บทที่ 22 เจ้าหญิงนักรบ (อ่านฟรี)
“โอ้ เทพเจ้าแห่งเกม…ท่านโปรดให้คำแนะนำแก่ข้าที ข้าจะต้องทำเช่นไร”
ลีอาถามด้วยความนับถือ เธอปักปลายดาบลงพื้นและคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
ซีเว่ยสะบัดหนวดผ่านหัวเธอเบา ๆ ทันใดนั้นตัวอักษรสีขาวก็ปรากฏขึ้นบนหัวเธอ
"นี่มันอะไรกัน…?" เธอมองไปที่ชื่อบนหัวด้วยความสับสน
“นี่คือสัญลักษณ์ของ 'ผู้เล่น' จะมีเพียงสาวกของข้าเท่านั้นที่จะเห็นมัน” ซีเว่ยอธิบาย “อย่าสงสัยเมื่อเจ้าได้พบคนอื่นที่มีชื่ออยู่บนหัวเหมือนเจ้า เพราะพวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้เล่นและสาวกของข้าเช่นกัน แต่หากเจ้าเห็นอะไรก็ตามที่บนหัวมีแถบ HP ให้ถือว่านั่นคือศัตรูของเจ้า”
“ผู้เล่น…”
แม้ว่าเธอจะไม่แน่ใจว่าแถบ HP คืออะไร แต่ลีอาก็เข้าใจคำว่า 'ผู้เล่น' โลกนี้มีคำว่าผู้เล่น ซึ่งมันหมายถึงผู้ที่กำลังเล่นเกม ไม่มีคำเรียกใดจะเหมาะสมกับสาวกของเทพเจ้าแห่งเกมไปมากกว่านี้แล้ว
เด็กสาวคิดแล้วก็พยักหน้าเข้าใจ
“ข้ามอบพรให้แก่เจ้าแล้ว จงสวดภาวนาถ้อยคำในใจเจ้าอย่างจริงใจเพื่อทำให้พรนั้นแสดงผล”
“คำสวดภาวนา?” ลีอาหลับตาลงอย่างสับสน ในขณะที่เธอกำลังลังเลว่าควรจะสวดเช่นไร บางอย่างก็แวบเข้ามาในความคิดของเธอราวกับสายฟ้าฟาด หลังจากนั้นถ้อยคำสั้น ๆ แสนเรียบง่ายก็ได้ฝังลึกลงไปในสมองของเธอ
เธอลืมตาขึ้น และพูดอย่างตื่นเต้นกับซีเว่ยที่พึ่งถอนหนวดของเขากลับว่า “เทพเจ้าของข้า ข้าเข้าใจแล้ว!”
จากนั้นเธอก็เริ่มสวดภาวนาทันที
“โอ้~เทพเจ้าแห่งเกม โปรดมอบชีวิตใหม่ให้กับเรา…”
หน้าจอโปร่งแสงปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอเมื่อเธอเอ่ยจบ
<ติ้ง!>
<เปิดใช้งานระบบ เจ้าหญิงนักรบ>
“เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าควรมุ่งหน้าไปยังเมืองนอกหุบเขาแห่งความตาย นั่นคือที่ที่สาวกของข้าจะมารวมตัวกัน พวกเขากำลังรอต้อนรับเจ้าอยู่” ก่อนที่ลีอาจะอ่านหน้าจอระบบเสร็จ ซีเว่ยก็กล่าวขึ้นมาเสียงดัง
“แล้วคนของข้าเล่า…” เธอหันไปมองทหารองครักษ์ที่ยังไม่ฟื้นด้วยความกังวล
“ศรัทธาของพวกเขายังมีไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สามารถรับพรศักดิ์สิทธิ์จากข้าได้” ซีเว่ยตอบ “หลังจากที่เจ้าออกจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์แล้ว พวกเขาก็จะตื่นขึ้นตามปกติ”
“รับทราบค่ะ…” ลีอาถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้ว่าเธอจะรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยก็ตาม
“เอาล่ะ ข้าหวังว่าเจ้าจะเติบโตขึ้นเมื่อเราพบกันครั้งหน้า…”
“ช้าก่อน ท่านเทพเจ้าแห่งเกม!” ลีอามองไปที่ร่างอันพร่ามัวของซีเว่ยและถามออกมาอย่างจริงจังว่า “คนทั้งโลกบอกข้าว่าปู่ของข้าเป็นราชาที่โง่เขลาและตาบอด…แล้วท่านเล่า ท่านคิดอย่างไรกับเขา?”
ซีเว่ยนิ่งไปพักหนึ่ง นั่นทำให้แสงสว่างแห่งความหวังในดวงตาของลีอาค่อย ๆ จางหายไป
แต่ในที่สุดซีเว่ยก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันมั่นคงว่า “เขาเป็นกษัตริย์ที่ควรค่าแก่การเคารพ”
หากไม่มียาการันที่ 11 เทพเจ้าแห่งเกมจะไม่มีตัวตน และซีเว่ยก็จะไม่ได้ข้ามมายังโลกใบนี้ นั่นคือเหตุผลที่ซีเว่ยรู้สึกขอบคุณราชาผู้โชคร้ายคนนั้น
“ขอบคุณค่ะ ท่านเทพเจ้าแห่งเกม!” เมื่อได้ยินคำยืนยันของซีเว่ย สายตาของลีอาก็ไม่มีความสงสัยอีกต่อไป เธอโค้งคำนับให้ซีเว่ยอย่างจริงใจ
ซีเว่ยไม่พูดอะไร เขาโบกหนวดส่งเธอและคนของเธอออกไป จุดหมายของพวกเขาคือเขตชานเมืองของอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากแลงคาสเตอร์ไปหลายร้อยไมล์
ความจริงเขาไม่ได้ดึงพวกเขาเข้าสู่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขาจริง ๆ เขาเพียงแค่สร้างพื้นที่ลวงตาขึ้นมา เพราะการดึงอะไรก็ตามจากแดนมรรตัยขึ้นมายังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ มันจะต้องใช้พลังงานเทพเจ้าจำนวนมาก และซีเว่ยก็ยังไม่อยากเสียพลังงานเทพเจ้ามากเกินไปกับคนเหล่านี้
"โอเค ด้วยลีอา ตอนนี้เควสหลักของสาวกก็ได้ถูกกำหนดไว้คร่าว ๆ แล้ว”
ซีเว่ยอารมณ์ดีมาก เขาหันไปตรวจสอบพวกลัทธิชั่วในป่าอีกครั้ง
พวกมันแยกออกเป็น 3 กลุ่มเพื่อค้นป่า ดูเหมือนพวกมันจะยังไม่ยอมแพ้ เนื่องจากพวกมันใช้เวลาวางกับดักไปมากมาย แต่สุดท้าย เหยื่อของพวกมันก็หายไปอย่างลึกลับทั้งที่พวกมันเกือบจะทำสำเร็จแล้ว
เอาจริง ๆ ไม่ใช่ว่าซีเว่ยจะไม่สามารถกำจัดคนเหล่านี้ได้ สำหรับเขา เขาไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามมากมายอะไรเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าจะมีพวกมันมาเพิ่มอีกหลายสิบคนก็ตาม
แต่ที่เขาส่งกลุ่มของลีอาไปที่อื่นก็เพราะมันดูสง่างามสมเป็นเทพเจ้าดีก็เท่านั้น
ซึ่งผิดกับการที่เขาลงมาปรากฏตัวโดยตรงเพื่อฆ่าพวกลัทธิ นั่นจะถือว่าเป็นการส่ง 'อวตาร' ลงมา ที่จะทำให้เทพเจ้าฝ่ายตรงข้ามพบเขาทันที
และที่ยิ่งกว่านั้น แม้ซีเว่ยจะตัดสินใจแล้วว่า ‘เทพกระดูกเน่า’ ที่พวกลัทธิบูชาเป็นเทพเจ้าชั่วร้าย แต่ความจริงแล้วมันเป็นลูกสมุนของ ‘เทพกะโหลก’ ซึ่งเป็นเทพเจ้าชั้นกลางที่รับใช้ 'ราชาแห่งความตายฮาเดส' แม้ว่ามันจะเป็นเพียงลูกกระจ๊อกตัวเล็ก ๆ ของเทพเจ้าตัวใหญ่ แถมยังเป็นแค่เทพมือใหม่ที่ต่ำกว่าเทพเจ้าชั้นล่างที่หาได้ยาก
เว้นแต่ว่าสาวกของเทพเจ้าตัวเล็ก ๆ นี้จะมีความสามารถลุกขึ้นมายึดครองอาณาจักรทั้งอาณาจักรได้ โดยตั้งลัทธินี้เป็นศาสนาประจำชาติ และขยายมันออกไปทั่วภูมิภาคเพื่อเพิ่มฐานผู้ศรัทธา มันถึงจะได้รับการยกระดับให้เป็นเทพระดับล่างอย่างถูกต้อง
พูดได้อีกอย่างว่า พวกนูป*แบบเจ้านี่ต้องค่อย ๆ ตะล่อมจับ ถ้าซีเว่ยทำให้มันกลัวจากการที่เขาปรากฏตัวออกมาช่วยสาวกของเขา อีกฝ่ายก็คงจะเริ่มระวังตัวมากเกินไป
(นูป ศัพท์เกมที่ใช้เรียกบุคคลซึ่งเล่นมานานแล้วและยังไม่เก่ง แถมยังอวดดี ชอบสั่งนู้นนี่ ทำตัวน่ารักเกียจ หรืออาจออกจากเกมส์ทันทีเมื่อเห็นว่าตัวเองเสียเปรียบ ซึ่งจะไม่เหมือนกัน newbie ซึ่งเป็นผู้เล่นใหม่เท่านั้น ดังนั้น newbie จึงไม่เหมือนกันกับ noob)
สำหรับคนบางคนอาจจะคิดว่า 'โลกนี้ยังมีเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่มากมาย ทำไมคนพวกนี้ถึงต้องติดตามเทพชั่วร้ายตัวเล็ก ๆ ด้วย? พวกลัทธินี่บ้ารึเปล่า?'
แต่มันก็มีสำนวนหนึ่งที่เหมาะกับสถานการณ์นี้มาก นั่นก็คือ ‘อยู่เป็นหัวหมา ดีกว่าเป็นหางราชสีห์’
เทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่นั้นมีผู้ศรัทธาจำนวนมหาศาล และมันต้องใช้ความพยายามจนเลือดตาแทบกระเด็นสำหรับการที่คนธรรมดาสักคน จะได้อยู่เหนือฝูงชนในศาสนจักรของตน ผิดกับการนับถือเทพชั่วร้ายตัวเล็ก ๆ เหล่านั้น เพราะเทพเจ้าที่ชั่วร้ายไม่ได้มีผู้ศรัทธามากมาย ตราบใดที่เขายอมเปลี่ยนใจมาเลื่อมใสศรัทธา มันก็จะทำให้เทพเจ้าสังเกตเห็นศรัทธาของพวกเขาได้ง่าย ๆ และพวกเขาก็จะสามารถได้รับพรศักดิ์สิทธิ์จากเทพเจ้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ
พรจากเทพเจ้าชั่วร้ายมักจะอ่อนแอกว่าพรจากเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่มาก และแน่นอนที่สุดว่ามันจะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อสาวกที่ได้รับพร แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเมื่อเทียบกับปุถุชนคนธรรมดาหรือนักบวชธรรมดา อย่างน้อยก็ต้องเป็นระดับมุขนายกถึงจะรับมือกับผู้นำลัทธิได้
อาจกล่าวได้ว่าการศรัทธาในเทพเจ้าชั่วร้ายเป็นหนทางสู่อำนาจที่รวดเร็วที่สุด และนั่นก็เป็นสาเหตุที่กลุ่มผู้นับถือเทพชั่วร้ายยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แม้มันจะเป็นสิ่งต้องห้ามร้ายแรงของทุกอาณาจักรก็ตาม
แต่ยังไงก็ตาม สรุปแล้ว การปรากฏตัวของลัทธิชั่วร้ายที่ศรัทธาในเทพกระดูกเน่า ก็ได้ทำให้ซีเว่ยมีเป้าหมายใหม่ เขาจะปูทางภารกิจให้กับสาวกของเขา และดึงเทพเจ้าองค์นั้นกับสาวกของมันเข้าดันเจี้ยน* ให้ผู้เล่นผลัดกันเตะ
(ดันเจี้ยน พื้นที่ที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อทำภารกิจหนึ่ง ๆ โดยมีรางวัลตอบแทนเป็นไอเทมต่าง ๆ)
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เส้นทางสู่การฟื้นฟูอาณาจักของลีอานั้นลำบากกว่า เพราะมันเกี่ยวข้องกับอาณาจักรใกล้เคียงที่ทรงพลังจำนวนมาก ซึ่งพวกเขาศรัทธาในเทพเจ้าระดับกลางหรือระดับสูง ซีเว่ยไม่มีทางยื่นหนวดเข้าถ้ำเสือได้ในขณะนี้ เขาจึงทำได้เพียงยืดเวลาให้เควสหลักช้าลงเท่านั้น...
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------