ตอนที่แล้วบทที่ 28 อัปเดตเวอร์ชัน (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 กฎแห่งทักษะ (อ่านฟรี)

บทที่ 29 มุมมองของแองโกร่า (อ่านฟรี)


ตามที่บอกไป ความจริงก็คือพวกเขากำลังเล่นเกมที่ต่างกัน ตัวแองโกร่าเองก็ค่อนข้างสับสนกับผู้เล่นคนอื่น ๆ เช่นกัน สิ่งที่เขารู้ก็ไม่มากไปกว่าสิ่งที่ชาวเมืองอื่น ๆ รู้เท่าใดนัก

พวกเขาทุกคนศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมเหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่แองโกร่าสามารถบอกได้ แต่สมองของคนเหล่านี้ดูจะต่างจากเขา และดูเหมือนพวกเขาจะกังวลกับรางวัลที่เรียกว่า 'EXP' และ 'ไอเทม' ที่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร

และที่สำคัญคือ มีผู้เล่นหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับกองทัพโครงกระดูก แต่ไม่เพียงพวกเขาจะไม่รีบรักษาตัวเอง พวกเขากลับยังพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนานไปกับเพื่อนคนอื่น ๆ ต่อได้

และเช่นเดียวกับผู้เล่นคนอื่น ๆ แองโกร่าก็ได้รับการแจ้งเตือนจากซีเว่ย เกี่ยวกับการอัปเดตเวอร์ชันของระบบ

นอกเหนือจากการปลดล็อกแบบแปลนสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมแล้ว ตอนนี้เขายังมีหน้าใหม่ที่เรียกว่า ‘ร้านค้ารับสมัครงาน’ อีกด้วย

แองโกร่าสามารถมอบหมายเควส เช่นการล่าสัตว์ การสร้างที่อยู่อาศัย หรือการทำฟาร์มให้กับผู้เล่นได้ ในขณะที่ผู้เล่นทำเควสสำเร็จ พวกเขาจะได้รับ EXP และเหรียญเกมเป็นรางวัล แต่แองโกร่าเองก็จะสามารถเห็นระดับการมีส่วนร่วมของผู้เล่นในเควสได้

และเมื่อการมีส่วนร่วมของผู้เล่นเพิ่มขึ้น แองโกร่าก็จะสามารถออกเควสใหม่ในระดับที่สูงขึ้นได้

หลังจากผู้เล่นทำเควสที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ (เช่นช่วยงานก่อสร้างในเมืองเริ่มต้น) คะแนนประสิทธิภาพของแองโกร่าก็จะเพิ่มขึ้นในระบบโอเวอร์ลอร์ด และเขาจะสามารถใช้มันเพื่อปลดล็อกแบบแปลนสิ่งปลูกสร้างชนิดใหม่ และผู้เล่นก็สามารถรับงานก่อสร้างอาคารใหม่ได้ จากนั้นระดับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองก็จะสูงขึ้น และเมื่อระดับของเขาสูงขึ้น ที่ดินศักดินาของเขาก็จะใหญ่ขึ้น เพื่อให้เขาสร้างอาคารเพิ่ม...

พูดได้ว่าตราบเท่าที่มีผู้เล่นเพียงพอ วงจรแห่งผลประโยชน์ร่วมกันก็จะดำเนินต่อไปอีกนาน!

ยิ่งไปกว่านั้น แองโกร่าพบว่าในคลังระบบของเขา มีสิ่งปลูกสร้างที่ชื่อว่า ‘ไลฟ์สโตน(Lifestone)’ ที่สามารถปลดล็อคและสร้างได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย

เขาเลยจัดการสร้างมันขึ้นตรงใจกลางเมือง

ตอนแรกแองโกร่าจินตนาการว่าไลฟ์สโตนคงเป็นเพียงหินก้อนใหญ่ธรรมดา แต่เมื่อสร้างเสร็จ เขาก็พบว่ามันคืออัญมณีรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนแนวตั้งลอยอยู่กลางอากาศ (รูปร่างคล้ายไอคอนเกม The Sims) และข้างใต้ของมันก็มีแท่นบูชาและวงเวทย์แปลก ๆ กระพริบแสงวูบวาบตลอดเวลา

ในคู่มือระบบยังระบุไว้ด้วยว่า สิ่งนี้คือสิ่งก่อสร้างระดับ 'ปรากฏการณ์' ที่ในหนึ่งเมืองจะสร้างได้เพียงหนึ่งชิ้นเท่านั้น

เมื่อผู้เล่นคนใดเสียชีวิตและไม่สามารถรับคาถาชุบชีวิตได้ทันเวลา หรือหากศพของพวกเขาเสียหายจนไม่อาจกู้คืนได้ พวกเขาก็จะถูกชุบชีวิตขึ้นมาที่ไลฟ์สโตนหลังจากผ่านไป 3 วัน (ความจริงคือพวกเขาจะฟื้นขึ้นมาข้าง ๆ ไลฟ์สโตนที่พวกเขากำหนดไว้ ผู้เล่นที่ไม่ได้กำหนดไลฟ์สโตนไว้ จะฟื้นขึ้นมาข้าง ๆ ไลฟ์สโตนที่ใกล้ที่สุด)

แองโกร่ารู้สึกประหลาดใจกับความจริงที่ว่าผู้เล่นสามารถฟื้นคืนชีพได้ แต่ในไม่ช้า เขาก็เข้าใจว่าเขาแปลกว่าสาวกคนอื่น เนื่องจากผู้เล่นคนอื่นดูเหมือนจะคุ้นเคยกับสิ่งนี้อยู่แล้ว

บางทีการที่พวกเขาไม่กลัวการบาดเจ็บล้มตาย อาจเป็นเพราะพวกเขาสามารถฟื้นคืนชีพได้นับครั้งไม่ถ้วน

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในมุมมองของชาวเมืองและแองโกร่า ผู้เล่นจึงมีพฤติกรรมเหมือนพวกโรคจิต

ตัวอย่างเช่นมาร์นี่ที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กับนักรบโครงกระดูกหลายตัวก่อนหน้านี้ แม้เขาจะถูกเอลีน่านักบุญหญิงฝึกหัดชุบชีวิตขึ้นมา เขาก็ไม่รู้ว่ามีดที่ฆ่าเขา 3 เล่มยังคงปักอยู่ที่หลังเขา เมื่อเขาฟื้น เขาก็รีบเปิดดูหน้าต่างระบบด้วยความตื่นเต้น (แม้ว่าแองโกร่าจะมองไม่เห็นหน้าต่างระบบของคนอื่นก็ตาม แต่เขาก็พอจะเดาออกว่ามาร์นี่กำลังทำอะไร)

จากนั้นมาร์นี่ก็ร้องออกมาอย่างร่าเริงว่า “ในที่สุดข้าก็เลเวล 3 แล้ว! เดี๋ยวก่อน ทำไมข้าถึงติดสถานะเลือดไหล 3 ครั้งซ้อน! HP ของข้าหายหมดแล้ว…โอ้ ข้าตายอีกแล้ว”

หลังจากเขาพูดจบ เขาก็นอนจมกองเลือดและตายอย่างสงบอีกครั้ง

ถึงกระนั้นผู้เล่นคนอื่นไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกเศร้าเท่านั้น พวกเขายังหัวเราะและพูดว่า 'มาร์นี่ตายอีกแล้ว ไอ้บ้า!' และสร้างบรรยากาศสนุกสนานระหว่างกัน

จากนั้นเมื่อมาร์นี่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็ดูหดหู่มาก

“ข้ามันโง่” เขาพึมพำ “ข้ารู้ว่าการฆ่าสัตว์ประหลาดจะช่วยให้ข้าอัพเลเวลได้ แต่ข้าไม่คิดว่าถ้าตายข้าจะเสีย EXP ให้ตายเถอะ ข้ากลับไปอยู่ที่เลเวล 2…”

เดิมทีแองโกร่าคิดว่าเขาก็เป็นผู้เล่นเช่นกัน เขาอาจมีความสามารถในการฟื้นคืนชีพด้วย แต่ในที่สุด เขาก็ไม่มีความกล้าที่จะให้ใครสักคนแทงเขาตายเพื่อทดสอบมัน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเก็บคำถามที่ว่า 'เขาสามารถฟื้นคืนขึ้นมาได้หรือไม่' เอาไว้ก่อน

ในขณะเดียวกันการมาถึงของผู้เล่นก็เป็นประโยชน์กับชาวเมือง บ้านที่เคยทรุดโทรมได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว งานในฟาร์มก็ไม่ขาดคน หากใครมีปัญหา พวกชาวบ้านก็แค่ตะโกนขึ้นมา และจากนั้นก็จะมีผู้เล่นเข้ามาช่วยเหลือ

เมืองที่เคยมืดมนก็ค่อย ๆ กลายเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาขึ้นมาที่ละน้อย ดูเหมือนว่าแม้จะมีหิมะตกหนัก อากาศหนาวจัดและมีหมอกหนา มันก็ไม่สามารถดับความกระตือรือร้นของผู้เล่นในการสำรวจได้

แน่นอนมันไม่ได้มีแต่เรื่องดี อย่างน้อยแองโกร่าก็รำคาญแทบตาย เพราะผู้เล่นคนอื่น ๆ พากันมองหาเขา พวกเขาจะวิ่งมาที่ประตูทุกวันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และหวังว่าจะได้รับเควสก่อสร้างจากแองโกร่าเพื่อเพิ่มคะแนนชื่อเสียง

มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ถ้ามันมีเพียงหนึ่งหรือสองคน แต่มีคนเกือบคน 20 คนเข้าหาเขาทุกวัน พวกเขาไม่เคยปล่อยให้เขาได้อยู่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขากิน นอน หรือแม้กระทั่งตอนที่เขาอยู่ในห้องน้ำ แองโกร่ารู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล ความจริงคือเขาเริ่มมีอาการนอนไม่หลับและท้องผูก

ท้ายที่สุด เขาก็ต้องกัดฟันเปลี่ยนแผนเป็นสร้างป้ายประกาศเพื่อปลดปล่อยตัวเองจนได้

ยิ่งไปกว่านั้นการมาถึงของผู้เล่น ยังสร้างความกดดันให้กับคลังเสบียงที่เพียงพอในตอนแรก โชคดีที่แองโกร่าพบว่าผงกระดูกที่ดรอปลงหลังจากที่โครงกระดูถูกฆ่า จะช่วยลดเวลาระยะเวลาที่พืชต้องใช้ในการเจริญเติบโตได้มากหลังจากที่เขาได้รับมันจากผู้เล่น ในที่สุดแองโกร่าก็สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเสบียงอาหารของเมืองได้สำเร็จตลอดทั้งปี

ในขณะเดียวกัน เมืองไร้ชื่อก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงด้วยความพยายามในการก่อสร้างของผู้เล่น เมืองที่ยากจนซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีจำนวนผู้อยู่อาศัยไม่ถึงหนึ่งในสาม ก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมา

ความจริงต้องยกความดีความชอบให้มาร์นี่ หัวหน้ากลุ่มคาราวานพ่อค้า เขาได้แจกสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันให้ชาวบ้านเพื่อช่วยพัฒนาเมือง แลกกับคะแนนชื่อเสียงการพัฒนาเมืองที่ได้จากเควสก่อสร้างประจำวัน นั้นจึงทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นแนวหน้าที่ได้รับฉายาว่า 'เถ้าแก่ผู้รับเหมาก่อสร้าง'

แต่ความอดทนของผู้เล่นก็มีกำจัด เมื่อพวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่างน่าเบื่อไปวัน ๆ หลังจากได้สัมผัสกับความตื่นเต้นในการอัพเลเวล พวกเขาก็ไม่สามารถย้อนกลับไปใช้ชีวิตอันน่าเบื่อแบบเดิมได้อีกต่อไป…

ในที่สุด วันหนึ่งเหล่าผู้เล่นก็ได้มารวมตัวกันเป็นปาร์ตี้ 5 คน พวกเขาคือกลุ่มผู้เล่นที่มีเลเวลสูงสุด ได้แก่ เอลีน่า เอ็ดเวิร์ด โจ โกวต้าน และมาร์นี่

พวกเขาทั้งหมดได้รับเหรียญเกมและชื่อเสียงมากพอที่จะซื้อ ‘คบเพลิงชำระล้างไมแอชม่า’ จากแองโกร่า และวางแผนเริ่มเควสสำรวจ 'รอบนอกของหุบเขาแห่งความตาย'

เจสสิก้าซึ่งเคยอยู่ในปาร์ตี้เดียวกับเอลีน่าต้องอยู่โยงเฝ้าเมือง เพราะผู้เล่นคนอื่นยืนยันหนักแน่นว่าเธอต้องอยู่ เพราะมีเพียงตัวเธอที่เป็นเครลิคกับเอลีน่าที่เป็นนักบุญหญิงฝึกหัดเท่านั้น ที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บและชุบชีวิตได้ หากทั้งคู่ต้องเข้าไปในหุบเขาแห่งความตายและพากันตายหมด ในระหว่างที่รอฟื้นคืนชีพ  3 วัน ใครจะอยู่ช่วยชีวิตพวกเขา...

จากนั้นผู้เล่นทุกก็พากันยกขบวนไปส่งทีมผู้เล่นแนวหน้าที่ทางเข้าหุบเขา

“งั้นก็ออกเดินทางกันเถอะ!” มาร์นี่ก้าวออกไปข้างหน้าในขณะที่ทุกคนต่างมองเขาด้วยความอิจฉา เขาถือคบเพลิงชำระล้างไมแอชม่า และก้าวเข้าไปหมอกม่วงอย่างกล้าหาญ

[ผู้เล่นมาร์นี่•วิลฟ์ เสียชีวิตแล้ว นับถอยหลังสู่การฟื้นคืนชีพในอีก 71:59:59 น.]

ผู้เล่นคนอื่น ๆ “…”

-----------------------------------------------------------------

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด