ระบบใช้จ่ายตอนที่ 77
ติดตามผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:แปลNiyay
บทที่ 77: ฉันว่าหมูยังน่าควงกว่าอีก
"ให้ทิปเงินเธอ 20,000 หยวน!"
เมื่อถังมู่ซินได้ยินสิ่งที่หงต้าหลี่พูด เธอก็เอามือปิดปากและหัวเราะเบาๆ ส่วนไท่ยาฉิงนั้น คิ้วของเธอขมวดเข้าด้วยกันด้วยความโกรธ "นี้นาย นายเป็นคนประเภทไหนกันถึงกล้ามาทำกับฉันแบบนี้? นายคิดว่าฉันจะต้องการเงินจากนายหรอไง! นายคิดว่าตัวนายวิเศษวิโสรวยเงินทองแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรอ? "
หน้าของหงอันเปาบ่งบอกได้เลยว่าเขากำลังโกรธมาก เขาเอามือทุบโต๊ะอย่างแรงพร้อมกับพูดออกมาว่า "มันจะมากเกินไปแล้วนะ! นายพูดแบบนี้กับมิสไท่ยาฉิงได้ยังไง? "
" โอ้?" หงต้าหลี่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ " งั้นฉันจะไม่พูดอะไรกับเธออีกแล้ว เสี่ยวหยี่ เธอรับทิปเงินไปแทนนะ " ขณะที่หงต้าหลี่กำลังพูด เขาก็เริ่มรู้สึกหิวอีกครั้ง "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะกินข้าวต่อ นายไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ ฉันในตอนนี้น่ะกำลังหิวจริง ๆ " ก่อนที่เขาจะมางานประมูลการกุศล เขาไม่ได้กินอะไรมามากนัก หลังจากเกิดเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ เขาก็รู้สึกหิวจริงๆ
"อันเปา ไปกันเถอะ ที่นี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะ มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกที่จะสนใจคำพูดของคนโง่แบบนี้ " เมื่อเห็นว่าหงต้าหลี่เริ่มกินอาหาร ไท่ยาฉิงก็จับแขนของหงอันเปาและพูดว่า "เขาไม่สุภาพเลยนะ ฉันไม่อยากจะเจอหน้าเขาอีกแล้ว" ไท่ยาฉิงเองก็ทราบว่าความสัมพันธ์ระหว่างหงต้าหลี่และหงอันเปานั้นไม่ค่อยดีนัก
" โอ้?" เมื่อได้ยินแบบนี้ หงต้าหลี่ก็หันกลับมามองช้า ๆ และมองไปที่หงอันเปา จากนั้น ก็มองไปที่ไท่ยาฉิงที่กำลังควงแขนของหงอันเปาอย่างรักใคร่ ทันใดนั้นหงต้าหลี่ก็ตะคอกและหันหลังไปอีกทางทันที "ฉันว่านะ ควงแขนหมูยังจะดีซะกว่า ..."
เมื่อได้ยินแบบนั้น หงอันเปาก็ยิ้มอย่างเย็นชาและโมโหทันที "นายว่ายังไงนะ! หมูหน้าตาดีกว่าฉันงั้นหรอ?"
ถังมู่ซินและเก้าผู้ติดตามกำลังหัวเราะกันอยู่ จนพวกเขาแทบจะหายใจไม่ออก หงอันเปาคนนี้ร่วมมือดีจริง ๆ เขาตอบสนองต่อคำยั่วยุของหงต้าหลี่แทบจะในทันที
หงต้าหลี่ใช้ตะเกียบคีบเนื้อเข้าปากของเขาและตอบอย่างเกียจคร้านว่า "หมูมันยังช่วยบรรเทาความหิวโหยของฉันได้ แต่การมองนายดันทำให้ฉันนึกถึงทะเล"
"นึกถึงทะเล?" ถังมู่ซินถามด้วยความอยากรู้ "ต้าหลี่ ทำไมนายนึกถึงทะเลเหรอ?"
หงต้าหลี่ยังคงกินเนื้ออย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่เขาพูดว่า "ไม่มีอะไรมาก ก็แค่รู้สึกเมาเรือเหมือนจะอ้วก ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกแบบนั้น ฉันจะนึกถึงทะเล"
ทุกคนทรุดตัวลงและหัวเราะอย่างหนัก
"หงต้าหลี่ รอไปก่อนเถอะ เมื่อถึงเวลาประชุมตระกูล ฉันจะทำให้นายต้องทุกข์ทรมานเอง! " หงอันเปาโกรธมากจนเขาหวังจะให้หงต้าหลี่สำลักข้าวตาย ในขณะเดียวกันเขาก็ดึงไท่ยาฉิงเดินออกไปให้พ้นคนบ้า "ในสองสามวันที่จะถึงนี้ผมจะให้คุณทำอะไรสักอย่าง เมื่อถึงตอนนั้น จะมีคนคอยดูแลคุณ" ไท่ยาฉิงตอบกลับทันที "ได้ค่ะ"
หงต้าหลี่มองไปที่ถังมู่ซิน "เธอยังวางแผนที่จะขอลายเซ็นของไท่ยาฉิงอีกหรอ ดูไงก็ไม่คุ้มค่า"
"ไม่ ฉันไม่ต้องการแล้ว!" เห็นได้ชัดว่าไท่ยาฉิงอยู่ข้างหงอันเปา ดูๆแล้วพวกเขาสนิทกันมาก ถึงแม้ว่าไท่ยาฉิงต้องการที่จะให้ลายเซ็นกับถังมู่ซิน แต่ตอนนี้ถังมู่ซินก็ไม่ได้สนใจอีกแล้ว การยืนหยัดของสาวน้อยคนนี้ช่างแข็งแกร่งจริงๆ
และเมื่อพูดถึงอาหารในงานประมูลนี้ ถึงแม้ว่าการตกแต่งจานอาหารจะดูธรรมดาๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารสชาติของอาหารมันค่อนข้างดี
ในไม่ช้า หงต้าหลี่ก็อิ่ม จากนั้นเขาก็ได้พบมุมที่มีคนอยู่น้อยและเขาก็ได้นั่งพักที่โซฟารออาหารย่อย เก้าผู้ติดตามของเขายืนเรียงกันเป็นแถว ขณะที่ถังมู่ซินนั่งข้าง ๆและมองผู้คนที่กำลังยิ้มแย้มมีความสุขในขณะที่พวกเขากำลังเต้นอยู่แถวสระว่ายน้ำ มันเป็นฉากที่อบอุ่นและดูตลก ๆ เมื่อมองดูรวม ๆ แล้วบรรยากาศมันดูหรูหราและสิ้นเปลืองเกินเหตุพอสมควร
ขณะที่พวกเขากำลังพัก หงต้าหลี่ก็ได้ยินบทสนทนาจากคนสองคนที่อยู่ใกล้พวกเขา
มีคนคนหนึ่งพูดว่า "ผู้อำนวยการหวาง คุณคิดว่าคุณสามารถเพิ่มได้อีกสักนิดไหมครับ? ในตอนนี้กระแสเงินทุนของบริษัทผมกำลังประสบปัญหา เมื่อผมจ่ายค่าสินค้าแล้ว ผมจะคืนเงินที่เหลือทั้งหมดให้แน่นอน "
และอีกคนหนึ่งที่เป็นคู่สนทนา(ผู้อำนวยการหวาง) ก็ได้ตอบอย่างหงุดหงิดว่า "ฉันก็แค่ทำตามกฎ เมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณก็รู้ว่าคนใหญ่คนโตในบริษัทกำลังจับตาดูเราอยู่ ถ้าเกิดฉันไม่ได้รับเงิน แล้วฉันจะช่วยคุณโฆษณาผลิตภัณฑ์ยังไง? หากบริษัทของคุณล้มละลาย ฉันจะได้เงินคืนจากใครกันเล่า?"
ชายอีกคนที่กำลังเดือดร้อนก็พูดต่อ ว่า "นั่นจะไม่เกิดขึ้นแน่นอนครับท่านหวาง ไม่มีทางครับ! ผมขายสินค้าไปแล้ว แต่ยังไม่ได้เงิน กำหนดการที่ต้องชำระเงินภายในหนึ่งถึงสองเดือน ได้โปรดช่วยผมด้วยนะครับ! "
จากการฟังสนทนาจนถึงตอนนี้ หงต้าหลี่ก็เข้าใจสถานการณ์แล้ว
คนสองคนนี้ คนแรกขายสินค้าในโรงงานของเขา แต่ไม่สามารถรวบรวมเงินได้ ทำให้กระแสเงินสดในบริษัทขาดดุลล้มเหลว ตอนนี้เขาไม่มีเงินพอสำหรับการโฆษณา หากเขาไม่สามารถโฆษณาผลิตภัณฑ์ของเขาได้ สินค้าใหม่ในโรงงานของเขาจะไม่สามารถขายออกได้ และมันจะจบด้วยการล้มละลาย ไม่แปลกใจเลยที่เขาตื่นตระหนก
ในทางตรงกันข้าม ผู้อำนวยหวางก็กลัวนโยบายของบริษัทและกลัวว่าจะล้มละลาย ดังนั้นเขาไม่กล้าเปิดใจและตอบรับ ไม่อย่างงั้นเขาอาจไม่ได้รับเงินคืนจากการโฆษณาจริง ๆ แถมเขาจะต้องรับผิดชอบด้วยหากผลลัพธ์มันล้มเหลว
ในขณะที่หงต้าหลี่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ เขาก็ได้ยินผู้อำนวยการหวางพูดว่า "ผู้อำนวยการจีไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้เกียรติคุณนะ เราร่วมมือกันมาหลายปีและคุณไม่เคยสร้างปัญหาใด ๆ กับเราเลย เครดิตของคุณค่อนข้างดีเสมอ แต่ไม่มีอะไรที่ตอนนี้ฉันจะช่วยได้เลย และในตอนนี้การรับเงินกู้จากธนาคารก็เป็นอะไรที่ยากมาก แถมคุณก็ไม่สามารถเรียกเก็บเงินสำหรับสินค้าล็อตก่อนหน้าของคุณได้ ฉันเองก็ต้องการช่วยคุณจริง ๆ นะ แต่ความรับผิดชอบครั้งนี้มันหนักเกินไป แต่ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือด้านโฆษณาผลิตภัณฑ์ของคุณโดยที่คุณพร้อมจ่ายเงิน ฉันก็ยินดีจะช่วย "
ผู้อำนวยการจีก็ได้ถอนหายใจยาวและกล่าวว่า "แต่ว่า ผมจะไม่ทำให้คุณลำบากเลยนะครับ ผู้อำนวยการหวาง ผมเพิ่งยกสามล้านหยวนให้คุณไปนะ ช่วยผมได้บ้างไหม อย่าเพิ่งเอาโฆษณาของผมลงได้ไหมครับ? สำหรับเงินที่เหลือ ผมจะหามาคืนให้และรีบทวงเงินจากสินค้าล็อตก่อนโดยเร็วที่สุดครับ ถ้าแบบนั้น โอเคไหมครับ?"
ผู้อำนวยการหวางกล่าวว่า "สามล้านหยวน? เอาล่ะ คุณสามารถมาที่สถานีเพื่อเซ็นสัญญาก่อนได้ ฉันเองก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่จะให้เวลาคุณครึ่งเดือน และจำไว้ว่าคุณจะต้องจ่ายเงินที่เหลือทั้งหมดอีกครึ่งเดือนที่เหลือ ถ้าไม่ คุณก็รู้อยู่ว่าสุดท้ายจะเป็นยังไง เมื่อโฆษณาถูกลบออกจากช่วงเวลาทอง ก็จะมีคนจำนวนมากที่จะใช้ช่องโฆษณาต่อ ถ้ามันเกิดขึ้น การที่คุณจะลงโฆษณาครั้งต่อไปมันก็จะยากมาก "
"ผมรู้ ผมรู้" ผู้อำนวยการจีถอนหายใจและพูดว่า "ผมจะจ่ายให้เร็วที่สุด!"
ในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็จบการสนทนา หงต้าหลี่และถังมู่ซินมองหน้ากัน ถังมู่ซินพูดเบา ๆ "นามสกุลเขา คือ จี และเขาเพิ่งยกเงินสามล้านหยวน เป็นไปได้ไหมที่ลุงคนนี้เป็นพ่อของจีจือยั่ว? "
"80% เหรอ ก็น่าจะเป็นเขา" หงต้าหลี่ลูบคางของเขา "ฉันควรช่วยเขาอย่างไรดีนะ?"
ถังมู่ซินส่ายหัว "ช่วยน่ะยาก สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้ คือ การรับรองว่าโฆษณาของเขาจะดำเนินต่อไป ถ้าเกิดไม่มีการชำระเงินและโฆษณาของเขาถูกลบออก ช่วงโฆษณาก็จะว่างและคนอื่นจะใช้ต่อ ถ้าถึงเวลานั้น แม้ว่าเขาจะมีเงิน แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกหรอก "
"ใช่ไหมล่ะ?" หงต้าหลี่พยักหน้าและคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดว่า "เสี่ยวหยี่ ไปหาลุงคนนั้น แล้วบอกให้ลุงคนนั้นมาที่นี่สักครู่หนึ่ง" เพราะยังไง นี้ก็คือพ่อของเพื่อนร่วมชั้นของเขา แถมเขามาที่นี่เพื่อถลุงเงิน ยังไงมันก็ไม่แตกต่างกันอยู่แล้วหรอก
หลังจากนั้นไม่นาน ลุงคนนั้นก็เดินมาหาหงต้าหลี่
หงต้าหลี่ได้หันไปหามองเขาอย่างเต็มตา นี่คือชายวัยกลางคน อายุประมาณ 45 หรือ 46 ปี เขาสวมสูทแบบเรียบง่ายแบบตะวันตกที่มีเน็คไทและความประทับใจแรกที่เห็นเขานั้นค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้พักผ่อนเลย รอบดวงตาของเขาเป็นสีเขียวเล็กน้อยและผมด้านข้างของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว เป็นเรื่องธรรมดาที่ดูยังไงก็ทราบแน่ชัดว่าลุงคนนี้กำลังกังวลมาก
"ลุง ฉันจะพูดกับลุงยังไงดีนะ?" หงต้าหลี่ยิ้มกว้างและพูดว่า "เมื่อกี้ฉันได้ยินการพูดคุยทั้งหมดระหว่างลุงกับผู้อำนวยการหวางแล้ว"
"เฮ้อ.. ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนั้นอีกแล้วหรอกครับ" ผู้อำนวยการจีกล่าวต่อ ว่า "ผมชื่อจีเทียนหยู ผมเป็นผู้อำนวยการของบริษัทสุดยอดเครื่องดื่มมหาชนจำกัด" เมื่อเขาพูดจบ เขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกหดหู่มาก
"เครื่องดื่มไมท์?" หงต้าหลี่รู้สึกประหลาดใจ "นี่เป็นแบรนด์ใหญ่ที่ฉันดื่มบ่อยๆนี้ "
"แล้วยังไงเหรอครับ..?" จีเทียนหยูยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า "สินค้าไม่สามารถขายออกได้ การชำระเงินจากล็อตก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ได้รับเงินและไม่มีเงินเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์เพิ่มด้วย สุดท้ายแล้วทุกสิ่งทุกอย่างมันก็มีแต่ข่าวร้ายที่คอยกรอกหูผมอยู่เนี่ย.. "