ตอนที่แล้วL.P.T ตอนที่ 41 การแสดงเล็กๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปL.P.T ตอนที่ 43 ใช้ลมในการเสริมพลังทักษะพายุหมุน!

L.P.T ตอนที่ 42 ใครคือผู้ล่า? ใครคือเหยื่อ?


หลังจากได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนแล้วซาโต้ก็ไม่ได้"ทำอะไร"มากนัก เขาก็แค่ทำให้คนเหล่านี้ต้องอับอายที่มาขวางทางเขาเท่านั้น หลังจากไม่ถึง 4 นาทีก่อนและหลังเกิดเหตุทำให้เจ้าหน้าที่สายตรวจของแก๊งร็อคเก็ต2คนก็รีบเร่งมาที่นี่

ในเวลานี้พวกมือใหม่เหล่านี้กำลังต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งแสดงท่าทีบ้าดีเดือดอย่างไม่เกรงกลัว พวกเขาจับเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้ง2ที่กำลังประหลาดใจชั่วขณะมาต่อสู้กับพวกเขาทันทีที่เห็น และในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็อาศัยพลังของเอลฟ์เพื่อจัการเหล่าคนที่บ้าคลั่งพวกนี้

ในขณะที่หน่วยลาดตระเวนกำลังปราบพวกบ้าคลั่งก็มีสมุนที่แอบดูอยู่หลายคนจากด้านหลัง หลังจากที่แก๊งร็อคเก็ตคนหนึ่งที่มีผมสีเหลืองเห็นมือใหม่ที่บ้าคลั่งถูกปราบเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว

"รอนโด้คงเป็นคนที่แค้นฝังลึก คงต้องรีบกำจัดรอนโด้โดยเร็วที่สุดไม่งั้นเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตแกบังคับให้ฉันจัดการแกเองน่ะ!" หลังจากกลับมาที่หอพักของตัวเองอย่างราบรื่นซาโต้ก็นอนบนเตียงและคิดไปเรื่อยๆ

เห็นได้ชัดว่าการจัดตั้งแก๊งของรอนโด้และคนอื่นๆนั้นทำให้ซาโต้เสียเปรียบอย่างมาก เพราะตอนนี้เขาก็ยังอยู่คนเดียว เป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก ว่าต่อหน้าทีมที่เหนียวแน่นไม่ว่าแต่ละคนจะแข็งแกร่งแค่ไหนรึยังไงมันก็เป็นเรื่องยากที่จะสู้ได้ นับประสาอะไรกับเขาที่ตอนนี้ยังเป็นแค่เทรนเนอร์มือใหม่เอง

เมื่อรอนโด้เริ่มสร้างความแข็งแกร่งของตัวเองในแก๊งร็อคเก็ตนี้ได้เมื่อไหร่ ชีวิตของซาโต้ในแก๊งร็อคเก็ตใต้เมืองนิบิจะต้องยากลำบากในอนาคตแน่นอน เมื่ออยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้และยังมีมือมืดที่ยังคงอยู่เบื้องหลังอีก ตอนนี้ใบหน้าของซาโต้จึงมืดมนมากๆ

ความแค้นระหว่างซาโต้และรอนโด้ได้ถูกตัดสินไปแล้วในการต่อสู้ของโปเกมอนในวันนั้นก็จริง แต่ในตอนนั้นมันก็ได้แสดงให้เห็นเช่นกันว่าเขายังไม่สามารถประสานงานกับซูแบทได้อย่างสมบูรณ์ดีนักและตัวเขาเองก็ไม่ต้องการที่จะคืนดีกับคนที่เป็นศัตรูของเขาไปแล้วด้วย ดังนั้นตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดก็คือการกำจัดอีกฝ่ายให้หายไปซะ(แนวคิดพี่แกโหดจริง)

