บทที่ 105 : ส่งกองทัพไปอีกครั้ง
[การโจมตี: ต่อสู้กับป้อมปราการทางทหารของอาณาจักรเหล็ก]
[ระดับความยาก: A-]
[อัตราสำเร็จของภารกิจ: 95%]
[ความคิดเห็น: คุณชนะการต่อสู้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ได้มีการสูญเสียไปมากนัก ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการยั่วยุอาณาจักร ขอชื่นชมความพยายามของคุณ!]
[รางวัล: ค่าประสบการณ์ 95000 หน่วย]
[รางวัล: คริสตัลดันเจี้ยนป้อมปราการทหาร]
วิลเลียมถือคริสตัลไว้ในมือ เขาไม่คาดคิดว่าภารกิจนี้จะตอบแทนเขาด้วยคริสตัล
“ลองคิดดูสิ แม้ว่าความยากของภารกิจคือ A- แต่ดูเหมือนว่าการจัดอันดับนี้มุ่งเป้าไปที่ผู้เล่น สำหรับพวกผู้เล่นแล้วภารกิจ A- ยากพอๆ กับภารกิจเรื่องย่อยเลยด้วยซ้ำ”
“อาณาจักรเหล็กใช้กองกำลังทหารเพื่อปกป้องป้อมปราการทางทหาร หากผู้เล่นในระดับเดียวกันลองทำภารกิจนี้จะต้องใช้ทหารอย่างน้อยสามหรือสี่หรือห้าเท่าของจำนวนทหารในการโค่นป้อมปราการทหารนี้”
“ที่ฉันได้รับชัยชนะอย่างง่ายดายเพราะผู้ประดิษฐ์ไม่เคยปฏิบัติกับฉันในฐานะ NPC เลย”
วิลเลียมยิ้มและถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาเก็บคริสตัลไว้ในวงแหวนมิติของเขา
ด้วยคริสตัลดันเจี้ยนอันนี้ผู้เล่นจะสามารถรับอุปกรณ์จากดันเจี้ยนได้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด ดันเจี้ยนนี้จะได้รับความนิยมมากกว่าดันเจี้ยนในหุบเขาหมอกเป็นแน่
อัตราการระเบิดของอาวุธในดันเจี้ยนสงครามเช่นนี้นั้นสูงมาก มันเป็นแรงดึงดูดที่ดีสำหรับผู้เล่น
นอกจากนี้หลังจากผู้เล่นเข้าสู่ดันเจี้ยนแล้วพวกเขาจะมีโอกาสได้ NPC มาร่วมต่อสู้ด้วย ไม่ว่าดันเจี้ยนจะยากแค่ไหนผู้เล่นก็สามารถเปลี่ยน NPC และทำภารกิจได้
แต่ผู้เล่นจะไม่เห็นถึงการสังหารหมู่ของวิลเลียม
หลังจากที่วิลเลียมเข้าประตูเมืองแล้วเขาก็แค่ยืนอยู่ข้างๆและนำทาง NPC เขาจะเฝ้าดูผู้เล่นกลุ่มใหญ่เข้ามาในเมืองและเดินไปสู่ความตาย...
กุญแจสำคัญในการเอาชนะดันเจี้ยนแห่งนี้ คือการกำจัดแบรนต์และมอนสเตอร์ที่อยู่รอบตัวเขา
วิลเลียมเคาะศีรษะเบาๆ นี่ไม่ใช่เวลามาฝันกลางวัน เขาใช้ค่าประสบการณ์ทั้งหมดในการเลื่อนระดับตัวละครของเขา
ชิ้ง
แสงสีขาวสาดส่อง วิลเลียมเลื่อนไปอยู่เลเวลที่ 56 และตอนนี้เขาใกล้ถึงขีดจำกัดของเวอร์ชันแล้ว
ในขณะที่เขาสำรวจเลเวลของตนอยู่นั้น
น็อกซ์ก็วิ่งเข้ามา เสียงของเขาฟังดูไม่แน่ใจนัก “ท่านลอร์ดครับ โทรลยังมีชีวิตอยู่!”
“ตุ๊กตาเหล็กนั่นยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?” วิลเลียมรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เขาวิ่งไปที่ประตูเมืองและพบว่าโทรลยืนอยู่อย่างงง ๆ ร่างกายของเขาซวนเซไปมา ราวกับว่าโลกทั้งใบกลับหัวกลับหางและเขาไม่สามารถแยกแยะทิศทางได้
แต่รูปร่างของหมวกที่เขาสวมนั้นบิดเบี้ยว ...
วิลเลียมไม่คาดคิดว่าหัวของเขาจะแข็งขนาดนี้ เขาเดินไปรอบๆ โทรล แล้วชื่นชมเขาและพยักหน้าเห็นด้วย “ไม่เลวเลย ไม่เลว เราเพิ่งได้รับข่าวเมื่อครู่นี้ คิดว่าเจ้าตายไปแล้วซะอีก เราไม่ได้คาดคิดเลยว่าผลกระทบคือแค่สร้างเสียหายกับเจ้า แต่มันก็ค่อนข้างสาหัสเอาเรื่องอยู่ทีเดียว”
แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการให้ตุ๊กตาเหล็กของเขาเป็นของใช้ครั้งเดียว มันจะดีที่สุดถ้าเขาสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง หมวกระดับอีปิคที่เสียไปจึงจะคุ้มค่ากว่า
ท้ายที่สุดแล้วในการต่อสู้แบบนี้อุปกรณ์ระดับสูงก็เปรียบได้กับปัจจัยรอง
วิลเลียมออกคำสั่ง “น็อกซ์ไปหาคนมาพาเขากลับไป ขอให้บาทหลวง… โอ้ไม่ๆ ขอให้นักเวทย์ช่วยรักษาบาดแผลและให้ยาแก่เขาด้วย”
บาทหลวงกล้ามปูนั่นไม่สามารถรักษาบาดแผลของโทรลล์ได้อย่างแน่นอน
แสงศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขามีแต่จะทำให้บาดแผลของโทรลล์แย่ลงไปอีก ...
“ข้าให้พวกเขาออกไปแล้ว!” ลอทเนอร์วิ่งเหยาะๆมาและรีบพูดว่า "มีทาสที่ถูกทิ้งเอาไว้ 60,000 คน ในโกดังมีธัญพืช 600,000 กิโลกรัม แล้วยังมีชุดเกราะชั้นเยี่ยม (สีน้ำเงิน) 3000 ชุด ลูกธนู 100,000 ดอก สัมฤทธิ์อย่างน้อย 200,000 กิโลกรัมและหิน 800,000 กิโลกรัม "
"แล้วยังมีหน้าไม้ยักษ์อีกสิบอันบนกำแพงและอีกสิบอันที่ทางเข้าโกดัง พวกเขาอาจไม่มีเวลามากพอที่จะย้ายพวกมันไปที่กำแพงเมืองก่อนที่เราจะบุกโจมตี"
ลอทเนอร์หยุดไปชั่วครู่ ก่อนความกลัวที่แฝงอยู่จะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “ท่านต้องคาดไม่ถึงแน่ว่ามีเครื่องยิงกระสุนกว่า 30 อันในโกดังที่ยังไม่ได้ติดตั้ง ถ้าศัตรูรู้เกี่ยวกับการโจมตีของเราก่อนและรวบรวมเครื่องยิงกระสุนเกือบทั้งหมด 100 อัน การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องเสียหายมากกว่านี้เป็นแน่!”
วิลเลียมบีบกำปั้นของเขาอย่างมีความสุขผลกำไรจากการต่อสู้อาจทำให้เขาร่ำรวยได้เลยด้วยซ้ำ
แต่เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างเงียบๆ โชคดีที่เขามีความสามารถในการมองค่าสถานะหากเขาไม่ได้ใช้มันเพื่อจดจำสายลับในทันทีแล้วจับพวกมันทั้งหมดในเวลาเดียวกันผลที่ตามมาก็คงคิดไม่ถึง
ทุกคนรู้ดีว่ากระสุนปืนในป้อมปราการทหารไม่ได้มีไว้ป้องกันผู้บุกรุกเท่านั้น แต่เดิมมันมีไว้เพื่อใช้กับเมืองแห่งรุ่งอรุณต่างหาก อาณาจักรเหล็กมีความทะเยอทะยานมากจริงๆ
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ
วิลเลียมชอบการต่อสู้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆแบบนี้ เขาไม่สามารถรับความเสียหายหนัก ๆ ได้เนื่องจากการสูญเสียจะทำลายกองทหาร และการสูญเสียกองทหารจะเป็นหายนะมากกว่าการที่อาณาจักรเหล็กสูญเสียทัพทั้งสามเนื่องจากเสบียงทางทหารของเขามีค่ามาก ...
"แล้วเราเสียอะไรไปบ้าง?" วิลเลียมเห็นว่ามีคนจำนวนมากถูกโจมตีด้วยหน้าไม้หนัก โล่พลังงานการต่อสู้ไม่สามารถสกัดกั้นธนูระเบิดได้
แม้ว่าเหล่าทหารชั้นยอดจะสวมชุดเกราะสีเงินและใส่โล่ แต่ลูกศรก็ยังแทงทะลุพวกมันได้อย่างง่ายดายราวกับว่ามันแทงทะลุมันเทศ
"ทหาร 117 นาย ถูกสังหารด้วยหน้าไม้หนัก และอีก 389 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไม่มีอาการบาดเจ็บรุนแรง" ลอทเนอร์ถอนหายใจตราบใดที่ยังมีการต่อสู้ผู้คนก็จะตาย
มันเป็นเรื่องยากที่จะมีการสูญเสียเพียงเล็กน้อย
หากพวกเขาไม่มีตุ๊กตาเหล็ก
หากพวกเขาไม่มีพลังต่อสู้สูงพอที่จะปกป้องตุ๊กตาเหล็กได้อย่างมากพอ
หากวิลเลียมไม่วิ่งออกไปทุบประตูเมือง
กล่าวคือ
หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ การสูญเสียของพวกเขาจะมากกว่าปัจจุบันถึงเจ็ดแปดเท่า
วิลเลียมพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “บอกให้ผู้บัญชาการที่เหลือรู้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีตำแหน่งหัวหน้าขึ้นไป”
"ครับ" ลอทเนอร์รับคำสั่งและแจ้งคนที่เหลือทันที
หลังจากนั้นไม่นาน
ผู้ช่วยผู้บัญชาการสามคนก็นำทหาร 1500 นายไปหาวิลเลียม
ไม่จำเป็นต้องพูดก็รู้ดีว่า ทั้ง 1,500 คนเหล่านี้เป็นตัวหลักของทั้งสามกองทัพ!
พวกเขาส่วนใหญ่มีสายเลือดระดับสูงมีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่มีสายเลือดระดับมาสเตอร์ สำหรับผู้เล่นพวกเขาทั้งหมดถือได้ว่าเป็น NPC ระดับบอส
อย่างไรก็ตามประชากรของเอลฟ์มีจำนวนน้อย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ศักยภาพทางสายเลือดของพวกเขาก็สูงตามธรรมชาติ
หากไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีความสามารถที่จะเอาชนะกองทัพของอาณาจักรมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ในอนาคตคงจะไม่มีกองทัพที่มีบอสมากมายขนาดนี้…
ไม่ว่าจะเป็นเมืองของดยุก, แกรนด์ดัชชี, อาณาจักรหรือจักรวรรดิ พวกเขาล้วนมีกองกำลังที่มีบอสมากมาย กองกำลังเหล่านี้เรียกอีกอย่างว่ากองกำลังประหารชีพ
วิลเลียมได้ตัดสินใจเลือกเป้าหมายต่อไปของเขาแล้ว นั่นคือการเข้าไปในภูเขาหิมะแห่งทะเลตะวันออก ด้วยเหตุนี้เขาอาจต้องเผชิญหน้ากับกองทหารชั้นยอดจากอาณาจักรเหล็กและแม้แต่กลุ่มที่อยู่ภายใต้คำสั่งมังกรยักษ์
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะนำกองกำลังที่มีกำลังรบสูงร่วมกับเขาเพื่อปฏิบัติการล่ามังกร แน่นอนว่าจะมีกองทหารอื่น ๆ ด้วย พวกเขามีบทบาทอื่น ๆ ที่ต้องทำเช่นกัน
เขามองไปที่ผู้บัญชาการของกองทัพไนท์และกองทัพมูนไลท์
"เลโกลัสและอัลเบิร์ต พวกท่านจะต้องนำทหาร 1,500 นายและผู้ใต้บังคับบัญชาของฉันไปตามเส้นทางเส้นนี้และมุ่งหน้าไปยังภูเขาหิมะแห่งทะเลตะวันออก"
"กองทหารที่เหลือจะเป็นส่วนของลอทเนอร์ เขาจะนำคนที่เหลืออีก 4000 คนไปที่ท่าเรือทะเลใต้!"
“สำหรับท่าน คริสเตียน ท่านต้องดูแลทัพแห่งความกล้า และปกป้องป้อมทหารแห่งนี้ งานของท่านคือต้องป้องกันไม่ให้อาณาจักรเหล็กเอาคืนไปได้!”
วิลเลียมยังไม่จบเพียงเท่านั้น เขากล่าวต่อ “เอริคกับอเล็กซ์ตามเราไปที่ภูเขาหิมะฝั่งทะเลตะวันออก”
"ครับท่านลอร์ด" ทุกคนพูดพร้อมเพรียงกันด้วยเสียงทุ้มต่ำ พวกเขายืนตัวตรงและตบหน้าอกด้วยมือขวาในขณะที่พูดจบ
“ถ้าอย่างนั้นตรวจดูธัญพืชและน้ำของพวกท่านซะ เราจะออกเดินทางในทันที” เมื่อวิลเลียมพูดจบทุกคนก็ลงมือทันที
ลอทเนอร์นำกองกำลังที่เหลือจากสองกองทัพออกเดินทางด้วยความเร็วเต็มที่ พวกเขามุ่งตรงไปที่ท่าเรือทางทะเลใต้และขึ้นเรือขนาดใหญ่ตามเส้นทางเดินเรือ
กลายเป็นหน่วยที่ทรงพลังและลึกลับ!
หากทีมประหารของวิลเลียมพบกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ภารกิจของลอทเนอร์นั้นจะสำคัญมาก!
พวกเขาจะเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า?
คุณล้อเล่นหรือเปล่าทุกคนมีพลังในการต่อสู้ ... ร่างกายของพวกเขาอยู่ในสภาพที่ดี
เลโกลัสเป็นเอลฟ์แบล็คลีฟ ในขณะที่อัลเบิร์ตเป็นเอลฟ์มูนไลท์ ทั้งคู่มีสายเลือดระดับอีปิค
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างวิลเลียมรู้สึกว่าชื่อเลโกลัสฟังดูคุ้นหูมาก…
อาจเป็นไปได้ว่า?
บริษัทที่อยู่เบื้องหลังการผลิต Gods จะละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์อีกรึเปล่านะ?