ตอนที่แล้วตอนที่ 140 สองสมาชิกพลัดหลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 142 ทุกคนล้วนเท่าเทียม

ตอนที่ 141 แมงมุมแม่ม่ายดำ


ตอนที่ 141 แมงมุมแม่ม่ายดำ

เจสเปอร์และหิมะน้อยรีบออกเดินทางไปยังพิกัดที่คาดว่าน่าจะเป็นจุดสุดท้ายของอามมี่ ก่อนที่จะพลัดหลงเข้าไปในอาณาเขตของรังแมงมุมแม่ม่ายดำ บอสประจำแผนที่ที่อาศัยอยู่ทางตอนบน เหนือป้อมปราการ Mirage Tower ซึ่งเป็นจุดเชื่อมพรมแดนระหว่างเมืองเก่าที่เคยล้มสลาย

“พี่เจส!!ทำไมต้องพาหนูมาที่แบบนี้ด้วย?” หิมะน้อยร้องง้อแง้ขึ้นมาทันที เมื่อตลอดสองข้างทางเริ่มมีหญ้ารกชันขึ้นปกคลุม หญ้าพลิ้วไหวไปตามแรงลมเอื้อยเฉยอย่างๆช้าสร้างบรรยากาศให้ดูน่าหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น

“ก็เพราะเธอเป็นจอมเวทย์ยังไงล่ะ! บอสแมงมุมตัวนี้มันแพ้ธาตุไฟ ไม่ให้ฉันพาเธอมาแล้วจะให้ฉันพาใครมา...พี่ไอรีนหรือไง”

แม้เจสเปอร์จะพูดย้อนศรประชดประชันจอมเวทย์น้อยคนนี้ แต่พอมองกลับไปที่ใบหน้าของหิมะน้อย เด็กสาวคนนี้กลับพยักหน้า งึก~ เห็นด้วย...เสียยังงงั้น ทำให้เจสเปอร์หมดคำพูดที่จะพูดต่ออีกเลย

“ถ้าพี่ไอรีนมาก็ดีสิ หนูรู้ว่าพี่ทั้งสองคนแอบชอบกันอยู่...สนใจให้หนูเป็นแม่สื่อให้ไหม หนูคิดราคาไม่แพงน่ะ เอ่อ...แค่ช่วยออกค่าเทอมให้หนูอีกเทอมเท่านั้นเอง!!”

“. . .”

เจสเปอร์นอกจากกินเอ็นหัวใจของมินิบอสไปแล้วชายหนุ่มยังต้องมากินจุดจากเด็กน้อยช่างเจรจาคนนี้เข้าไปเป็นอาหารว่างอีก

‘ออกค่าเทอมให้เธอเทอมหนึ่งอะไรกันอีกล่ะ แค่โบนัสที่ได้จากการแข่งขันทำความเสียหายภายในกิลด์นั้นยังไม่พออีกหรือไง อยากจะรู้จริงเชียว ใครกันที่ทำให้เด็กสาวใสซื่อช่างเจรจาคนหนึ่งที่เจอกันครั้งแรกที่ห้องสมุดเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้’ เจสเปอร์แอบบ่นอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้คิดจะต่อว่าความช่างพูดของน้องสาวคนนี้แม้แต่น้อย กลับดีซะอีกที่เด็กสาวคนนี้ช่างจ้อช่างเจรจา เพราะมันช่วยทำให้บรรยากาศที่วังเวงน่าขนลุก ไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไป

ผู้เล่นทั้งสองออกเดินทางขึ้นเหนือไปตามข้อความที่ส่งมา ไม่นานก็เข้าสู่อาณาเขตของแมงมุมแม่ม่ายดำ ซึ่งหากผู้เล่นที่เลือกผ่านเส้นทางนี้ไม่สังเกตความผิดปกตินี้ให้ดี คงไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังเดินเข้าสู่ดินแดนแห่งความตายโดยมีผู้ปกครองดินแดนคือ บอสแมงมุมแม่ม่ายดำ ที่เฝ้ารอเหยื่อทุกสายพันธ์ให้หลงเข้ามา

“หิมะน้อยระวังด้วย เรากำลังจะเดินเข้าไปในพื้นที่ของบอสแล้ว ทุกๆย่อมหญ้าล้วนเป็นอาณาเขตของมันหมด...ทางที่ดีเดินให้ชิดพี่ให้มากที่สุด”

ใยแมงมุมเส้นเล็กๆที่ขึงไปทั่วต้นไม้ใบหญ้าต้องปะทะกับร่างกายของเจสเปอร์ ใยเส้นเล็กๆพวกนี้คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าพวกเขากำลังเข้าสู่พื้นที่ของแมงมุมแม่ม่ายดำและเส้นใยพวกนี้ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องมือตรวจจับผู้บุกรุกให้กับบอสแมงมุมที่ว่านี้อีกด้วย

นิสัยของบอสแมงมุมแม่ม่ายดำ ถึงร่างกายของมันจะอ่อนแอ ไม่เหมาะกับการเป็นบอสแผนที่เหมือนบอสตัวอื่นๆ แต่อย่าได้ประมาทบอสตัวนี้มากจนเกินไป ความอ่อนแอของมันเป็นเพียงฉากบังหน้าที่เอาไว้ซ่อนความชั่วร้ายที่มีของมัน ในอดีตของเจสเปอร์บอสแมงมุมแม่ม่ายดำตัวนี้ถูกยกให้เป็น หนึ่งในบอสที่รับมือยากที่สุดอยู่พักใหญ่ๆ ผู้เล่นที่มีเลเวลอยู่ที่ 30-40 ล้วนต้องเคยพบพานกับมันหากคิดจะขึ้นไปเก็บเลเวลในจุดที่สูงกว่านี้ มันสร้างปัญหาถึงขนาดที่ว่าทำให้ผู้เล่นจำนวนมากกว่า 300 คน ต้องติดอยู่ในอาณาเขตของมันนานถึง 1 วัน ด้วยผลจากสกิลพิษที่ทำให้ผู้เล่นมีอาการประสาทหลอน ก่อนจะฆ่าผู้เล่นกลุ่มนั้นอย่างช้าๆ ด้วยการกัดกินร่างที่ละนิดๆ จนเหยื่อหมดลมหายใจ

‘ขอโทษด้วยหากฉันทำอะไรเกินเลยกับรังของแก!! แต่ฉันกำลังรีบและแกดันมาขังเพื่อนของฉันที่กำลังเก็บเลเวลกันอยู่ให้เสียเวลามากขึ้นไปอีก’

เจสเปอร์เปิดใช้งานสกิล [ดวงตาแห่งความจริง] ที่มีผลให้ตัวเขามองเห็นศัตรูที่กำลังล่องหนและบังคับให้ศัตรูเปิดเผยตัวขึ้นในระยะ 10 เมตรรอบตัวทั้งหมด

‘วูมมม’ แรงกดดันค่อยๆแผ่ออกจากร่างของเจสเปอร์ ก่อนจะพุ่งทะยานออกไปรอบตัว เพื่อตรวจจับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในที่แห่งนี้ พร้อมกับบังคับให้มันเปิดเผยตัว ทันทีที่แรงกดดันเคลื่อนผ่าน เส้นใยบางที่ถูกทักถอของบอสแมงมุมก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเจสเปอร์อย่างแจ่มชัด

เส้นใยพวกนี้หากมองผิวเผินอาจเหมือนกับเส้นใยที่ถูกสานออกมาอย่างมั่วๆ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น เส้นใยเล็กๆพวกนี้ถูกถักทอและเรียงร้อยให้เป็นตาข่ายที่ไม่มีช่องให้รอดผ่าน ไม่ว่าคุณจะวิ่งไปไหนหรือหนีไปที่ใด ก็ไม่อาจรอดพ้นไปจากสายตาของมันได้ มันเป็นกับดักที่แมงมุมนั้นสุดแสนจะภาคภูมิใจ แต่เมื่อต้องมาอยู่ต่อหน้า เจสเปอร์ ผู้ที่กลับมาพร้อมกับความรู้และความกระหายที่จะก้าวหน้า

เส้นใยอันแสนบอบบางพวกนี้ก็เป็นเพียงขนมสายไหมเส้นเล็กเท่านั้นเอง “หิมะน้อยเผาเลย!!” ถึงจอมเวทย์สาวจะงุนงงกับคำสั่งที่ได้รับ แต่ไม่มีครั้งไหนที่หัวหน้าที่เธอเคารพจะสั่งการออกมามั่วๆ สารพัดสกิลไฟถูกร่ายขึ้น สองมือของหิมะน้อยโอบอุ้มไปด้วยลูกบอลเพลิงที่ร้อนแรง ก่อนจะพุ่งไปตามจุดต่างๆที่เจสเปอร์กำหนด

ไฟเพลิงลุกไหม้ ไปทุกหนแห่ง จากป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า บัดนี้กลับกลายเป็นทะเลเพลิงขนาดย่อมๆ ด้วยความที่สถานที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตของแมงมุมแม่ม่ายดำทำให้ไม่มีมอนสเตอร์อาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ลูกบอลเพลิงและดาบธาตุของหิมะน้อยและเจสเปอร์จึงเผาไหม้ ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกฝูงมอนสเตอร์ตัวอื่น

เส้นใยแมงมุมแม่ม่ายดำไม่ได้ทำมาจากเหล็กกล้า มันจึงไม่สามารถทนทานความร้อนจากไฟที่ร้อนระอุนี้ได้...ไฟเพลิงค่อยรุกรามไปตามกระแสลม เส้นใยน้อยใหญ่ค่อยๆถูกเผาไหม้ ‘กรรรรรรี้!!’ ในที่สุดบอสแมงมุมแม่ม่ายดำก็ไม่อาจทนต่อการกระทำของผู้บุกรุกกลุ่มนี้อีกต่อไปแล้ว

[แมงมุมแม่ม่ายดำ: LV 50 (บอสแผนที่)]

[พลังชีวิต: 85,000]

[พลังโจมตี: 436-541]

“โผล่มาสักที ต้องให้ฉันเผาอยู่ได้ตั้งนาน” ใบดาบที่ห่อหุ้มไปด้วยเวทย์ Enchant (เคลือบธาตุ) ของผู้ควบคุมธาตุกวัดแกว่งไปทั่วทุกสารทิศ สายตาจับต้องไปยังร่างขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ที่มาพร้อมกับลำตัวสีดำตามชื่อพันธุ์ของมัน ขาทั้งแปดเดินสลับกันยั่วเยี่ย มีขนอ่อนๆตามเรี่ยวขาทั้ง 8 ไว้คอยเกี่ยวรัดเส้นใยที่มันสร้างขึ้นเพื่อดักจับเหยื่อ ด้านบนหน้าท้องเป็นรูปนาฬิกาทรายสีแดง สร้างความสยดสยองให้กับผู้ที่พบเห็นได้ไม่น้อย

ส่วนสาเหตุที่บอสตัวนี้ถึงมีชื่อว่าแมงมุมแม่ม่ายดำ ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เผ่าพันธุ์ของมันตัวเมียมักจะกินตัวผู้หลังจากการผสมพันธุ์กันเสร็จนั่นเอง คล้ายกับแมงมุมแม่ม่ายในโลกแห่งความจริงไม่น้อย

ด้วยสกิลดวงตาแห่งความจริง ทำให้เจสเปอร์มองเห็นร่างของบอสที่เดินอำพรางตัวไปตามเส้นใย กำลังตรงเข้ามาหาเขาและหิมะน้อย ก่อนที่จะเผยอเดือยอันแหลมคมจากปากของมันพุ่งเข้าหาศัตรูผู้บุกรุกด้วยความก้าวร้าวและโกรธจัด

‘พรึ่บ!!’ เจสเปอร์กลิ้งตัวหลบการโจมตีที่ว่านั้นได้อย่างชำนิชำนาญ หันใบดาบตวัดกลับไปเพื่อฝากรอยแผล ลูกบอลพลังธาตุผุดขึ้นลอยวนเวียนข้างตัวเจสเปอร์เหมือนเช่นทุกครั้งที่โจมตี ตามด้วยศรไฟจากหิมะน้อยที่ร่ายเสริมขัดขวางการโจมตีต่อเนื่องของบอสแมงมุม

บอสแมงมุมที่ถูกตีขัดหันไปมองจอมเวทย์สาวที่สอดแทรกการต่อสู้ของมันด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดก่อนจะพ่นใยที่เหนี่ยวข้นของมันเข้าใส่ทางหิมะน้อยที่กำลังเตรียมร่ายเวทย์บทต่อไป เส้นใยเมื่อถูกลมจากอากาศช่วยเสริม จากเส้นใยเส้นเล็กก็ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น ระยะทางที่ห่างจากบอสและหิมะน้อยมีอยู่ด้วยกันถึง 5 เมตร ซึ่งเมื่อเส้นใยได้ตกกระทบกับร่ายของเด็กสาวจอมเวทย์ เส้นใยที่ว่านี้ก็หนาและใหญ่มากพอจะทำให้หิมะน้อยกลายเป็นดักแด้

หิมะน้อยสติเริ่มเลือนรางด้านหน้าจอแสดงสถานะติดพิษ ดูเหมือนเส้นใยพวกนี้จะมีพิษจากแมงมุมแม่ม่ายดำผสมอยู่ด้วย ความเสียหายจากพิษค่อยๆกัดกินร่างเธอไปที่ละน้อย

ในระหว่างเดียวกันเจสเปอร์ก็รีบตรงเข้ามาช่วยอย่างรวดเร็ว สกิลปกป้องที่ผู้ควบคุมธาตุมีทั้งหมดถูกร่ายเข้าใส่ไม่ว่าจะเป็น [Wall of Protection!!] หรือ [Fire Area!!] ที่ช่วยป้องกันการโจมตีและช่วยไม่ให้แมงมุมเข้ามาใกล้ ถูกขับขานออกมาโดยแทบไม่ได้พักหายใจ แสดงออกถึงความชำนาญและประสบการณ์ที่มากล้นของเจสเปอร์

แม้หิมะน้อยจะมองเห็นการต่อสู้ของเจสเปอร์ได้แบบเลือนราง แต่เด็กน้อยคนนี้ก็พอจะรับรู้ได้ว่าการต่อสู้ภายนอกตอนนี้กำลังดุเดือดมากแค่ไหน เสียงระเบิด เสียงเผาไหม้ ล้วนเป็นไปตามจังหวะ

เจสเปอร์อาจจะดูเหมือนเป็นคนที่พึ่งพาตัวเองได้โดยไม่ต้องอาศัยคนอื่นเข้าช่วยเหลือในการต่อสู้ แต่จริงๆแล้วเขาเองก็รู้ว่าตัวเองยังมีจุดบกพร่องอยู่มากเช่นกัน แต่ที่เขายังรับมือกับบอสพวกนี้หรือมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งในตอนนี้ได้ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากประสบการณ์ที่มากกว่าคนอื่นก็เท่านั้นเอง หากเขาแข็งแกร่งจนไม่มีใครทัดเทียมได้อย่างที่คนอื่นพูดจริงหรือไม่มีจุดบกพร่องให้เห็นเลย ป่านนี้ในอดีตเขาคงก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด นำพากิลด์ The Myth ครอบครองอาณาจักรกรีนเวต้าไปแล้ว

เจสเปอร์รู้ตัวว่าเขายังแข็งแกร่งได้มากกว่านี้ เขาเองก็ต้องการเวลาเหมือนเช่นคนอื่นๆ ประสบการณ์ 8 ปี หรือ 10 ปี ชายหนุ่มไม่ได้พอใจเพียงแค่นั้น เขายังกระหาย เขายังอยากเติบโตและที่สำคัญที่สุดเขาอยากแข็งแกร่ง

‘บรึ้มม!’ เสียงระเบิดดังกึกก้อง พื้นป่าสั่นไหว ‘เกิดอะไรขึ้น ฉันมาทำอะไรตรงนี้??’ เสียงระเบิดที่ดังมาจากระยะทางไม่ห่างไกล ปลุกสองชายหนุ่มให้ตื่นขึ้นจากภาพหลอน อันธพาลหนุ่มมึนงงกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ เขาได้สติขึ้นหลังจากที่เห็นก้อนหินขนาดใหญ่เป็นมินิบอสหมีภูเขา ซึ่งหากมองจากมุมมองบุคคลภายนอกคงเป็นอะไรที่น่าตลกยิ่งนัก ที่ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังหยอกเย้าก้อนหินเสมือนผึ้งน้อยกำลังดอกดมดอกไม้เพื่อหา

อามมี่อันธพาลหนุ่มว่าอับอายขายขี้หน้าแล้ว หันกลับมาทางสลิปที่นอนอยู่ข้างๆน่าอับอายเสียยิ่งกว่า สลิปผู้เบิกทางถูกใยแมงมุมของบอสรัดสองขาเอาไว้อย่างเหนียวแน่นถูกภาพหลอนโจมตีด้วยการคิดว่าตัวเองกำลังลากมอนสเตอร์จำนวนมากกลับมาหาเพื่อนๆใบหน้าแสดงออกถึงรอยยิ้มประหนึ่งว่าตัวเองต้องได้รับคำชมแน่ๆที่ลากมอนสเตอร์กลับมาได้มากขนาดนี้ ทำให้ภาพที่เห็นคือร่างของชายคนหนึ่งที่สองขาถูกพันธนาการ นอนหมุนไปมาเป็นวงกลมอยู่กับที่ แต่ก็ถือเป็นโชคดีที่ชายทั้งสองถูกบอสแมงมุมแม่ม่ายดำจับแยกออกมาอยู่ในรังของมันทำให้เจสเปอร์และหิมะน้อยไม่ได้เห็นการกระทำที่ว่านี้ เรื่องราวทั้งหมดจึงรู้กันแค่อามมี่และสลิปสองคน ทำให้ทั้งสองมีเรื่องมาขู่กันและกันเวลามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไปตลอด

เจสเปอร์ปลดปล่อยสกิล [Infernal Element] ที่สะสมลูกบอลพลังธาตุเอาไว้แค่นิดหน่อย เพื่อสลายบรรดาฝูงลูกๆแมงมุมที่ถูกเรียกออกมาจำนวนมากและกำลังเข้าไปกัดกินหิมะน้อยที่ถูกขังอยู่ในเส้นใยของบอสแม่แมงมุม ถึงพลังธาตุที่สะสมเอาไว้จะไม่รุนแรงเทียบเท่าครั้งก่อนๆ แต่แรงระเบิดที่กระจายออกไปก็ส่งให้ผลให้บรรดาแมงมุมตัวน้อย หลายสิบตัวตกตายลง ขาของมันชี้ขึ้นฟ้าหงิกงองุมเข้าหาตัว พร้อมกับแปรเปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์ให้กับเจสเปอร์และหิมะน้อย ที่มากพอสมควร

ลูกแมงมุมที่ถูกบอสเรียกออกมา ถือเป็นมอนสเตอร์ชนิดหนึ่งที่ให้ค่าประสบการณ์เช่นเดียวกัน แต่บรรดาลูกน้องพวกนี้จะให้ค่าประสบการณ์แค่การเรียกครั้งแรกเท่านั่น หากบอสทำการเรียกลูกน้องอีกเป็นครั้งต่อไป ลูกน้องที่ถูกเรียกจะไม่ให้ค่าประสบการณ์ใดๆอีก เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นเลี้ยงบอสและปั้มค่าประสบการณ์จากบรรดาลูกน้องพวกนี้เหมือนเกม MMORPG สมัยยุคแรกๆ

แมงมุมแม่ม่ายดำมองดูลูกๆของมันตกตายลงไปต่อหน้าต่อตาด้วยความคลุ้มคลั่ง มันยิงใยจากปากของมันไปทั่วทุกสารทิศ ดวงตาหลายคู่จับจ้องไปที่ผู้ควบคุมธาตุที่เอาแต่วิ่งหลบ.เจสเปอร์เหวี่ยงดาบที่เคลือบไปด้วยไฟ ตัดผ่านเส้นใยที่เกะกะขวางทางหรือตัดผ่านเส้นใยจากบรรดาแมงมุมที่โจมตีเข้ามา ก่อนจะพบว่ามีลำแสงสายหนึ่งปรากฏขึ้นพุ่งผ่านตนไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงที่คุ้นหูดังมาจากทางด้านซ้ายและขวาสลับกันไป

ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าทั้งสองสิ่งนี้คืออะไร เขารีบเปลี่ยนความคิดจากเดิมที่จะดึงการต่อสู้ให้ออกห่างจากหิมะน้อยที่ถูกพันธนาการอยู่กลางวงล้อมออกไปให้มากที่สุดแล้วค่อยวนกลับมารับน้องสาวคนนี้ เมื่อจัดการบอสแผนทีตัวนี้ลงแล้ว ถึงกระนั้นแผนการก็ต้องปรับเปลี่ยน เพราะเวลานี้เป็นเวลาที่จะให้คนอับอายขายขี้หน้าทั้งสองคนได้แก้ตัวจากการสะเพร่าผลัดหลงแล้ว...

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ

www.facebook.com/writelazy

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด