L.P.T:ตอนที่ 3 โปเกมอนเริ่มต้น

พูดตามตรงเมื่อได้เห็นโปเกมอนทั้งหกชนิดนี้ความคิดแรกของซาโต้ คือการเลือกงูอาร์โบ ที่แข็งแกร่งที่สุด

แต่หลังจากสงบลงเล็กน้อยและหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในที่สุดเขาก็หันมาสนใจฐานแม่พิมพ์ที่มีลูกบอลซูแบทจำนวนมาก

ในฐานะแฟนของโปเกมอนซาโต้ คุ้นเคยกับโปเกมอนสามัญทั้งหกในคันโตเป็นอย่างดี ในหมู่พวกเขางูอาร์โบและโดกาซนั้นเป็นโปเกมอนมาตรฐานของแก๊งร็อคเก็ตและโปเกมอนทั้งสองนี้เป็นโปเกมอนที่มีพิษ นอกจากนี้ยังถือว่ามีพลังมากที่สุดในบรรดารูปแบบเริ่มต้นของโปเกมอนประเภทพิษ

ไม่จำเป็นต้องพูดงูอาร์โบ งูสีม่วงตัวใหญ่ทั่วตัวและลักษณะส่วนใหญ่ยังคงเป็นภัยคุกคามและเหมือนว่ามันจะน่ารังเกียจมาก

ในถิ่นที่อยู่ของโปเกมอนป่างูอาร์โบซึ่งเป็นโปเกมอนพิษมักจะเดินไปรอบและอยู่ในระดับสูงในห่วงโซ่อาหาร โดยทั่วไปแล้วโปเกมอนจะหันหลังกลับและวิ่งหนีเมื่อเห็นมัน

ไม่ต้องพูดถึงโดกาซเป็นสิ่งประดิษฐ์พิเศษในการหลบหนีของแก๊งร็อคเก็ตไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควันดำเพื่อสร้างความสับสนให้กับศัตรูหรือการโจมตีฆ่าตัวตายในช่วงเวลาสำคัญ โดกาซเป็นโปเกมอนที่มีประโยชน์มากสำหรับแก๊งร็อคเก็ต ควบคู่ไปกับนิสัยที่ดีในการไม่กินอาหารจู้จี้จุกจิกทำให้เป็นโปเกมอนที่แข็งแรงมากและเลี้ยงง่าย

อย่างไรก็ตามโปเกมอนพิษทั้งสองนี้เห็นได้ชัดว่าไม่มีคุณสมบัติในฐานะโปเกมอนเริ่มต้นของผู้ฝึกสอนมือใหม่

คุณต้องรู้ว่าเทรนเนอร์นั้นกำลังเลือกโปเกมอน ไม่ใช่เโปเกมอนเลือกเทรนเนอร์ หากความสามารถของผู้ฝึกสอนไม่เพียงพอที่โปเกมอนจะรับรู้ได้ก็มีแนวโน้มที่จะถูกโปเกมอนก่อกวนแทน

โดยเฉพาะโปเกมอนประเภทนี้ที่ไม่มีพื้นฐานทางอารมณ์ในตอนแรก คุณไม่ต้องการเปลี่ยนโปเกมอนธาตุพืช ให้กลายเป็นธาตุไฟฟ้าโดยไม่เห็นหัวพิคาชูใช่ไหม?

นอกจากนั้นมันยังไม่มีการบอกว่างูอาร์โบและโดกาซเป็นโปเกมอนพิษที่อันตรายมาก

โดยเฉพาะโปเกมอนเลือดเย็นอย่างอาร์โบนั้นมีนิสัยดุร้าย แม้จะมีลูกบอลแต่เทรนเนอร์ก็ยังต้องระวังความปลอดภัยของเขา มิฉะนั้นอาจกลายเป็นอาหารจีนในท้องงูได้

โดกาซก็ยังค่อนข้างอันตราย ตามชื่อเรียกแก๊สระเบิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีแก๊สจำนวนมากในร่างกาย แก๊สคืออะไร? สันนิษฐานคนส่วนใหญ่คงเข้าใจชัดเจนมาก

