TGDS ตอนที่ 20 : คนรับใช้คนใหม่
<คุณได้รับ 1500 XP จากการเอาชนะศัตรูแรงค์ D!>
<เลื่อนระดับ!>
'แค่ 1,500 XP ต้องเกือบตายแบบนี้ ระบบนี้ช่างโหดร้ายจริง ๆ' เขาถอนหายใจอยู่ในความคิด
“เอวิเลียเร็วเข้า เธอช่วยบอกวิธีเปลี่ยนคนให้เป็นอสูรรับใช้ของฉันหน่อย ?” โมบี้ถามในขณะที่หอบหายใจหนัก
"เพียงแค่วางมือของนายบนหัวของเธอและปล่อยพลังปีศาจของนายเข้าสู่ร่างกายของเธอ เพื่อครอบงำจิตสำนึกของเธอตราบใดที่เธอไม่ต่อต้านกระบวนการนั้น ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้เพราะเธอสลบแบบนี้ มันก็น่าจะไม่เป็นไรนะ" เธอตอบ
โมบี้พยักหน้าและทำตามคำแนะนำของเอวิเลีย
เขาจับหัวที่อ่อนปวกเปียกของเธอและปล่อยพลังปีศาจของเขาเข้าไปข้างใน ออร่าสีแดงที่บ้าคลั่งปกคลุมร่างกายของเจย์เดน
ทันใดนั้นเขาก็เห็นร่างที่หมดสติของเธอเริ่มขยับตัวอย่างแปลก ๆ เขาได้ยินเสียงกระดูกหลายชิ้นแตกและหัก แล้วก็สร้างใหม่อย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วินาที เขาเห็นผิวของเธอถูกเผาไหม้ก่อนถูกแทนที่ด้วยผิวหนังชั้นใหม่ เลือดสีดำเข้มเริ่มทะลักออกมาจากทวารของร่างกายเป็นลิตร ๆ
'การเปลี่ยนแปลงของฉันเป็นอย่างนี้เมื่อตอนที่ฉันวิวัฒนาการณ์หรือเปล่านะ ?' เขาคิดในใจพลางมองไปที่ร่างของเจย์เดนด้วยความรังเกียจ
ทันใดนั้นข้อความของระบบก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
<คุณได้สร้างปีศาจ Doppelganger ระดับต่ำ!>
<ขอแสดงความยินดีกับการสร้างตระกูลปีศาจขึ้นมาใหม่!>
<โปรดเลือกชื่อสำหรับตระกูลของคุณ>
'ตระกูลปีศาจ?' เขาคิดด้วยความสับสน
“ดูเหมือนว่าอาณาจักรใต้พิภพจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายตั้งแต่ที่ฉันตายไป สิ่งแบบนี้เลยเกิดขึ้นมา” เอวิเลียพูดพลางถอนหายใจ
“ตระกูลปีศาจนั้นเป็นสิ่งที่มีในครอบครัวของเหล่าปีศาจที่ทรงพลัง มันมักจะสงวนไว้สำหรับปีศาจที่มีเกียรติและระดับสูง ฉันค่อนข้างประหลาดใจที่การเปลี่ยนมนุษย์แค่ 1 คนสามารถสร้างตระกูลปีศาจได้แล้ว จากความรู้ของฉันซึ่งอาจจะล้าสมัยไปแล้วสิ่งนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” เอวิเลียตอบ
"ตระกูลปีศาจมันมีโบนัสมากมายที่นายจะได้รับ ฉันไม่ต้องการทำลายความสนุกและความประหลาดใจพวกนั้น ฉันคงไม่สามารถให้คำตอบทั้งหมดกับนายได้ ไม่อย่างนั้นมันจะง่ายเกินไปสำหรับนาย ฉันต้องการดูว่านายเป็นบุคคลที่คู่ควรกับการสืบทอดมรดกและพลังอำนาจของฉัน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
โมบี้เข้าใจทุกอย่างที่เอวิเลียพูด ตอนแรกเขาคิดว่าสิ่งที่เรียกว่าตระกูลปีศาจนี่อาจจะมาเป็นอุปสรรคและสร้างปัญหาให้กับเขา แต่หลังจากได้ยินว่ามันมีประโยชน์เขาก็คิดต่างออกไปในทันที
ตอนนี้โมบี้จำเป็นต้องคิดชื่อตระกูลปีศาจของเขาที่ฟังดูเท่แต่ดูไม่เกรี้ยวกราดหรือมากเกินจริงไปนัก
