Ep.235 - แรงกระตุ้นของนักล่า
3/4
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.235 - แรงกระตุ้นของนักล่า
เครือข่ายนักล่าเงินรางวัล ได้ยกเลิกประกาศจับของผู้ใช้พลัง
ซึ่งแต่ละรายการที่ถูกยกเลิกในวันนี้ ล้วนเป็นอาชญากรชั้นนำที่ทางสามเฉิงต้องการตัว
และทั้งหมดอยู่ในเลเวล E !
หากรวมหมาป่าสาวด้วยแล้ว จะมีทั้งสิ้น 8 คน!
เรื่องนี้ส่งผลให้อาชญากรระดับสูงบางคน เริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
หลังการกลับมาของเหล่าผู้ใช้พลังเลเวล E จากเกาะต่างมิติ ยังมีอีกข่าวหนึ่งที่น่าตกใจแพร่กระจายออกมา นั่นคือสามเฉิงต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานชุมชนหลายๆเขต
เดิมสถานชุมชนก็มีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันภายในอยู่แล้ว ขณะเดียวกันเลเวล E ถือเป็นการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งที่สุดในสถานชุมชน สูญเสียเพียงหนึ่ง เทียบเท่ากับหายนะปานฟ้าถล่ม
ไม่ต้องการถึง ความเสียหายโดยรวมทั้งหมด
แต่ในเวลาเดียวกัน ดันมีใครบางคนนำหัวขององค์กรมืดไปขึ้นเงินรางวัล แทบทั้งหมดจึงตระหนักได้ในทันที น่ากลัวว่าคนๆนี้จะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเกาะต่างมิติ พูดให้เข้าใจก็คือ หากองค์กรมืดสังหารเลเวล E ของสถานชุมชน และฉินเฟิงสังหารองค์กรมืดอีกทอดหนึ่ง นั่นไม่เท่ากับว่าเขาครอบครองอุปกรณ์รูนมิติของทั้งสองฝ่ายหรอกหรือ?
วินาทีนั้น ฉินเฟิงก็ถูกโยนลงสู่ใจกลางของพายุร้ายโดยไม่รู้ตัว
การที่ฉินเฟิงสังหารเลเวล E ในประกาศจับไปหลายคน อีกทั้งเกือบทั้งหมดยังเป็นอาชญากรที่ต้องการตัวมากที่สุด ได้รับเงินไปมากโข ทำให้สถานชุมชนที่เหลือเริ่มตั้งแง่กับฉินเฟิง ไม่อาจยอมรับให้เขาได้อิ่มหนำสำราญบนกองเงินเพียงลำพัง
แต่ใครจะไปคิด ว่าการที่ฉินเฟิงนำศีรษะของอาชญากรไปขึ้นเงิน จะทำให้ปัจจุบันเขาได้รับสิทธิ์เป็นนักล่าเหรียญทอง เท่ากับเป็นการยกชื่อเสียงเพิ่มไปอีกขั้นหนึ่ง
และในเวลาเดียวกัน โฆษณาของซูซิงฝูก็ถูกปล่อยออกมา แพร่กระจายเป็นวงกว้าง
ในวิดีโอ กำลังฉายภาพถ่ายจากมุมสูง เผยถึงการกระทำอันโหดร้ายของอาชญากร ฉากนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ทันที
เพราะทั้งหมดถือเป็นหลักฐานการก่ออาชญากรรมของเหล่าคนร้าย
--หมาป่าสาวกระชากคอหญิงตั้งครรภ์อย่างโหดร้าย แต่ในวินาทีต่อมา คล้ายกับมีใบมีดร่วงตกลงจากท้องฟ้า สะบั้นลำคอเธอในฉับเดียว
“อาชญากรระดับสูง : หมาป่าสาว ตกลงสู่ความตาย!”
ช่วงต่อมา เป็นภาพฉายของเซิงเซินหยู ผู้ใช้อบิลิตี้โลหะ มันฉายภาพที่เขาลอบโจมตีรถขนส่งราวๆ 2 - 3 คัน อีกทั้งยังใช้อำนาจของตนบิดตัวรถทั้งหมดจนหมุนเป็นเกลียว เลือดไหลซิบออกมาจากภายในรถ เป็นฉากที่น่าสยองขวัญยิ่ง
แต่ในตอนนั้นเอง พลันปรากฏเปลงเพลิงพวยพุ่ง โถมเข้าสังหารเซิงเซินหยูโดยตรง!
“อาชญากรระดับสูง : ปีศาจอำมหิตผู้ใช้โลหะ ถึงแก่ความตาย!”
แล้วภาพก็สลับเปลี่ยนไป แสดงถึงการตายของอาชญากรทั้ง 8
และตัดมายังฉากสุดท้าย มันคือภาพของสถานชุมชนเฟิงหลี และบางสิ่งที่คล้ายกับตลาดซื้อขายขนาดย่อม ตามต่อด้วยบริกรในชุดดำที่ก้าวออกมา
“สินสงครามมักตกเป็นของผู้ชนะ --ตลาดมืดประจำสถานชุมชนเฟิงหลี กำลังเฝ้ารอทุกท่านได้เข้ามาสัมผัส!”
“ราคาซื้อขายต่ำราคาตลาดถึง 10 % สินสงครามที่ถูกนำมาซื้อขายจะไม่มีการระบุชื่อ ดังนั้นการทำธุรกรรมจึงไม่ใช่ปัญหา!”
“ปลอดภัยที่สุด มีมาตรการรักษาความลับที่สุด ทั้งยังราคายุติธรรมที่สุด!”
“ซื่อสัตย์ , ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ สามข้อนี้คือหลักในการดำเนินธุรกิจของเรา!”
โฆษณาชุดนี้ สำหรับผู้ใช้พลังระดับต่ำอาจจะไม่เข้าใจ ทว่าในส่วนของเลเวล E ทั้งหมดแทบตาถลน!
เพราะที่ฉินเฟิงสังหารไป ล้วนเป็นคนที่มีชื่อเสียง นั่นหมายความว่าปัจจุบันย่อมมีสินค้าดีๆอยู่ในมือของเขา!
ต้องรู้นะว่า ผู้ใช้พลังเลเวล E น่ะ กว่าจะสังหารสัตว์ร้ายในเลเวล E ลงได้ ต้องร่วมแรงร่วมใจกันถึงขนาดไหน นั่นหมายความว่าอุปกรณ์รูนเลเวล E ในสามเฉิงเลยพลอยขาดแคลนเป็นเงาตามตัว
ยามเดินสวนกัน เลเวล E บางคนถึงขั้นริษยาตาร้อนที่อีกฝ่ายได้ครอบครองอุปกรณ์รูนดีๆ
“ฉันจำได้ว่าหมาป่าสาวมีรองเท้าขนนกระดับนายพลสัตว์ร้ายอยู่คู่หนึ่ง!”
“ถ้าฉันได้ครอบครองสองกริชของหยวนฮัน ที่อยู่ระดับนายพลแล้วล่ะก็ … !”
“ช่วงนี้ฉันจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์รูนมิติ ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่พอดีซะด้วยสิ”
“ฉันยังเก็บของจากผู้ใช้พลังบางคนที่เพิ่งฆ่าเมื่อไม่นานมานี้อยู่เลย ยังไม่กล้าขายมัน บางทีฉันอาจจะลองไปที่ตลาดมืดของสถานชุมชนเฟิงหลีดู”
ผู้คนเกิดความคิดกันไปต่างๆนาๆ
ในขณะที่โฆษณาดังกล่าว ได้สร้างความไม่พอใจให้แก่คนบางกลุ่ม เกิดความอคติต่อฉินเฟิง
หนึ่งในนั้น คือกลุ่มเล่ยถัง
แต่เล่ยเฉิน ในฐานะที่เป็นผู้ใช้พลังเลเวล D เขามีหลายสิ่งต้องจัดการ เลยไม่มีเวลามามัวสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม มิได้หมายความว่าเขาจะไม่คิดกำจัดฉินเฟิง
“ไอ้หนูฉินเฟิงนี่ มันออกจากมิติส่วนตัวของฉัน แต่ยังไม่จ่ายเงินชดเชยให้ฉันเลย ทำทีเหมือนไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา ในเมื่อซ่านัก คงต้องมอบบทเรียนเล็กๆน้อยๆให้แก่มัน!” เล่ยเฉินออกคำสั่งลงไป “ไปจ้างใครบางคนจากองค์กรมืดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรา บอกไปว่าฉันจะเสนออาวุธให้ แล้วช่วยไปสั่งสอนไอ้เด็กฉินเฟิงให้รู้สำนึก!”
