ตอนที่แล้วตอนที่ 145 ทวิสเต็ดขัดคำสั่ง?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 147 เป้าหมายคือผู้รักษา

ตอนที่ 146 เสือสองตัวในถ้ำเดียวกัน


ตอนที่ 146 เสือสองตัวในถ้ำเดียวกัน

ความมืดเริ่มแผ่ขยายเข้ามาปกคลุมน่านฟ้าตามเวลาพลบค่ำของเกม ดวงอาทิตย์ที่ลาลับจากไปมีดวงจันทราสาดส่องขึ้นแทนที่ให้แสงสีนวลชวนให้ฝันแก่ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ด้านนอก แม้ทิศทัศน์ที่รายล้อมกายจะถูกกลืนหายไปในความมืดแต่แสงจากดวงจันทร์ก็ยังส่องสว่างมากพอที่จะมองเห็น

“พวกแกกล้ามากจริงๆที่โผล่หน้ามาให้พวกฉันเห็น...ว่าแต่นายหญิงของแก ไปไหนเสียล่ะ? หรือว่ากลัวจะถูกฆ่าจนไม่กล้าออกมาเก็บเลเวลแล้ว หึหึ” วูลฟ์ไชน์แสยะยิ้มที่น่ารังเกียจเข้าใส่ กลุ่มผู้เล่นกิลด์ Red Shadows ที่ถูกไล่ต้อนเข้ามาในวงล้อมอย่างช้าๆ มีดคู่ของวูลฟ์ไชน์ถูกชักออกมาเพื่อเตรียมรอปลิดชีพ เหล็กกล้าจากใบมีดตกกระทบกับแสงของดวงจันทร์ สาดส่องสว่างวาบในที่มืด

“ตกใจล่ะสิ!!พวกแกคิดถูกต้องแล้ว นี้คือมีดเขี้ยวจันทราและมีดตัดมลายอาวุธเกรดสีน้ำเงิน จงดีใจซะเถอะที่พวกแกจะได้ตายด้วยอาวุธสุดยอดระดับนี้”

“คนอย่างกริดเฮมเมอร์ยอมตายดีกว่ายอมจำนน พวกเราลุย” แท้ที่จริงแล้วกลุ่มของ Red Shadowsที่กำลังถูกไล่ฆ่าเป็นกลุ่มของกริดเฮมเมอร์หนึ่งในผู้ติดตามที่จงรักภักดีต่อกุหลาบแดงนั้นเอง

เป็นไปตามคำพูดของกริดเฮมเมอร์ที่พวกเขายอมตายดีกว่าจะยอมแพ้ สมาชิกกิลด์ Red Shadows สวมหัวใจสิงห์เข้าหำหั่นกับศัตรูนับสิบคนของ Blood Commander อย่างสุดหัวใจ แต่ถึงกระนั้นเพราะด้วยเลเวลที่มากกว่าและอุปกรณ์ชั้นเยี่ยมที่ได้รับจากการเปย์(ทุ่มทุนซื้อ)ของเรย์ ที่หมายจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังชั้นแนวหน้าของกิลด์ที่ 1 ของ Blood Commander

พระเอกหนุ่มจึงได้ทุ่มเงินเครดิตไปเป็นจำนวนหลายแสนเครดิตเพื่อซื้อตำแหน่งที่ว่านี้ สุดท้ายแล้วก็เป็นดั่งใจต้องการของพระเอกหนุ่มจริงๆ เงินสามารถช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ไอเท็มระดับสูงทำให้ชายหนุ่มแข็งแกร่งขึ้น ไอเท็มช่วยให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นรองหัวหน้ากำลังหลักเป็นนับว่าเป็นรองเพียงวูลฟ์ไชน์ ซึ่งเป็นผู้เล่นระดับสูงของกิลด์และยังเป็นผู้เล่นที่ติด หนึ่งในสิบกระดานจัดอันดับเลเวลอีกด้วย

‘ฉึกกก!!’

มีดเขี้ยวจันทราค่อยๆปาดลงไปที่ลำคอของผู้เล่นกิลด์ Red Shadows ส่งร่างอันไร้วิญญาณให้กลายเป็นลูกไฟเพื่อกลับไปเกิดใหม่ที่สุสานภายในเมือง หัวใจสิงห์บัดนี้ไม่อาจต้านทาน จากสมาชิกที่หนีรอดมาได้จำนวน 5 คนตอนนี้เหลือเพียงกริดเฮมเมอร์คนเดียวเท่านั้น แถมสภาพในตอนนี้ของเขา อย่าเรียกว่าเหลือรอดยังจะสุภาพเสียกว่า หลอดพลังชีวิตของกริดเฮมเมอร์ว่างเปล่าเสียจนหากไม่ตั้งใจมองดีๆคงไม่เห็น แท่งสีเขียว(แสดงค่าพลังชีวิต) ที่เหลืออยู่ไม่กี่หน่วยนั้นเลย

“มีดทั้งสองเล่มของคุณ เรย์ นี้สุดยอดจริงๆใช้แล้วคล่องมือเอามากๆสมแล้วที่เป็นไอเท็มระดับเกรดสีน้ำเงิน ผมต้องขอขอบคุณจริงๆที่คนดังอย่างคุณให้ความชื่นชมกิลด์ของเรามากขนาดนี้ ท่านไอเดนยังฝากมาบอกคุณเรย์อีกว่า ไว้ถ้ามีโอกาสจะเชิญคุณเรย์ไปเลี้ยงรับประทานอาหารกันสักมื้อ?” จะเรียกว่าเป็นความประมาทของวูลฟ์ไชน์ก็คงไม่ได้ ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าของเขาสิ้นสภาพการต่อสู้ไปแล้ว เพียงแค่สะกิดนิดเดียวก็น่าจะส่งกริดเฮมเมอร์ให้กลายลูกไฟวิญญาณตามติดสมาชิกในกิลด์ไปเกิดใหม่ได้แล้ว ชายหนุ่มจึงอาศัยช่วงเวลานี้เลียแข้งเลียขาพระเอกชื่อดังที่ให้ของขวัญเขาเป็นอาวุธระดับท็อปเสียหน่อยจะเป็นอะไรไป เผลอๆหากเขาพูดจาถูกคอพระเอกเรย์คนนี้เข้าละก็...ชีวิตจริงอาจะได้แอ่มนางเอกสักคนหรือนักร้องไอดอลมาเป็นคู่นอนสักคืนคงจะสุขไม่น้อย

‘ไม่สิแค่ดาราสักคนก็พอแล้ว ฮ่าฮ่า’

วูลฟ์ไชน์หัวเราะออกมาอย่างกับคนบ้า ตัณหา กามอารมณ์ของมนุษย์สุดแท้จะหยั่งถึง ถึงอย่างไรวูลฟ์ไชน์ก็เป็นชายหนุ่มธรรมดาทั่วไป ในหัวสมองจะคิดเรื่องสกปรกพรรณนี้ออกมาย่อมถือเป็นปกติของเพศชาย แต่สิ่งที่จะแยกแยะคนเหล่านี้ว่าเป็นคนดีหรือคนชั่วนั่นคือการ ‘ยับยั้งชั่งใจ’

อย่างไรก็ตามก็มาคิดเรื่องแบบนี้ในเวลายังงี้ ดูยังไงก็เป็นเรื่องที่ผิด ผิดอย่างไรน่ะเหรอ? คำตอบแสดงออกมาแล้ว เขาผิดที่ปล่อยให้มีศัตรูอำพรางตัวเข้ามาอยู่ในกลุ่มเขาได้ยังไงล่ะ!!

“ช่างน่าเสียดาย ที่แกรู้ตัวช้า งั้นก็ตายซะ!!”

ทวิสเต็ดที่อำพรางตัวอยู่ได้เข้าไปประชิดวูลฟ์ไชน์ด้วยความเงียบสมกับฉายานักฆ่าอันดับหนึ่งของกิลด์ ชายหนุ่มปิดกั้นรังสีฆ่าฟัน สงบจิตใจที่เต้นตูมตามด้วยความแค้นให้แผ่วเบาเงียบเชียบ ก่อนจะเอ่ยคำพูดสุดท้ายที่วูลฟ์ไชน์ได้พูดเอาไว้กับเขาเมื่อครั้งที่เขาถูกฆ่า

‘ช่างน่าเสียดาย งั้นแกก็ตายซะ!!’

[Back Steb!!] มีดอันคมกริบเสียบลงที่หลังของวูลฟ์ไชน์อย่างแรง กระแทกให้ตัวเขาลอยกระเด็นออกไปไกล แต่พอเมื่อวูลฟ์ไชน์ได้สติ คนที่ลอบโจมตีเขาจากด้านหลังก็หายไปแล้ว “ผู้รักษามั่วทำอะไรอยู่…รีบรักษาฉันเร็วเข้าสิวะ!!”

