ระบบใช้จ่ายตอนที่ 76
ติดตามผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:แปลNiyay
บทที่ 76: แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาซะ
ในขณะนี้ ห้องโถงก็เต็มไปด้วยแขกที่มารวมตัวกันมากมาย มีสองถึงสามกลุ่มที่พูดคุยกันเอง แขกคนอื่น ๆ บ้างก็ยืนอยู่ที่ระเบียงชื่นชมวิวยามค่ำคืน ในขณะเดียวกันพวกเขาก็คุยเรื่องข้อเสนอทางธุรกิจผ่านโทรศัพท์และบางคนก็มองหาคู่รักที่สมบูรณ์แบบบนฟลอร์เต้นรำให้ตัวเอง มีคนในห้องนี้ไม่น้อยกว่าสามถึงสี่ร้อยคน ถ้านับบริกรและพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ในหมู่พวกเขาอะนะ มันช่างเป็นอะไรที่มีชีวิตชีวาเสียจริงเลย
ตอนนี้ถังมู่ซินก็ได้ช่วยให้หงต้าหลี่ใจเย็นลงมาก ซึ่งบอกได้เลยว่าแขกที่มารวมตัวกันนี้ พวกเขาเป็นบุคคลสำคัญทางการเมือง นักธุรกิจ ผู้มีชื่อเสียงและพวกมาเฟีย พวกเขาต่างก็ได้ทำความรู้จักกัน แลกเปลี่ยนพูดคุยกันในหลายๆด้าน หงต้าหลี่วิเคราะห์ได้เลยว่าผู้คนเหล่านี้ต่างก็มีอำนาจควบคุม 40% ของเมืองเทียนจิงและเป็นคนในหมู่ชนชั้นสูง
หงต้าหลี่พูดพึมพำกับตัวเองว่า "ใครกันที่มีอำนาจพอที่จะทำให้เศรษฐีมากมายมารวมตัวกันที่นี่?" ก่อนหน้านี้หลิวหมิงซินไม่ได้เอ่ยถึงผู้จัดงาน แต่เพียงกล่าวว่าเป็นงานส่วนตัว ดูเหมือนว่านี่จะห่างไกลจากสิ่งที่หลิวหมิงซินพูดไปมากโข
ดาราที่น่าประทับใจที่สุดในงานก็คง คือ ไท่ยาฉิง เธอมีเส้นผมสีทองอร่าม ผมลอนที่ยาวประบ่าและสวมใส่ชุดผ้าไหมที่สวยงาม ขนตาที่หนาของเธอ ดวงตาที่มีเสน่ห์ และริมฝีปากที่อวบอิ่ม เธอมีเสน่ห์งดงามเหลือล้นและปล่อยออร่าความสวยทุกวินาที ผ้าคลุมไหล่สีม่วงอ่อนที่ถูกครอบตัดอย่างดี ทำให้เสริมรูปร่างที่ดีของเธออย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกับชุดยาวถึงเข่า ผ้าไหมกำมะหยี่สีเหลืองทองและรองเท้าบู๊ตสีดำยาว ถึงแม้ว่าหงต้าหลี่จะไม่ค่อยชอบ แต่ไม่น่าแปลกใจเลยที่ถังมู่ซินจะชอบไท่ยาฉิงมาก ผู้หญิงคนนี้เหมาะที่จะเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่เธอชอบจริง ๆ
เมื่อเห็นไอดอลวัยเด็กของเธอ ถังมู่ซินก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เธอจับมือของหงต้าหลี่ไว้แน่นและเธอก็อยากจะวิ่งไปหาไท่ยาฉิงซะเหลือเกิน "นั่นมิสไท่ยาฉิง ต้าหลี่ ฉันไปขอลายเซ็นเธอได้ไหม? "
"จำเป็นต้องตื่นเต้นขนาดนี้เลยหรอ ... " หงต้าหลี่ไม่แปลกใจอะไร เขาไม่คุ้นเคยกับดาราในโลกนี้ ถ้าเป็น แอนดี้โลว เขาอาจจะตื่นเต้นกว่าถังมู่ซินก็ได้
ส่วนทางด้านไท่ยาฉิงก็รู้สึกหนักใจกับอะไรสักอย่างอยู่ นั่นทำให้ไม่มีทางเลยที่เธอจะมาสนใจถังมู่ซิน นอกจากนี้ถังมู่ซินก็ไม่ได้นำปากกาหรือกระดาษมาด้วย เลยไม่มีอะไรให้ไท่ยาฉิงเขียนลายเซ็นได้ หงต้าหลี่ฮัมเพลงพร้อมกับพูดไปว่า "รอเดี๋ยว หากเธอไปตอนนี้.. ฉันมั่นใจเลยว่าคงจะโดนปฏิเสธแน่นอน.. " เขามองไปที่โต๊ะข้าง ๆ และทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้น "โอ้ มีอาหารอร่อย ๆ มากมายเต็มไปหมดเลยแฮะ ไปกินข้าวกันเถอะ "
มันดูน่าอายที่จะหาอะไรกินซักอย่างในที่แบบนี้ ถังมู่ซินมองไปทางซ้ายและทางขวา หลังจากนั้นใบหน้าของเธอก็เป็นสีแดงด้วยความอาย เธอดึงหงต้าหลี่อย่างสุขุมและพูดว่า "นายจะบ้าหรอ? พวกเขาจะต้องหัวเราะเราแน่ถ้าเราดันมากินที่นี่ "
หงต้าหลี่พึมพำ "บทบาทของฉันในวันนี้ คือ การเป็นลูกชายที่แสนฟุ่มเฟือย เธอจะกังวลเรื่องอะไรอีก? ถ้าอาหารอร่อย ฉันก็แค่จะให้รางวัลกับพวกเขา "
ถังมู่ซินรู้สึกหมดหนทางและตัดสินใจยอมแพ้ เพราะที่ต้าหลี่พูดมาก็ถูก แถมเขาเองก็มีแรงจูงใจสำหรับการปรากฏตัวในวันนี้ด้วย
หลังจากนั้น ที่โต๊ะอาหารค่ำ หงต้าหลี่ก็ได้นั่งข้างถังมู่ซิน และผู้ติดตามทั้งเก้ากำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารให้แก่หงต้าหลี่ แม้แต่หลิงเสี่ยวหยี่ก็จัดการหยิบผ้าสีขาวมาสวมไว้ตรงปกเสื้อคอหงส์ให้แก่ต้าหลี่โดยเฉพาะ ฉากนี้ทำให้เศรษฐีทั้งหลายและผู้มีอิทธิพลต่างก็จ้องมองมา พวกเขานั่นเห็นแต่ทองคำ 24K เรียงรายรอบ ๆ พร้อมกับมีคนอีกสองสามคนนั่งอยู่ข้าง ๆ หงต้าหลี่ ฉากนี้มันดูเหมือนกับฉากในพระคัมภีร์ อาหารค่ำมื้อสุดท้าย เสียจริง
งานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อการกุศลครั้งนี้เป็นเหมือนการสัมมนาเชิงธุรกิจ ไม่มีใครสนใจในอาหารจริง ๆ เลย ทุกคนต่างก็ยุ่งอยู่กับการมองหาคู่ค้าใหม่หรือทำความรู้จักหรือหาโอกาสพูดคุยกับคนแปลกหน้า ซึ่งอาจจะส่งผลกับประโยชน์ในทางธุรกิจของกันและกัน หรือแค่หาผู้หญิงสวย ๆ แต่สำหรับหงต้าหลี่แล้วนั้น การกระทำของเขาดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก
เมื่อต้าหลี่กำลังจะรับประทานอาหาร เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะ " เฮ้ นี้มันน้องต้าหลี่ของฉันไม่ใช่หรอเนี่ย? นายมาทำอะไรที่นี้? ถลุงเงินที่เย่ไหลเซียงยังไม่พอรึไง? "
เสียงที่ดูคุ้นเคยได้ดังขึ้น หงต้าหลี่พอได้ยินก็หันไปหาจนพบเข้ากับพี่ชายที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน หงอันเปา
มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับหงอันเปาที่จะมาเจอเขาที่นี้ แต่ปกติแล้วหงต้าหลี่ก็ไม่อยากจะพูดอะไรกับหงอันเปาเลย "ทำไมฉันจะมาที่นี้ไม่ได้?" ขณะที่หงต้าหลี่กำลังพูด ก็เริ่มกินข้าว ผู้ติดตามผู้หญิงก็ได้นำด้วยขนมที่ดูดีมากมาเสิร์ฟเขาต่อ หงต้าหลี่พอใจกับการเสิร์ฟนี้มาก หงต้าหลี่จึงพูดไปว่า "อืม ไม่เลวเลย ให้ทิปเงินเธอห้าพัน"
ผู้ติดตามหญิงคนนี้ดีใจมาก หลังจากรับเงินเรียบร้อย เธอก็ได้ก้าวถอยหลังไป
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า นายมันช่างสิ้นเปลืองเลยน่า!" เมื่อมองดูต้าหลี่ หงอันเปาก็หัวเราะจนเขาไม่สามารถเหยียดหลังได้ เขาชี้ไปที่หงต้าหลี่และพูดว่า "ในที่สุดฉันก็เข้าใจสักที ฉันแค่สงสัยว่าทำไมนายถึงมาที่นี่ ดูเหมือนว่านายมาที่นี่เพื่อถลุงเงินสินะ ไหนดูสิว่านายจะวางแผนใช้เงินในการประมูลยังไงหลังจากนี้? "
"แต่จากที่ฉันเห็นตะกี้ นายมันก็แค่ไอ้โง่นี้หว่า"
หงต้าหลี่ไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ถังมู่ซินโกรธมาก "แล้วมันสำคัญกับนายด้วยหรอที่เราจะถลุงเงินไปเท่าไหร่?"
"ก็นะ ยังไงนี่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันเลย ฉันแค่ถามเท่านั้นเอง" หงอันเปาหัวเราะ "แต่ต้าหลี่ นายมาถึงจุดที่ต้องให้ผู้หญิงปกป้องนายแล้วเหรอ? อัยยา น่าสงสารจริงๆเชียว "
หงต้าหลี่นั้นพึมพำบางอย่างในใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขากำลังจะตกใจอยู่ "ไม่สิ พูดแบบนี้หมายความว่าไงกัน คิดว่าฉันจะไม่สวนกลับเหรอ? ไม่ใช่ว่านายเองก็รู้ไม่ใช่หรือไงว่าฉันมาที่นี้เพื่อประมูล? แปปนะๆ ขอฉันกินก่อน ฉันรีบออกจากบ้านโดยไม่ได้ทานอาหารมื้อเย็นน่ะ ว่าแต่นายอยากจะมาร่วมทานอาหารกับฉันไหมล่ะ? "
เมื่อได้ยินคำเชิญของหงต้าหลี่ หงอันเปาก็ก้าวถอยหลังไปสองก้าว "ฉันไม่อยากหรอกเฟ้ย น่าอายเป็นบ้า มาทานอาหารที่งานประมูลการกุศลเนี้ยนะ นายไม่คิดจะเห็นชื่อเสียงตระกูลของเราในสายตาบ้างเลยรึไง "
หงต้าหลี่หัวเราะแล้วพูดว่า "จะกินที่ไหนมันก็ไม่ต่างกันนี้? แถมบรรยากาศที่นี่สวยงามและมีชีวิตชีวาดีออก ก็ไม่แย่สักเท่าไหร่ ได้กินในขณะที่ดูคนอื่นเต้นก็ดี แล้วถ้ามีคนเต้นดีนะ ฉันก็พร้อมจะให้ทิปเงินพวกเขา มันไม่ดีตรงไหนเหรอ?"
หงอันเปาหน้าแดงเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เขาต้องการที่จะขอไท่ยาฉิงเต้นรำ เพื่อแสดงท่าเต้นที่เขาฝึกมาอย่างหนัก หลังจากได้ยินสิ่งที่หงต้าหลี่พูด เขาก็ไม่กล้าเข้าไปในฟลอร์เต้นรำ เพราะจู่ ๆหงต้าหลี่ก็ดันพูดมาว่า "เต้นรำดีให้ทิปห้าพัน"
สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ หงต้าหลี่พูดแบบนั้นจบ ทุกอย่างก็ดันลงล็อคพอดี ...
เมื่อพวกเขากำลังจ้องมองกัน อยู่ ๆ ก็ได้มีเสียงที่ไพเราะมาจากข้างหลัง "ท่านอันเปา ทำไมท่านถึงไม่สนใจฉันเลยคะ? แล้วคนนี้คือ?"
หงต้าหลี่หันไปมองรอบ ๆ อย่างร่าเริง เธอคนนั้นที่เขามาทักคือไอดอลของถังมู่ซิน นั่นคือ 'มิสไท่ยาฉิง'
"โอ้ ไม่มีอะไร นี่น่ะคือน้องชายที่พลัดพรากของฉันเอง หงต้าหลี่ " หงอันเปาก็ได้ยิ้มให้กับต้าหลี่ “คนนี่คือ ไท่ยาฉิง ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องแนะนำอะไรเพิ่มหรอกนะ”
เมื่อได้ยินว่านี่เป็นคนที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งเมืองเทียนจิง ไท่ยาฉิงก็ยิ้ม "ฉันได้ยินข่าวเกี่ยวกับคุณมาพอสมควรค่ะ ท่านนายน้อย ท่านเป็นอย่างที่ฉันเคยได้ยินมาเลยนะคะ " ขณะที่เธอพูด ดวงตาของเธอก็สบตากลับหงต้าหลี่และโต๊ะอาหารมื้อเย็น ขณะที่เธอพูด ใบหน้าของเธอไม่ได้ซ่อนความจริง ดวงตาของเธอนั้นกำลังเหยียดหยามหงต้าหลี่อยู่
หงต้าหลี่หายใจเข้าและคิดในใจ.. ดูเหมือนว่าสองคนนี้มีอะไรบางอย่างคล้ายกันพอสมควรเลยนะ ถึงแม้พวกเขาจะเพิ่งพบหน้ากัน แต่คำพูดของเธอนั้นช่างเย็นชาเสียจริง และแถมเธอก็ไม่เคารพหงต้าหลี่ด้วย มันคงเป็นเวลาอันดีที่จะได้โชว์ความสามารถของอาเสี่ยแล้วงั้นเหรอ? หงต้าหลี่ก็ได้แต่หักนิ้วของเขาพร้อมกับพูดไปว่า "พี่สาวคนนี้สวยดี ให้ทิปเงินเธอไป 20,000! "