ตอนที่ 43
ตอนที่ 43
แม็กซ์แมนได้ยินเสียงของกระดูกดังกร็อบแกร็บออกมาจากกองเศษหิน
เมื่อลองสังเกตดูดีๆ มือที่โผล่ออกมา มันไม่มีเนื้อหนังห่อหุ้มเลยสักนิด
มันมีแค่โครงกระดูกเปล่าๆสีขาวโผล่ออกมา
ตึง
ไม่นานลิชชี่ก็ตะเกียกตะกายออกมาจากเศษหินจนสำเร็จ..
“แม่มันเถอะ!!!...”แม็กซ์แมนสบถคำหยาบออกมา เขาคิดว่าคนที่ฝังอยู่ใต้เศษหินคงเป็นซูฮยอน แต่ที่ไหนได้ มันกลับกลายเป็นลิชชี่ไปได้!
“ข้าจะชนะมันได้รึ....”แม็กซ์แมนคิด ในฐานะที่เขาเคยเห็นถึงพลังของมัน ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าลิชชี่แข็งแกร่งขนาดไหน
“ถ้าเป็นเวลาปกติข้าคงสู้กับมันไม่ได้ แต่ไม่แน่ครั้งนี้ข้าอาจจะสยบมันได้ ไม่ได้การ ถ้าข้าปล่อยในมันฟื้นตัวต่อไป ข้ามีหวังแพ้แน่ๆ ข้าต้องรีบเผด็จศึกตอนนี้เลย”สิ่งที่แม็กซ์คิดถูกต้อง เพราะต้องนี้สภาพร่างกายของลิชชี่อยู่ในสภาพร่อแร...
แต่ในขณะนั้นเอง อยู่ๆมือปริศนาอีกข้างก็โผล่ออกมาจากกองหินที่อยู่ติดกัน
มือข้างนั้น....ได้ยื่นมือออกไปจับหัวของลิชชี่แล้วฝาดลงกับพื้นเต็มแรง
ปัง..!
“แค็ก แค็ก”
ซูฮยอนผุดออกมาจากเศษหินแล้วไอออกมา สายตาของซูฮยอนเหลือบไปมองลิชชี่ที่หัวของมันฝังอยู่กับพื้นปูนและสําลักออกมา
“อ่า..เผลอกินฝุ่นไปเยอะเลย เฝื่อนขอเป็นบ้า”
“เจ้า...!”แม็กซ์แมนตะโกนออกมา
“โอ้..พี่ชายยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ ผมนึกว่าพี่ตายไปแล้วซะอีก ผมดีใจนะที่พี่ชายไม่เป็นอะ....”แต่ก่อนที่ซูฮยอนจะพูดจบ เสียงของเขาก็หายไปกลางคัน ทั้งเนื้อทั้งตัวของซูฮยอนถูกปกคลุมไปด้วยโลหิต
โลหิตสีแดงสดทะลักออกมาตามบาดแผลของซูฮยอน ร่างกายของเขาเดินโคลงเคลงพร้อมล้มลงได้ทุกเมื่อ
สภาพของซูฮยอนตอนนี้ ก็ร่อแรเหมือนกับลิชชี่ไม่มีผิด...
“เจ้าหนุ่มไม่เป็นอะไรนะ ยืนไหวไหม..”
“ผมไม่เป็นอะไรมาก ผมรู้ขีดจำกันของร่างกายของผมดี”ซูฮยอนพูดพร้อมกับยกมือขึ้นไปจับแม็กซ์แมนแล้วดึงตัวเองขึ้นมา ตอนนี้ซูฮยอนใช้แขนได้แค่ข้างเดียวเท่านั้น เพราะอีกข้างของเขาบาดเจ็บสาหัสอยู่
“แต่ว่า...”แม็กซ์แมนมองดูซูฮยอนด้วยสายตาประหลายใจ บาดเจ็บร้ายแรงขนาดนี้ ยังเสแสร้งว่าไม่เป็นอะไรอีก...
‘แค็ก แค็ก’
“แก ไอ้สาระยำ”
“อ่า..ยังไม่ตายอีกเหรอ”
ตุบ
ซูฮยอนยกเท้าขึ้นมาแล้วเหยียบหัวกะโหลกของลิชชี่อย่างเต็มแรง
เมื่อหัวกะโหลกของลิชชี่แตกละเอียด หินแห่งชีวิตของมันก็กระเด้งออกมา
“เพราะแก เลยทำให้สภาพของฉันเป็นแบบนี้”ซูฮยอนพูด
เมื่อมันเสียสิ้นชีพ ซูฮยอนก็ล้มตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความอ่อนแรง ถึงแม้จะแค่วิเดียว แต่ซูฮยอนนึกว่าจะตายซะแล้ว
“ใครจะไปคิด ว่ามันจะกล้าระเบิดสกิลของตัวเองออกมา”ซูฮยอนบ่นพึมพัม
[กลืนกินพลังแห่งความตาย] คือสกิลที่รวบรวมดวงวิญญาณของคนตาย เพื่อมาเป็นพลังของตัวเอง
พลังของดวงวิญญาณมีพลังมากกว่าที่ซูฮยอนคิดมากนัก ถึงแม้คนผู้นั้นจะก๊องแก๊งมากแค่ไหน แต่ถ้าดวงวิญญาณมารวมกันเยอะๆ มันก็มีอานุภาพรุนแรง จนสร้างแรงกระเพื่อมได้สบายๆ
ซูฮยอนคิดว่าลิชชี่ไม่น่าจะกลืนกินวิญญาณของใครได้เลย เพราะซูฮยอนไม่ได้ฆ่าใครเลยสักคน
แต่เขากลับคิดผิด เพราะใต้ปราสาทมีห้องคุมขังนักโทษหรือทหารที่ก่ออาชญากรรมถูกขังอยู่
เมื่อผู้อื่นถูกส่งมายังชั้นใต้ดิน ลิชชี่ก็ทำการเชือดนักโทษทิ้งแล้วเก็บเกี่ยวเฉพาะดวงวิญญาณทันที
ที่ลิชชี่ตั้งใจพุ่งเข้าหาซูฮยอน เพราะมันต้องการเสี่ยงดวงไปกับการระเบิดของสกิลที่มันมีอยู่ในครั้งเดียว ซึ่งถือว่ามันตัดสินใจได้เด็ดขาดจริงๆ
“เฮ้อ..จบแล้วสินะ”ซูฮยอนพูดออกมาพร้อมกับถอนหายใจ
ถ้าลิชชี่มีดวงวิญญาณมากกว่านี้ซูฮยอนคงได้ไปเยี่ยมเยียนสรวงสวรรค์แล้ว โชคดีที่ทหารทั้งหมดพากันอพยพไปนอกปราสาทตั้งนานแล้ว ไม่งั้นละก็...ซูฮยอนได้เละเป็นขี้แน่
เมื่อซูฮยอนคิดว่าทุกอย่างมันจบลงแล้ว เขาก็สูดหายเข้าเข้าปอดลึกเพื่อหวังผ่อนคลาย แต่หายรู้ไม่ ว่ารอบๆตัวของเขามีแต่เศษฝุ่น
ซูฮยอนหายใจได้ไม่ถึงครึ่งทาง เขาก็สำลักฝุ่นออกมา
แม็กซ์แมนผู้เห็นว่าซูฮยอนไอออกมา เข้าจึงรีบเดินเขาไปหาเพื่อตรวจอาการบาดเจ็บทันที่
“เจ้าไม่เป็นอะไรนะ”
“ผมไม่ได้เป็นอะไนมาก ไม่ต้องห่วงครับ”ซูฮยอนตอบ
“แต่ว่า...”
“ผมไม่เป็นไรจริงๆ แค่นอนพักผ่อนสักสองสามวันเดียวก็หาย”
‘ผู้ตื่นขึ้น’ ทุกคน ไม่ได้มีแค่สเตตัสความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่พวกเขายังมีสเตตัสด้านสุขภาพอยู่ด้วย
ยิ่งมีสเตตัสด้านสุขภาพสูงมากเท่าไหร่ ร่างกายของ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ก็จะฟื้นฟูเร็วขึ้นตามไปด้วย...
ด้วยสเตตัสด้านสุขภาพของซูฮยอนที่มีเยอะมากๆ ไม่ว่าจะมีอาการบาดเจ็บร้ายแรงมากแค่ไหน
ขอแค่นอนพักสักวันสองวัน เดี๋ยวบาดแผลก็หายเป็นปลิดทิ้งไปเอง....
“ขอบคุณ....ข้าขอขอบคุณเจ้าจริงๆ ไม่ใช่แค่ข้าเท่านั้นที่รอดชีวิต แม้แต่ทหารของข้าก็ปลอดภัย ใครจะไปคิดว่าลอร์ดของปราสาทจะเป็นลิชชี่ ถ้าไม่ได้เจ้าพวกเราคงตายกันหมด”แม็กซ์แมนก้มหัวให้ซูฮยอนพร้อมกล่าวขอบคุณ
“ไม่ต้องของคุณผมหรอกครับ ผมไม่ได้ช่วยพี่ชายมากขนาดนั้น”ซูฮยอนตอบกลับแม็กซ์แมนหลังจากได้ยินคำขอบคุณที่ออกมาจากใจจริงๆ
ถ้าพูดกันตามตรง...ที่ซูฮยอนเรื่องช่วยทหารเป็นเพราะภารกิจที่ระบบให้ทำ
ถ้าเขาไม่ช่วย แล้วเกิดเหตุร้ายแรงกับทหาร เขาคงได้แต่ไปนั่งร้องไห้คนเดียว...
“ทําดีย่อมได้ดี เป็นคำพูดที่ใช้ได้เสมอ”ซูฮยอนพูดพร้อมกับก้มลงไปหยิบหินแห่งชีวิตขึ้นมา
หินแห่งชีวิตของลิชชี่ เป็นแก่นกลางส่วนสำคัญของร่างกาย....
วุป วุป
ซูฮยอนเริ่มปล่อยเปลวเพลิงออกมาเพื่อเผาผลาญหินแห่งชีวิตที่อยู่ในมือ...
หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที...เสียงกรีดร้องสุดเวทนาของดวงวิญญาณ ดังออกมาจากหินแห่งชีวิต
“หุบปาก แล้วไปเกิดใหม่ซะ”
ฉ่า...........
เมื่อหินแห่งชีวิตโดนเปลวเพลิงหลอมละลายจนหายไป
ทันใดนั้นเอง เสียงข้อความก็ดังขึ้นในหัวของซูฮยอน
[คุณได้รับคะแนนความสำเร็จ 100,000 คะแนน]
[คำนวณความสำเร็จของคุณ]
[เหลือเวลาอีก : 29 วัน]
[คุณไม่ขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรออสมัน]
[คุณไม่ขอความช่วยเหลือจาก วีรบุรุษ พริสซิลลา]
[คุณไม่ได้ขอความช่วยเหลือจาก วีรบุรุษ เกอร์ชมันน์ ]
[คุณไม่ได้...]
…
[คํานวณทหาที่รอดชีวิต]
[ทหารรอดชีวิตจำนวน 7,129 นาย]
[คุณบรรลุเป้าหมายความสำเร็จสูงสุด]
[คุณผ่านบททดสอบของชั้นที่ 20 ได้อย่างสมบูรณ์]
[ความสำเร็จของคุณจะถูกจัดอันดับ]
[คุณได้อันดับที่ 1 ]
[ความแข็งแกร่งของคุณเพิ่ม 1 จุด]
[ความไวของคุณเพิ่มขึ้น 2 จุด]
[สุขภาพของคุณเพิ่มขึ้น 2 จุด]
[ปัจจัยเวทย์เพิ่มขึ้น 2 จุด]
[คุณจะได้รับรางวัลพิเศษหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของคุณ]
[ยินดีด้วย คุณได้รับรางวัลพิเศษ – ‘ฮีโร่อมตะ]
[คุณจะไปชั้นถัดไปเลยหรือไม่]
“…”
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูฮยอนได้เห็นข้อความยาวเหยียดขนาดนี่
ถึงแม้สติของชั้นก่อนหน้าจะดีมากแค่ไหน แต่ข้อความที่ได้กลับมา มันก็ยังน้อยกว่าตอนนี้อยู่ดี
ที่มันยาวเป็นห่างว่าวขนาดนี้ แสดงว่าความสำเร็จของเขาต้องอยู่ในจุดสูงสุดจริงๆ
-ความช่วยเหลือจากอาณาจักรออสมัน
-ความช่วยเหลือจาก วีรบุรุษ พริสซิลลา
-ความช่วยเหลือจาก วีรบุรุษ เกอร์ชมันน์
-ความช่วยเหลือจาก วีรบุรุษ.....
ความหมายของข้อความก็ชัดเจนอยู่แล้ว...
ระบบกำหนดเวลาให้ 30 วัน ไม่แน่บางที เมื่อใกล้ถึงกำหนดเวลา ระบบอาจให้ซูฮยอนไปขอความช่วยเหลือจากตัวเลือกที่กำหนดให้
แต่โชคดีที่ซูฮยอนสามารถเคลียร์ชั้นที่ 20 ได้ก่อนที่จะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น….
“ลิชชี่ 4 ตัว กับ สาวกอีก 1 ตัว...เฮ้อ”ซูฮยอนถอนหายใจออกมา
“ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมความสำเร็จถึงเยอะขนาดนี้”
ซูฮยอนรู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของระบบ
แต่ก็มีเรื่องที่ซูฮยอนเสียใจอยู่บาง เพราะระดับเวทย์ที่เขาหวังว่ามันจะเพิ่มกลับไม่เพิ่ม
ซูฮยอนขอให้มันเพิ่มมาแค่ 1 ระดับก็ยังดี ถึงตัวเลขจะฟังดูน้อยแต่ถ้ามันเลื่อนระดับขึ้นเขาสามรถใช้งานสกิลที่ดีกว่านี้ได้อีก...
“อืม...ถึงจะไม่ได้ดั่งใจ แต่ได้ของรางวัลพิเศษกลับมาแทนมาก็ยังดี..”ซูฮยอนคิด
เขาได้รับคะแนนความสำเร็จถึง 100,000 คะแนน แถมสเตตัสโดยร่วมของเขายังเพิ่มขึ้นพรวดๆอีก
ยังไม่หมด เขายังได้สกิลใหม่ติดไม้ติดมือไปด้วย ซึ่งถือว่าไม่ได้แย่อะไร....
“ลาก่อนนะพี่ชาย”ซูฮยอนโบกมือให้แม็กซ์แมน
แม็กซ์แมนสะดุ้งด้วยความตกใจเพราะอยู่ๆ ซูฮยอนก็ตะโกนออกมาอย่างกระทันหัน
“เดี๋ยวก่อน...เจ้าหมายถึงอะไร..”
วิ๊ง วิ๊ง
ร่างกายของซูฮยอนเริ่มโปรงแสงอย่างช้าๆ แม็กซ์แมนพยายามตะเกียกตะกายไปหาซูฮยอนเต็มกำลัง
แต่ความตั้งใจของเขาก็ไม่สัมฤทธิ์ผล
[คุณกำลังเข้าสู่ชั้นที่ 21]
***********************
ตุ๊บ
เมื่อซูฮยอนกลับมาถึงห้องของตัวเอง เขาก็ลากสังขารที่อ่อนล้าแล้วกระโดดขึ้นเตียง
แม้เขาจะผ่านการทดสอบมาได้ด้วยดี แต่อาการบาดเจ็บของซูฮยอนก็ยังอยู่
ถึงแม้จะใช้ไอเทม สมบัติของแชร์ เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้หายได้ แต่มันก็สิ้นเปลืองเกินไป เพราะมันใช้ได้อีกแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
“ฟู่”ซูฮยอนถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า แม้จะกินยาแก้ปวดที่ซื้อจากร้านค้าไปเรียบแล้ว แต่อาการปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวก็ยังคงไม่หายไป
ถ้าซูฮยอนไม่ยอมพักผ่อนร่างกายของตัวเองสัก 2-3 วัน ความเจ็บปวดที่เขามี มันจะไม่มีทางหายไปแน่นอน...
“แม้จะบาดเจ็บ แต่อย่างน้อยฉันก็ทำสำเร็จสักที...”
ครอกฟี้ ครอกฟี้...............
ซูฮยอนเผลบหลับไปโดยไม่รู้ตัว ตามผ้าปูเตียงมีเลือดของซูฮยอนเลอะเทอะเต็มไปหมด
เขาใช้เวลานอนไป 1 วันเต็มๆ อย่างที่พวกผู้ใหญ่เคยบอกไว้ไม่มีผิดว่า การนอนคือยาวิเศษ ดูเหมือนมันจะเป็นความจริงจริง
เมื่อลืมตาตื่นขึ้น ซูฮยอนรู้สึกสดชื่นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า
“อืม...”ซูฮยอนส่งเสียงครางออกมาเบาๆ
แขนอีกข้างของซูฮยอนที่บาดเจ็บอยู่เริ่มมีลิ้มเลือดแกะติดบนบาดแผล เมื่อลองจ้องดูดีๆบาดแผลของเขามันน่ากลัวจริงๆ
แม้แผลมันจะหายได้เอง แต่มันก็ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บหายเลย มันยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าแผลจะหายสนิท
“ฉันคิดว่าควรไปโรงพยาบาลสักหน่อยก็ดี อย่างน้อยก็ได้อะไรมาปิดรอยแผล”ซูฮยอนคิด
เขาไม่สามรถเดินไปไหนมาไหนด้วยสภาพแขนที่น่าสยองแบบนี้ได้
ดูเหมือนการเจอกันระหว่างซูฮยอนกับแม่ของเขาคงต้องเลื่อนออกไปก่อน ถ้าเธอมาเห็นสภาพแขนของเขาตอนนี้ เธอคงเป็นห่วงเขาตายเลย
ติ๊ด...
มือถือของซูฮยอนที่วางไว้อยู่ๆก็มีข้อความเข้า
เขาหยิบมันขึ้นมาเพื่อตรวจดู เขาพบว่ามีสายที่ไม่ได้รับหลายสายโทรมาหา
ดูท่าทางซูฮยอนจะหลับลึกเกินไป แม้แต่แรงสั่นสะเทือนของมือถือเขายังไม่รู้สึก
“ฉันหลับลึกขนาดนั้นเลยรึ?”
ซูฮยอนลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วดูรายชื่อที่ไม่ได้รับ สายที่โทรมาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ลีจุนโฮ
-นายเคลียร์ชั้นที่ 20 ได้ภายในหนึ่งวันจริงดิ
-นายไม่สะดวกรับมือถืองั้นรึ สบายดีอยู่หรือป่าว ไม่เป็นไรแน่นะ”
-นายรู้หรือป่าวว่าตอนนี้ ใน อเวจีออนไลน์ กำลังพูดถึงเรื่องของคนที่เคลียร์ชั้นที่ 20 ได้ภายในหนึ่งวันอย่างกระหึ่มเลย
“อืม...มีโพสต์เร็วขนาดนี้เลย?”
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ชื่อเสียงของซูฮยอนยังคงถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องใน อเวจีออนไลน์
เมื่อเร็วๆนี้ มีมวลชนจำนวนมากลงมติว่าซูฮยอนคือ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่มีศักยภาพยืนอยู่ในตำแหน่งแรงค์ S ในอนาคตอย่างแน่นอน..
เพราะพวกเขารู้ว่าซูฮยอนเลือกระดับที่ 10 ตลอดตั้งแต่เข้าสู่หอคอยครั้งแรก....
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่จนมาถึงป่านนี้ ก็ยังไม่มีใครเห็นหน้าที่แท้จริงของซูฮยอนเลยสักคน...
“เฮ้อ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้ำเสียงของลีจุนโฮถึงมีความกังวลและตื่นเต้นปะปนมาด้วย”
ชั้นที่ 20 มันขึ้นชื่อเรื่องความยากอยู่แล้ว
ในเวลาปกติ เมื่อ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ถึงชั้นที่ 20 เขาจะลดระดับความยากของการทดสอบลง
แต่มันไม่ใช่กับซูฮยอน เขายังคงยืนกรานแล้วเลือกระดับที่ 10 เหมือนเดิม แถมเขายังเคลียร์มันได้ในหนึ่งวันอีกต่างหาก
ฉะนั้นไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนอื่นๆถึงกระเสือกกระสนควานหาตัวซูฮยอนในพบเพื่อดึงมาเป็นพรรคพวกของพวกเขา
“จริงสิ..เรื่องที่ฉันของร้องลีจุนโฮเป็นไงมั้งนะ..”
ซูฮยอนรีบเลื่อนหารายชื่อแล้วต่อสายไปหาลีจุนโฮทันที
หลังจากที่ซูฮยอนนัดหมายกับลีจุนโฮเสร็จ เขาก็รีบมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก..
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ซูฮยอนก็แจ้งเจ้าหน้าทีพยาบาลว่าแขนของเขาหักและอยากรับการรักษาโดยด่วนที่สุด….
เมื่อทางโรงพยาบาลรับรู้ เขาก็รีบพาซูฮยอนไปหาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบแขนที่หักทันที
“ดูสิ เธอไปทำอะไรมากันแน่ ทำไมถึงมีสภาพแบบนี้ แขนของเธอบาดเจ็บหนักมากเลยนะ”คุณหมอกล่าว
“เอ่อคือ..พอดีผมเป็น ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ก็เลยมีสภาพอย่างที่เห็น”
“เงียบก่อน แล้วร่างการของเธอ..”
“ผมไม่เป็นอะไรจริงๆครับ คุณหมอแค่ทายาและพันแผลให้พอเป็นพิธีก็พอครับ”
“เฮ้อ...”คุณหมอถอนหายใจออกมาและมองคนบ้าที่นั่งอยู่ตรงหน้า
แขนที่อ่อนปวกเปียก ยกเองยังแทบไม่ไหว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันทรมานมากแค่ไหน แต่ซูฮยอนกลับทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว.
ต่อให้ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ คนอื่นๆจะมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ถ้าพวกเขามาอยู่ในสภาพแบบเดียวกับซูฮยอน พวกเขาคงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดไปแล้ว
“ได้เดี๋ยวหมอทำให้ แต่ถ้าเธอมีอาการเจ็บปวดอีก ก็ให้รีบมาหาหมอนะ อ๊ะจริงสิ อย่าขยับแขนข้างที่บาดเจ็บบ่อยด้วย เข้าใจไหม”
“ได้ครับคุณหมอ”
ซูฮยอนตอบกลับคุณหมดอย่างเชื่อฟัง ถ้าเสร็จธุระจากโรงพยาบาล ซูฮยอนไม่มีแผนที่จะกลับมาที่นี่เป็นครั้งที่ 2 อีกเด็ดขาด
“บาลแผลภายนอกจะหายดีในหนึ่งวัน แต่บาลแผลภายในน่าจะอีกนาน”ซูฮยอนคิด
สิ่งที่ซูฮยอนคิดนั้นถูกต้อง เพราะบาลแผลบนแขนของเขา เริ่มจางหายไปแล้ว
แต่สิ่งที่ยากที่สุดคือการสมานกระดูกที่แตกออกจากกัน แต่ไม่ต้องห่วงถ้าแขนภายนอกเริ่มหายดี ซูฮยอนเชื่อว่าบาดแผลภายในคงเริ่มรักษาตัวของมันเองอย่างช้าๆ
ซูฮยอนคาดว่ามันน่าจะใช้เวลาไม่นาน กว่าแขนของเขาจะกลับมาขยับได้อย่างสะดวกอีกครั้ง
หลักจากรักษาเสร็จ....ลีจุนโฮที่รออยู่ชั้นที่ 1 ก็อดตกใจไม่ได้ เมื่อเห็นซูฮยอนเดินออกมาพร้อมกับแขนที่บาดเจ็บ
“นายไม่เป็นอะไรนะ”ลีจุนโฮถาม
“นายหมายถึงเจ้านี้สินะ”ซูฮยอนพูดพร้อมกับยกแขนที่เข้าเฝือกมาหมาดๆขึ้นโชว์
“ไม่ต้องเป็นห่วง สบายมาก”
“เดี๋ยวเถอะ เอาแขนลงเลยนะ”คุณหมอตะโกนเตือนซูฮยอนจากด้านหลัง
คุณหมอจ้องมองซูฮยอนด้วยสายตาตำหนิติเตียน พูดยังไม่ทันขาดคำ คนเจ็บก็ขยับแขนอีกแล้ว...
ซูฮยอนอดสรรเสริญคุณหมอท่านนี้ไม่ได้ เพราะคุณหมอท่านนี้มีจรรยาบรรณในอาชีพที่สูงส่งจริงๆ....