ทว่าจากการต่อสู้ที่ผ่านมานั้น สมองของเขาอาจได้รับการกระทบกระเทือนมาบ้าง สมองของโมบี้จึงไม่สามารถคิดชื่อได้อย่างเหมาะสมเท่าไหร่นัก เขามีความคิดที่ไม่ดีมากมายเช่น "ตระกูลแห่งบาป" หรือไม่ก็ "ตระกูลแห่งการทำลายล้าง" ก่อนที่คำตอบสุดท้ายของเขา
"ตระกูลของปีศาจที่เปี่ยมสุข"
โมบี้ตัดสินใจตั้งชื่อตระกูลของเขาตามชื่อโรงฝึกของพ่อแม่เพื่อแสดงความนับถือและเคารพต่อพ่อแม่ของเขา แม้ว่าโมบี้จะเกลียดทุกคนและทุกสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตของเขาก็ตาม ทว่าสิ่งเดียวที่เขาไม่เคยเกลียดเลยก็คือพ่อแม่ของเขา
<รับทราบชื่อที่เลือก>
<ขอแสดงความยินดีกับการสร้างตระกูลปีศาจของคุณ: "ตระกูลของปีศาจที่เปี่ยมสุข">
<ภารกิจลับเสร็จสมบูรณ์>
----------------------------------------
ปีศาจอวตาร
เปลี่ยนมนุษย์ 1 คนให้กลายเป็นปีศาจ
รางวัล:
+25 แต้มสถานะ
+10 เลเวลสำหรับปีศาจรับใช้ตนแรกที่สร้างขึ้นมาได้สำเร็จ
-----------------------------------------
<ภารกิจลับเสร็จสมบูรณ์>
----------------------------------------
การกำเนิดตระกูลใหม่
คุณได้สร้างตระกูลปีศาจของตัวเอง
รางวัล:
+50 แต้มสถานะ
+ โบนัสของตระกูล
คุณและปีศาจภายใต้ตระกูลของคุณจะแบ่ง 50% ของ XP ของตัวเองเมื่อฆ่าหรือเอาชนะศัตรูให้กับคุณ โดยไม่ลดค่าประสบการณ์ทั้งหมดที่ตัวเองได้รับ
-----------------------------------------
ตาของโมบี้เบิกกว้าง ในขณะที่ปากของเขาอ้าค้างออกมาด้วยความประหลาดใจ
เขาได้รับค่าสถานะเพิ่มขึ้น 85 แต้มจากความพยายามนี้ ในขณะที่เขาคาดหวังเพียงแค่จะได้รับข้ารับใช้ธรรมดา ๆ
'ขอโทษที่เคยสงสัยในความใจดีของเธอนะเอวิเลีย' เขาคิด
'ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกน่า' เธอตอบกลับอย่างใจเย็น
โมบี้รู้สึกตื่นเต้นมากเกี่ยวกับค่าสถานะพิเศษที่เขาได้รับ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือโบนัสของตระกูล เกี่ยวกับการแบ่งปัน XP ระหว่างเขาและเหล่าคนในตระกูล
ดูเหมือนว่าการสะสมบริวารในตระกูลให้มากขึ้นจะมีประโยชน์ต่อเขา แต่น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขามีกำลังเพียงพอที่จะทำให้มนุษย์ 1 คนกลายเป็นปีศาจได้เท่านั้น
ทันใดนั้นเขารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่มาจากบริเวณพื้นที่เขายืนอยู่
เขาไม่มีแรงที่จะเคลื่อนไหวแล้ว เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงยืนอยู่ตรงนั้นเฉย ๆ
ในที่สุดเจย์เดนก็ฟื้นขึ้นมา
อาการบาดเจ็บทั้งหมดของเธอรวมถึงดวงตาของเธอดูเหมือนจะหายสนิทแล้ว
โมบี้กัดฟันด้วยความคาดหวังรอดูผลงานของเขา เขาต้องหวังและภาวนา (ต่อซาตาน) ว่าคนโรคจิตคนนี้จะไม่โจมตีเขาและอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว
"นาย! นายทำอะไรกับฉันกันเนี่ย!" เธอคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
เมื่อเธอพยายามจะเคลื่อนไหวและโจมตีโมบี้ พลังที่เขาไม่รู้จักก็ได้หยุดยั้งเธอเอาไว้ เธอถูกตรึงเอาไว้อย่างสมบูรณ์
'เอวิเลียเกิดอะไรขึ้น ?'