หากก๊าซจำนวนมากรวมตัวกันประกายไฟเล็กน้อยการระเบิดครั้งใหญ่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้แม้ว่าโดกาซจะดูงี่เง่า แต่อารมณ์ของมันมักจะไม่ดีนักเกือบจะเทียบได้กับระเบิดที่ซุกซนแรงเสียดทานเล็กน้อย ประสิทธิภาพในการระเบิดตัวเองเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ (พวกโปเกมอนจะไม่ตายหากใช้ทักษะการระเบิดตัวเองพวกโปเกมอนแค่สูญเสียความสามารถในการต่อสู้โดยสิ้นเชิงและด้วยเหตุนี้พวกโปเกมอนจึงสามารถช่วยชีวิตได้ด้วยการรักษาอย่างทันท่วงที)

ดังนั้นหลังจากคิดถึงระดับความสามารถของเทรนเนอร์คนปัจจุบันของเขา ซาโต้ก็ยังฉลาดมากที่จะตัดงูอาร์โบและโดกาซออกไปเขาไม่ต้องการพิการตั้งแต่อายุยังน้อย

ในบรรดาโปเกมอนสี่ตัวที่เหลือคือโครัตต้าและอิชิซึบูเตะ ถูกกีดกันโดยซาโต้เป็นครั้งแรกเพราะเหตุผลง่ายๆคือ แม้ว่าโครัตต้าจะเลี้ยงง่ายมาก แต่ศักยภาพในการพัฒนานั้นต่ำมาก ถ้าเป็น อโลลา โครัตต้า เขาอาจจะยังพิจารณาอยู่

และนอกจากพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยมแล้ว อิชิซึบูเตะยังมีข้อบกพร่องมากมาย เช่นถูกชักจูงได้ง่ายและมักจะเสียเปรียบในการต่อสู้เสมอ

จากนั้นในสองตัวเลือกสุดท้ายคือโอนิสึซึเมะและซูแบท ซาโต้ก็ได้เปิดตัวการคิดและการเปรียบเทียบที่เข้มข้นและจริงจังขึ้น

เมื่อเทียบกับซูแบทพลังการต่อสู้ของโอนิสึซึเมะนั้นดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่โอนิสึซึเมะก็มีชื่อเสียงเช่นกันเรื่องอารมณ์ที่ไม่พอใจมากมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เชื่องมันในเวลาอันสั้น

สำหรับซูแบทตัวสุดท้ายซาโต้ รู้สึกซาบซึ้งในใจของเขาอย่างไม่มีเหตุผล ซูแบทเป็นสิ่งมีชีวิตที่ออกหากินเวลากลางคืน แม้ว่าประสิทธิภาพในการต่อสู้ของซูแบทจะลดลงในเวลากลางวัน แต่ซูแบทก็มีความสามารถในการตรวจจับที่ยอดเยี่ยมในที่โปเกมอนตัวน้อยอีกห้าประเภทนั้นยังไม่สามารถเทียบเคียงได้และอาหารของพวกมันก็หาได้ง่ายมากดังนั้นทรัพยากรในการฝึกฝนจึงลดลงอย่างมาก

ซูแบทมีความสามารถในการระบุตำแหน่งของเสียงสามารถให้สัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าที่ดีแก่เทรนเนอร์ซึ่งจะช่วยลดความเป็นไปได้ที่จะเผชิญกับอันตรายมาก

ฉันต้องบอกว่าซูแบทมีประโยชน์มากสำหรับเทรนเนอร์มือใหม่ที่ไม่มีพลังต่อสู้มากนักในระยะเริ่มต้นและก็เพียงพอแล้วสำหรับเทรนเนอร์มือใหม่ที่จะผ่านช่วงมือใหม่ได้เป็นอย่างดี