วูลฟ์ไชน์ตะโกนลั่น พลังชีวิตจากการถูกลอบสังหารในครั้งนี้พรากเลือดของเขาหายไปเกือบครึ่ง ‘ใครกัน? ทำไมนักฆ่าถึงโจมตีแรงได้ถึงขนาดนี้!!’ ความสงสัยเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อตัววูลฟ์ไชน์ หากให้ตัวเขาเดาถึงจะไม่เห็นศัตรูที่เข้ามาลอบทำร้ายแบบเต็มตา แต่ก็พอเดาออกจากสกิลอำพรางตัว กสิลโจมตีทิ่มแทงข้างหลัง ล้วนเป็นสกิลเดียวกับที่วูลฟ์ไชน์มีทั้งหมดเช่นกัน

‘หมอนี้ต้องเป็นนักฆ่า แต่นักฆ่าคนใดกันล่ะที่จะเหนือไปกว่าฉัน วูลฟ์ไชน์ อับดับ 10 ในบรอ์ดจัดอันดับ!!’

“ผู้รักษาทำไมยังไม่รักษาว่ะ!!” แม้จิตใจของวูลฟไชน์จะวอกแวกไปบ้าง แต่โดยรวมก็ยังให้ความสำคัญกับการต่อสู้อยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มหันไปมองจุดที่ผู้รักษาเคยยืนอยู่ก่อนจะตวาดออกไปด้วยเสียงอันดังลั่น

ผู้รักษาหันหน้าจ้องมองหัวหน้ากลุ่มวูลฟ์ไชน์ของตัวเองอย่างช้าๆ พลางส่งสายตากลิ้งกลอกไปมาส่ายหน้าลุกลี้ลุกล้นคล้ายกับการบอกปฏิเสธอะไรสักอย่าง

“มีอะไรก็พูดออกมาสิโว้ย!!” ความอดทนของวูลฟไชน์เริ่มหมดลง เขาเดินไปกระชากเสื้อคลุมของผู้รักษาคนนั้นเข้ามาหาตัวอย่างแรง แสดงอำนาจที่เหนือกว่าข่มเหงลูกน้อยใต้ปกครอง สั่งสอนให้หัดเชื่อฟังคำสั่งของเขา

“เจอกันอีกแล้ว แกก็ยังพูดมากไม่เปลี่ยน ตกลงแกใช้ปากหรืออาวุธสู้กันแน่!!”เจสเปอร์ก้าวเดินออกมาจากม่านหมอกช้าๆ เขาไม่ได้มีสกิลอำพรางตัวเหมือนคลาสอาชีพนักฆ่า จึงต้องอาศัยลูกเล่นจากสกิล [Wall Mist]ที่มีเอฟเฟคสกิลเป็นม่านหมอกสีดำและอาศัยบรรยากาศในตอนกลางคืนของเกม กลมกลืนเข้าไปกับสภาวะแวดล้อมและในระหว่างที่แอบซ่อนตัวอยู่ในสกิลม่านหมอกตัวเขาก็ได้เปิดร่ายสกิล [ความเงียบเป็นนิรันดร์]เข้าใส่สมาชิกกิลด์ Blood Commander เอาไว้ทั้งหมด

“แก…ฉันจำแกได้ แกคือคนที่ลอบสังหารฉันที่หน้าดันเจี้ยนรังก๊อบลิน??!!”

วูลฟ์ไชน์จำเสียงและการหน้ากากที่ปิดบังใบหน้านั่นได้อย่างแม่นยำ ชายหนุ่มไม่เคยลืมความโกรธแค้นที่ได้รับจากการลอบสังหารในครั้งนั่นไปแม้แต่วินาทีเดียว ยิ่งนานวันความแค้นก็ยิ่งสะสม วูลฟ์ไชน์เก็บงำความแค้นนี้เอาไว้มานานแสนนาน ใช้ความแค้นที่ได้รับผลักดันตัวเองจนก้าวกลับขึ้นมาอยู่ในบอร์ดจัดอันดับได้อีกครั้ง เพื่อเอาคืนให้สาสมกับคนที่ฝากรอยแค้นนี้ไว้

“แกตาย!!” วูลฟ์ไชน์ ควงมีดคู่เล่มงาม กระโดดเข้าใส่ชายที่สวมหน้ากากด้วยความบ้าคลั่ง

‘พลั่กกกก!!’

สมาชิกกิดล์ Blood Commander รวมถึงเรย์ยิ้มออกมาเมื่อได้เห็น วูลฟ์ไชน์ระเบิดพลังเข้าใส่ศัตรู แต่ภายในเสี้ยววินาทีนั้นเอง จากรอยยิ้มของผู้ชนะกลับเปลี่ยนเป็นความตระหนก ปั้นหน้าเสียไม่ถูก. วินาทีที่วูลฟ์ไชน์กระโดดเข้าใส่เจสเปอร์ ผู้ควบคุมธาตุที่เฝ้ารอจังหวะอยู่แล้ว ยกขาขึ้นถีบสวนกลับไปตามแรงส่งของนักฆ่าผู้นั้นอย่างแรง ก่อนจะส่งร่างวูลฟ์ไชน์ลอยกระเด็นลงไปนอนคลุกฝุ่น…ถีบ!!

ใช่แล้วเจสเปอร์แค่ถีบธรรมดา เทคนิคการต่อสู้ง่ายๆ ที่ผู้เล่นเกมแฟนตาซีมักหลงลืม คนเล่นเกมแนวนี้ส่วนใหญ่มักจะอาศัยพลังจากสกิลเข้าช่วยในการต่อสู้ซะเป็นส่วนใหญ่ จนลืมเลือกการต่อสู้ในโลกจริงที่สวยงามเอาไว้เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นหมัด เข่า ศอก เตะ ล้วนแล้วเป็นอาวุธในการตีขัดศัตรูที่ทรงพลังแทบทั้งสิ้น แต่ก็มีผู้เล่นน้อยคนนัก ที่จะนำสิ่งเหล่านี้มาเรียงรอยเข้ากับเกม The Era Online

“ฉันก็อยากจะเล่นกับแกอยู่หรอกน่ะ...แต่พอดีมีคนเขาจองตัวแกเอาไว้ก่อนแล้ว!!”

ชายหนุ่มโบกมือลาอย่างไม่แยแสวูลฟ์ไชน์ผู้เล่นติดอันดับของกิลด์ Blood Commander ที่นอนล้มกลิ้งอยู่กับพื้นเลยสักนิด เขาถีบส่งร่างไปทางทวิสเต็ดที่อำพรางตัวอยู่ได้สำเร็จก็เป็นอันจบกัน เป้าหมายของใครก็ของมัน เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ฉันใด ราชสีห์สองตัวก็ไม่แย่งเหยื่อกันเองฉันนั้น!

เจสเปอร์หันกลับมายังสมาชิกที่เหลือของกิลด์ Blood Commanderใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยหน้ากากส่งผลให้ตัวตนของชายหนุ่มยิ่งลึกลับเข้าไปใหญ่ แสงดาบพุ่งวาบตามด้วยเวทย์มนต์จากสกิลสุ่ม [Auto spell] เขาฟาดฟันใส่ผู้รักษาที่ตกใจจนหลับตาแน่นสนิท

ฉวัววะ!! ‘-157!!’

‘เบาจังแฮะ...หรือว่าเราเปิดร่ายสกิล Shield Protection ไว้อยู่หรือเปล่า ไม่หนิ เราถูกใบ้อยู่ ไหงศัตรูที่หัวหน้ากลัวหนักหนาถึงโจมตีเบาขนาดนี้??’

ผู้รักษาที่ได้ลิ้มรสการโจมตีของเจสเปอร์เข้าไป ต่างงุนงงกับความเสียหายที่ตัวเองได้รับเป็นอย่างมาก มันเบาเสียจนน่าขัน นี้ยังไม่นับรวมสกิลป้องกันที่เขายังไม่อวยพรให้ตัวเองอีกน่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆความเสียหายที่ผู้รักษาได้รับไม่เบาจนอยู่ระดับ 100 ต้นๆ หรอกหรือ?

“ไอ้หมอนี้กระจอกชะมัด ทำทีเป็นแอ็ควางท่าว่าแข็งแกร่ง ที่แท้ก็ยังเป็นแค่ไก่อ่อน...พวกเราไม่ต้องกลัว หากมีฉันอยู่พวกนายไม่มีวันถูกฆ่าหรอก ลุยมันได้เลย!!”

ผู้รักษาไม่กลัวศัตรูตรงหน้าอีกต่อไปแล้ว หลังจากที่ตั้งสติ เขาก็สำรวจอุปกรณ์สวมใส่ของศัตรูจนครบถ้วน ซึ่งทั้งหมดที่ชายคนนี้สวมใส่อยู่นั้นเป็นเพียงอุปกรณ์กระจอกๆระดับเริ่มต้นเท่านั้นเอง มันอาจจะมีราคาแพงมากในช่วงแรก แต่ไม่ใช่กับระยะเวลาตอนนี้อีกต่อไป

ถูกต้องเจสเปอร์ไม่ได้สวมใส่ชุดเต็มของเขาในการต่อสู้ครั้งนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ความเสียหายของเขาจะเบาเหมือนกับมดกัดขนาดนี้ เจสเปอร์ไม่ได้ดูถูกคู่ต่อสู้หรือไม่ได้ประมาทในการต่อสู้แม้แต่น้อย เขาเลือกวิธีนี้เพื่อกดดันศักยภาพของตัวเอง เพื่อให้ขีดจำกัดของเขาได้เติบโต นี้คือข้อเสียของการปกปิดตัวตนแม้มันจะหลีกเลี่ยงปัญหาที่ตามมาได้มากมาย แต่ก็ต้องแลกกับการที่ไม่ได้ฝึกฝนตัวเองในการต่อสู้จริงๆหลากหลายประเภท ช่วงเวลานี้จึงถือเป็นช่วงเวลาอันมีค่าที่ตัวเขาและคนอื่นๆจะได้ฝึกฝน

สมาชิกกิลด์ Blood Commander เองถึงจะหัวเราะให้กับความเสียหายของเจสเปอร์ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ประมาท บุกเข้ามาโง่ๆ คนเดียว เหมือนกับการกระทำของผู้เล่นทั่วๆไป ถึงอย่างไรพวกเขาก็ถือว่าเป็นผู้เล่นสมาชิกกลุ่มหลักของกิลด์ มีฝีมือบ้างพอสมควร ได้รับการฝึกฝนการต่อสู้มาก็มิใช่น้อย ผู้รักษา จอมเวทย์ อัศวิน(เรย์) นักธนูและโจร ต่างจัดตำแหน่งการยืนให้สอดรับกันและกัน เจสเปอร์เองก็มองพวกเขากลับไปด้วยความชื่นชม

‘นานมากที่ไม่ได้เห็นตำแหน่งการยืนแบบนี้ของ Blood Commander’

เจสเปอร์รำพันถึงอดีตอยู่ชั่วครู่ แต่ทำใดนั้นเอง ลูกธนูของนักธนูกิลด์ Blood Commander ก็พุ่งตรงเข้ามาเพื่อเปิดฉากการต่อสู้ เจสเปอร์เอี่ยวตัวหลบลูกธนูที่ตรงเข้ามา ตวัดดาบในมืดรับคมกับดาบจากเรย์ เกิดเป็นประกายแสงของใบดาบที่ตกกระทบ พร้อมกับรุกไล่เข้าใส่เพื่อสวนกลับอย่างดุดัน

‘แก๊งงง!!’ ‘พลักก!!’ ‘ฉัววววะ!!’

เจสเปอร์บุกกระหน่ำจนบรรดาสมาชิกกิลด์ Blood Commander จำนวนหลายคนต้องถอยกรูดกลับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่วนคนอื่นที่ยังยืนอยู่ได้ ต่างก็รับการโจมตีเข้าไปเต็มรัก รวดเร็ว ดุดัน รื่นไหล แข็งแกร่ง ปีศาจ สมาชิกแต่ละคนในกิลด์ Blood Commander เริ่มมอบคำนิยามให้กับเจสเปอร์โดยที่ไม่รู้ตัว แค่การปะทะกันสั่นๆรอบเดียว ถึงความเสียหายที่พวกเขาจะได้รับจะเบาบาง แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อพลังชีวิตของพวกเขาทุกคนหยุดอยู่ในระดับเดียวกันที่ 90% ทุกคน ยกเว้นเพียงแต่ เรย์อัศวินหนุ่มที่ยังเต็มเปี่ยมคล้ายกับผู้ควบคุมธาตุคนนี้จงใจให้เกิดขึ้น

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

แจ้งล่วงหน้าตั้งแต่ 150 เป็นต้นไป จะมีการปรับอัตราการเก็บเหรียญน่ะครับ เป็น(*เก็บ2ตอน ฟรี2ตอน*)

และจะคงอยู่แบบนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ

www.facebook.com/writelazy

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด