ตอนที่ 135 ฐานบัญชาการ
ตอนที่ 135 ฐานบัญชาการ
เจสเปอร์ได้ตัดสินใจที่จะยึดโครงสร้างหลักของอาคารเดิมไว้และปรับปรุงต่อเติมปรับปรุงวัสดุใหม่เข้าไปแทน ที่เขาเลือกใช้วิธีนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากคำแนะนำของช่างผู้รับเหมาที่เชี่ยวชาญในด้านการสร้างอาคารและวิธีนี้ยังช่วยประหยัดเวลาและทุนทรัพย์ของเขาไปได้มากกว่าการทุบทำลายแล้วสร้างขึ้นใหม่มากพอสมควร
แน่นอนว่าทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป การต่อเติมปรับปรุงใหม่โดยยึดหลักอาคารเดิมสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงเลยคือเราไม่สามารถที่จะออกแบบภายนอกได้มากนัก แถมรากฐานของมันก็ไม่รู้ว่าจะรองรับอาคารที่ว่านี้ได้อีกเท่าไหร่ ในเมื่อตัวเจสเปอร์เองไม่มีความรู้ด้านวิศวกรรมสิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้เห็นที่จะต้องฝากความหวังและทุกอย่างไว้ที่ช่างผู้รับเหมา ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างอาคารให้กับกิลด์ The Myth ของเขาเมื่อในอดีต
อาคารขนาดกลางสูง 4 ชั้นอาจดูใหญ่โตเกินไปสำหรับบางคน แต่สำหรับกิลด์ชั้นนำที่มีฐานบัญชาการเป็นตึกระฟ้าอย่างกิลด์ Blood Commander หรือ Red Shadows คงมองอาคารหลังนี้ที่เจสเปอร์ภูมิใจเป็นเพียงที่หยั่งเท้าเท่านั้น
ทว่าไม่ใช่แค่เจสเปอร์เท่านั้นที่กำลังก่อสร้างฐานบัญชาการของตัวเองอยู่ในเวลานี้ คาร์ลอสที่กลืนกินกิลด์ BlackRat ของโอไบรอันไปเป็นของตัวเองก็เพิ่งเปิดตัวสำนักงานของตัวเองไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเช่นกัน นี้จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมระยะหลังๆสมาชิกกิลด์ Black Rat ถึงเก็บตัวเงียบและไม่ค่อยโผล่หน้ามาหาเรื่องพวกเขา ที่แท้ก็เป็นเพราะกำลังเดินตามเส้นทางแบบเดียวกับกิลด์ของเขา ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดรอวันที่พร้อมนี้เอง
ถึงแม้ว่าทั้งสองจะเลือกเดินเส้นทางในเงามืดแบบเดียวกันแต่เจสเปอร์ที่ไม่มีทุนทรัพย์ตั้งต้นเหมือนกับคาร์ลอส เขาจึงเลือกที่จะมุ่งเน้นการสร้างรากฐานของตัวเองภายในเกมก่อน
ส่วนคาร์ลอสที่ยึดครองกิลด์ Black Rat มาเป็นของตัวเองนั้นมีทั้งทุนทรัพย์ทั้งกำลังคนของสมาชิกเดิม ขาดแต่เพียงชื่อเสียงและอำนาจ จึงไม่แปลกที่คนอย่างหมอนี้จะเลือกสร้างรากฐานของตัวเองในโลกจริงเสียก่อน
มีสำนักงานเป็นของตัวเองมีฐานบัญชาการที่หรูหราใครบ้างจะไม่อยากเข้าร่วม อย่างที่บอกไปตั้งแต่เกม The Era Online เปิดให้บริการมา 3 เดือน ยอดผู้เล่นก็มีแต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เวลานี้อิทธิพลจากเกมดังกล่าว ค่อยเข้าๆมายึดพื้นที่ในสังคมไปที่ละน้อย จากรายงานข่าวที่ว่า มีลูกจ้างหลากหลายคนตัดสินใจลาออกจากงานประจำเดิมมาแสวงโชคกับเกมออนไลน์ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่กำลังเดินตามรอยเท้าเดิมของมันอย่างไม่ผิดเพี้ยน อีกไม่กี่ปี เกม The Era Online จะขึ้นเป็นเกมที่มีผู้เล่นสูงที่สุดในโลกและจะเป็นเกมที่มีอิทธิพลในสังคมมากกว่านี้เป็นแน่อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น
“ชั้น 1 นี้ผมตั้งใจทำไว้ให้กับทีมโปรดักชั่นของคุณและเป็นพื้นที่ส่วนรวมที่จะเอาไว้ใช้ในการกินอาหารของทุกคน...ส่วนอุปกรณ์และของจำเป็นต่างๆผู้กำกับจางลองลิสต์รายการมาแล้วมาคุยกับเลขาซันนี่ก็แล้วกันน่ะครับ”
‘ชั้น 1? ทีมโปรดักชั่น? ห้องอาหาร?’
ทุกคนในที่นี้มองไปเห็นแต่ผนังและปูนโล่งๆ
“. . .”
แน่นอนว่ามันต้องแบบนั้นอยู่อาคารในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงและต่อเติม การเดินสำรวจอาจดูไม่เหมาะหนัก ชายหนุ่มจึงใช้สุดยอดวิธีให้ทุกคนจินตนการเอาเอง ชั้น1 ห้องอาหาร ห้องโปรดักชั้น จะเป็นเป็นยังไงก็สุดแล้วแต่จินตนการของทุกคนจะก้าวไปถึงก็แล้วกัน
ซึ่งในความคิดของเขา อาคารหลังนี้จะเป็นฐานบัญชาการของกิลด์ Rising Sun ไปอีกนานอย่างน้อยก็หลายปีหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากไปกว่าที่เป็นอยู่นี้
ในส่วนของพื้นที่ชั้น 2 เจสเปอร์ตั้งใจว่าจะให้ชั้นนี้เป็นห้องที่เอาไว้ใช่สำหรับออกกำลังกาย ห้องนอนและห้องประชุม
ส่วนพื้นที่ชั้น 3 จะเป็นห้องไว้สำหรับเชื่อมต่อเข้ากับเกม The Era Online ด้วยกัน สมาชิกหลักทุกคนของกิลด์จะใช้ห้องนี้ในการเข้าเล่นเกมเพื่อที่จะเอาไว้ใช้ในการบันทึกข้อมูลการเล่นและส่งไปให้กับทีมโปรดักชั่นตัดต่อแพร่ภาพในลำดับต่อไป...ส่วนชั้น 4 เอ่อ...เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งพูดถึงจะดีกว่า เจสเปอร์ก้มลงมองดูตัวเลขจากเงินในบัญชีของเขาที่แสดงอยู่ในหน้าจอ อย่างปวดใจ
หลังจากที่ลงทุนไปกับอาคารหลังนี้จนหมดทั้งการตกแต่ง การต่อเติมหรืออุปกรณ์ทั้งหลายที่จำเป็น เจสเปอร์ทุ่มเม็ดเงินลงไปอย่างไม่ยั้ง ไม่ว่าจะเป็นหมวกอุปกรณ์ VR รุ่นปานกลางจำนวน 30 ชุดที่จะเอาไว้ให้กับทีมโปรดักชั่นและหมวก VR รุ่นโกลด์ที่มีราคามากถึง 2 แสนเครดิตอีกจำนวน 12 ชุด ให้กับสมาชิกกิลด์ของเขาทุกคน
ทันทีที่สมาชิกทุกคนกลับขึ้นมาบนคอนโดและได้เห็นหมวก VR รุ่นโกลด์ที่ว่านี้ว่างอยู่ตรงหน้า ร่ายกายและความกระหายของพวกเขาก็ดูเหมือนจะเต้นโครมครามอยากที่จะลองทดสอบหมวกระดับสูงรุ่นนี้กันเกือบทั้งหมด ขนาดทวิสเต็ดที่มักเฉยชากับสิ่งของมีค่าทั้งหลายรวมถึงไม่สนใจที่จะดูแลตัวเอง ปฏิกิริยาของชายผมยาวที่แสดงออกมาก็ยังมองออกเลยว่าเขากำลังตื่นเต้นมากแค่ไหน
“เจส!!นายนี้สุดยอดไปเลยจริงๆ หมวกรุ่นปานกลางที่นายซื้อให้ ฉันยังตอบแทนไม่หมดเลย แล้วนี้มาเป็นหมวกรุ่นโกลด์อีก ฉันพูดไม่ออกแล้ว”
ชายร่างใหญ่อย่างอามมี่โผเข้ากอดเจสเปอร์อย่างแรง แม้เจสเปอร์จะออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน แต่ก็ไม่อาจฝืนต้านทานแรงของนักกีฬาอย่างอามมี่ไปได้เลยสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องเสียกอดนี้ให้กับชายหุ่นหมีโดยไม่อาจขัดขืน
“ใครว่าฉันซื้อให้พวกนายฟรีๆ ทุกวันนี้พวกนายก็มีเงินเดือนกันทุกคนอยู่แล้ว ยังจะมาเอาอะไรจากฉันอีก หมวกนี้น่ะ...ผ่อนจ่าย!!” เจสเปอร์ผลักอามมี่ที่ตะลึงค้างออกไปอย่างสุดแรง พลางได้ยินเสียงร้องระงมถึงความไม่พอใจที่ว่านี้ดังมาจากสมาชิกคนอื่นๆ
‘ผ่อนจ่าย!!’
ถึงกระนั้นเจสเปอร์ก็ไม่สนใจเสียงนกเสียงกาที่ร้องดังอยู่ดี ชายหนุ่มยังคงยกกล่องที่บรรจุหมวก VR รุ่นโกลด์ที่มีขนาดใหญ่ส่งให้ถึงมือของทุกคนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ใช้ให้ดี...ฉันหวังว่าพวกนายจะบังคับและควบคุมตัวละครให้ดีมากกว่านี้ โดยไม่มีคำกล่าวอ้างว่าระบบซิงค์ขาดช่วงอีกนะ”
หมวก VR รุ่นโกลด์ถือเป็นหมวกรุ่นสูงสุดในตอนนี้ที่มีอัตราการซิงค์(synchronize)อยู่ที่ระดับ 70-75% ซึ่งมากกว่าหมวกรุ่นเดิมที่พวกเขาใช้อย่างหมวก รุ่นเริ่มต้นและปานกลางที่มีอัตราการซิงค์อยู่ที่ 50-60และ60-65 ตามลำดับ 5-10% ที่เพิ่มขึ้นมานั้นหากมองเป็นตัวเลขอาจดูไม่แตกต่างกันมากนัก แต่หากผู้เล่นได้ลองสัมผัสดูเองก็จะรู้ว่ามันแตกต่างกันมากแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่นจอคอมพิวเตอร์ ที่ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักเลือกใช้จอที่มีค่ารีเฟรชเรทอยู่ที่ 60Hz หรือ อัตราการรีเฟรชภาพ60ครั้งต่อวินาที หากเอามาเทียบกับหน้าจอเทคโนโลยีใหม่ที่มีค่ารีเฟรชเรทที่ 144Hz หากมองเผินๆหน้าจอทั้งสองอาจดูไม่แตกต่างอะไรมากนัก แต่เมื่อตัวผู้ใช้ได้ลองใช้งานด้วยตัวเองจริงๆ อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะสัมผัสได้ว่า ทั้งสองหน้าจอมีความลื่นไหลที่แตกต่างกันเป็นต้น
แม้ว่าทุกคนจะดีใจที่ได้เปลี่ยนหมวก VR ของตัวเองใหม่แต่เมื่อมองดูราคาที่พวกเขาต้องผ่อนจ่ายกับหัวหน้ากิลด์จอมงกผู้นี้ จิตใจของพวกเขาที่แสนบอบบางก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาตกใน...ยิ้มไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก
“นายเก็บหมวกใบนี้ไว้เถอะ...เผอิญว่าฉันมีมันแล้ว!!”
กล่อง VR ถูกดันกลับไปหาชายหนุ่มอีกครั้งเมื่อถูกส่งมายังไอรีน หญิงสาวบรรจงยิ้มแห้งๆ แลบลิ้นที่แดงชมพูออกมาเล็กน้อย ช่างเป็นภาพที่น่ารักอยู่พอสมควรแต่ติดตรงที่ว่า ความน่ารักกับเงินที่เสียไปมันเทียบกันไม่ได้
“ฉันซื้อมาใช้ได้สักพักใหญ่ๆแล้ว ตั้งแต่วันที่นายกับฉันช่วยกันเคลียร์ป้อมปราการ Mirage Tower เพื่อช่วยองค์ราชินีเมื่อหนก่อน!! ฉันไม่ได้บอกเพราะกลัวว่านายจะบ่น เรื่องที่ฉันใช้เงินสิ้นเปลือง...แต่จะให้ทำยังไงล่ะ! นายก็รู้ว่าฉันแทบไม่ได้ออกไปไหนเลย เสื้อผ้าก็มีสปอนเซอร์เอามาให้ ทั้งตัวฉันแทบไม่มีชิ้นไหนเลยที่ฉันซื้อเอง อาหารขนมยิ่งแล้วใหญ่อาหารของฉันทุกมื้ออยู่ในการดูแลความนักโภชนาการหมด คงมีแต่หมวกนี้ล่ะมั้งที่ฉันใช้เงินของตัวเองซื้อมาหลังจากที่ยืมหมวกของพี่ๆในวงมานาน!!”
เจสเปอร์ปั้นหน้าไม่ถูกอยู่เล็กน้อยเมื่อได้ฟังคำพูดของไอรีน ซึ่งตัวชายหนุ่มเองก็พอเข้าใจถึงความเป็นจริงที่ว่าศิลปินแบบเธอไม่ได้ชีวิตที่สะดวกสบายเหมือนคนอื่นมากนัก แม้เธอจะมีเงินทองมากมายจากการทำงาน แต่ชีวิตส่วนตัวของเธอล้วนถูกกำหนดเป็นตารางแทบจะหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายที่สามารถใส่ได้แค่ยี่ห้อ A เท่านั้นห้ามใส่ของยี่ห้อ B เนื่องจากติดสัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์เป็นต้น
ในเมื่อหมวก VR รุ่นโกลด์ถูกไอรีนปฏิเสธจะให้ปล่อยให้หมวกที่มีค่าใบนี้นอนรออยู่ในกล่องเฉยๆมันก็ดูจะเสียของเกินไป สุดท้ายแล้วหัวหน้ากิลด์จอมงกคนนี้ก็แก้ไขสถานการณ์ด้วยการยกหมวกใบที่ว่านี้ให้กับผู้กำกับจางพร้อมกับยกหมวกใบเดิมของตนให้กับผู้ช่วยอาเมลเพื่อให้ทั้งคู่ได้เข้าถึงประสบการณ์ในเกมแบบเต็มๆนั่นเอง แต่จะเรียกได้ว่ายกให้ก็คงจะไม่มีถูกซะทีเดียวนักเพราะถึงอย่างไรหมวกใบนี้ก็มีราคาไม่ใช้น้อยๆและตัวผู้กำกับเองก็ถือว่ามีอายุมากกว่าเขา การจะรับอะไรไปฟรีก็คงดูไม่เหมาะ ฉะนั้นแล้วผู้กำกับจางและอาเมลเลยต้องชำระเครดิตของหมวกใบนี้กับเจสเปอร์ด้วยการผ่อนจ่ายเช่นเดียวกัน
“เอาล่ะฉันรู้ว่าพวกนายอยากที่จะลองหมวกใบนี้กันเต็มที่แล้ว!!แต่ตอนนี้เซิฟเวอร์ในอาณาจักรกรีนเวต้ายังคงปิดอัพเดทอยู่...เพราะฉะนั้นพวกเราต้องมาคุยและหารือกับเรื่องกิลด์ของพวกเราเสียหน่อย” เจสเปอร์ตบมือเพื่อเรียกทุกคนให้หันมามอง ก่อนที่จะกล่าวเปิดประชุมมีทติ้งกิลด์อย่างเป็นทางการขึ้น
ในที่สุดหลังจากที่ได้เซ็นสัญญากับทีมโปรดักชั่นและบอกกล่าวถึงเรื่องฐานบัญชาการที่กำลังถูกสร้างขึ้น พร้อมกับแจกหมวก VR รุ่นโกลด์ให้กับสมาชิกหลักทุกคน เจสเปอร์ก็ถือโอกาสนี้เปิดการประชุมขึ้นในทันที
โดยทุกๆคนเมื่อรู้ว่าเจสเปอร์กำลังจะเริ่มประชุม สีหน้าของพวกเขาก็พลันเปลี่ยนไปใบหน้าฉายแววความตั้งใจและจริงจัง จนแทบจะแตกต่างกับสีหน้ารอยยิ้มหยอกล้อเมื่อครู่นั่นสร้างความแปลกใจและตกตะลึงให้กับสองผู้กำกับที่เพิ่มเข้าร่วมเป็นอย่างมาก
‘นี้สิน่ะที่เขาเรียกว่า เบื้องหลังของกิลด์ Rising Sun!!’
“ก่อนที่ฉันจะพูดถึงเรื่องแผนการขั้นต่อไปของเรา...ตอนนี้ฉันอยากรู้สถานการณ์ของเมืองอีรูไดซ์ซะก่อน ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?”
ทุกคนหันหน้าไปมองที่ตำรวจหนุ่มคลูเอล สมาชิกในกิลด์เพียงคนเดียวของพวกเขาที่อาศัยอยู่ต่างเมืองและยังเป็นผู้เล่นที่เป็นทหารของกองทัพ NPC เพียงคนเดียวในอาณาจักรกรีนเวต้าอีกด้วย
“สถานการณ์ในเมืองอีรูไดซ์ในตอนนี้เข้าสู่สภาวะนิ่งสงบเหมือนอย่างที่นายบอกเจส!!บรรดากิลด์น้อยใหญ่เริ่มที่จะหยุดทำสงครามกันเองและหันมาใช้ยุทธวิธีสงครามเย็นแทน แต่ถึงกระนั่นกิลด์ Blood Commander ก็ยังถือเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองอีรูไดซ์อยู่ดีและเท่าที่ฉันสืบทาบมา หนึ่งในผู้นำของกิลด์ Blood Commander ที่ชื่อโอฟีเรียกำลังจะย้ายไปที่เมืองอัลคาเดียอีกด้วย ฉันคาดว่าอาจเป็นเพราะการมีอยู่ของพวกเราถึงทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้และคงจัดการกับพวกเราขั้นเด็ดขาดอย่างแน่นอน!!”
คลูเอลที่มีอาชีพเป็นตำรวจในชีวิตจริง การสันนิษฐานของเขามักคาดคะเนถึงสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อหาวิธีการรับมืออยู่เป็นประจำ ไม่ว่าข้อมูลจะเล็กน้อยแค่ไหน ตำรวจอย่างคลูเอลมักจะหยิบยกและตั้งข้อสงสัยไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายกำลังคนหรือการปรับเปลี่ยนแม่ทัพ ทั้งหมดนี้ถ้าไม่ได้คลูเอลช่วยตามสืบจนได้ข้อมูลที่แน่ชัดแบบนี้ เจสเปอร์าที่ประจำอยู่ที่เมืองอัลคาเดียคงจะหาวิธีการจัดการได้ไม่ทันเป็นแน่
“ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่พวกนายควรรู้ สนธิสัญญาสงบศึกของ 3 กิลด์ใหญ่ที่เมืองอีรูไดซ์ได้ยุติลงแล้ว โดยกิลด์ Blood Commander และ กิลด์ Outlaws ได้ทำการเปิดสงครามเต็มรูปแบบเข้าใส่กิลด์ Red Shadows จนพังพินาศย่อยยับก่อนที่เกมจะปิดปรับปรุงไม่กี่ชั่วโมงและฉันคิดว่าที่เมืองอัลคาเดียก็น่าจะเกิดสงครมด้วยเช่นกัน!!”
‘กิลด์ Red Shadows เมืองอีรูไดซ์ถูกถล่มไปแล้วยังงั้นหรอ…!!’
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy