L.P.T ตอนที่ 23 ความปรารถนาของเทียนหยุนเอ๋อร์
ในตอนนี้การฝึกแบกน้ำหนักของซูแบทใช้เวลาไปเกือบ2ชั่วโมงในการฝึกร่างกายเพราะ“ปีศาจ”ซาโต้ให้มันบินไป 45 รอบ ของรอบสนามฝึก ในช่วงเวลานั้นถ้าไม่ใช่เพราะการให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องของซาโต้และการหลอกล่อมันด้วยก้อนพลังงานคุณภาพสูงนั้น ซูแบทคงเหนื่อยตายไปนานแล้ว
และตอนนี้ซูแบทกำลังนอนนิ่งอยู่บนไหล่ของซาโต้หลังจากที่บินไปรวมกว่า10,000เมตร ขณะที่แบกน้ำหนักเสริมไปด้วย ซูแบทรู้สึกว่าปีกของมันไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไปและกล้ามเนื้อของมันก็กำลังกรีดร้องซึ่งนั้นเจ็บมาก
ซูแบทสาบานได้เลยว่าระยะทางที่มันบินไปมาตลอดในสองชั่วโมงนี้มากกว่าระยะทางทั้งหมดที่มันบินไปในเดือนที่แล้วอีก มันคิดว่าเจ้านายของมันก็ควรฝึกฝนให้ตัวเองไม่คล้ายกับปีศาจมากเกินไป
“พยายามได้ดีมาก กินนี้แล้วจะได้กลับสักที” เมื่อเห็นซูแบทบนไหล่ขวาของตัวเองดูอ่อนแอน่าสงสาร ซาโต้จึงถอดเสื้อกั๊กน้ำหนักบนตัวเจ้าซูแบทออกก่อนแล้วจึงนำก้อนพลังงานคุณภาพสูงออกมา และส่งไปที่ปากของซูแบททันที
และเมื่อซาโต้เอาก้อนพลังงานออกมา ซูแบทก็รีบเงยศีรษะที่อ่อนแอของมันขึ้นมาทันที แล้วอ้าปากใหญ่เผยเขี้ยวทั้งสองข้างพร้อมมองไปที่ก้อนพลังงานในมือของซาโต้ ด้วยใบหน้าที่ละโมบโลภมาก
ในขณะเดียวกันซูแบทก็ยังคิดว่าเจ้าสิ่งของสี่เหลี่ยม ที่เจ้าของปีศาจของมันกำลังจะมอบให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดเท่าที่มันเคยกินมาและยังดีกว่าเนื้อของริงกุมะที่มันเคยกินกับโครแบทพ่อของมันก่อนหน้านี้(ล่ากันเองซะด้วย)เพราะเจ้าสิ่งเล็กๆนี้มันอร่อยกว่ามากและตราบใดที่ได้กินเจ้าก้อนเล็กๆแบบนี้ร่างกายของมันก็จะรู้สึกสบายตัวและความเหนื่อยล้าของมันเองก็จะบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว
ก้อนพลังงานคุณภาพสูงที่หอมหวานและอร่อยเข้าสู่ท้องของมันอย่างรวดเร็วและซูแบทก็รู้สึกได้ทันทีว่าพลังงานอาหารที่อบอุ่นและสดชื่นกำลังกระจายไปทั่วทุกมุมของร่างกายมันอย่างรวดเร็วและความรู้สึกสบายนี้เองที่ทำให้มันรู้สึกสบายตัว ในขณะที่อาการเจ็บกล้ามเนื้อบนปีกทั้งสองข้างของมันก็ดูจะเจ็บปวดน้อยลง
ในเวลานี้เองซาโต้ก็ยังวางซูแบทลงบนพื้นอย่างระมัดระวังจากนั้นใช้มือเขานวดปีกที่เจ็บของมันเพื่อกระตุ้นเลือดที่ปีกให้เดิน
ภายใต้การนวดที่เรียบง่าย แต่สะดวกสบายของซาโต้ ซูแบทนั้นก็รู้สึกสบายมากขึ้นไปอีกและอาการเจ็บของปีกก็ลดลงเร็วขึ้นอีกด้วย
เมื่อเทียบกับร่างกายที่อ่อนแอของมนุษย์แล้วร่างกายของโปเกมอนนั้นดีกว่าและน่ากลัวกว่าจริงๆ ด้วยอาหารเสริมและการออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นจากภายนอก ความแข็งแกร่งและพลังงานของซูแบทก็เริ่มฟื้นตัวอย่างได้รวดเร็วและปีกของซูแบทตอนนี้ก็เริ่มเปิดเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อเพื่อดูดซับพลังงานอาหารและทำให้ปีกแข็งแรงขึ้น
หลังจากนวดด้วยการนวดของซาโต้เป็นเวลาเกือบ10นาที ซูแบทก็สามารถบินไปในอากาศได้ตามปกติ
“โอเคคราวนี้ หยุดกินแล้วกลับมาพักผ่อนได้แล้ว เดี๋ยวค่อยกลับไปทานข้าวเย็นที่หอเอาละกัน” เมื่อเห็นซูแบทตอบกลับซาโต้ก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วพาซูแบทกลับเข้าไปในลูกบอลเพื่อปล่อยให้ซูแบทพักผ่อนในลูกบอลไปก่อน
แม้ว่าพลังงานอาหารที่มีอยู่ในก้อนพลังงานจะดี แต่ก้อนพลังงานก็เหมือนกับช็อกโกแลตที่มีแคลอรีสูงอย่างเดียวแต่ไม่ทำให้โปเกมอนอิ่มอย่างแท้จริง
และเพื่อการพัฒนาที่แข็งแรงของซูแบท ซาโต้ต้องให้อาหารที่เขาคิดว่าถูกหลักโภชนาการทุกๆวันพื่อเสริมสารอาหารอื่นๆให้กับร่างกายที่ต้องการ การเจริญเติบโตของซูแบท
เกี่ยวกับอาหารโปเกมอนประจำวันของซูแบทนั้น ซาโต้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว สิ่งนั่นคือเลือดและยังต้องเป็นเลือดที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีที่สุดของซูแบท
ปัจจุบันซาโต้ ยังคงมีเลือดพลาสม่าอยู่ในมืออีก4ซอง(อันนี้ขอแก้นะครับตอนแรกนึกว่ามันเป็นชุดพลาสม่าที่เอาไว้กันเจ้าซูแบทแต่มันไม่ใช้แหะ) แต่เขาไม่ยอมจะปล่อยให้ซูแบทดื่มเลือดที่ไม่สดอันนี้ เขาจึงตัดสินใจที่จะหาเลือดสดที่เต็มไปด้วยสารอาหารสำหรับซูแบท ในท้ายที่สุดเขาได้พิจารณาแล้วว่าควรใช้เลือดสัตว์ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหาร นั้นจะถูกใช้เป็นอาหารของซูแบท
ในโลกของโปเกมอนนั้นยังพอมีสัตว์ธรรมดาบางชนิดอยู่บนโลกเช่นกัน สัตว์ธรรมดาเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อาหารของโปเกมอนในโลกโปเกมอนนี้
ตอนนี้ก็1ทุ่มกว่าแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในสนามฝึกสาธารณะก็ได้ออกไปรับประทานอาหารและพักผ่อนกันแล้วและมีเพียงไม่กี่คนที่รวมถึงซาโต้เท่านั้นที่ยังอยู่ในสนามฝึกสาธารณะแห่งนี้
เมื่อซาโต้เอาซูแบทกลับมาแล้วและกำลังจะออกจากสนามฝึกสาธารณะ ก็มีแก๊งร็อคเก็ตหญิงกับโอนิสึซึเมะ มาหยุดทางตรงหน้าเขาและแก๊งร็อคเก็ตหญิงคนนี้ก็เป็นเด็กสาวผมสีน้ำตาลหากมองให้ดีๆเธอก็คือ เทียนหยุนเอ๋อร์
