Guild Master ตอนที่ 17 ของรางวัล
ตอนที่ 17
ของรางวัล
วูบ.....
กวีมองภาพระเบิดเบื้องล่างตนเองด้วยท่าทีอึ้ง ๆ ก่อนพวกทหารตัวหนอนจะระเบิดกวีปีนร่างของนางพญาผึ้งขึ้นมาด้านบนก่อนจะโดนแรงระเบิดมหาศาลที่เกิดจากทหารตัวหนอนนับร้อยตัวอัดขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังชีวิตของกวีตอนนี้เหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่ก็นับว่าโชคดีที่ยังรอดมาได้ เพียงแต่ตอนนี้กวีกำลังกังวลว่าจะรอดไปอย่างไรดี เพราะหากปล่อยตัวเองตกลงไปข้างล่างมีหวังตายเพราะกระแทกพื้นตายแน่นอน
ฟุบ...
ระหว่างกำลังคิดอยู่นั้นว่าจะทำอย่างไรต่อ อยู่ ๆภายใต้ม่านหมอกควันฝุ่นที่ลอยจนท้องฟ้ากลายเป็นสีน้ำตาลนั้น อยู่ ๆก็มีร่างของผึ้งองครักษ์ที่มีสภาพเละเทะจากแรงระเบิดบินตามกวีขึ้นมาอย่างไม่ลดละ แต่ก็ต้องนับว่าเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมากที่เจ้าผึ้งองครักษ์ยังไม่ตายทั้ง ๆที่โดนระเบิดไปขนาดนั้น แต่สภาพของมันก็รุ่งริ่งมากจนเหมือนจะตายแหล่มิตายแหล่เลย แถมบัพและฮีลของนางพญาก็หายไปแล้วแต่การที่มันยังมีชีวิตอยู่ก็หมายความว่านางพญายังไม่ตาย
“โชคดีจริง ๆ”กวียิ้มออกมาพลางมองร่างของผึ้งองครักษ์ที่บินเข้ามาใกล้ หากปล่อยกวีตกลงไปแบบนี้โอกาสที่กวีจะตายก็มีสูงมาก แต่คราวนี้กวีกลับรู้สึกรักเจ้าผึ้งองครักษ์ตัวนี้อย่างบอกไม่ถูก เจ้านี่มันมารับกวีเอาไว้แท้ ๆ
เปรี้ยง!!
กวีดื่มยาฟื้นพลังก่อนจะกางแขนออกเพื่อบังคับทิศทางของตนเองบนอากาศ พริบตาที่หอกของผึ้งองครักษ์แทงเข้ามากวีก็ควงสว่านร่างของตนเองเพื่อหลบหอกที่เหลือเพียงเล่มเดียวเพราะแรงระเบิดก่อนจะเหวี่ยงดาบฟันใส่ร่างของผึ้งองครักษ์เข้าอย่างจัง
ดาบครั้งนี้ไม่ได้เล็งเข้าจุดตาย เพราะต้องบังคับตัวเองบนท้องฟ้าและสิ่งที่กวีเล็งก็ไม่ใช่เจ้าผึ้งองครักษ์ด้วย สิ่งเดียวที่กวีต้องการคือการเล็งจุดตกต่างหาก
ตุบ!!
ร่างของกวีตกลงไปบนท้องของนางพญาผึ้งที่กำลังนอนใกล้ตายอยู่กับพื้น ท้องของนางพญาผึ้งใหญ่มาก มันเป็นเบาะรองกระแทกชั้นดีเลย
โครม!!
ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว อยู่ ๆด้านข้างของนางพญาผึ้งก็มีสิ่งหนึ่งร่วงลงมากระแทกพื้น มันคือผึ้งองครักษ์ที่กวีพึ่งโจมตีมันไปเมื่อครู่นั่นเอง ท่าทางเจ้านั่นก็เหลือพลังชีวิตไม่มากเช่นกันพอโดนกวีโจมตีเข้าก็ตายทันทีแถมยังร่วงลงมากระแทกพื้นอีกต่างหาก กลายเป็นว่ากวีได้ชำระแค้นกับเจ้าผึ้งองครักษ์จนได้
“พี่กวี พี่กวีอยู่หรือเปล่า”ระหว่างลงมาจากร่างของนางพญาผึ้ง เสียงของเจก็ดังมาจากระบบสื่อสารในปาร์ตี้พอดี ดูเหมือนคนอื่น ๆจะกลับไปเกิดที่หมู่บ้านหมดแล้ว
“ยังอยู่ พี่ไม่เป็นไร”กวีตอบพลางมองสภาพเบื้องหน้า หากนี่เป็นสงครามจริง ๆแม้กวีจะรอดก็ไม่ต่างจากแพ้เท่าไร สมาชิกร่วม 100 คนตายหมดไม่เหลือแม้แต่คนเดียว ท่าสุดท้ายของนางพญาผึ้งกะเอาให้ตายทุกคนจริง ๆ ไม่มีทางที่ผู้เล่นเลเวล 10 จะรอดมาจากระเบิดนั้นได้แน่นอกจากกวีที่ปีนขึ้นไปด้านบนและบังเอิญเหลือผึ้งองครักษ์กับนางพญาผึ้งเอาไว้เป็นที่ลงพอดี
“พี่กวีพี่อยู่ไหน พวกผมไม่เห็นพี่ที่ลานหน้าหมู่บ้านเลย”เจได้ยินกวีตอบกลับมาก็โล่งใจก่อนจะหันไปรอบ ๆเพราะตอนนี้ทุกคนกลับมาเกิดใหม่หมดแล้วเหลือเพียงกวีเท่านั้น
“เดี๋ยวก็รู้”กวียิ้มออกมาก่อนจะเดินถือดาบเข้าไปหานางพญาผึ้งที่นอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้น ตอนนี้มันปีกขาดร่างกายสะบักสะบอมเพราะโดนพวกผู้เล่นรุมโจมตีและโดนระเบิดของพวกทหารตัวหนอนเข้าไปเต็มรัก ลำพังแค่มันยังไม่ตายก็นับว่าเหลือเชื่อแล้วด้วยซ้ำ
ฉึก!
กวีแทงดาบเข้าไปเต็มแรง ดูเหมือนระบบจะเซตเอาไว้แล้วว่าหลังจากระเบิดรอบสุดท้ายนางพญาจะเหลือพลังชีวิต 1 หน่วยแน่นอนทำให้การโจมตีเพียงครั้งเดียวของกวีคือดาบสังหารให้มันได้ตายสบายเสียทีหลังจากสร้างความวุ่นวายมานาน
[ผู้เล่น กวี สังหารมอนสเตอร์ระดับบอสแห่งเกาะเริ่มต้น นางพญาผึ้งเลเวล 25 สำเร็จ เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้สังหารนางพญาผึ้งได้ ผู้เล่นกวีจะได้รับรางวัลเป็นค่าชื่อเสียง 100 หน่วย]
เสียงประกาศดังไปทั่วเกาะเริ่มต้นทำเอาเหล่าสมาชิกกิลด์กรีนโลตัสและคนที่เข้าร่วมภารกิจต่างหันไปมองหน้ากันด้วยท่าทีตกใจ ทุกคนคิดว่าระเบิดของทหารตัวหนอนฆ่าทุกคนหมดแล้วเสียอีก นี่แสดงว่ายังมีอีกคนหนึ่งที่ยังอยู่ที่นั่นแถมยังลาสบอสไปแล้วด้วยงั้นเหรอ
“เอาล่ะ ได้เวลาเก็บเกี่ยวรางวัล”กวีฮัมเพลงด้วยท่าทีสบายใจก่อนจะเดินไปเก็บไอเทมที่ตกอยู่ด้วยท่าทีมีความสุข อย่างแรกเลยก็ต้องไอเทมที่ได้จากบอสอย่างนางพญาผึ้ง ไอเทมหลัก ๆที่น่าสนใจคือมงกุฎของนางพญาผึ้ง และ ขวดน้ำผึ้งสีม่วงที่ดูแปลกตาอย่างมาก โดยมงกุฎของนางพญาผึ้งเป็นหมวกสำหรับสายเวทอย่างไม่ต้องสงสัย แถมค่าสถานะก็ดีไม่น้อยเพราะมันเพิ่ม ปัญญา 10 หน่วย แถมยังทำให้เวทมนตร์รักษามีผลเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก แต่น่าเสียดายไอเทมชิ้นนี้กวีใส่ไม่ได้เพราะมันจำกัดเฉพาะเพศหญิงเท่านั้น ส่วนน้ำผึ้งสีม่วงที่ได้มานั้นเป็นน้ำผึ้งหมอกม่วงที่สามารถเพิ่มค่าปัญญาถาวรให้กับผู้เล่นได้ 20 หน่วยเพียงแต่สิ่งนี้สามารถกินได้ครั้งเดียวเท่านั้น ต่อให้รวมคนมาฆ่านางพญาผึ้งอีกก็ไม่สามารถปั๊มค่าปัญญาได้นั่นเอง
นอกจากไอเทมของนางพญาผึ้งแล้ว ที่น่าสนใจก็คือเกราะสีเงินที่ได้จากผึ้งองครักษ์ มันเป็นเกราะเบาที่มีความทนทานสูงมากแถมยังช่วยเพิ่มความเร็วให้กับผู้สวมใส่อีกต่างหาก โชคดีจริง ๆที่ฆ่ามันได้ก่อนจะฆ่านางพญาแล้วปล่อยให้มันหายไปเฉย ๆ
และ....แน่นอนว่าเหล่าทหารผึ้งงานและทหารตัวหนอนที่ตายไปเพราะระเบิดทั้งหมดต่างเหลือไอเทมทิ้งเอาไว้บนพื้น ทำให้กวีใช้เวลาเก็บอีกพักหนึ่งเลยทีเดียว
“เอาล่ะ ต่อไปก็เป้าหมายหลัก”กวียิ้มออกมาด้วยท่าทีมีความสุขก่อนจะเดินเข้าไปตรงจุดที่นางพญาผึ้งเคยขวางเอาไว้ ความจริงร่างของนางพญาผึ้งไม่สามารถขวางป่าเอาไว้ได้ทั้งหมดหรอก แต่หากพยายามเข้าไปด้านหลังโดยไม่ฆ่านางพญาจะถูกกำแพงโปร่งใสกั้นเอาไว้ หรือก็คือการเข้าไปในป่าส่วนหลังของป่าหมอกม่วงจำเป็นต้องฆ่านางพญาผึ้งก่อนเท่านั้นจริง ๆ
“...........”แต่เดิมกวีก็ค่อย ๆเดินเพื่อระวังว่าจะมีมอนสเตอร์โผล่มาเล่นงานหรือเปล่า แต่ทันทีที่ทะลุแนวป่าเข้ามา กวีก็พบว่าภายในป่าหมอกม่วงด้านในนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้สีม่วงเป็นทุ่งยาวสุดลูกหูลูกตาอย่างกับทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่เคยเห็นในโฆษณาสมัยก่อนเลย เพียงแต่ดอกไม้ที่บานอยู่ไม่ใช่ดอกลาเวนเดอร์เท่านั้นเอง แต่เป็นดอกไม้รูปร่างเหมือนดอกทิวลิปสีม่วงเข้มไล่ไปอ่อน แถมดูเหมือนพวกมันจะเป็นต้นเหตุให้ป่ากลายเป็นสีม่วงเสียด้วยซ้ำเพราะต้นไม้ที่อยู่ใกล้พวกมันที่สุดเป็นสีม่วงแบบเดียวกับพวกมันไม่มีผิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันงดงามจริง ๆเพียงแต่..
สถานที่แห่งนี้ไม่มีสิ่งที่กวีกำลังตามหา ที่นี่ไม่มีวี่แววของเทวรูปองค์ที่ 5 เลยแม้แต่น้อย นอกจากทุ่งดอกไม้และบ้านหลังหนึ่งแล้วที่นี่ก็แทบไม่มีอะไรอีกเลยนอกจากผึ้งธรรมดาที่กำลังเก็บน้ำหวานจากดอกไม้สีม่วงพวกนี้
“บ้าน?”กวีมองไปกลางทุ่งดอกไม้ด้วยท่าทีตกใจ มีบ้านอยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรือ
บ้านที่กวีกำลังเดินเข้าไปสำรวจนั้นเป็นบ้านหลังเล็ก ๆเหมือนบ้านสำหรับอยู่คนเดียว ดูจากทางเดินและความสะอาดของบ้านแล้วสามารถเดาได้ทันทีว่ามีคนอาศัยอยู่ที่นี่แน่ ๆ
“เจ้า......เข้ามาได้ยังไง”ขณะกวีกำลังจะเข้าไปใกล้บ้านหลังนั้น อยู่ ๆก็มีชายคนหนึ่งเดินออกมาด้วยท่าทีง่วง ๆก่อนจะสบตากวีเข้าพอดี พริบตานั้นเขาก็ถามออกมาด้วยท่าทีตกใจไม่ต่างจากกวีเท่าไร
“ไม่สิ เจ้าก็ต้องฆ่านางพญาผึ้งเข้ามาสินะ ข้านี่ถามอะไรโง่ ๆ”ชายคนนั้นรีบตอบคำถามของตัวเองเสียอย่างนั้นก่อนจะหัวเราะออกมาราวกับกำลังขำตัวเองที่ไม่งงไปพักใหญ่
“ไม่นึกเลยว่าจะมีคนฆ่านางพญาผึ้งแล้วเข้ามาเร็วขนาดนี้”ชายคนนั้นเดินเข้ามาหากวีด้วยท่าทีเป็นมิตร บางทีชายคนนี้อาจจะเป็น npc ก็เป็นได้
“ขอถามหน่อยได้หรือไม่ กองทัพของเจ้ามีคนเท่าไรถึงสามารถผ่านนางพญาผึ้งเข้ามาได้”ชายตรงหน้ากวีถามด้วยท่าทีสนใจ แต่เดิมป่าหมอกม่วงถูกออกแบบให้ผู้เล่นไม่สามารถผ่านเข้ามาคนเดียวได้อยู่แล้ว ทางเดียวที่จะเข้ามาก็คือการรวบรวมผู้เล่นจำนวนมากเพื่อล้มนางพญาผึ้งซึ่งเวทมนตร์สุดท้ายของนางพญาผึ้งที่อัญเชิญทหารตัวหนอนที่ระเบิดตัวเองทันทีนั้นเป็นอะไรที่ยากมากในการจะผ่านมาได้ อย่างน้อยก็ต้องมีคนเป็นร้อยปาร์ตี้ถึงจะฆ่าหนอนพวกนั้นได้บางส่วน หรือไม่ก็ต้องมียอดฝีมือด้านการโจมตีหลายสิบคนเพื่อล้มนางพญาก่อนที่พวกหนอนจะระเบิดตัวเอง
“ราว ๆหนึ่งร้อยครับ”กวีตอบพลางยิ้มเจื่อน ๆออกมา จริง ๆกวีไม่ได้เป็นหัวหน้ากองทัพครั้งนี้ แต่คนที่เหลือรอดคนสุดท้ายดันเป็นกวีนี่นา
“หนึ่งร้อย ยอดเยี่ยมมากไม่นึกเลยว่าเจ้าจะผ่านนางพญาผึ้งมาได้ด้วยคนแค่นั้น”ชายหนุ่มตรงหน้าตอบด้วยท่าทีอึ้ง ๆ จำนวนผู้เล่นที่มามีน้อยกว่าที่คิดมาก
“แล้ว ที่นี่คือที่ไหนกันแน่ ทำไมถึงซ่อนอยู่ในป่าหมอกม่วงแบบนี้”กวีถามเพื่อจะเข้าเรื่องเสียที
“นั่นสินะ ข้าคือวิคเตอร์เทพแห่งสงคราม เป็นผู้สร้างป่าแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อทดสอบเหล่านักผจญภัย”ทันทีที่อีกฝ่ายประกาศชื่อของตนเองออกมา กวีก็ชะงักไปทันที ดูจากภายนอกชายคนนี้ไม่มีอะไรแตกต่างจากคนธรรมดาเลย แต่เขากลับบอกว่าตนเองเป็นเทพแห่งสงครามเสียอย่างนั้น
“ทำไมเจ้าทำหน้าเหมือนไม่เชื่อล่ะ”วิคเตอร์ถามพลางยิ้มออกมาช้า ๆ
“npc ก็โกหกได้นี่ครับ แถม....เท่าที่ผมทราบมาเทพของโลกใบนี้มีแค่ห้าองค์เท่านั้นเอง”กวีตอบพลางจ้องมองวิคเตอร์ด้วยท่าทีไม่ไว้ใจ อยู่ ๆก็ประกาศตนว่าเป็นเทพ มันออกจะไม่น่าเชื่อไปหน่อยมั้ง
“หึหึ....มีความสงสัยก็ไม่เลว แม้จะมีเทพพระเจ้าองค์หลักห้าพระองค์แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเทพองค์ย่อยอีกนี่นา ข้าบังคับให้เจ้าเชื่อไม่ได้งั้น.....”วิคเตอร์ไม่ได้อธิบายต่อ เขาเพียงชี้นิ้วมาทางกวีเท่านั้น
[ ผู้เล่นกวีผ่านบททดสอบของเทพแห่งสงครามวิคเตอร์ ได้รับรางวัล สกิลปลุกใจ เลเวล 1 ]
[ ผู้เล่นกวีสร้างความพึงพอใจให้กับเทพพระเจ้า ได้รับฉายาผู้ที่เทพพระเจ้าชื่นชอบ ]
“เป็นไง เชื่อบ้างหรือยัง”วิคเตอร์ยิ้มด้วยท่าทีเหมือนจะเยอะเย้ยที่กวีไม่ยอมเชื่อตนเอง แต่เพราะท่าทีสงสัยก่อนหน้านี้เลยทำให้เขารู้สึกสนใจกวีไม่น้อย ตอนแรกคิดว่าพวกนักผจญภัยจะคุกเข่าทันทีที่เจอเทพเสียอีก
“ยังไม่เชื่อหรอกครับ อาจจะต้องใช้รางวัลอีกสองถึงสามอย่างผมถึงจะยอมเชื่อ”กวียิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยปากขอรางวัลเพิ่มเสียอย่างนั้น
“ฮ้า ๆ ไม่ได้ผลหรอกเจ้ามนุษย์เจ้าเล่ห์ นี่เป็นรางวัลที่เหมาะสมแล้วสำหรับการฆ่าบอสเลเวลยี่สิบห้า เอาไว้คราวหน้าที่ข้าได้พบเจ้าข้าจะลองแถมของรางวัลให้เจ้าเพิ่มก็แล้วกัน”วิคเตอร์หัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะโบกมือลากวีก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยปากขอรางวัลเพิ่มไปมากกว่านี้
วูบ.....
หลังจากวิคเตอร์โบกมือลา อยู่ ๆภาพเบื้องหน้ากวีก็พร่ามัวลงอย่างกับมีหมอกจาง ๆออกมาบดบังเบื้องหน้า รู้สึกตัวอีกทีกวีก็มายืนอยู่หน้าป่าหมอกม่วงเสียแล้ว....
“ไม่เปิดโอกาสให้ถามอะไรเลย”กวีถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นเทพจริงก็น่าจะทราบว่าแท้จริงแล้วเทวรูปองค์ที่ 5 อยู่ที่ไหน กวียังไม่ทันได้เปิดปากพูดอีกฝ่ายก็ส่งกวีออกมาซะแล้ว
“พี่กวี แย่แล้วครับ ตอนนี้กิลด์กรีนโลตัสล้อมทางเข้าหมู่บ้านเอาไว้หมดแล้ว เหมือนพวกเขาจะรอให้พี่กลับมานะครับ”อยู่ ๆเสียงจากระบบสื่อสารก็ดังมาจากเจที่อยู่ในหมู่บ้าน ท่าทางกิลด์กรีนโลตัสจะไม่พอใจเท่าไรที่กวีสังหารนางพญาผึ้งที่พวกตนพยายามฆ่ากันมาตั้งนาน แถมคนเดียวที่ได้เข้าไปในป่าด้านหลังของนางพญาผึ้งก็มีเพียงกวีเท่านั้นด้วย