‘สมาชิกในตระกูลจะมีความภักดีต่อคำสั่งของเจ้านายอย่างสมบูรณ์ พวกเขาไม่สามารถทำร้ายร่างกายหรือจิตใจของเจ้านายได้ นั่นหมายความว่าเธอไม่มีโอกาสหักหลังนายได้อย่างแน่นอน วิธีเดียวที่พวกเขาจะแยกตัวออกจากการควบคุมของนาย ก็คือพวกเขาเกลียดนายถึงในระดับที่คาดไม่ถึง’
'เวรละ ถ้าเธอเกลียดฉัน ฉันคงตายไป แล้วแน่ ๆ' โมบี้ถอนหายใจออกมา
'ไม่ต้องกังวลหรอกน่า เธอจะไม่สามารถทำลายมนต์สะกดของนายได้ จนกว่าจะผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เธอเปลี่ยนมาเป็นปีศาจ ดังนั้นนายต้องทำให้ยายโรคจิตคนนี้เชื่อฟังและทำให้เธอยอมทำตามความประสงค์ของนาย เจ้าปีศาจที่ไม่สามารถคุมคนที่อยู่ใต้การปกครองของตัวเองได้ ไม่เหมาะสมที่จะสืบทอดอำนาจของฉัน ขอให้โชคดี!' เอวิเลียกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
'ยายบ้าเอวิเลีย' โมบี้สบถใส่เอวิเลียที่ไม่บอกเขาเรื่องนั้นก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ตอบสนองต่อการพูดของเขาอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเธอกำลังฟังอยู่เพราะเขาได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักอยู่อีกสองสามครั้ง
'บ้าจริง! นั่นทำให้แผนของฉันยุ่งเหยิงไปหมด! ฉันคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับบริวารนั้นจะไม่มีทางเปลี่ยนไปได้! ฉันจะได้ใช้เธอเป็นทาสเพื่อทำทุกอย่างที่ฉันสั่ง!' โมบี้คิดอย่างวุ่นวาย
โมบี้มองย้อนกลับไปที่เจย์เดนที่ตอนนี้เหมือนคนบ้าที่พยายามจะหลุดออกจากโซ่ที่มองไม่เห็น
โมบี้พยายามทดสอบอำนาจของเขาที่มีต่อเธอ ตามที่เอวิเลียบอกไว้ เธอควรจะทำตามคำสั่งของฉันทั้งหมด
"คุกเข่า" โมบี้พูดด้วยน้ำเสียงซึ่งแสดงถึงอำนาจ
ใบหน้าของเจย์เดนทรุดลงไปกระแทกกับพื้นทันทีเหมือนแรงโน้มถ่วงรอบตัวเธอเพิ่มขึ้นหนึ่งร้อยเท่า
โมบี้สัมผัสได้ถึงความโกรธและความขยะแขยงในใจของเธอ ราวกับว่าพวกเขามีความเกี่ยวพันกัน บางอย่าง เขาไม่สามารถอ่านใจของเธอได้โดยตรงแต่เขาสามารถอ่านอารมณ์ของเธอได้ อารมณ์ของเธอรุนแรงมาก หากเขาไม่สามารถทำให้ยายโรคจิตคนนี้เชื่องได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ มันจะเป็นต้นเหตุของปัญหาที่ไม่รู้จบซึ่งมักนำความตายมาสู่พวกเขา
ในตอนท้ายของสัปดาห์เขาจะสั่งให้เธอฆ่าตัวตายและเขียนจดหมายลาตายอธิบายเหตุผลที่เธอทำ แต่ถ้าเขาทำอย่างนั้นมันอาจจะทำให้โรงเรียนต้องปิดและมีการซักถามนักเรียนทุกคนในโรงเรียน เพราะเธอมาจากครอบครัวที่มีความสำคัญมากจริง ๆ
หากพวกเขามีเครื่องจับเท็จที่แม่นยำ เขาก็คงจะถูกตรวจสอบและแม้ว่าพวกเขาไม่ได้ตรวจสอบ มันก็คงทำให้เกิดความไม่สะดวกในการแก้แค้นนาธาน เขาจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนั้นโดยใช้ความพยายามทั้งหมด
แนวทางที่ดีที่สุดของโมบี้คือพยายามเอาชนะใจเธอด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตามที่จำเป็น
เขาต้องการสร้างความแตกต่างระหว่างสถานะกับเธอก่อน แล้วค่อยเป็นมิตรกับเธอ เขาต้องการวิธีบางอย่างเพื่อเสริมสร้างความจงรักภักดีระหว่างเขากับเธอ
หากไม่ได้ผล เขาจะพยายามใช้วิธีที่เป็นมิตรมากขึ้นเพื่อเอาชนะใจเธอ
"ใจเย็น ๆ ทั้งหมดที่ฉันทำคือทำให้เธอกลายเป็นปีศาจ ฉันนั้นเป็นปีศาจอยู่แล้ว" โมบี้พูดด้วยน้ำเสียงสงบและพยายามซ่อนความสับสนภายในใจของเขา
เธอเริ่มหัวเราะ เพราะเธอไม่เชื่อในสิ่งที่โมบี้เพิ่งจะพูด
"นาย? ปีศาจ?! อย่าทำให้ฉันหัวเราะน่า! มันไม่มีอะไรแบบนั้น! ถ้านายเป็นปีศาจจริง ๆ นายก็แสดงหลักฐานให้ฉันดูสิ"
ทันทีที่เธอพูด แสงสีม่วงก็เปล่งออกมาจากดวงตาของโมบี้ ดวงตาของเขามีรูนที่เหมือนภาพวาดที่แตกต่างกันมากมายซึ่งดูลึกลับเหนือธรรมชาติ การจ้องมองไปที่พวกมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังจ้องมองลงไปในเหวที่ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งทำให้เธอตัวสั่นด้วยความกลัว
โมบี้มีพลังงานปีศาจเหลือเพียงแค่ 1 เท่านั้น เนื่องจากความเร็วในการฟื้นฟู 12 พลังงานปีศาจ / ชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้ "Eyes of Sin" ของเขาได้เพียงแค่ครึ่งวินาที แต่มันก็เกินพอที่จะพิสูจน์ประเด็นของเขา
การใช้ "Eyes of Sin" ของเจ้านายกับบริวารในตระกูลของพวกเขา เป็นวิธีที่เจ้านายใช้เพื่อส่งความกลัวเข้าสู่จิตใจของพวกเขา ผลกระทบนี้ใช้ได้กับสมาชิกในตระกูลเท่านั้น
โมบี้ไม่รู้ข้อเท็จจริงดังกล่าว ดังนั้นเขาจึงประหลาดใจที่เห็นเจย์เดนตัวสั่นด้วยความกลัว
“เดี๋ยวก่อนนะ นี่ฉันเป็นปีศาจแล้วเหรอ?!” เธอถามเหมือนลืมความโกรธก่อนหน้านี้ไปแล้ว
"ใช่ ตอนนี้เธอเป็นปีศาจ Doppelganger" โมบี้ตอบ
โมบี้ไม่รู้ว่า Doppelganger คืออะไร ดังนั้นเขาจึงถามเอวิเลียโดยหวังว่าเธอจะรู้
'Doppelgangers เป็นปีศาจที่ทรงพลังมากซึ่งเชี่ยวชาญในทักษะการแปลงร่าง Doppelganger สามารถแปลงร่างเป็นใครก็ได้ คัดลอกพลังและทักษะทั้งหมดของพวกเขาได้ถึง 70% แล้วยังสามารถลอกเลียนเสื้อผ้าได้ แต่ไม่รวมค่าสถานะหรือคุณสมบัติต่าง ๆ ที่อยู่ในเสื้อผ้านั่น Doppelganger ถือเป็นจ้าวแห่งศิลปะการหลอกลวง' เธอตอบ.
