L.P.T ตอนที่ 40 ฝึกร่างกายด้วยแรงลม
"แรงลมระดับ 6 คงอยู่ได้เป็นเวลา 5 นาที 21 วินาที" หลังจากซาโต้กรอกเวลาที่แสดงบนตัวจับเวลาบนนาฬิกาแล้วเขาก็ปิดพัดลมไฟฟ้าทันทีจากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปในช่องกระจกเพื่อเข้าไปรับเจ้าซูแบทที่กำลังนอนนิ่งเป็นปลาเค็มที่ถูกตากแห้งขึ้นมาเรียกสติ
หลังจากนั้นซาโต้ใส่ก้อนพลังงานคุณภาพสูงลงไปในปากของซูแบท และนำอ่างน้ำเย็นที่สะอาดและอ่างนึ่งน้ำร้อนจากน้ำพุดื่มที่วางไว้แถวสนามฝึกซ้อม น้ำเย็นเป็นน้ำสำหรับใส่ซูแบทดื่มและน้ำร้อนซาโต้จะใช้ในการนวดเจ้าซูแบทให้หายจากอาการเมื่อยล้า
หลังจากกินก้อนพลังงานคุณภาพสูงไปพร้อมด้วยการนวดผ่อนคลาย ซูแบทก็ฟื้นร่างกายและความแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เพราะไม่ว่ายังไงร่างกายของเอลฟ์นั้นก็แข็งแกร่งและมีความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายดีกว่าคนอยู่แล้ว แม้ซูแบทจะพึ่งได้รับการฝึกฝนกับซาโต้มาไม่นานแต่ตอนนี้ทั้งลิมิตของพลังกายและพลังใจมันได้เพิ่มไปในอีกระดับนึงแล้ว จะเรียกว่ามีพลังมากกว่าตอนเจอครั้งแรกถึง2เท่าก็ได้ ตอนนี้ปีกค้างคาวคู่หนึ่งของมันได้รับการฝึกจากการขยับปีกไปมามากกว่า1แสนครั้งแล้ว ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นได้ว่าปีกของซูแบทนี้มีกล้ามเนื้อขึ้นมามากแล้ว
สรุปแล้วซาโต้รู้สึกได้จริงๆว่าความแข็งแกร่งของซูแบทในตอนนี้นั้นกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆดังนั้นใจของเขาตอนนี้ ซาโต้จึงชอบมากที่ซูแบทมีความขยันในการฝึกซ้อมและไม่เคยขี้เกียจเลย
หลังจากพักผ่อนเพียงพอแล้ว ซูแบทก็กลับไปที่ช่องกระจกทันทีและเริ่มฝึกบินกับลมอีกครั้ง
ในระหว่างการฝึกกายภาพ 3 ชั่วโมงซูแบทจะหยุดพักเป็นระยะ ๆ เป็นเวลา 18 ครั้งและในระหว่างการฝึกแรงลมระดับ 6 ครั้งที่ 18 ซาโต้ที่ได้รวบรวมข้อมูลขณะสังเกตการณ์และพบนิสัยไม่เสียบางอย่างขณะที่ซูแบทบิน เขากับซูแบทก็คงต้องค่อยๆแก้เรื่องพวกนี้ไปทีละเล็กทีละน้อย
ผ่านไปสักพักซูแบทก็ค่อยๆพบวิธีในการต่อต้านลมแรง ครั้งแรกซูแบทพยายามใช้ร่างกายสัมผัสกับกระแสลมจากนั้นจึงมองหาจุดอ่อนของกระแสลมเพื่อที่จะบินได้อย่างรักษากำลังกายให้มาก รอบนี้ซูแบทเลยยืดเวลาต่อสู้กับแรงลมได้ถึง 6 นาที
ในฐานะเอลฟ์ที่มีคุณสมบัติในการบินการควบแน่นพลังในธรรมชาติของธาตุบินนั้น ซูแบทจึงทำได้ดีกว่าโปเกมอนอื่นๆที่ไม่ใช่ธาตุบิน ตอนนี้ลมแรงได้ไหลเวียนไปทั่วช่องกระจกก็ได้มีกระแสพลังธาตุบินค่อยๆแทรงเข้ามา
ในการเผชิญหน้ากับแรงลมนี้ ซูแบทก็สัมผัสได้ถึงพลังงานการบินที่แข็งแกร่งรอบตัวดังนั้นเพื่อที่จะต่อสู้กับแรงลมพวกนี้ มันจึงเริ่มพยายามควบคุมพลังงานรอบตัวเอง จากนั้นจึงสร้างกระแสลมให้ลมด้านหน้าอ่อนแรงลง
เมื่อคิดถึงการใช้กระแสลมในการทวนกระแสลม การตอบโต้ลมของซูแบทก็เรียกได้ว่าเป็นการใช้การขึ้นลงของลมที่มีอยู่ในอากาศ ได้โดยไม่รู้ตัวแต่ซูแบทก็สามารถเข้าใจการทำงานของลมได้ในช่วงเวลาวิกฤตของวันนี้พอดี แน่นอนว่าตอนนี้มันกำลังบินตรง เป็นเรื่องไม่ฉลาดมากที่จะใช้ทักษะการควบคุมกระแสลมให้ต้านไปในทางเดียวกัน ไม่งั้นมันคงโดนลมหน้าตัวเองตีกลับจนสลบแน่นอน
ในตอนแรกซูแบทก็พยายามทำเช่นนี้เช่นกัน แต่สุดท้ายมันก็ทำให้ตัวเองสูญเสียการมองเห็นและการทรงตัว ไม่เพียงแต่จะคงเวลาของทักษะได้ไม่นาน แต่มันยังทำให้จังหวะการบินของตัวมันเองหยุดชะงักและยังสิ้นเปลืองมากอีกด้วย
ดังนั้นซุแบทเลยได้เรียนรู้บทเรียนนี้ จากนั้นจึงสามารถเลือกควบคุมพลังงานของการบินของตัวเองให้ต้านกระแสลมได้ ตอนนี้ที่มันต้องฝึกต่อก็มีแค่การคงสมาธิเวลาใช้ทักษะนี้เท่านั้น
เนื่องจากตอนนั้นซูแบทสามารถใช้การควบคุมพลังงานการบินกับทักษะได้เพียงเล็กน้อย ตอนนั้นทักษะพายุหมุนในตอนแรกของซูแบท ฉันเห็นลมกรดสีขาวขนาด 5 ซม.เท่านั้นและเจ้าพายุหมุนนั้นก็หายไปหลังจากคงสภาพไปข้างหน้าประมาณ 2 วินาที
อย่างไรก็ตามแม้ว่าพายุหมุนในตอนนั้นจะมีขนาดเล็กและอยู่ได้ไม่นาน แต่ด้วยตอนนี้ที่ซูแบทประสบความสำเร็จในการลดกำลังลมแรงที่กำลังฝึกนี้ มันอาจมีส่วนช่วยในการใช้ทักษะพายุหมุนของซูแบทก็ได้แม้มันจะเล็กน้อย แต่ก็นับว่ายังดี
ตัวซูแบทก่อนหน้านี้ถ้าเทียบกับตอนมันบินไปในสายลมแรงระดับ6ในครั้งแรกแล้วมันก็เหมือนกับนักกีฬาวิ่ง100เมตรที่พุ่งไปข้างหน้าตลอดเวลาแต่กลับไม่สามารถหายใจได้อย่างเต็มที่และในการหายใจครั้งเดียวก็ทำให้มันรู้สึกอึดอัดมากๆ แต่ตอนนี้มันกำลังบินด้วยท่าทางที่สบายดีและมักจะมีลมสีขาวเล็กๆน้อยๆ คอยช่วยเหลือมันจากแรงลมที่กำลังพัดมาจากข้างหน้าในตอนนี้มันแทบจะบินได้สบายๆเหมือนตอนที่มันบินระดับ1หรือ2เลย
สำหรับซุแบทที่ตอนนี้ควบคุมลมกรดสีขาวเพื่อต้านลมแรงในระหว่างขั้นตอนการฝึกได้นั้น ซาโต้ที่กำลังเฝ้าดูอย่างระมัดระวังก็ได้เห็นลมนั้นเช่นกัน แต่เขาไม่ได้เลือกที่จะหยุดมันเพราะพฤติกรรมแบบนี้มันได้รับการชื่นชมจากเขาไปอย่างมาก
แม้ว่าซาโต้ จะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานคุณลักษณะระหว่างธรรมชาติเช่นเดียวกับเอลฟ์ได้ แต่เขาก็ยังรับรู้ถึงการกระจายของพลังงานธรรมชาติได้เช่นปล่องภูเขาไฟที่เต็มไปด้วยพลังงานไฟหรือพลังงานน้ำในแม่น้ำหรือไม่ก็พื้นที่รกร้างเต็มไปด้วยพลังงานจากพื้นดินดังนั้นลมแรงจึงเต็มไปด้วยพลังงานธาตุบินนี้เขาจึงสัมผัสมันได้เช่นกัน
ซาโต้ต้องการให้ซูแบทฝึกร่างกายท่ามกลางแรงลมพวกนี้เพราะจุดประสงค์หนึ่งคือเพื่อปรับปรุงความแข็งแรงทางกายภาพของซุแบทตามธรรมชาติและประการที่สองคือการทำให้ซูแบทปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในการบินและรับรู้ถึงกระแสลมและประการที่สามคือหวังว่าซูแบทจะได้ในการฝึกร่างกายด้วยลมแรง เต็มไปด้วยพลังงานในการบินปรับปรุงความไวสัมผัสต่อพลังงานในการบินเพื่อเอาไว้ใช้ในการควบคุมพลังงานการบิน
ปัจจุบันซุแบทควบคุมพลังงานธาตุบินเพื่อสร้างกระแสลมที่เป็นปฏิปักษ์เพื่อลดความแรงของลมที่กำลังจะมาถึงได้แล้ว นี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันได้ทำการกำลังตรวจจับและจัดการกับพลังงานธาตุบินพุ่งใส่มันได้
หลังจากการฝึกร่างกายด้วยลมไป 3 ชั่วโมง ตามข้อมูลที่ซาโต้ได้รวบรวมจากการฝึกครั้งนี้เวลาที่ยาวนานที่สุดของซูแบทที่อยู่ในลมแรงระดับ 6 คือ 7 นาที 41 วินาทีซึ่งดีกว่าในครั้งแรกมากๆ เพราะมันขยายเวลาออกไปได้ถึง 2 นาที 20 วินาที ฉันต้องบอกเลยว่าการฝึกร่างกายในครั้งนี้ซูแบทมีความก้าวหน้าอย่างมาก
สาเหตุที่ซูแบทได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่นั้นส่วนใหญ่เกิดจากการที่มันต้องการป้องกันกระแสลมที่พุ้งเข้ามา ดังที่กล่าวไปการฝึกฝนจะทำให้สมบูรณ์แบบได้เราด็ต้องพยายามอย่างต่อเนื่อง ในช่วงกลางของการฝึกซูแบทก็เริ่มที่จะเข้าใจระบบของธาตุบินมากขึ้นในตอนนั้น
ตามข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยซาโต้ เมื่อซูแบทมีร่องรอยของการใช้พลังงานธาตุบินมันจะเริ่มสร้างลมสีขาวที่มีขนาดเล็กรอบๆตัวและยังสามารถคงทักษะนี้ได้จากตนแรกที่ทำได้เพียง 2 วินาทีจนช่วงท้ายของการฝึกซูแบทก็ทำได้ถึง13วินาที
เห็นได้ชัดว่ซูแบทได้ปรับปรุงความสามารถในการรับรู้และควบคุมพลังงานธาตุบินในระหว่างการฝึกร่างกายด้วยแรงลมพวกนี้ เกี่ยวกับการปรับปรุงการฝึกฝนเหล่านี้แม้ว่ามันจะเป็นเพียงร่องรอยก็ตาม แต่ซาโต้ก็คิดว่าในช่วงพักจะบอกให้ซูแบทเพิ่มความจริงจังในการฝึกซ้อมไปอีกเล็กน้อย
และเมื่อตอนที่ซาโต้ช่วยฝึกซูแบทนี้เขาก็ยังไม่ลืมเจ้าไข่โปเกมอนไป จากที่ซาโต้สั่งให้ซูแบทฝึกและพักแต่เมื่อพักผ่อนเขาก็จะพูดคุยและหัวเราะกับไข่เอลฟ์ที่ตอนนี้มักจะเปล่งแสงสีขาวจางๆเป็นระยะๆ และความผันผวนของคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่แสดงบนฝาของตู้ฟักไข่ก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเล็กน้อย
สำหรับไข่โปเกมอนที่ปรากฏการณ์แบบนี้ ซาโต้ที่ระมัดระวังและสังเกตุอะไรต่างๆก็ได้ค้นพบสิ่งนี้เช่นกัน แต่เขาพบว่าสัญญาณชีวิตของไข่โปเกมอนแสดงให้เห็นถึงสภาพที่เริ่มเคลื่อนไหวไปมา หัวใจของเขาก็มีความสุขที่ได้เห็นเช่นนี้ทันที
"รีบออกมาเร็ว เมื่อถึงเวลาฉันจะฝึกนายให้ดีแน่นอน" หลังจากฝึกร่างกายครบ3ชั่วโมงซาโต้ก็เอาซูแบทกลับเข้าไปในลูกบอลเพื่อพักผ่อนจากนั้นก็ออกจากห้องฝึกโดยที่คุยและยิ้มให้ไข่ในตู้ฟักมาตลอดทาง
ชีวิตน้อยๆในไข่โปเกมอนนี้ก็ดูเหมือนจะรู้สึกถึงความรักในใจของซาโต้เช่นกัน และมันก้ได้ขยับตอบสนองเขาไปเล็กน้อย