเนินนานจนผู้คนหลงลืม แต่ทำไมเขาถึงได้ยินเรื่องเกี่ยวกับคนผู้นี้อีก กุนไท่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว เขาเลยตัดสินใจไม่คิดมันอีกก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า
“ข้าจะลองทำตามที่ผู้อาวุโสบอกแล้วกัน ข้าจะสืบทอดเจตจำนงของเขาเอง เพราะข้าก็มีความสามารถทางพลังจิตเช่นเดียวกัน!”
“ฮ่าๆๆ ยอดเยี่ยมมาก ข้าคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าแน่! และหลังจากสืบทอดเจตจำนงไปแล้ว เจ้าอาจจะเป็นเซียนพลังจิตอีกคนในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้! ฮา ฮ่าๆๆๆ”
เสียงที่แหบแห้งกล่าวขึ้นอย่างดีอกดีใจ กุนไท่ไม่รีรออีกต่อไป จึงก้าวเดินอย่างเยือกเย็นเข้าไปในทางเข้าขนาดเล็กนั้น คราวนี้วิสัยทัศของกุนไท่สว่างขึ้นในพริบตา เขาเห็นตรงกลางห้องมีลูกบอลเปล่งแสงอยู่ลูกหนึ่ง มันมีขนาดเท่ากับศีรษะของมนุษย์ทั่วไป ส่วนโดยรอบนั้นมีโครงกระดูกสวมใส่ชุดเกราะยืนพิงกำแพงอยู่ทั้งหมดหกตัว
เมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้บอลแสง มันให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาด ทันใดนั้นโครงกระดูกทั้งหกตัวนั้นพลันขยับเคลื่อนไหวในทันที การเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่ใช่แค่เคลื่อนไหวธรรมดาทั่วไป พวกมันเคลื่อนได้รวดเร็วมาก! เพราะแต่ละตัวนั้นต่างมีพลังถึงขอบเขตผู้เยี่ยมยุทธ์ ขั้นกลาง โดยเฉพาะตัวที่ใหญ่ที่สุดมันมีพลังถึง ขั้นสูง!
กุนไท่รู้ว่าเมื่อตอนที่เขามีชีวิตนั้นพวกเขาแข็งแกร่งมาก พอพวกเขาตายไปก็สูญเสียพลังไปเกือบทั้งหมด โครงกระดูกเหล่านี้ตายไปนานมากส่งผลให้สูญเสียพลังมากขึ้นไปอีก เป็นเหตุให้พลังของพวกเขาอยู่แค่ระดับผู้เชี่ยวชาญ ขอบเขตผู้เยี่ยมยุทธ์ ขั้นกลาง-สูงเท่านั้น!
แม้พวกมันจะอ่อนแอลงไปมาก แต่พลังของพวกมันก็มากกว่ากุนไท่อยู่ดี แต่ก่อนที่กุนไท่จะเรียกกุนหยูออกมาช่วยนั้น พลันปรากฏเสียงที่แหบแห้งนั้นอีกครั้งหนึ่ง
“ไม่ต้องกังวลไปพ่อหนุ่ม หุ่นเชิดพวกนี้แค่เอาไว้ทดสอบเจ้าเท่านั้น ไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต เจ้าสามารถต่อสู้กับพวกมันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งได้! แต่ระดับของเจ้าในตอนนี้อย่าว่าแค่ต่อสู้เลย แค่หนียังไม่ได้เสียด้วยซ้ำ! แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะมันก็ไม่ได้ทำร้ายเจ้าถึงตาย พอตอนเจ้าบาดเจ็บหนักแล้ว พวกมันถึงจะหยุดมือ แล้วปล่อยให้เจ้ารักษาอาการบาดเจ็บ เมื่อกลับมาสภาพสมบูรณ์แล้วพวกมันก็จะเข้ามาหาเจ้าอีกเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะพวกมันไปได้!”
“และอีกอย่าง เมื่อเจ้าเอาชนะได้แล้วบอลแสงนั้นที่อัดแน่นไปด้วยเจตจำนงของนายท่านก็จะเป็นของเจ้าโดยสมบูรณ์ เมื่อวันนั้นมาถึงมันจะเป็นวันที่ข้าได้เกิดใหม่!”
เสียงที่แหบแห้งกล่าวต่อ
กุนไท่พยักหน้าพร้อมกับเตรียมตัวที่จะต่อสู้สำหรับเขาสู้พร้อมกันทั้งหกตัวนั้น มันหนักหนาสาหัสเกินไป เรื่องนี้โครงกระดูกทั้งหกนั้นรู้ดี พวกมันถึงได้ส่งแค่ตัวเดียวมาต่อสู้กับกุนไท่เท่านั้น ความยากลำบากได้มาถึงแล้ว และนี่อาจจะเพิ่มความแข็งแกร่งของกุนไท่อย่างก้าวกระโดด เขาต้องการไปถึงระดับผู้เชี่ยวชาญให้เร็วที่สุด!