ในขณะเดียวกันเนื่องจากประสิทธิภาพการต่อสู้ของซูแบทลดลงในเวลากลางวันนั้น  ซาโต้จึงมีความมั่นใจอย่างมากในการเอาชนะมันอย่างรวดเร็ว

ตามความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับซูแบทจะกลัวแสงจ้ามาก ตราบใดที่ยังเข้าใจจุดอ่อนของซูแบทความยากในการพิชิตซูแบทก็ไม่ใช่เรื่องยาก

อีกประเด็นหนึ่งคือซาโต้ มีความมั่นใจในการเพาะปลูกของเอลฟ์เช่นซูแบท เมื่อพิจารณาจากชื่อของมันก็ไม่ยากที่จะเข้าใจว่าความสามารถของเอลฟ์ดังกล่าวคืออะไร ถูกต้องคลื่นโซนิคมันคือความสามารถของซูแบท

ในฐานะนักเรียนอาวุโสด้านวิทยาศาสตร์ซาโต้ มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางกายภาพของคลื่นเสียง เขารู้ดีว่าคลื่นเสียงทรงพลังขนาดไหน หากสามารถพัฒนาความสามารถของซูแบทได้ และซูแบทจะกลายเป็นโปเกมอนที่ทรงพลังในมือของเขาอย่างแน่นอน

หลังจากกำหนดเป้าหมายของเขาสำหรับโปเกมอนเริ่มต้นนี้ซาโต้ ก็มุ่งความสนใจไปที่ฐานแม่พิมพ์ที่วางลูกบอลซูแบท ในขณะเดียวกันดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นด้วย หน้าต่างจอสีน้ำเงินที่ไม่สามารถตรวจสอบได้

พูดตามตรงว่าในฐานะผู้ข้ามมิติมาจากความได้เปรียบด้านความจำที่ซาโต้ มีในชีวิตก่อนหน้านี้แล้วเขายังมีบางอย่างที่ไม่เหมือนใครสำหรับผู้ข้ามมิติทั่วไป ไม่มีอะไรผิดปกตินั่นคือ สิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า ระบบ

น่าเสียดายที่เมื่อเทียบกับผู้ข้ามมิติคนอื่นๆ ระบบนี้ในร่างกายของเขาไม่มีเงื่อนไข มันไม่ได้เริ่มที่จะส่งโปเกมอนต่างๆหรือมอบพลังของโลกโปเกมอนให้เขาโดยตรง เช่นพวกความสามารถพิเศษแบบพลังของป่าโทคิวะ พลังของคลื่นทะเลและพลังวิเศษอื่นๆ

จนถึงตอนนี้ซาโต้ ได้สำรวจและทำความเข้าใจการทำงานของระบบในร่างกายแล้วและระบบมีหน้าที่เพียงอย่างเดียวนั่นคือการตรวจสอบโปเกมอน

แน่นอนว่าซาโต้ พอใจกับฟังก์ชั่นที่ระบบมอบให้เท่านั้นเพราะด้วยฟังก์ชั่นนี้เขาสามารถมองทะลุระดับของโปเกมอนและทักษะที่เขามีได้อย่างรวดเร็วและเขาสามารถตรวจสอบศัตรูได้ก่อนในการต่อสู้ เอฟเฟกต์ของระบบนี้จึงช่วยเขาได้ดีในการต่อสู้กับโปเกมอน

ภายใต้การทำงานของฟังก์ชั่นการตรวจจับของระบบข้อมูลขอซูแบทในโปเกบอลที่ปล่อยออกมาบนโครงแม่พิมพ์ก็ปรากฏในสายตาของซาโต้ อย่างรวดเร็ว

คุณสมบัติเป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่ว่าจะอยู่ในโลกใด บางครั้งพระเจ้าก็ไม่ยุติธรรม ท้ายที่สุดมันเป็นเรื่องธรรมชาติ หากไม่มีการผจญภัยก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลง

ในขณะเดียวกันในโลกของโปเกมอนคุณสมบัติก็สำคัญมากเช่นกันสำหรับโปเกมอนที่จะได้มา

ในกลุ่มเอลฟ์โดยธรรมชาติแล้วจะมีสมาชิกที่มีความสามารถสูงและสมาชิกที่มีความสามารถต่ำ โดยทั่วไปแล้วสมาชิกที่มีความสามารถสูงมักจะเติบโตเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งของกลุ่มในขณะที่ผู้ที่มีความสามารถต่ำสามารถเป็นสมาชิกได้เท่านั้น

อย่างไรก็ตามสำหรับซาโต้นับเป็นที่น่าเสียดายเล็กน้อยที่ระบบที่เขาไม่มีฟังก์ชั่นในการตรวจจับความถนัดของโปเกมอนมีเพียงระดับของโปเกมอนและทักษะที่มีอยู่เท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ ส่วนวิธีการแยกแยะความถนัดของโปเกมอนนั้นซาโต้เดาได้แค่จากในอดีต

ในปัจจุบันซาโต้ มีวิธีเดียวที่จะแยกแยะความถนัดของโปเกมอนผ่านข้อมูลของโปเกมอนที่ระบบให้มาและนั่นคือการดูว่าโปเกมอนมีทักษะทางพันธุกรรมที่ทรงพลังหรือไม่หรือทักษะการถ่ายทอดหรือปล่าว

โดยทั่วไปแล้วโปเกมอนที่สามารถสืบทอดทักษะอันทรงพลังจะที่ต้องใช้ระดับที่สูงเพื่อให้สามารถเรียนรู้ได้หรือแม้กระทั่งสืบทอดทักษะอันทรงพลังที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยการเลื่อนระดับโดยตนเองหากมีความถนัดที่ดีมาก แต่หากจะให้เกิดเช่นนี้โปเกมอนที่เกิดจะต้องมีพ่อแม่หนึ่งหรือสองตัวที่มีความสามารถนั้น

และทักษะการสอนก็เช่นเดียวกัน โปเกมอนป่าต้องการเรียนรู้ทักษะที่ระดับของตัวเองไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างหนึ่งคือการสำรวจด้วยตนเองอีกหนึ่งคือการสอนซึ่งกันและกัน

และทักษะเหล่านี้ที่เรียนรู้ด้วยตัวเองนั้นคล้ายคลึงกับมรดกสืบทอดของโปเกมอนป่าโดยธรรมชาติ พวกโปเกมอนจะไม่ถูกสอนให้ตัวอื่นเข้าใจง่ายๆและโดยทั่วไปจะมีแต่เด็กๆและตัวที่ดีเท่านั้น ที่จะได้เรียนรู้

ในทำนองเดียวกันโปเกมอนที่สามารถสำรวจและเรียนรู้ทักษะที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้จากการอัพเกรดระดับของเขาเองโดยไม่คิดถึงความถนัดของโปเกมอนก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ดีที่สุด

จากการวิเคราะห์และความเข้าใจนี้โปเกมอนที่มีทักษะในการสอนพวกเขามีพ่อแม่ที่ทรงพลังมากหรือมีคู่หูที่ใกล้ชิดที่ทรงพลังมาก แน่นอนความเป็นไปได้จะต้องเป็นอย่างแรกแน่นอนว่ามีโอกาสมากกว่า

ด้วยความช่วยเหลือของฟังก์ชั่นการตรวจจับระบบหนึ่งต่อหนึ่งระดับซูแบทและทักษะที่มันมีอยู่ปรากฏในสายตาของซาโต้ แต่ด้วยความผิดหวังของเขาซูแบทเหล่านี้ระดับสูงสุดคือเพียง 20 ตัวในหมู่พวกมันมีเพียงสองตัวเท่านั้นที่มีพันธุกรรม ทักษะและถ่ายทอดทักษะ

　　ข้อมูลของซูแบททั้งสองนี้มีดังต่อไปนี้:

　　โปเกมอน: ซูแบท (หมายเลข 1)