“ฉันมีความลับมากเกินไปไม่เหมาะที่จะทำงานกับคนอื่นคงลืมมันไปก่อน ถ้าดูจากแนวทางในตอนนี้ของรอนโด้ มันคงยังไม่กล้าทำอะไรฉันแน่ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องรีบแข็งแกร่งให้เร็วที่สุดฉันคงต้องมีความแข็งแกร่งหากต้องการชำระบัญชีแค้นเรื่องนี้ ในการแข่งขันของมือใหม่เป็นโอกาสดีที่จะจัดการมันซะ!” หลังจากคิดอย่างจริงจังซาโต้ก็ลุกขึ้นจากเตียงทันที

ตอนนี้สำหรับซาโต้แล้วรอนโด้เป็นเหมือนโรคระบาด เพราะปัญหาในตอนนี้คือเขาไม่มีพลังเพียงพอที่จะกำจัดได้และเนื่องจากตอนนี้เขาอยู่ในพื้นที่คุ้มครองของแก๊งร็อคเก็ต แม้ว่าเขาจะสามารถฆ่ารอนโด้ได้แต่ในท้ายที่สุดเขาก็อาจไม่รอดจากการตามล่าของแก๊งร็อคเก็ตก็ได้

ดังนั้นสิ่งเดียวที่ซาโต้ ทำได้ในตอนนี้คือพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาอย่างรวดเร็วจากนั้นหาวิธีกำจัดรอนโด้ในการแข่งขันที่กำลังจะมาใหม่ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า

แน่นอนว่าในช่วงเวลานี้ รอนโด้จะต้องไม่ได้อยู่นิ่งอย่างแน่นอน อีกฝ่ายเดิมมีพื้นฐานของเทรนเนอร์อยู่แล้ว หากให้เวลาเขาในการฟื้นคืนพลังโปเกมอนละก็ เขาคงจะฟื้นพลังบางส่วนได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งไปกว่านั้นซาโต้รู้ดีว่าสาเหตุที่โปเกมอนกับรอนโด้แพ้เขาในครั้งนี้นั้นเป็นเพราะความประมาทอย่างสิ้นเชิง หากฝ่ายตรงข้ามใช้ทุกอย่างออกไปทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นการต่อสู้ เขาอาจจะแพ้ก็ได้

ตอนนี้ความกังวลเรื่องรอนโด้ เป็นเหมือนดาบประหารที่แขวนอยู่บนหัวของซาโต้ นี้ทำให้เขารู้สึกถึงภัยคุกคามที่แข็งแกร่งและกดดันมาก

"อืม… เนื่องจากแกกำลังมองหาความตายงั้นฉันก็จะทำให้แกรู้สึกผิดที่ได้มายุ่งกับฉันเอง" หลังจากคิดถึงทุกอย่างชัดเจน ซาโต้ก็ปล่อยซูแบทออกมาเพื่อฝึกทักษะยามค่ำคืนที่กำลังจะเริ่มขึ้น

แน่นอนว่าตอนนี้ซาโต้ไม่มีอะไรต้องกลัวมากเหมือนตอนแรก ในฐานะผู้ข้ามมิติเขามีข้อได้เปรียบจากความรู้เรื่องโปเกมอนจำนวนมากและระบบในการเห็นค่าสถานะ แถมตอนนี้เขามีนิโดรันที่มีศักยภาพพิเศษ หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือนต่อมาใครเป็นเหยื่อและใครเป็นผู้ล่านั้นมันก็ไม่แน่นอนเสมอไป

และในขณะที่ซาโต้กำลังคิดเกี่ยวกับวิธีจัดการกับรอนโด้และคนอื่นๆนั้น รอนโด้ก็คุยกับลูกน้องทั้ง3คนในห้องของเขา ในเวลานี้หลังจากได้ยินรายงานที่ลูกน้องนำกลับมาบอกเขา หน้าเขาก็ดูน่าเกลียดมากๆ

"ลูกพี่อย่าพึ่งโกรธเลย พวกนั้นเป็นแค่เศษขยะ เพราะงั้นพี่ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าซาโต้จะไม่มีทางหยิ่งไปได้นานนักหรอก มันจะต้องถูกจัดการตอนที่เริ่มการแข่งขันมือใหม่แน่นอน" 1ในพี่น้องรอนโด้พูดกับรอนโด้ซึ่งนั่งอยู่บนเบาะหลักด้วยท่าทางดูถูกเหยียดหยาม

