ตอนที่ 55-56
ตอนที่ 55 : ร้านที่เปลี่ยนไป
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ศิษย์ของสถาบันเป็นนกที่อยู่ในกรง ทุกปีอาจารย์ของสถาบันจะออกนำคณะศิษย์สู่หลากหลายสถานที่เพื่อหาประสบการณ์
และการเปิดออกของโบราณสถานในเทือกเขาจิ่วเหยาก็เป็นโอกาสอันดี!
ด้วยสองอาจารย์นำคณะ บุรุษนั้นนามหยิงอู๋จี้ สตรีนั้นนามว่ามู่หรงไห่เถิง
กำลังของคนทั้งสองนั้นยอดเยี่ยม ถึงกับเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่เก้า!
นอกจากรับหน้าที่นำคณะศิษย์ออกหาประสบการณ์แล้ว สถาบันวิญญาณเมฆาย่อมไม่คิดเดินทางสู่โบราณสถานโดยกลับไปมือเปล่า!
กลุ่มคนทะยานลงจากแผ่นหลังวิหคลึกล้ำอัคคีทอง จากนั้นจึงมุ่งหน้ามาทางนครจิ่วเหยาที่ผู้ฝึกตนรวมตัวกันอยู่
ทหารยามหน้าประตูไม่คิดกล้าเข้าขวางจึงปล่อยให้กลุ่มคนได้เข้าเมือง
นี่คืออำนาจอันเกรียงไกร!
วิหคลึกล้ำอัคคีทองเผยเสียงร้องออก ปีกนั้นสยายกว้างพร้อมทะยานบินมุ่งหน้าสู่เทือกเขาจิ่วเหยา
สำหรับพวกมัน เทือกเขาจิ่วเหยาคือสถานที่อันดีสำหรับใช้พักอาศัย
“ไม่คิดเลยว่าสถาบันวิญญาณเมฆาเองก็มาด้วย!”
“โบราณสถานครั้งนี้คงคึกคักน่าดู!”
“อย่าเพิ่งถอนใจไป! ไปต่อแถว! พวกเรายังต้องเข้าเมือง...”
เมื่อเข้ามาในเมืองแล้ว คณะคนของสถาบันวิญญาณเมฆาจึงมุ่งหน้าสู่โรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมือง หอจันทราเมรัย
ตามปกติแล้วศิษย์เหล่านี้ไม่ใช่พักอาศัยในโรงเตี๊ยมโดยตลอด หลังได้ทราบเรื่องจากหยิงอู๋จี้และมู่หรงไห่เถิง กลุ่มคนจำนวนหนึ่งจึงออกจากหอจันทราเมรัยอย่างเงียบงัน
……
ปู้หลี่เกื๋อและปู้ฉืออีต่างเดินมาถึงยังซอยเปล่าเปลี่ยว ภาพฉากอันคุ้นเคยกลับไม่คุ้นเคย
“แปลก เถ้าแก่ไปไหนแล้ว? ไฉนวันนี้ไม่มานอนอาบแดด?” ปู้หลี่เกื๋อเกาศีรษะอย่างนึกสับสน
เพียงเถ้าแก่ร้านไม่ได้มานอนอาบแดดหน้าประตูก็ถือเป็นเรื่องผิดปกติ!
“หรือในร้านมีสินค้าใหม่?” ปู้ฉืออีตั้งข้อสงสัย
ปู้หลี่เกื๋อพยักหน้าเห็นพ้อง จากนั้นจึงเผยความคาดหวัง “เป็นอย่างนั้นแน่! พี่หญิง เร่งรีบเข้าไปในร้านรับชม!”
เมื่อคนทั้งสองเข้าสู่ด้านในร้านต้นตำรับ สิ่งแรกที่ได้เห็นคือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในร้าน
สิ่งแรกที่ต้องตาคือแผ่นสีดำขนาดใหญ่หันมาทางประตู
ชั้นวางทั้งหมดในร้านทางด้านขวาหายไป พวกมันถูกแทนที่ด้วยที่นั่ง
ทั้งยังมีหมวกโลหะตั้งเอาไว้เคียงข้างที่นั่งเหล่านั้น พร้อมแผ่นสีดำที่ประดับเอาไว้ตรงหน้า
เถ้าแก่และเหยาซือหยานกำลังนั่งบนเก้าอี้คนละตัวและสวมใส่หมวกโลหะ
ที่แผงอะไรสักอย่างเบื้องหน้า มันปรากฏร่างคนสองคน
เหยาซือหยานกำลังสังหารสัตว์อสูรนานาชนิดในเวลาอึดใจ
ส่วนเถ้าแก่นั้นถูกสัตว์อสูรหลากหลายสังหาร...
เดี๋ยวสิ? นี่คล้ายไม่ถูกต้องแล้ว!
ไม่ใช่เถ้าแก่ร้านเป็นยอดฝีมือสุดยอดงั้นหรือ?
ไฉนความแตกต่างระหว่างคนทั้งสองจึงได้มากมายเพียงนี้?
สาเหตุคงมีหนึ่งเดียว นั่นก็คือสัตว์อสูรที่เถ้าแก่สู้อยู่ด้วยนั้นแข็งแกร่ง!
ปู้หลี่เกื๋อและปู้ฉืออีคิดเช่นนี้อยู่ภายใน
“ผลิตภัณฑ์ใหม่ของทางร้านหรือ?” ปู้หลี่เกื๋อรับชมด้วยความสงสัย
ของใหม่! แม้เป็นบุตรแห่งขุนนางใต้ก็ไม่เคยเห็นอะไรคล้ายคลึงเช่นนี้
หรือจะเป็นอาวุธวิเศษที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ?
เถ้าแก่เก่งกาจเกินไปแล้ว!
ปู้ฉืออีไม่ใช่อย่างปู้หลี่เกื๋อ นางมองมากกว่านั้น
ปู้ฉืออีขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมหันมองภายในร้าน “รู้สึกว่าพื้นที่ในร้านมันกว้างขึ้นหรือเปล่า?”
ปู้หลี่เกื๋อพอได้ยินคำจึงหันมองและพยักหน้ารับ “เหมือนจะเป็นอย่างนั้น”
ถัดจากนั้น ปู้หลี่เกื๋อจึงเร่งรีบเดินออกไปนอกร้าน
ขณะที่ปู้ฉืออีไม่ทราบว่าปู้หลี่เกื๋อคิดทำอะไร นางจึงตามออกไปนอกร้านด้วย
“หลี่เกื๋อ นี่ทำอะไร?” ปู้ฉืออีกล่าวถาม
“ก็ต้องยืนยันน่ะสิ!” ใบหน้าปู้หลี่เกื๋อเผยสีหน้าจริงจัง
ตอนที่ 56 : ก็เกมยังไงล่ะ
“พี่หญิง จากที่สำรวจดู พื้นที่ภายในร้านนั้นกว้างกว่าที่เห็นภายนอก!” ปู้หลี่เกื๋อกล่าวออกอย่างมั่นใจ
“เหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริง” ปู้ฉืออีพยักหน้ารับจริงจัง
ก่อนหน้านี้นางเพียงดาดเดา กระนั้นตอนนี้ได้เห็นถึงความแตกต่างที่ไม่สมดุลแล้ว
“ได้ยังไงกัน?” ปู้หลี่เกื๋อเผยความสงสัย
“เถ้าแก่ร้านสมควรมีค่ายอาคมห้วงมิติ!” ปู้ฉืออีกล่าวออกด้วยความมั่นใจ
“หากเถ้าแก่มีจริงก็ไม่แปลก เรื่องนี้มีอันใดให้ตกใจกัน?” ปู้หลี่เกื๋อเบะปากกล่าวออกอย่างเฉยเมย
ปู้ฉืออียังอดไม่ได้ที่จะสะท้านยามได้ยิน
คำกล่าวนี้สมเหตุสมผลแล้ว...
ค่ายอาคมห้วงมิติถือเป็นสิ่งหาได้ค่อนข้างยากในทวีปเทียนหลัน
มีแต่สำนักอันทรงอำนาจมีพื้นเพยิ่งใหญ่จึงครอบครองค่ายอาคมห้วงมิติที่ส่งต่อมาจากยุคโบราณ
แต่หากเถ้าแก่ร้านจะมีค่ายอาคมห้วงมิติบ้าง มันก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลก
“อยู่ที่นี่เอง”
ลั่วฉวนตระหนักได้แต่แรกแล้วว่ามีแขกสองคนมาเยือน
ตอนนี้จึงถอดหมวกโลหะออก ภาพบนหน้าจอจึงเลือนหาย
“เถ้าแก่ นี่ของใหม่ในร้านหรือ?” ปู้ฉืออีกล่าวถาม
ลั่วฉวนพยักหน้ารับ “ถูกต้องแล้ว นี่คือเกมเสมือนจริงที่เรียกว่าหอคอยแห่งการทดสอบ”
สองพี่น้องต่างมองหน้ากันเอง ความสงสัยฉายชัดผ่านสายตา
เกม?
โลกนี้มีอะไรที่ชื่อว่าเกมด้วยงั้นหรือ?
ขณะนี้เองที่เหยาซือหยานซึ่งนั่งข้างเคียงถอดหมวกโลหะออก เส้นผมสีม่วงยาวจึงร่วงหล่นลู่ไปกับแผ่นหลัง
“เถ้าแก่ เกมนี้มันของจริงแล้ว! ไม่เห็นว่าจะแตกต่างอะไรกับของจริงเลย!”
เหยาซือหยานหันมองทางลั่วฉวนด้วยความตื่นเต้นยินดีพร้อมกล่าวออก
ลั่วฉวนพยักหน้ารับ จากนั้นจึงกล่าวถาม “นี่ขึ้นไปได้กี่ชั้นกันแล้ว?”
“ยังอยู่ที่ชั้นแรก” เหยาซือหยานยิ้มเขินอาย “ทว่าโหมดง่ายของชั้นแรกผ่านหมดแล้ว ตอนนี้เป็นโหมดปกติ”
“แล้วเถ้าแก่ล่ะ?”
เหยาซือหยานมองทางลั่วฉวนด้วยความสงสัย
ลั่วฉวนกลายเป็นเขินอายเพราะถูกเหยาซือหยานจับจ้อง
ไม่ได้! จะทำให้ภาพลักษณ์ที่มีต่อคนเหล่านี้เสียหายไม่ได้!
ลั่วฉวนตัดสินใจอย่างแน่วแน่
ด้วยกระแอมไอเล็กน้อย ลั่วฉวนจึงมองไปทางสองพี่น้องปู้ก่อนจะหันเหหัวข้อสนทนา “ทั้งสองคนคิดทดลองเล่นดูหรือไม่?”
“แน่นอน!”
คนทั้งสองพยักหน้าตอบสนองรวดเร็ว ทั้งยังลืมเลือนคำถามของเหยาซือหยานหมดสิ้น
“ซือหยาน บอกวิธีการเล่นให้คนทั้งสองด้วย ข้าขอไปอาบแดดก่อน” ลั่วฉวนบอกกล่าว
“รับทราบ”
เหยาซือหยานพยักหน้ารับ นางค่อนข้างคุ้นเคยแล้วเพราะลั่วฉวนฝึกสอนส่งต่องานดูแลร้านให้
“จริงด้วย” ลั่วฉวนขณะนี้พลันนึกอะไรขึ้นได้ก่อนจะออกจากร้านจึงหยุดฝีเท้า
เช่นนี้ ปู้ฉืออีและปู้หลี่เกื๋อพลันรู้สึกได้ถึงความรู้สึกอันคุ้นเคย
“สร้างบัญชีผู้เล่นใหม่ต้องจ่ายหนึ่งร้อยผลึกวิญญาณ” ลั่วฉวนเผยคำออก “สิบผลึกวิญญาณเล่นได้หนึ่งชั่วโมง หนึ่งวันให้เล่นได้สามชั่วโมง”
“ทราบแล้ว...” มุมปากปู้หลี่เกื๋อกระตุก
ปู้ฉืออีได้แต่ยิ้มแห้งรับ
อย่างไรแล้วทั้งสองก็ทราบนิสัยลั่วฉวนดี อีกฝ่ายคือเถ้าแก่ร้านโดยนิสัย
ลั่วฉวนไปนอนอาบแดดที่ตรงหน้าประตู เป็นผลให้ค่อยสบายทั้งกายและใจ
อาบแดดได้ทั้งพักผ่อนและดีต่อสุขภาพ มีตรงใดที่ไม่ดีกัน?
ไม่นานจากนั้น เสียงร้องอุทานจากปู้หลี่เกื๋อและปู้ฉืออีจึงดังออก
“นี่หรือเกมเสมือนจริง? วิเศษ!”
“ให้ความรู้สึกอัศจรรย์ยิ่งนัก! เหมือนได้เข้าสู่โลกอีกใบ!”
“ถูกต้องแล้ว! ร่างกายนี้ควบคุมเหมือนกับร่างจริง! แต่ด้วยไม่มีพลังเลยทำให้ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก”
“ถัดจากนี้ก็เป็น... เห็นตัวเลือกตรงหน้าหรือไม่? ทั้งสองคนเพิ่งเล่นเกมเป็นครั้งแรก เพราะแบบนั้นต้องสร้างบัญชีผู้เล่นก่อน...”
......
ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ : https://bit.ly/32ciG6V