　　เลเวล: 13

　　 คุณลักษณะ: พิษ + บิน

　　 ลักษณะ: พลังใจ

　　 เพศหญิง

　　 ทักษะหลัก: Drain,Ultrasonic,Fright, Biting,Wing Attack, Ultimate Drain (Inheritance), Yan Return (Skill Teaching)(พวกท่านี้จะทับศัพท์ไปเลยหรือจะให้แปลเป็นไทย ช่วยเม้นบอกทีครับ)

โปเกมอน: ซูแบท (หมายเลข 2)

　　 เลเวล: 13

　　 คุณลักษณะ: พิษ + บิน

　 　ลักษณะ: พลังใจ

　　 เพศชาย

　　 ทักษะการเรียนรู้: Drain, Ultrasonic,Fright,Biting,Wing Attack,Hypnosis (Inheritance),Shadow ball (Skill Teaching)

หลังจากเปรียบเทียบข้อมูลของซูแบททั้งสองแล้วซาโต้ มองออกไม่ยากที่จะเห็นว่าซูแบททั้งสองนี้มีทักษะทางพันธุกรรมและการถ่ายทอดทักษะควรเป็นความถนัดที่ดีที่สุดของซูแบททั้งหมดที่แก๊งร็อคเก็ต มอบให้ในปัจจุบัน

แน่นอนว่าไม่มีซูแบทที่มีคุณสมบัติดีกว่าซูแบททั้งสองนี้ แต่เนื่องจากไม่สามารถปล่อยให้เห็นได้ซาโต้ จึงสามารถตัดสินความถนัดของซูแบทเหล่านี้ได้จากข้อมูลเหล่านี้เท่านั้น

นอกเหนือจากความสามารถในการบอกความถนัดของเอลฟ์จากสองประเด็นของทักษะทางพันธุกรรมและทักษะการถ่ายทอดแล้วความถนัดของโปเกมอนยังสามารถเห็นได้จากพัฒนาการทางร่างกายของโปเกมอน

โดยทั่วไปแล้วหากพวกเขาไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากโปเกมอนป่าที่อยู่มาก่อนนั้นก็จะต้องพึ่งพาความสามารถของตนเองในการหาอาหาร

ลองคิดดูและจะรู้ว่ายิ่งโปเกมอนเก่งขึ้นความสามารถของเขาก็จะยิ่งดีขึ้นเมื่อเขาเติบโตขึ้นและเขาจะสามารถได้รับทรัพยากรเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นเอง

ไม่มีทางใดที่กฎแห่งธรรมชาติของป่าจะโหดร้ายมากและโปเกมอนนั้นอ่อนแอและแข็งแกร่ง เว้นแต่จะมีโอกาสเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของพวกมัน นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้แข็งแกร่งจะแข็งแกร่งอยู่เสมอและผู้ที่อ่อนแอก็จะอ่อนแออยู่เสมอ

หลังจากพิจารณาเรื่องการประหยัดเวลามาระยะหนึ่งซาโต้ จึงเลือกซูแบทหมายเลข 2 เป็นโปเกมอนของเขา ในความคิดของเขาซูแบทในฐานะโปเกมอนนั้น มันไม่เหมาะสำหรับการชาร์จและป้องกัน เขายังคงเชื่อว่ามันจะดีกว่าที่จะแสดงการโจมตีและก่อกวนจากด้านหลัง เมื่อเทียบกับUltimate DrainและYan Returnแล้วHypnosisและShadow ballจะเหมาะกับซูแบทมากกว่า

“ฉันหวังว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อฝึกฝนนาย”  ซาโต้คิดอย่างลับๆพลางถือโปเกมอนไว้ในมือ

จากนั้นซาโต้ ก็อยู่ภายใต้การจ้องมองของคนอื่น ในฐานะผู้มาใหม่คนสุดท้ายที่เลือกโปเกมอนและใช้เวลาคัดเลือกนานที่สุดเขาจึงเดินกลับไปที่คิวผู้มาใหม่โดยไม่รีบร้อนโดยไม่ต้องแสดงสีหน้าอายใดๆ