ชื่อของพี่น้องของรอนโด้ทรงผมหงอนไก่คนนี้คือ โอดะ อิจิโร่ เขาเป็น1ใน3พี่น้องผู้ภักดีที่ติดตามรอนโด้มาเข้าร่วมกับ แก๊งร็อคเก็ต และผู้ที่ยั่วยุซาโต้ไปครั้งก่อนชื่อ โครว์ และมีพี่ชายที่ซื่อสัตย์อีกคนหนึ่งชื่อ ชิโนะ เขาย้อมผมสีเหลืองและเจาะจมูกใส่เหล็กเข้าไป

"ถ้าฉันจับมันได้ ฉันจะทำให้มันพิการซะทั้งมันและก็ซูแบทของมันนั้นละ" โครว์ ซึ่งเป็นชายร่างสูงกล่าวด้วยสีหน้าชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา

"บอส เรายังจะตอแยเจ้าซาโต้ต่อไปเหรอ ฉันคิดว่าเจ้าเด็กนั้นมันไม่ง่ายเลยนะ แต่ก็อันตรายมากเช่นกันถ้าปล่อยเขาไว้เราควรฆ่าเขาเสียแต่เนิ่นๆ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการยากที่จะจัดการเขาในอนาคตแน่ แถมดูก็รู้ว่ามันเป็นคนโหดร้ายมากถ้าไม่ใช่เพราะมันกลัวว่าการฆ่าคนในแก๊งร็อคเก็ตจะทำให้เรื่องยากสำหรับมัน บางทีคนที่เราส่งไปอาจจะไม่รอดกลับมาด้วยซ้ำ" ชิโนะมองไปที่น้องชายทั้ง2คนของเขาแล้วหันใบหน้าที่จริงจังของเขาไปถามรอนโด้

ในความเป็นจริงตอนที่ซาโต้ถูกพวกมือใหม่นั้นขัดขวางรวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ชิโนะได้เฝ้าดูอยู่ในความมืดตลอด ดังนั้นเขาจึงเห็นตอนที่ซาโต้สั่งไปที่ซูแบทให้ใช้คลื่นความถี่ใส่พวกมือใหม่ให้บ้าคลั่งและทำร้ายกันจนเกิดความโกลาหลอย่างชัดเจน จนถึงตอนนี้สภาพและฉากที่บ้าคลั่งพวกนั้นก็ยังอยู่ในความคิดของเขาอยู่เลย

ดังนั้น ชิโนะจึงรู้ดีว่าซาโต้ไม่ใช่คนจิตใจดีและยังมีความฉลากมากๆในการคิดหรือทำสิ่งต่างๆ เพราะก่อนหน้านี้ซาโต้เคยถูกรังแกจากพวกเขาและคนอื่นๆ แต่ก็ไม่เคยต่อสู้กลับ นั่นควรจะเป็นเพราะตัวซาโต้รู้ตัวเองดีว่าสู้ไม่ได้ แต่ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว เพราะอีกฝ่ายมีโปเกมอนอยู่ในมือเรียบร้อย ซาโต้จึงไม่กลัวพวกเขาอีกต่อไป

"ฉันรู้ว่าเจ้านั้นอันตรายกว่าที่นายคิดชิโนะ คิดถึงการประลองโปเกมอนเมื่อตอนนั้นสิแม้ว่าฉันจะแพ้เพราะการไม่ระมัดระวัง แต่การแสดงออกของมันในการดวลโปเกมอนก็ไม่ใช่สิ่งที่เทรนเนอร์มือใหม่จะแสดงออกมาได้ กลับกันลองคิดถึงตอนที่พวกนายดวลโปเกมอนครั้งแรกสิ ถ้าคิดตามได้พวกนายก็คงจะรู้ดีเลยว่าซาโต้อันตรายแค่ไหน " เมื่อได้ยินคำพูดของชิโนะ รอนโด้ก็พูดด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง

หลังจากได้ยินรอนโด้พูดแบบนี้ใบหน้าของอิจิโร่และโครว์ที่ยังคงเฉยเมยก็พลันแข็งทื่อทันที หลังจากเงียบไป2-3 นาทีใบหน้าของพวกเขาก็น่าเกลียดพอๆกับรอนโด้และชิโนะ

อันที่จริง อิจิโร่และ โครว์ นั้นรู้ตัวดีว่าสู้ซาโต้ไม่ได้ เมื่อนึกถึงฉากที่ซาโต้สั่งซูแบทในการดวลครั้งนั้น ในเวลานั้นพวกเขาพบว่าซาโต้นั้นดูอันตรายกว่าเวลาปกติมากจนน่าประหลาดใจ และในช่วงสุดท้ายซาโต้ก็ยังแสดงให้เห็นถึงการสั่งการโปเกมอนในระดับสูงอีกด้วย

อิจิโร่ และ โครว์ ยังจำฉากที่พวกเขาออกคำสั่งการต่อสู้กับโปเกมอนเป็นครั้งแรกได้อย่างลึกซึ้งเพราะมันแย่มาก และคงเป็นเพราะพวกเขาทั้งคู่ไม่เคยไปศึกษาที่สถาบันโปเกมอนในตอนแรกแม้แต่ทักษะที่จะสั่งโปเกมอนพวกเขาก็ยังสั่งไม่เป็น

เมื่อเทียบกับซาโต้ซึ่งอยู่ในการดวลเอลฟ์ครั้งแรก พวกเขาทั้ง2คน คงเป็นเพียงโคลนในโคลนอีกที ในขณะที่ซาโต้เป็นเหมือนกับเมฆบนท้องฟ้า

"กลับไปใช้แต้มในมือเพื่อฝึกฝนเหล่าโปเกมอนของพวกนายซะ ไม่เช่นนั้นในการแข่งขันมือใหม่ในอีกหนึ่งเดือนต่อมาเราคงได้รู้แน่ว่าใครเป็นผู้ล่าและใครเป็นเหยื่อ และอย่าไปหลอกพวกงี่เง่าพวกนั้นอย่ามาทำอัะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้กับเจ้านั้นอีก ที่นี้คือแก๊งร็อคเก็ต ไม่ใช่ถนนของพวกเรา ฉันได้รับคำเตือนมาว่าตอนนี้มีคนกำลังสนใจเขาอยู่ที่ฐานนี้ ตอนนี้เราไม่มีโอกาสโจมตีเจ้าซาโต้เลย” รอนโด้บอกพี่น้องทั้ง3คนของเขาโดยพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังและน่าเกลียดอย่างผิดปกติ

สุดท้ายอำนาจก็ยิ่งใหญ่มาเสมอ ถ้าหากซาโต้คิดว่าเขาเป็นคนสนิทหรือรอนโด้รับซาโต้เป็นคนสนิทของเขา เขาก็คงจะได้รับการคุ้มครองจากอำนาจเบื้องหลังนั้นไปแล้ว ในปัจจุบันรอนโด้รู้สึกเสียใจที่ได้ยั่วยุซาโตเพราะเขาคิดว่าซาโต้ไม่มีประโยชน์อะไร ตอนแรกเขาคิดว่ามันคงเป็นเรื่องง่ายที่จะค่อยๆกดดันซาโต้ไป แต่เมื่อเขาพบว่ามีคนอยู่เบื้องหลังของซาโต้ เขาก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างสุดจะพรรณนาได้ทันที

เขาเป็นเพียงหัวหน้านักเลงที่ฉลาดนิดหน่อยเท่านั้น สถานะของเขาเป็นเรื่องตลกสำหรับสัตว์ร้ายอย่างแก๊งร็อคเก็ตมาก แค่โลนเรนเจอร์คนเดียวก็คงสามารถจัดการพวกเขาทั้งหมดได้แล้วด้วยซ้ำ

และยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่รบกวนจิตใจเขามาตลอดตั้งแต่เขาแพ้การดวลในตอนนั้น เจ้าอาร์โบงูของเขาก็มองเขาแปลกมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกเหมือนมันกำลังมองเขาเป็นอาหารยังไงก็ไม่รู้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด