L.P.T:ตอนที่ 16 เลือด
แก๊งร็อคเก็ตชายตัวเตี้ยและผอมมีชื่อว่า รอนโด้ เขาเป็นผู้สมัครภายใต้ คอนโดโจ ซึ่งเป็นผู้ให้การทดสอบคนแรกของ ฐานแก๊งร็อคเก็ตใต้ดินในเมืองนิบิ และยังเป็นมือใหม่คนที่สี่ที่ทำให้โปเกมอนเชื่องได้หลังจากที่ซาโต้พิชิตโปเกมอนของเขาได้สำเร็จ
ในความเป็นจริงแก๊งร็อกเก็ตที่เป็นชายร่างสูงและหญิงสาวสวยงามนั้นต่างเป็นผู้สมัครภายใต้ คอนโดโจ ผู้ให้การทดสอบคนแรก พวกเขามีชื่อว่า คันจูโร่ และ เทียนหยุนเอ๋อร์ ทั้งคู่ยังเป็นมือใหม่คนแรกและคนที่สอง ที่สามารถปราบโปเกมอนได้ก่อน
เป็นที่น่าสังเกตว่า เทียนหยุนเอ๋อร์ เป็นคนเดียวที่ประสบความสำเร็จในการปราบโปเกมอนในระหว่างการประชุมแนะแนวมือใหม่
เนื่องจากทั้งสามคนนี้อยู่ในกลุ่มผู้สมัครเดียวกันและพวกเขาก็ยังคงเป็นสามคนที่โดดเด่นที่สุดทั้งสามคนจึงรวมตัวกันโดยธรรมชาติซึ่ง เทียนหยุนเออร์ ที่เก่งที่สุดจึงได้เป็นหัวหน้าเป็นธรรมดา
จริงๆแล้วความแตกต่างของเวลาระหว่าง คันจูโร่และซาโต้กับรอนโด้ ที่ใช้เวลาในการปราบโปเกมอนนั้นไม่ได้ห่างกันอะไรนัก
และในอีกแง่หนึ่ง รอนโด้ ที่เป็นคนปราบโปเกมอนได้เป็นคนที่สี่นั้นอาจจะมีฝีมือดีกว่าทั้ง คันจูโร่ และ ซาโต้ เพราะโปเกมอนที่เขาเลือกมานั้นคือ งูอาร์โบ มันเป็นเอลฟ์ที่มีความยากในการปราบแตกต่างกับอิชิซึบูเตะของคันจูโร่และซูแบทของซาโต้มาก
เป็นเพราะเหตุนี้รอนโด้จึงต้องใช้เวลามากในการปราบงูอาร์โบ เขาคิดว่าเขาเป็นมือใหม่คนที่สามที่ผ่านการทดสอบและจากนั้นเขาก็สามารถรับรางวัลสำหรับผู้ที่ผ่านเป็นคนที่สาม และเก็บคะแนนเข้ากระเป๋าของเขาได้ แต่เขาไม่คาดคิดว่าการปรากฏตัวของซาโต้จะทำให้ทุกอย่างผิดพลาดไป จนออกมาเป็นแบบนี้
รอนโด้เกิดและโตขึ้นมาเป็นหัวหน้านักเลงในเมืองนิบิ ในฐานะงูเจ้าถิ่นในเมืองนิบิ เขาจึงคุ้นเคยกับแก๊งร็อคเก็ต ในเมืองนิบิเป็นอย่างดีและเขามักจะร่วมมือกับแก๊งร็อคเก็ตเพื่อทำสิ่งผิดกฎหมายบางอย่างเสมอ ดังนั้นเขาจึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับการทดสอบของมือใหม่ในแก๊งร็อคเก็ตเป็นอย่างดี
และรอนโด้ยังเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน เขาไม่พอใจอย่างมากที่มีสถานะเป็นแค่หัวหน้านักเลงในเมืองนิบิ ในท้ายที่สุดหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วเขาก็พาลูกนสมุนสามคนที่เต็มใจติดตามเขา ไปเข้าร่วมกับแก๊งร็อคเก็ตที่เป็นองค์กรมืดนี้ดู และเหมือนเขาจะมีอนาคตที่ดีมากกับมันแน่ๆ
ในฐานะผู้นำแล้วรอนโด้ก็นับไม่เลวร้ายจนเกินไป และด้วยพลังของลูกสมุนสามคนที่ติดตามเขามา เขาประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการปราบ อาร์โบ ที่ยากต่อการปราบตัวนี้ที่สุด จากในบรรดาโปเกมอนที่มือใหม่ได้รับจากแก๊งร็อคเก็ตทั้งหก (แก๊งร็อคเก็ตจะห้ามให้ผู้สมัครทั้งหมดนำโปเกมอนที่เคยมีเข้าร่วมด้วย ไม่งั้นจะถูกยึดหรือถูกปล่อยกลับเข้าป่า)
น่าเสียดายด้วยความจริงทั้งหมดนี้ เขายอมรับไม่ได้ที่เขาเป็นมือใหม่คนที่สี่ที่ปราบโปเกมอนได้สำเร็จ
รอนโด้สามารถกลายเป็นผู้นำกลุ่มนักเลงได้ก็เพราะจิตใจของเขานั้นมีความดุร้ายและพลังที่อยูในมือของเขาก่อนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแก๊งร็อคเก็ตนั้นเอง เพราะก่อนที่เขาจะเข้าร่วมกับแก๊งร็อคเก็ตเขาเป็นเทรนเนอร์ที่มีโครัตต้าตัวและสเปียร์อยู่ในมือ
ดังนั้น รอนโด้ จึงไม่พอใจกับอันดับในปัจจุบันของเขามาก และถ้าพูดกันตามตรงเขาไม่พอใจอย่างมากที่เขาพลาดรางวัลการคัดเลือดดีเด่นสามอันดับแรก คุณต้องเข้าใจว่ารางวัลการคัดเลือกอันดับสามยังดีกว่าการคัดเลือกอันดับสี่ถึงสองเท่า
รอนโด้ รู้ดีว่าคะแนนเป็นสกุลเงินสากลภายในแก๊งร็อคเก็ต ตราบเท่าที่เขามีคะแนนเพียงพอเขาสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเองผ่านแก๊งร็อคเก็ตได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงกังวลอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องคะแนน
นี้จึงเป็นเหตุผลที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อปราบ อาร์โบ ให้เร็วที่สุด เพื่อรางวัลที่จะมอบให้แก่ผู้คัดเลือกดีเด่นโดยเฉพาะสามอันดับแรก ท้ายที่สุดแล้วก็ตามที่บอกไปคะแนนรางวัลระหว่างที่สามและที่สี่นั้นแตกต่างกันมาก 2เท่า
แต่ความเป็นจริงมันเป็นสิ่งที่โหดร้ายเสมอ ถ้าเขาไม่เลือก อาร์โบ มาเป็นโปเกมอนตัวแรก และเป็นตัวที่ยากที่จะปราบในช่วงแรกนั้น เขาก็คงไม่พลาดการคัดเลือกในสามอันดับแรกหรอก
เขาไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้มากนั้น แต่เมื่อมองดูรางวัลผู้คัดเลือกดีเด่นสามอันดับแรก รอนโด้จึงเลือกใช้วิธียั่วยุเพื่อให้ได้สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นตัวของตัวเองคืนมา
แน่นอนว่า รอนโด้ ไม่ใช่คนโง่เขาเห็น เทียนหยุนเออร์ ผู้นี้ที่ซึ่งตอนนี้เป็นคนแรกที่ปราบโปเกมอนและเป็นที่ชื่นชอบของผู้ทดสอบ คอนโดโจ เขาได้เห็นวิธีการที่น่าทึ่งของอีกฝ่ายในการทำให้โอนิสึซึเมะเชื่องและเขาคิดว่า คนอย่างเขาไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นเหยื่อคนแรกของเขาก็คือคันจูโร่ที่อยู่อันดับสอง แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือคันจูโร่นั้นแข็งแกร่งมาก
เมื่อเผชิญหน้ากับการยั่วยุของเขา คันจูโร่จึงตัดสินใจอย่างตรงไปตรงมาด้วยการต่อสู้ของโปเกมอนและผลลัพธ์ก็คือคันจูโร่เอาชนะอาร์โบของเขาด้วยอิชิซึบูเตะที่เพิ่งถูกปราบนี้อย่างง่ายดาย รอนโด้ก็ถึงกลับพูดไม่ออก เรียกได้ว่าเดิมพันที่จะชนะแต่กลับแพ้เพียงเท่านั้น
ในท้ายที่สุดรอนโด้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเลือดเหยื่ออีกครั้งไปที่ผู้คัดเลือดดีเด่นคนที่สามหรือก็คือ ซาโต้ นั้นเองหลังจากการสอบถามของเขาจากคนอื่นๆ เขาจึงได้รู้ว่า ซาโต้ที่ผ่านการทดสอบการคัดเลือกนั้นมาจากกลุ่มมือใหม่ที่สามที่แย่ที่สุด จึงเป็นธรรมชาติที่รอนโด้ จะมีความมั่นใจมากในเรื่องนี้
หลังจากการเกลี้ยกล่อมอยู่นาน รอนโด่้ก็ประสบความสำเร็จในการขอให้ เทียนหยุนเออร์ และ คันจูโร่ ติดตามเขาไปหา ซาโต้ ผู้ที่ได้รับรางวัลจากการคัดเลือกคนที่สาม
จุดประสงค์ของพวกเขาทั้งสามในครั้งนี้นอกเหนือจากการได้สังเกตุ ซาโต้ แล้วทั้งสามยังต้องการแบ่งปันรางวัลที่อยู่ในมือของ ซาโต้ ผ่านการคุกคาม
ตอนนี้หลังจากที่ได้เห็นตัวซาโต้เองและโปเกมอนตัวแรกของเขาที่เป็นซูแบทที่อ่อนแอ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาพบว่าซาโต้คือคนอ่อนแอที่ เขามักพาพวกลูกน้องไปขโมยเงิน แถมเมื่อไม่นานมานี้เขาก็พึ่งจะได้ปล้นซาโต้ไป ในใจของเขาจึงยิ่งไม่พอใจมากขึ้นกับรางวัลของซาโต้สำหรับการเป็นอันดับที่สาม
ดังนั้นหลังจากที่ซาโต้ พูดกับพวกเขาทั้งสามคน รอนโด้ ก็ขู่ซาโต้ในทันทีโดยมีเหตุผลว่าเขาจะฆ่าซาโต้และโปเกมอนในการแข่งขันมือใหม่ที่จะถึงนี้
ในเวลานี้เองซาโต้ก็จำรอนโด้ผู้ซึ่งตอนนี้เป็นสมุนแก๊งร็อคเก็ตที่เตี้ยและผอม เป็นหนึ่งในสี่นักเลงที่ฉกเงินไปจากเขาเมื่อไม่นานมานี้
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายดูเหมือนจะเป็นคนที่มองมาจากที่ไกลๆและไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงสำหรับการขโมยเงินของเขา เขา รอนโด้อยู่ห่างจากข้างในซอยมาโดยตลอดเพื่อคอยชมเหตุการณ์ ประกอบกับรูปร่างเตี้ยและหน้าตาธรรมดาที่ให้ความรู้สึกของการดำรงอยู่ต่ำมาก ดังนั้นซาโต้จึงไม่ได้สนใจเขามากนัก เขาแค่รู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อยในตอนนั้น
และไม่นานหลังจากรอนโด้และอีกทั้งสองคนล้อมซาโต้อยู่นั้น ก็มีแก๊งร็อคเก็ตจำนวนมากโผล่มาดูการแสดงที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นลูกสมุนที่มีประสบการณ์การต่อสู้ หลังจากเห็นพฤติกรรมของทั้งสี่แล้วพวกเขาก็สนใจกันหมด พวกเขาเฝ้ามองจากข้างสนามและรอคอยว่าใครจะเป็นผู้เริ่มการต่อสู้และอดไม่ได้ที่จะเร่งให้ลงมือทำสักที
"อาศัยแค่แกนะเหรอ? แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกคิดว่านี่เป็นสถานที่ที่ไอ้เตี้ยแบบแกสามารถครอบงำได้อย่างง่ายดายหรือ? ไม่หรอก และสำหรับซูแบทของฉันและฉันที่แกที่ต้องการจะฆ่าในการแข่งขันมือใหม่นะน่ะ ฉันจะให้คำเตือนแกด้วยเช่นกัน! หยุดยุ่งกับฉันและถ้าแกยังทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดีอีกฉันจะฆ่าแกซะ ไอ้เตี้ย!" หลังจากที่ซาโต้จำรอนโด้ได้ใบหน้าของเขาก็เย็นชาขึ้นและเขาก็ขยับตัวและใบหน้าของเขาเข้าไปที่ตรงหน้าของรอนโด้ และสบถอย่างดุเดือด
ในวินาทีถัดมาออร่าของนักฆ่าที่น่ากลัวก็เล็ดลอดออกมาจากซาโต้ ชั่วขณะหนึ่งประกายแสงในสายตาของรอนโด้และคันจูโร่ผู้ไร้ความปรานีและเทียนหยุนเอ๋อร์ที่ไม่เคยแสดงออกก็โกรธเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ก้มหน้าลงอย่างสิ้นหวัง
การแสดงออกของกลุ่มแก๊งร็อคเก็ตเก่าแก่รอบๆที่กำลังเฝ้าดูละครอยู่ใกล้ๆก็ก้มหน้าลดลงเล็กน้อยและหลายคนพยักหน้าไปเล็กน้อยให้ซาโต้
ตอนนี้ซาโต้ที่มีโปเกมอนเป็นของเขาแล้วนั้นไม่ใช่ซาโต้ที่อ่อนแอเหมือนแต่ก่อนแล้ว จึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะมารังแกเขาได้ เพราะตอนนี้เขาได้เป็นเทรนเนอร์แล้ว
ในตอนปกติเขาอาจจะยังคงสงบและเฉยเมยเหมือนเช่นเคย แต่ในส่วนลึกของสัญชาตญาณที่เคยหลับใหลในร่างกายของเขาก็มักจะถูกกระตุ้นกลับมาได้ตลอด ซาโต้นั้นจะไม่เลือกที่จะกล่ำกลืนความคับข้องใจของเขาอีกต่อไปแล้วและจะไม่ประนีประนอมอีกต่อไปเช่นกัน ใครก็ตามที่กล้าตอแยเขาหรือทำให้เขารำคาญ เขาก็จะทำให้มันเต็มไปด้วยเลือดของตัวมันเอง
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ถูกคัดเลือกที่โดดเด่นเหล่านี้ต่อหน้าเขาแล้ว ซาโต้ไม่มีความกลัวในจิตใจ เขามั่นใจว่าตราบใดที่เขามีเวลาในการพัฒนาเพียงเล็กน้อยด้วยความช่วยเหลือจากประสบการณ์ การมองการณ์ไกลและระบบต่างๆ ของผู้ข้ามมิติอย่างเขา เขาสามารถเอาชนะคนเหล่านี้เบื้องหน้าได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
แก๊งร็อคเก็ตเป็นเพียงจุดกระโดดสำหรับเขาและเวทีของเขานั้นได้ถูกกำหนดให้เป็นโลกที่กว้างใหญ่กว่านี้แล้ว
ในอีกด้านหนึ่งด้วยความเย่อหยิ่งดั้งเดิมของรอนโด้นั้น เขาจึงค่อนข้างโง่ แถมเขาเป็นหัวหน้านักเลงและเป็นคนโหดร้าย แต่มือเล็กๆของเขายังไม่เคยพรากชีวิตมนุษย์จริงๆมาก่อน ซึ่งเมื่อต้องเผชิญกับเจตนาฆ่าที่อำมหิตของของซาโต้ในเวลานี้พร้อมด้วยคำเตือนและดวงตาที่สงบอย่างน่ากลัวของซาโต้ นั้นจึงทำให้เขารู้สึกกลัวเล็กน้อย
รอนโด้เอียงศีรษะเงยหน้ามองซาโต้ ที่อยู่แทบจะหายใจร่วมกับเขาอยู่แล้ว จากนั้นจึงหันไปขยิบตาไปที่เทียนหยุนเออร์และคันจูโร่เพื่อขอความช่วยเหลือ
น่าเสียดายที่ เทียนหยุนเอ๋อร์ และ คันจูโร่ เมินเฉยต่อการร้องขอความช่วยเหลือของ รอนโด้ พวกเขาทั้งสองกำลังให้ความสนใจกับการมองซาโต้ด้วยใบหน้าที่จริงจัง
"และพวกคุณสองคนก็อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่สนใจว่าพวกคุณจะเป็นใครตราบใดที่คุณยุ่งกับฉัน ฉันจะไม่มีวันปล่อยคุณไปด้วยแน่" หลังจากพูดกับรอนโด้จบ ซาโต้ก็หันหน้าไปเผชิญหน้ากับ คันจูโร่ และ เทียนหยุนเออร์ จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
ทันทีที่พูดจบ ซาโต้ก็เดินผ่านรอนโด้ไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาจากนั้นก็เดินลงบันไดไปภายใต้สายตาที่มองเขาอย่างแตกต่างกันของทั้งสามคน
"ทำไมพวกนายไม่คุยกับมันกัน ไม่ใช่ว่าพวกนายบอกว่าต้องการแบ่งผลประโยชน์ด้านคะแนนของมันด้วยกันเหรอ?หลังจากที่ฉันรวบรวมคะแนนของฉันได้" เมื่อเห็นซาโต้จากไปแล้ว รอนโด้จึงทำท่าทีโกรธจัด แล้วก็พูดอย่างน่ากลัวกับคันจูโร่และเทียนหยุนเออร์
แต่เทียนหยุนเอ๋อร์และคันจูโร่นั้นไม่ได้กลัวรอนโด้เลย ในหมู่พวกเขานั้นเทียนหยุนเอ๋อร์มองรอนโด้อย่างดูถูกเหยียดหยามจากนั้นก็เดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
"คะแนนนั้นคงไม่กลับมาหานายแล้ว นายก็ควรระวังให้ดี ผู้ชายคนนั้นน่ะ แค่พูดออกมาก็ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันอันตรายกว่าอาร์โบของนายอีก" ก่อนจะเดินออกไปเหมือนเทียนหยุนเออร์ คันจูโร่ ก็บอกกับรอนโดด้วยใบหน้าที่ว่างเปล่า
และเมื่อแก๊งร็อคเก็ตที่อยู่รอบข้างเห็นสถานการณ์นี้ พวกเขาก็ถอนตัวออกมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างดูถูก
"ซาโต้แกรอดูเถอะ และยังมียัยเทียนหยุนเอ๋อร์และไอ้เจ้าคันจูโร่ พวกแกสองคนกล้าล้อเล่นกับฉันคนนี้ ฉันจะไม่ปล่อยพวกแกไปแน่" เมื่อรู้สึกถึงการจ้องมองที่ดูหมิ่นในสายตาของผู้คนจำนวนมาก สายตาของรอนโดก็ปรากฏความขุ่นเคืองจ้องมองไปที่บันไดที่ว่างเปล่ากล่าวอย่างน่ากลัว
สำหรับอาร์โบที่อยู่ถัดจากรอนโด้นั้น ดูเหมือนว่ามันจะรู้สึกถึงความอาฆาตพยาบาทที่รุนแรงที่เกิดขึ้นจากรอนโด้ ในเวลานี้ ดวงตางูที่เย็นมากคู่หนึ่งแคบลงจากนั้นก็โอบเขาไปตามต้นขาของรอนโด้โดยอัตโนมัติ