'ดูเหมือนว่ายายโรคจิตชอบตี 2 หน้าคนนี้จะมีประเภทของปีศาจที่เข้ากับบุคลิกของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ' เขาคิดในใจ
ด้วยทัศนคติที่บิดเบือนและไม่น่าไว้วางใจของเธอ โมบี้รู้สึกเหมือนว่าเธอจะเป็นฝันร้ายที่ต้องรับมือ
"Doppelganger คืออะไร" เธอถามด้วยความสับสน
หลังจากนั้นไม่นานโมบี้ก็อธิบายให้เธอฟังจนหมดว่า Doppelganger คืออะไร โดยบอกเธอตามที่เอวิเลียเพิ่งบอกกับเขา
ด้วยความตกใจของเขา เธอดูมีความสุขมากกว่าโกรธในสิ่งที่เธอเป็น
"ทำไมเธอถึงดูมีความสุขจัง เธอไม่ได้เพิ่งกำลังจะฆ่าฉันเหมือนเมื่อ 5 วินาทีที่แล้วเหรอ ?" เขาถามด้วยความสับสน
"ฉันรู้สึกเหมือนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับร่างกายฉัน ฉันแทบไม่กล้าจะแตะต้องมันเลย ผิวและผมของฉัน มันรู้สึกว่าเรียบเนียนขึ้นกว่าแต่ก่อน และฉันรู้สึกเต็มไปด้วยพลังมากกว่าที่เคยมีมาในชีวิตนอกจากนี้พลังของการเป็น Doppelganger นี่มันช่างมหัศจรรย์มาก”
“ตอนแรกฉันคิดว่านายเป็นพวกสามัญชน คนทั่วไปและยังลามก ที่พยายามจะฆ่าฉันหลังจากที่ฉันแสดงความเมตตาและความเอื้ออาทรแก่นายตั้งมากขนาดนั้น แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่านายเป็นปีศาจที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังมาโดยตลอด นายแค่พยายามช่วยฉันให้ได้รับพลังใหม่จากความรักของนายที่มีต่อฉัน ดังนั้นฉันจะยกโทษให้กับการกระทำก่อนหน้านี้ของนาย”
'ยายบ้า! เธอคิดว่าเธอเป็นใครกัน! เธอคิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหน เหตุผลเดียวที่ฉันเลือกที่จะทำให้เธอกลายเป็นปีศาจคือการรีดไถเงินจากเธอและใช้เธอเพื่อการปกป้องฉันที่โรงเรียน เพื่อให้พวกคนนิสัยไม่ดีอยู่ห่าง ๆ ฉันต้องทำให้เธอเข้าใจสถานการณ์ของเธอให้ดีกว่านี้'
“คุกเข่าลงไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังทำให้เธอคุกเข่าอย่างแรงจนพื้นข้างใต้เธอเริ่มแตกร้าว
"ฉันไม่คิดว่าเธอจะเข้าใจสถานการณ์ของเธอ ที่นี่ตอนนี้ฉันเป็นเจ้านายและเธอเป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน ฉันสามารถควบคุมทุกการกระทำของเธอได้เพียงแค่คิด ดังนั้นถ้าเธอเห็นคุณค่าชีวิตของเธอเอง เธอก็เข้าร่วมกับฉันในฐานะคนรับใช้ของฉัน ฉันสัญญาว่าจะปฏิบัติต่อเธออย่างดีเพื่อแลกกับความไว้วางใจและความภักดีของเธอ หากเธอเข้าร่วมกับฉัน ฉันจะมอบพลังให้กับเธอมากขึ้นไปอีกให้มันคุ้มค่ากับเวลาของเธอ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันก็จะฆ่าเธอซะ" เขากล่าวอย่างแน่วแน่
"ก็ได้ ฉันคิดว่าฉันจะเข้าร่วมกับนาย ตราบใดที่ฉันยังคงรักษาพลังใหม่ของฉันไว้ และแข็งแกร่งขึ้นอย่างที่นายพูดและมีอิสระที่จะทำในสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันก็ยินดีที่จะเข้าร่วมกับนาย แต่ฉันจะรับคำสั่งที่ฉันอยากทำจากนายเท่านั้น ถ้านายขอให้ฉันทำอะไรที่น่าเบื่อ ฉันจะปฏิเสธข้อเสนอของนายอย่างไม่มีข้อแม้นั่นคือข้อตกลงของฉัน" เธอพูดโดยปราศจากความกลัวในสายตาของเธอ
ทันทีที่โมบี้กำลังจะดุเธอเพราะน้ำเสียงของเธอที่ใช้พูดกับเขา เขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากในร่างกายของตัวเอง
เขาลืมไปเสียสนิทว่าเขาได้ตัดประสาทรับรู้ความเจ็บปวดออกจากการต่อสู้กับเจย์เดน
'ทำไมประสาทรับรู้ความเจ็บปวดของฉันถึงกลับมาเป็นปกติได้ในตอนแบบนี้กันนะ!' เขาสาปแช่งความโชคร้ายที่ดูเหมือนไม่มีวันจบสิ้นของเขา
ทันใดนั้นตาของเขาก็รู้สึกพร่ามัว ร่างกายของเขาสูญเสียพลังงานในการที่จะยืน โมบี้ล้มลงบนพื้นพร้อมกับเสียงดัง นั่นทำให้เขาหมดสติไป