บทที่ 137
เนี่ยฟงนั่งอยู่บนหลังกิเลนอัสนีพุ่งผ่านเขตพื้นที่สามฤดู ซ่า ซ่า เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงฝนสาดกระหน่ำพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าลงมาบนพื้นทราย เนี่ยฟงใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์สร้างเป็นที่กำบังสายฝน กิเลนอัสนีร้องคำรามพุ่งทะยานไปบนฟ้าอย่างรวดเร็ว
“ไอ้หนู หากเจ้าต้องปะทะกับคนของผาไม้ดำ จริงๆเจ้าจะไหวรึ อีกอย่างถึงแม้เจ้าจะสู้พวกระดับสีแดงขั้นต้นได้เพราะดาบสายฟ้าในจุดตันเถียน และขั้นกลางเพราะเล่ห์เหลี่ยม แต่หากปะทะกันจริงๆเจ้าเสียเปรียบไม่น้อย เจ้าจะทำอย่างไร”
“ข้าพอเข้าใจในสิ่งที่ท่านกล่าวขอรับ เพียงแต่ว่า ดาบสายฟ้าในกายข้ามันไม่รู้จักเพียงพอเลยขอรับ”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าได้พลังมาด้วยสิ่งใด”
เนี่ยฟงครุ่นคิดอยู่นานเกือบหนึ่งเค่อ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงมาเสียงดังสนั่น เปรี้ยง
“ท่านคงไม่คิดจะให้ข้าเข้าไปรับสายฟ้าหรอกใช่หรือไม่ท่านลุ่ยกง”
“เรื่องนั้นมันอยู่ที่ตัวเจ้าเองไอ้หนู ข้าเพียงแค่กล่าวแนะนำ”
“เอาไว้หลังจากกลับไปที่สำนักก่อน ตอนนี้ข้าเป็นห่วงท่านอาจารย์ยิ่งนัก”
“คุณชายขอรับ ข้ามีบางอย่างจะกล่าว หากท่านต้องการสายฟ้าเพื่อฝึกฝนข้ามีสถานที่แห่งหนึ่งอยากพาท่านไป เพียงแต่ว่ามันอยู่ในเขตป่ามรณะ”
“จริงสิไอ้หนูข้าลืมไปเสียสนิทต้องขอบใจ หลินฉีที่กล่าวออกมา”
“มันคือสถานที่ใดขอรับ”
“ที่อยู่เดิมของข้าเองขอรับ เขาสายฟ้าในป่ามรณะ”
“ตกลงตามนี้ขอรับ หลังจากกลับจากสำนักข้าจะหาเวลาไปที่นั่น”
เกาซิงหมิงและเฮ่อหนานหลังจากจัดการฝังศพคนอันเป็นที่รักเสร็จสิ้น ทั้งสองก็เรียกระดมคนจากผาไม้ดำในเขตทะเลทรายทั้งหมด ออกไล่ล่าสังหารเนี่ยฟง ชายฉกรรจ์นับสี่สิบคนพุ่งทะยานไปตามทาง มุ่งหน้าติดตามเนี่ยฟงไป เมื่อผ่านเขตพื้นที่สามฤดูก็เข้าเขตดินแดนแห่งดิน เนี่ยฟงไม่ลืมที่จะปลอมตัวเพราะครั้งก่อนพวกตนทำเรื่องไว้ที่เขตนี้ไม่น้อยเช่นกัน เมื่อเข้ามาถึงเมืองหน้าด่าน เนี่ยฟงก็เข้าโรงเตี๊ยมหลังหนึ่ง สั่งอาหารสองสามอย่างมาทาน พร้อมกับนั่งฟังผู้คนในโรงเตี๊ยมพูดคุยกัน ไม่ถึงหนึ่งเค่อก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ห้าคนเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยม เนี่ยฟงหรี่ตามองไปที่ชายเสื้อของคนผู้หนึ่งในกลุ่มมีปักรูปไม้ไผ่สีขาวที่ชายเสื้อ
ทั้งห้าคนเมื่อเข้ามานั่งที่โต๊ะก็มองหาใครบางอยู่ตลอดเวลา เนี่ยฟงหาได้สนใจเพราะตอนนี้ตนปลอมเป็นชายหนุ่มที่แก้มขวามีรอยแผลเป็น สวมชุดสีเทาขาดๆตัวหนึ่ง เมื่อทานอาหารจนอิ่มแน่นอนว่าเนี่ยฟงรีบออกจากโรงเตี๊ยมออกเดินทางต่อทันที เพราะเลี่ยงที่จะปะทะกับคนของผาไม้ดำในเมือง ไม่เช่นนั้นชาวบ้านหลายสิบคนคงถูกลูกหลงเป็นแน่ เนี่ยฟงเมื่อออกจากเมืองได้ไม่กี่สิบลี้ก็ต้องหยุดฝีเท้าลง เพราะด้านหน้ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ตั้งด่านเล็กๆสำหรับตรวจคน คนจำนวนไม่น้อยยืนต่อแถว ด้วยความสงสัยเนี่ยฟงจึงเดินเข้าไปถามชายชราผู้หนึ่งที่ยืนอยู่
“ท่านปู่ขอรับ เหตุใดจึงมีการตรวจตรากันที่นี่”
“คนพวกนั้นกำลังตามจับโจรหมอกพิษ”
เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้ว
“พวกมันออกปล้นอีกแล้วหรือขอรับ”
“ใช่พวกมันเริ่มออกปล้นเมื่อหลายวันก่อน จากพยานที่รอดตายกล่าวว่า พวกมันมีทั้งหมดห้าคน”
“มีการสังหารกันด้วยหรือขอรับ ข้าเคยได้ยินมาว่าคนพวกนั้นเพียงแค่ปล้นเฉยๆ”
ชายชราไม่กล่าวตอบสิ่งใด รีบหันหลังกลับไปพร้อมกับเอ่ยวาจาเสียงเบา
“ข้าคิดว่าเป็นคนละคนกัน คนพวกนั้นเพียงแค่แอบอ้าง”
“ท่านรู้ได้อย่างไร ท่านปู่”
“ก็วันที่พวกนั้นออกปล้นครั้งแรก ข้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ข้าต้องไปก่อนละไอ้หนู”
เมื่อกล่าวสิ้นเสียงชายชราก็เดินไปอีกทาง เนี่ยฟงก็เดินเข้าไปต่อแถว เกือบสองเค่อเนี่ยฟงก็คิว มีทหารสองนายสอบถามเล็กน้อย ก็ปล่อยตัวไป เพราะที่ด่านแห่งนี้มีกระดาษที่มีรูปกลุ่มโจรหมอกพิษอยู่ แต่ทว่าหน้าตาในใบประกาศถูกเปลี่ยนเป็นคนอื่นหาใช้ เนี่ยฟง หยางเวย และเย่เตาอีกต่อไป เมื่อผ่านด่านมา เนี่ยฟงก็เร่งฝีเท้าออกเดินทางอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เข้าเขตป่า เกือบครึ่งชั่วยามเนี่ยฟงที่พุ่งทะยานไปตามกิ่งไม้ก็ต้องหยุดฝีเท้ายืนนิ่ง เพราะด้านหน้ามีการปะทะกันของคนสองกลุ่ม เนี่ยฟงแน่ใจว่าจดจำชุดสำนักคชสารธรณีได้ การต่อสู้ด้านล่างเริ่มที่จะรุนแรงมากขึ้น เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกจากบาดแผล ไม่นานคนของสำนักคชสารธรณีก็จัดการกลุ่มคนด้านหน้าจนหมด เมื่อไม่มีสิ่งใดแล้วเนี่ยฟงก็คิดที่จะเดินทางต่อ เปรี้ยง ปราณดาบขนาดใหญ่พุ่งเข้าปะทะคนของสำนักคชสารธรณี
เนี่ยฟงหรี่ตามองอีกครั้งก็พบว่าเป็นชายหนุ่มห้าคนเดินออกจากป่าข้างทาง เนี่ยฟงจดจำได้ดีว่าทั้งห้าคนคือคนที่พบเจอที่โรงเตี๊ยม มีดสั้นปรากฏอยู่ในมือขวาไม่ถึงครึ่งลมหายใจก็กลายเป็นดาบ เนี่ยฟงรอจังหวะโดยโคจรลมปราณไปที่ดาบ ไม่ถึงสิบลมหายใจเนี่ยฟงก็ฟาดฟันดาบออกไปด้วยท่าดาบตัดสายฟ้า ปราณดาบสีฟ้ามีประกายสายฟ้าล้อมรอบพุ่งเข้าหากลุ่มคนของผาไม้ดำ เนี่ยฟงพุ่งทะยานลงไปด้านล่าง ดาบในมือฟาดฟันอีกครับ ปราณดาบสีฟ้าพุ่งออกไปเป็นแนวขวาง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงระเบิดดังสนั่น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังออกมาจากมันฝุ่นควัน เนี่ยฟงรีบพุ่งเข้าไปช่วยเหลือศิษย์สำนักคชสารธรณี
“พวกเจ้าหลบไปก่อน ที่นี่ข้าจะถ่วงเวลาพวกมันเอาไว้”
“ขอบใจท่านมาคุณชาย”
“ฝากแจ้งข่าวให้เจ้าสำนักพวกเจ้าด้วย คนพวกนี้เป็นคนของผาไม้ดำ”
เมื่อได้ยินเสียงที่กล่าวออกมาศิษย์สำนักคชสารธรณีถึงกับตัวสั่น
“ได้ ข้าจะแจ้งต่อเจ้าสำนักให้”
ศิษย์สำนักคชสารธรณีหลายคนเริ่มพุ่งทะยานหลบหนี ไม่ถึงห้าลมหายใจฝุ่นควันก็ถูกแรงลมพัดออกไป มีสามคนที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ส่วนอีกสองคนบาดเจ็บสาหัส
“เจ้าเป็นใครกัน”
เนี่ยฟงไม่กล่าวสิ่งใดตอบฟาดฟันดาบในมือออกไป ปราณดาบสีฟ้ามีประกายสายฟ้าล้อมรอบ
“ตัดสายฟ้า เจ้าคงเป็นตัวบัดซบเนี่ยฟงสินะ ดี ดียิ่งนักข้าจะสังหารเจ้า”
ชายหนุ่มที่เอ่ยวาจาออกมาสะบัดมือเรียกอาวุธคู่ใจออกมาถือพร้อมกับฟาดฟันดาบออกไป ปราณดาบสีขาวปะทะกับปราณดาบสีฟ้าเสียงดังสนั่น
“พวกเจ้าไม่ต้องมายุ่งข้าจะเล่นกับไอ้เด็กนี้เอง”
เนี่ยฟงแสยะยิ้มพุ่งเข้าปะทะ เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เสียงดาบปะทะกันลั่นต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร การต่อสู้จะจบลงเมื่อมีอีกฝ่ายต้องตายเท่านั้น เนี่ยฟงรุกรับเป็นจังหวะเข้าปะทะและฉากออกมา ทำให้ชายหนุ่มด้านหน้าตอนนี้เริ่มที่จะมีอารมณ์โกรธเพราะตามความเร็วของเนี่ยฟงไม่ทัน เคร้ง เคร้ง เคร้ง ในจังหวะหนึ่งเนี่ยฟงตวัดดาบออกไปปะทะแล้วมีช่องที่หน้าท้อง เนี่ยฟงกระทืบเท้าซ้ายมุดเข้าประชิด ต่อยหมัดซ้ายเข้าไปที่หน้าท้องอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง เท้าขวารีบถีบพื้นพุ่งถอยมา เสียงคำรามโดยความโกรธแค้นดังออกมาพร้อมกับพลังปราณระดับสีแดงขั้นกลาง เมื่อเท้าทั้งสองเหยียบพื้น ดาบถูกสลับมาถือในมือซ้าย ส่วนมือขวาสะบัดสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าออกมาที่พื้น
ชายผู้เป็นหัวหน้าพุ่งทะยานเข้าหาเนี่ยฟงพร้อมกับฟาดฟันดาบในมือออกไป เนี่ยฟงหาได้ตื่นตกใจ เปรี้ยง เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาต้านรับได้อย่างทันท่วงที เมื่อชายผู้นั้นพุ่งทะยานเข้ามาเนี่ยฟงก็กระทืบเท้าขวาลงพื้น เถาวัลย์สีฟ้ามีประกายสายฟ้าล้อมรอบพุ่งออกไปรัดตัวชายผู้นั้นอย่างรวดเร็วพลังปราณที่แผ่ออกมา ถูกดูดกลืนโดยเถาวัลย์สีฟ้า เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ชายฉกรรจ์อีกสองคนเมื่อเห็นว่าหัวหน้าของตนเสียท่าแล้ว ก็รีบพุ่งเข้ามาช่วยเหลือ เนี่ยฟงไม่รอช้าจ้วงดาบแทงไปที่ขาขวาของชายผู้นั้น พร้อมกับพุ่งเข้าปะทะกับชายฉกรรจ์อีกสองคนที่พุ่งเข้ามา
เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เนี่ยฟงใช้ความเร็วจากท่าเท้า เข้าต่อสู้ทำให้ไม่เป็นฝ่ายเสียเปรียบมากนัก เกือบหนึ่งเค่อเนี่ยฟงก็ได้ยินเสียงหอบหายใจดังมาจากชายฉกรรจ์ทั้งสอง พลังปราณระดับสีส้มขั้นสูงถูกระเบิดออกมา ชายฉกรรจ์ทั้งสองตื่นตกใจเพราะความรุนแรงเกือบจะเทียบเท่าระดับพลังปราณสีแดงขั้นกลาง ไม่รอช้าคมดาบวาดผ่านลำคอของชายฉกรรจ์ทั้งสอง เลือดสีสดพุ่งกระฉูดออกจากลำคอ พร้อมกับศีรษะที่หลุดกระเด็นลงพื้น เนี่ยฟงรีบหันไปมองชายผู้เป็นหัวหน้า
“หากเมื่อครู่พวกท่านทั้งสามเข้ามาจัดการข้าพร้อมกับข้าคงหมดทางหนี แต่เพราะท่านที่เป็นสุภาพบุรุษโดยแท้ ต้องขอบใจไม่น้อย มาดูกันว่าข้าจะทรมานท่านอย่างไรดี เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของท่าน”
“บัดซบไอ้ลูกหมา หากข้ารอดไปได้เจ้าต้องตกตายอย่างสาสม”
เนี่ยฟงแผ่ลมปราณตรวจสอบรอบๆ ไม่นานก็แสยะยิ้มเดินเข้าหาชายผู้เป็นหัวหน้า เนี่ยฟงใช้เท้าซ้ายเหยียบไปที่บาดแผลพร้อมกับขยี้เท้าลงไป เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังออกมายาวนาน เนี่ยฟงก้มลงไปกระซิบข้างๆหู
“ใจเย็นๆ นี่มันเป็นเพียงการเริ่มต้น”
เนี่ยฟงใช้ดาบในมือตัดเอ็นมือและเท้าของชายผู้เป็นหัวหน้า เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมาอีกครั้ง เนี่ยฟงสะบัดมือขวานำขวดยาออกมา เมื่อเทเม็ดยาออกมาก็ดีดมันไปที่ปาก ไม่นานเสียงความเจ็บปวดก็เงียบลง
“เม็ดยาที่ข้าให้ไปมันสามารถระงับความเจ็บ และรักษาอาการบาดเจ็บได้ดีนัก”
เนี่ยฟงนั่งรอให้บาดแผลหาย ก็เดินเข้าไปทรมานต่อ เนี่ยฟงทำอย่างนี้สามครั้ง ชายผู้เป็นหัวหน้าก็ร้องอ้อนวอนให้เนี่ยฟงสังหารตน
“สังหารข้าเถอะขอรับ ได้โปรด”