“รับคำสั่งท่านเทศมนตรี!”
“หึ ครั้งนี้ฉันชนะได้เมืองไห่มาในครอบครอง และหวังว่าปัญหาทั้งหมดควรจะจบลงในระยะเวลาสั้นๆ --ฉันจะออกไปทำภารกิจ และจะกลับมาในอีก 3 เดือน หลังจากที่กลับมา ห้ามให้ฉันได้ยินชื่อ ‘ฉินเฟิง’ อีก!”
“ไม่มีปัญหาท่านเทศมนตรี พวกเราจะใช้ประโยชน์จากช่วงที่ฉินเฟิงกำลังชะล่าใจ กำจัดเขาซะ! ให้มันได้รู้สำนึกว่าต้นไม้ใหญ่ที่โตเร็วเกินไป สักวันย่อมถูกลมพายุหักโค่นลง --ดังคำกล่าวของผู้คน ว่านกเล็กคิดโผบินจากรังทั้งที่ยังน้อยประสบการณ์ มักจะกลายเป็นเป้าถูกยิง คนแบบนี้พอก่อเรื่องใหญ่มักจะอยู่รอดต่อไปได้อีกไม่กี่วัน!”
“เป็นประโยคที่ดี! เรื่องนี้ฉันขอมอบให้แกจัดการ!”
เล่ยเฉินโบกมือ ไม่สนใจฉินเฟิงอีกต่อไป เฉกเช่นเดียวกันกับเทศมนตรีไป่หยิงเทียนของเมืองเฉิงหยาง ซึ่งไม่สนไม่แคร์ว่าใครจะได้รับตำแหน่งผู้ว่าการสถานชุมชนเฟิงหลี
เพราะระหว่างเลเวล E กับ D … มันมีช่องว่างความห่างชั้นดั่งสวรรค์และปฐพี!
…
แม้โฆษณาจะออกอากาศไปหลายวันแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะยังไม่มีใครเดินทางมาซื้ออะไร สิ่งนี้ทำให้ซูซิงฝูเริ่มรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
เพราะเขาคือนักธุรกิจที่ฉลาด และรู้ว่าตัวโฆษณาจะสามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน ทั้งยังถึงขั้นทำให้หลายคนเริ่มออกมาเคลื่อนไหว!
สำหรับคนจากสถานชุมชนอื่นๆ ซูซิงฝูไม่ค่อยสนใจ แต่สำหรับเฉิงหยางที่อยู่ใกล้ๆ หลังจากที่โฆษณาถูกแพร่ออกไป พวกเขาต้องสมควรแวะเวียนมาที่นี่บ้างสิ!
ฉินเฟิงมองไปยังท่าทีกังวลของอีกฝ่าย ก็อดถอนหายใจไม่ได้
แม้ซูซิงฝูจะได้ขึ้นแท่นเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในยุคต่อมา แต่ปัจจุบัน ประสบการณ์ของเขายังน้อยเกินไป
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงมั่นใจว่าหากได้รับการสนับสนุนจากตน ซูซิงฝูจะติดปีกทะยานยิ่งกว่าในชีวิตก่อนหน้า อีกทั้งยังพัฒนาไปเหยียบในจุดเดิมด้วยเวลาที่รวดเร็วยิ่งกว่า
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก พวกเขาทุกคนแค่กำลังเฝ้ารอดูคนแรกที่จะมาประเดิมก็เท่านั้น” ฉินเฟิงกล่าว
“งั้นพวกเราหาหน้าม้ามาดีไหม? อย่างเช่นนายพลฮั่นหรือคนอื่นๆที่พอรู้จัก?” ซูซิงฝูเอ่ยถาม
ฉินเฟิงยิ้มและกล่าว “หลายๆคนที่กำลังสังเกตการณ์อยู่ต้องรู้แน่ๆว่านายพลฮั่นกำลังเดินทางมาหาผม อีกอย่างการซื้อขายในตลาดมืดเป็นความลับ พวกเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรน่ารำคาญแบบนั้นหรอก ใจเย็นๆเข้าไว้ พวกเขาอดทนรอได้ไม่นานหรอก”
แม้ปากจะกล่าวเช่นนั้น แต่ในช่วงกลางดึกวันเดียวกัน ผู้คนตลอดทั้งชุมชนเฟิงหลีก็พลันถูกปลุกด้วยเสียงไซเรนที่ดังกังวาน!
บนท้องฟ้าเหนือภูเขาพ่อแม่ลูก อุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติสาดแสงสีแดงกระพริบไหว ประกาศคำเตือนออกมา
“ขีปนาวุธ! ขีปนาวุธประจุพลังระดับ E กำลังบินตรงมายังสถานชุมชนเฟิงหลี หลังจากตรวจสอบ พบว่าจุดที่มันตกลงคือตำแหน่งประตูเมือง!”
“ร้องขออนุญาตทำการเปิดโล่พลังงาน!”
“ขีปนาวุธจะมาถึงในอีก 1 นาที 30 วินาที เริ่มกระบวนการนับถอยหลัง ..”
“ติ๊ดๆๆ พวกเราถูกศัตรูโจมตี พลเมืองกรุณาเร่งไปหลบภัยในห้องใต้ดิน!”
ตลอดทั้งสถานชุมชนเฟิงหลีตกอยู่ในความโกลาหล
พลเรือนมากมายไม่คาดคิดว่าจะพบเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้ กลับกลายเป็นว่าอาณาเขตที่พวกเขาอาศัยอยู่ ยังไม่ทันได้ถูกสัตว์ร้ายโจมตี ก็ดันต้องมาพบกับภัยพิบัติที่มนุษย์เป็นคนก่อขึ้น
ภายนอกสถานชุมชนเฟิงหลี ปรากฏสามร่างเงาของมนุษย์ยืนหยัดอยู่บนที่สูง
“ปืนนี่มันสุดยอดไปเลย แต่เสียดายกระสุนจัง ลูกนึงน่าจะตั้ง 100 ล้าน”ชายหนุ่มอายุราวๆ 30 ปี อุทานออกมาด้วยความเสียดายเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงภาพหลังตนบุกเข้าไปในสถานชุมชน แล้วปล้นชิงทรัพยากรที่มีค่ายิ่งกว่ากลับมา ในแววตาของเขาก็ทอประกายความโล�
“ยังไงซะนั่นก็ไม่ใช่ของพวกเราอยู่แล้ว แค่ใช้ๆมันไปก็พอ แต่ยังไงภารกิจนี้ก็ต้องระมัดระวังให้ดี”
“เหอะ พวกเราคือทหารรับจ้างระดับสูงขององค์กรมืด ทำไมถึงต้องระมัดระวังตัวด้วย? อย่าบอกนะว่ากลัว? อย่าปล่อยลมปากคนอื่นมาบ่อนทำลายความมั่นใจของตัวเองสิ เจ้าหนูที่ชื่อฉินเฟิงก็แค่โชคดีนิดหน่อยเท่านั้นเอง ข่าวลือที่บอกว่าเขาสังหารหยวนฮันและคนอื่นๆลงได้น่ะ ฉันไม่เชื่อหรอก!”