"เป็นอะไรของเธอกัน? ฉันไม่ชอบให้ใครมาขวางทาง" ซาโต้มองไปที่สาวสวยที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งบนใบหน้า ตรงหน้าเขาแล้วพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
“อาหารที่คุณให้กับซูแบทในตอนนั้นคือก้อนพลังงานใช่ไหม? และมันยังคงเป็นพลังงานที่มีคุณภาพสูงมาก ช่วยขายฉันด้วยหน่อยเถอะ” สำหรับความเย็นชาของซาโต้นั้น เทียนหยุนเอ๋อร์ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจมันเลยและในทันที เธอก็อธิบายความตั้งใจของเธอให้เขาฟัง
ชีวิตของเทียนหยุนเอ๋อร์นั้นไม่เคยเป็นที่โดดเด่นมาก่อน เธอเป็นแค่หนึ่งในมือใหม่ที่ หม่าชีฉี ผู้เป็นอาจารย์ของเธอนำกลับมาด้วย อาจารย์ของเธอเป็นผู้ทดสอบคนแรกในฐานแก๊งร็อคเก็ตใต้ดินเมืองนิบิ และดูเหมือนเธอจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้กับพวกโปเกมอนที่บินได้ เมื่อตอนที่เจ้าหน้าที่แก๊งร็อคเก็ตเอาโปเกมอนมาให้เลือกนั้น เธอก็สามารถเอาชนะเจ้าโอนิสึซึเมะตัวน้อยลงได้อย่างง่ายดายและในทันที
หลังจากนั้นเทียนหยุนเอ๋อร์จึงได้รับความโปรดปรานจาก หม่าชีฉี ผู้ทดสอบคนแรกในทัันทีและยังมีการกล่าวอีกว่า เขาได้ยอมรับให้เป็นเธอเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในการปราบโปเกมอน
ในความเป็นจริงเทียนหยุนเอ๋อร์ไม่ได้รับการดูแลจากหม่าชีฉีมากนัก จากมุมมองปัจจุบันของเธอ มีแค่เธอเองที่ใช้สองมือของเธอที่ทำทุกอย่าง และยังใช้สิ่งที่เธอได้รับมาไม่ว่าจะเป็นการใช้คะแนนพิเศษเพื่อเช่าสนามฝึกซ้อมส่วนตัวเป็นต้น และไม่นานหลังจากที่ซาโต้มาที่สนามฝึกสาธารณะเธอก็มาที่สนามฝึกสาธารณะคนเดียวเช่นกันและเริ่มฝึกกับโอนิสึซึเมะคู่หูคนแรกของเธอที่นี้
ในระหว่างการฝึกเธอสังเกตเห็นซาโต้อย่างรวดเร็วและเห็นกระบวนการการฝึกทั้งหมดของซูแบทและเธอยังพบว่า ซาโต้ให้อาหารซูแบททุกครั้งที่ซูแบทบินครบรอบสนามฝึก และอาหารนั้นก็คือก้อนพลังงาน
เทียนหยุนเอ๋อร์นำสิ่งของต่างๆเช่นอุปกรณ์การฝึกมาเช่นกันและอาหารเสริมที่เธอเตรียมให้กับโอนิสึซึเมะของเธอก็คือน้ำผลไม้ แต่จากการเปรียบเทียบแล้วเธอพบว่าการออกกำลังกายซูแบทของซาโต้ในเวลาเดียวกันกับโอนิสึซึเมะของเธอนั้นแตกต่างกันเกือบสามหรือสี่เท่าเลยทีเดียว
หลังจากสังเกตุอย่างจริงจังในที่สุดเธอก็ค้นพบสาเหตุของเรื่องนี้ เหตุผลก็คือเวลาที่ซูแบทนั้นใช้พักและฟื้นฟูเรี่ยวแรงนั้นสั้นกว่าโอนิสึซึเมะของเธอมากดังนั้น ซูแบทจึงสามารถฝึกมันได้ในเวลาแทบจะทันทีที่หยุดพัก มันเลยนับเป็น2หรือ3เท่าของการฝึกโอนิสึซึเมะของเธอ
และเทียนหยุนเอ๋อร์ก็รู้ดีว่าร่างกายของโปเกมอนตัวน้อยพวกนี้นั้นมนุษย์เทียบไม่ติด เพราะตราบใดที่พวกโปเกมอนมีอาหารและพลังงานเพียงพอที่จะฟื้นฟู พวกโปเกมอนก็จะสามารถเรียกคืนความแข็งแกร่งหรือลดอาการบาดเจ็บได้แทบจะในทันที ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกโปเกมอนจึงเกินความสามารถของมนุษย์มากมาย มนุษย์จึงแทบจะไม่จำเป็นต้องกังวลว่าพวกมันจะได้รับบาดเจ็บหนักเมื่อฝึกฝน
แน่นอนว่าโปเกมอนจะสามารถดูดซึมพลังงานในอาหารได้ง่ายหรือไม่ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมากเช่นกัน มีเพียงก้อนพลังงานเท่านั้นที่โปเกมอนสามารถดูดซึมได้อย่างง่ายดาย และยังมีส่วนช่วยฟื้นฟูความแข็งแกร่งทางกายภาพของโปเกมอนได้เร็วขึ้นอีกด้วย
ดูได้จาการที่ซูแบทสามารถออกกำลังกายได้มากกว่าโอนิสึซึเมะในเวลาเกือบเดียวกัน เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการฝึกที่แปลกประหลาดมาก กล่าวกันก็คือภายใต้สถานการณ์ตามปกติซูแบทไม่มีทางที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งและฟื้นฟูได้เร็วกว่าโอนิสึซึเมะได้
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นั้น เทียนหยุนเอ๋อร์ ผู้ที่ในตอนนี้อยู่ในฐานะมือใหม่อันดับ1 ก็สงบสติตัวเองและเธอจึงเริ่มมองหาเหตุผล
ซูแบทของซาโต้สามารถฝึกได้สำเร็จมากกว่าโอนิสึซึเมะ2หรือ3เท่าในเวลาเดียวกันได้อย่างไร? และในตอนท้ายเมื่อเห็นซาโต้หยิบก้อนพลังงานออกมา ในที่สุด เทียนหยุนเอ๋อร์ ก็ได้คำตอบ
เทียนหยุนเอ๋อร์ยังคงมีความเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับก้อนพลังงานเช่นกัน ในตอนแรกเธอก็เลือกสิ่งของประเภทนี้เป็นอาหารเสริมในการฝึกสำหรับโปเกมอนของเธอ แต่เมื่อเธอพบว่าเธอไม่มีความสามารถในการผลิตก้อนพลังงานที่ดีได้ เธอจึงยอมแพ้แก่ทางเลือกนี้อย่างเด็ดขาด และหาสิ่งที่อาจมีคุณค่าน้อยกว้าหรือพอๆกันนั้นก็คือน้ำนมผลไม้
หลังจากเห็นว่าซาโต้เอาก้อนพลังงานออกมาจริงๆและถ้าสังเกตุจากความสว่างภายนอกของมันเธอก็รู้ว่ามันเป็นก้อนพลังงานคุณภาพสูงแน่นอน เธอจึงเกิดความคิดที่ได้มันมาจากในใจของเธอเอง
และไหนจะมาจากจำนวนการฝึกฝนกำลังกายที่น่าทึ่งที่ซูแบทได้แสดงออกมาอีก จะเห็นได้ว่าเลยว่าก้อนพลังงานที่ ซาโต้ให้ซูแบทกินมีผลการฟื้นฟูความแข็งแกร่งที่ดียิ่งกว่าน้ำนมผลไม้อย่างแน่นอน มิฉะนั้นซูแบทก็คงจะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ และนอกเหนือจากนั้นเธอยังฝึกโอนิสึซึเมะของเธอเข้มงวดกว่าซาโต้ที่ฝึกซูแบทของเขาด้วยซ้ำ
"ไม่ว่ายังไงต้องได้ก้อนพลังงานพวกนี้มา เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการฝึของโอนิสึซึเมะ" เทียนหยุนเอ๋อร์คิดในใจพร้อมกับปรากฏร่องรอยของความมุ่งมั่นในดวงตาของเธอ