ระบบใช้จ่ายตอนที่ 79
ติดตามผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:แปลNiyay
บทที่ 79: ความแตกต่างของการให้ทิปเงิน
ในขณะที่หงต้าหลี่และแก๊งค์ของเขากำลังพูดคุยกันเรื่องแผนการกันอย่างตื่นเต้น จีเทียนหยูก็พาจิจื่อยั่วกลับบ้านเพื่อเตรียมการ ตอนนี้เขาได้รับการสนับสนุนจากอาเสี่ยอย่างหงต้าหลี่และในอนาคตทุกอย่างคงดำเนินไปได้ด้วยดี
หลังจากผ่านไปสิบนาที ก็มีเสียงตะโกนดังออกมาจากนอกประตู จากนั้นก็มีเสียงแฟลชจากกล้องจำนวนมากมาจากช่างภาพทั้งหลายที่กดชัตเตอร์พร้อมๆกัน จากการกระทำของนักข่าวและช่างภาพในงานปาร์ตี้ส่วนตัวถือว่าเป็นการกระทำที่บ้าคลั่งมาก อาจจะเป็นเพราะ 3 นาทีก่อนหน้านี้ มีบุคคลปริศนาที่ปรากฏตัวหน้าประตูทางเข้า ซึ่งคนๆนั้นก็คือผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาในห้อง พวกเธอทั้งสองต่างยิ้มได้สง่างามมาก พวกเธอมีผู้ติดตามสิบคนและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล้อมรอบอยู่ เมื่อหงต้าหลี่หันไปมอง เขาก็พบว่านั้นคือลี่เนียนเหว่ยและผู้จัดการจางไกที่พึ่งมาถึง
"ฉันคิดไม่ถึงว่าน้องเนียนเหว่ยของฉันจะมาอยู่ที่นี่" หงต้าหลี่สูดลมหายใจเข้าและพูดว่า "แสดงว่าความสามารถและอำนาจของผู้จัดงานเลี้ยงในที่นี้หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เขายิ่งใหญ่แน่ๆ"
ลี่เนียนเหว่ยสวมชุดเดรสสีดำยาวที่ลากอยู่ข้างหลัง เธอดูสง่างาม ทำให้เธอดูโดดเด่นในทันที ผมของเธอปล่อยยาวประบ่าของเธอและเธอก็สวมใส่รองเท้าส้นสูงสีดำ รูปร่างหน้าตาโดยรวมของเธอดูธรรมชาติ แต่ชุดที่เธอสวมใส่นั้นก็มีการออกแบบที่ไม่ธรรมดา
เธอกำลังเดินและมองไปรอบ ๆ เธอมีเสน่ห์เหมือนแสงอาทิตย์ที่สาดส่องจนคนอื่นแทบทนไม่ไหวที่จะมองไปที่เธอ ทุกคนที่เธอมองไปต่างก็รู้สึกประหม่าและดูด้อยกว่าเธอ
สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดในวันนี้ คือ คอของเธอ สร้อยคอแพลตตินั่มบาง ๆ ที่อยู่ตรงคอของเธอนั้นมีแสงสะท้อนออกมา ทำให้คอของเธอดูเนียนและเผยผิวขาวออร่า และสิ่งที่ทุกคนประหลาดใจ คือ สร้อยเส้นนั้นมีจี้เป็นเหรียญดอลลาร์!
ผู้สื่อข่าวหลายคนยกไมโครโฟนของพวกเขาขึ้นมาและถามว่า "มิสเนียนเหว่ยครับ เหตุใดสร้อยคอถึงเป็นจี้เหรียญดอลลาร์ครับ? มันมีความหมายพิเศษหรือความสำคัญหรือไม่ครับ? เหรียญนี้ดูเหมือนจะเป็นแค่เหรียญดอลลาร์ธรรมดาหนึ่งเหรียญนี้ครับ เป็นไปได้ไหมว่า…นี่เป็นเหรียญที่นายน้อยคนนั้นมอบให้คุณ?"
"ใช่ค่ะ" ใบหน้าของลี่เนียนเหว่ยมีรอยยิ้มเล็กน้อยและเสียงของเธอนั้นช่างบริสุทธิ์เหมือนเสียงหยดน้ำ "นี่เป็นเพียงเหรียญดอลลาร์ธรรมดาหนึ่งเหรียญ แต่ในใจของฉัน มันเป็นสมบัติล้ำค่าค่ะ"
พอได้ยินประโยคนี้ ก็ทำให้ทุกคนแทบอยากจะร้องไห้
ตั้งแต่ลี่เนียนเหว่ยปรากฏตัวในงานปาร์ตี้ส่วนตัวนี้ เธอก็เปล่งออร่าบดบังไท่ยาฉิงไปหมดสิ้นเลย ไท่ยาฉิงยืนอยู่ห่างจากลี่เนียนเหว่ยและกำลังควงแขนของหงอันเปาอยู่ ไท่ยาฉิงมองไปที่ลี่เนียนเหว่ยและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ว่า "เธอก็เป็นแค่มือใหม่ที่ถูกเก็บไว้ในฐานะเมียน้อย แล้วเธอจะมาอวดดีอะไรกัน?"
ลี่เนียนเหว่ยเดินเข้ามาหาตรง ๆและผู้คนโดยรอบก็แหวกทางให้เธอเดินและตอนนี้เองพวกเขาก็เริ่มปรบมือในขณะที่เธอเดินผ่าน เมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้ไท่ยาฉิง เธอพยักหน้าเบา ๆและยิ้ม "ยินดีที่ได้รู้จักนะคะรุ่นพี่ ฉันเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้ว ในที่สุดฉันก็ได้พบคุณ ฉันสามารถทำตามความฝันเหมือนคุณได้แล้วค่ะ ในอนาคตก็ได้โปรดช่วยแนะนำอะไรหลายๆอย่างให้ฉันด้วยนะคะ " คำพูดที่ไท่ยาฉิงดูถูกหงต้าหลี่เมื่อไม่นานมานี้ก็เหมือนจะย้อนกลับมาหาเธอในตอนนี้ แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงและการแสดงออกต่างก็มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ไท่ยาฉิงก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับผู้สื่อข่าวมากมาย ท้ายที่สุดแล้ว ในอนาคตพวกเธอทั้งคู่ก็จะต้องทำงานในวงการบันเทิง ไท่ยาฉิงก็ได้แต่พูดอย่างไม่เต็มใจไปว่า "ไม่ต้องสุภาพนักหรอก ยังไงในอนาคตเราก็ต้องดูแลซึ่งกันและกันอยู่แล้ว"
"ขอบคุณค่ะ" ลี่เนียนเหว่ยยิ้ม และไท่ยาฉิงก็พูดต่อไปอีกว่า
"แต่ยังไงก็อย่าอวดดีไปนะ เธอมันก็แค่คนโง่คนหนึ่ง ในอนาคตเธอก็เป็นได้แค่นกน้อยในกรงทอง ตอนนี้เธออาจจะยังเป็นที่รักของหงต้าหลี่อยู่ แต่ในอนาคตของเธอ ยังไงก็พัง" แน่นอนว่าไท่ยาฉิงไม่ได้พูดแบบนี้ออกไป เธอได้แต่คิดในใจเท่านั้น
ในขณะนั้นเอง หงต้าหลี่ก็ได้เดินมาหาและต้อนรับเธอด้วยรอยยิ้ม เมื่อพวกเขาพบกัน หงต้าหลี่กอดแขนของลี่เนียนเหว่ยและพูดว่า "น้องเนียนเหว่ย มางานปาร์ตี้ด้วยหรอ? วันนี้เธอดูสวยมากเลยนะ ฉันจะให้ทิปเงิน 50,000 หยวน! และให้มิสจางไกด้วย! "
"ขอบคุณค่ะ ท่านนายน้อย" เมื่อได้ยินแบบนั้น แต่ลี่เนียนเหว่ยก็ไม่ได้รู้สึกอายเลย เธอยิ้มและพูดว่า "ท่านนายน้อยมาที่นี่นานหรือยังคะ? เมื่อไม่นานมานี้ฉันได้ยินเกี่ยวกับงานปาร์ตี้ส่วนตัวและรู้ว่าจะมีการประมูลเพื่อการกุศลที่นี่ ฉันก็เลยมาที่นี่เพื่อร่วมสนุกและมีส่วนร่วมกับการช่วยเหลือสังคมเช่นกันนะคะ แฮะแฮะ"
แม้ว่าลี่เนียนเหว่ยจะพูดแค่นิดหน่อย แต่ในความเป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างที่เธอจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาเลย สำหรับปาร์ตี้ส่วนตัวในวันนี้ ผู้ที่เข้าร่วมงานรวมถึงไท่ยาฉิงต่างก็เป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง หงอันเปา ผู้อำนวยการฮวงจากสถานีโทรทัศน์และหลิวหมิงซิน แน่นอนว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือคนจัดงานจะต้องมีอิทธิพลพอสมควร เพราะเขาสามารถดึงดูดผู้คนที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลมากมายมาที่นี่ได้
หงต้าหลี่ไม่แน่ใจ แต่เขารู้ว่าหลิวหมิงซินเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมาก คนธรรมดาคงไม่สามารถเชิญเขามาที่นี่ได้
ขณะที่หงต้าหลี่และลี่เนียนเหว่ยพูดคุยกัน ไท่ยาฉิงที่กำลังฟังพวกเขาด้านข้างในตอนนี้ ในใจของเธอก็รู้สึกคับแค้นใจ "ทำไมฉันถึงได้ทิปเงินแค่ 20,000 หยวน แต่นางเนียนเหว่ยได้ทิปเงิน 50,000 หยวน? มันดูแตกต่างมากเกินไปไหม?"
เธอโชคดีที่หงต้าหลี่ไม่รู้สิ่งที่เธอคิดอยู่ เพราะไม่งั้นเขาอาจจะบอกเธอว่า 20,000 หยวนนั้นอาจมากเกินไปสำหรับเธอ เธอควรจะได้ทิปเงินแค่ 200 หยวนเท่านั้น
และตอนนี้ ดูเหมือนว่าหงอันเปาและไท่ยาฉิงจะอยู่เป็นคู่ แต่สำหรับหงต้าหลี่เขากลับดูมีออร่าสง่าราศีมากกว่า เพราะเขามีสองสาวที่สวยมาก ยืนประกบอยู่ข้าง ๆ เขา นั้นก็คือถังมู่ซินและลี่เนียนเหว่ย นอกจากนี้เขายังมีเก้าผู้ติดตามบวกกับคนขับรถอีกหนึ่งคนเดินตามเขา มันจึงเป็นฉากที่น่าทึ่งจริงๆ เพียงแค่มองดูใคร ๆ ก็สามารถบอกได้ว่าหงต้าหลี่เป็นคนที่ยอดเยี่ยมและเจ้าสำราญ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่หงต้าหลี่ต้องการให้ผู้คนจดจำเขา
อย่างที่คาดไว้ คนสองกลุ่มนี้ทำตัวเป็นมิตรแค่ผิวเผิน แต่ภายในก็แอบคิดชั่วร้ายซึ่งกันและกัน แต่แล้วก็มีเสียงชายหนุ่มที่นุ่มลึกน่าฟังดังขึ้น "สงสัยจังว่าใครที่มาพร้อมกับขบวนที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ อ๊ะ!อย่างที่คาดไว้ ท่านนายน้อยต้าหลี่นี้เอง โอ้? ลี่เนียนเหว่ยก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ผมหลิวหมิงซิน สวัสดีครับ ลี่เนียนเหว่ย"
ใครบางคนที่พูดในลักษณะนี้และพูดอย่างเป็นธรรมชาติและเป็นผู้ที่ใครๆก็ให้ความรักแก่เขา นั่นก็คือ นายใหญ่จากตระกูลหลิว หลิวหมิงซิน ที่พึ่งมาถึงในงานเลี้ยงนี้ เมื่อเขาพูดจบ ผู้คนรอบข้างก็กรีดร้องอีกครั้งทันที
ส่วนนี้ก็คือเหตุผลที่หงต้าหลี่ไม่ชอบผู้ชายคนนี้ หลิวหมิงซินที่ดูหล่อเหลาเหมือนอาชญากรจนทำให้คนกรี๊ดนี้แหละ
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ลี่เนียนเหว่ยก็หันมาพยักหน้าเบา ๆ และอยู่ห่างจากเขาเล็กน้อย สำหรับหงต้าหลี่แล้ว เขาเพียงแค่ยิ้มและพูดว่า "โอ้ นายใหญ่หลิวของพวกเรา ฉันกำลังพูดถึงนายอยู่เลยว่าทำไมถึงมาช้านัก มา มา มา ฉันจะแนะนำคนนี้ให้คุณรู้จัก"
หงต้าหลี่คว้าแขนเสื้อแล้วพูดต่อหงอันเปา "นี่คือพี่ชายของฉัน หงอันเปา เขาเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจโดยมีบริษัทเครื่องดื่มกระทิงอยู่ภายใต้ชื่อของเขาล่ะ โอ้ ใช่!ฉันเห็นโฆษณาของเขาไปทุกที่ น่าประทับใจจริงๆ!"
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูกัน แต่การได้ยินหงต้าหลี่ชื่นชมเขาต่อหน้าผู้คนจำนวนมากยังคงทำให้เขารู้สึกดี หงอันเปารีบยื่นมือออกมาแล้วยิ้มอย่างจริงใจที่สุดและพูดว่า
"สวัสดี สวัสดี"
เมื่อหลิวหมิงซินเอื้อมมือมาจับมือหงอันเปา หงต้าหลี่พูดอีกครั้งว่า "นี่คือหลิวหมิงซิน หืม…ฉันเกือบลืมไปแล้วแฮะ อ่อ เขามีบริษัทเกมเป็นของตัวเองด้วยน่ะ มันมีชื่อว่าอะไรนะ? จริงๆแล้วเขาเป็นคนที่น่าเกรงขามและดูดีกว่าฉันมากเลยล่ะ
หลิวหมิงซินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า "สวัสดีครับ ผมเป็นผู้อำนวยการของหมิงซินเน็ตเวิร์ค ยังไงก็ยินดีที่ได้พบกันนะครับ หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันครับ"
พวกเขาพูดพร้อมกับจับมือกัน
หงต้าหลี่ ถังมู่ซินและกลุ่มที่เหลือของเขาก็เกือบจะหัวเราะออกมาแล้ว หลิวหมิงซินคนนี้เป็นอัจฉริยะทางธุรกิจและหงอันเปาเป็นคนที่หยิ่งทระนงในตนเองเสมอ คนหนึ่งอยู่ในตระกูลหง ในขณะที่อีกคนเป็นคนของตระกูลหลิว ซึ่งถือว่าเป็นศัตรูกัน แถมในตอนนี้พวกเขาทั้งสองได้ประจันหน้ากันแล้ว หงอันเปาอาจไม่กล้าต่อต้านหลิวหมิงซิน แต่หลิวหมิงซินนั่นกล้าปะทะหงต้าหลี่ ดังนั้นพอต้องเจอกับหงอันเปาคงไม่เหลือ
แผนการง่ายๆนี้คือการใช้หมาป่าเพื่อกินเสือ ในอนาคตคาดได้เลยว่าหงอันเปาจะต้องกังวลเรื่องของหลิวหมิงซินแน่
และในส่วนที่ยอดเยี่ยม คือ ทั้งคู่รู้จักกันเพราะหงต้าหลี่ แถมในตอนนี้ไท่ยาฉิงยังมองหลิวหมิงซินอย่างไม่ละสายตามานานกว่าสองวินาที นับตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาในห้อง ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีระเบิดที่สามารถปะทุได้ตลอดเวลา อาจเป็นไปได้ว่าคงจะมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมให้เพลิดเพลินในเวลาต่อจากนี้แน่นอน