ตอนที่ 41
ตอนที่ 41
แม็กซ์แมนหลับตาลงแล้วใช้ความคิด ภายในหัวสมองของแม็กซ์แมน
เขาคิดหลายเรื่อง จนตาชั่ง 2 แขน เอียงขึ้นเอียงลงอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมาแม็กซ์แมนไม่เคยตัดสินใจอะไรยากขนาดนี้มาก่อน หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
“ข้า..”แม็กซ์แมนพยายามเปิดปากพูดอะไรบางอย่าง
เขามองดูซูฮยอนพร้อมกับนึกถึงเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ ที่ทำให้แม็กซ์แมนตกอยู่ในอาการจิตตก
‘ข้ายอมให้ทุกคน ตายในที่แห่งนี้ มากว่า’
มันเป็นคำพูดที่แม็กซ์แมนไม่เคยลืม....
‘ถ้าอย่างงั้น...’ในที่สุดแม็กซ์แมนก็เริ่มตัดสินใจ
“เหล่าทัพทั้งหมด...”
เขาหันหลังกลับไปแล้วมองไปทางทหาร
“ออกจากปราสาทแห่งนี้ให้เร็วที่สุด เดี๋ยวนี้”แม็กซ์แมนใช้พลังเวทย์ในน้ำเสียงของเขา เพื่อให้เสียงดังเดินทางไปได้ไกล น้ำเสียงของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ
ตอนนี้แม็กซ์แมนกำลังก่อกบฏต่ออาณาจักร เพราะไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้มีอำนาจ
ทันใดนั้นเสียงที่เย็นชาจนถึงกระดูกก็ถูกส่งออกมาอีกครั้ง
‘เจ้ากำลังคิดจะเนรคุณต่ออาณาจักรงั้นหรือ?’
เสียงที่แข็งกระด้างพูดออกมาทำให้ปราสาททั้งหลังเกิดการสั่นสะเทือน
แม็กซ์แมนมองไปบนอากาศพร้อมกับตอบกลับไปด้วยความเย้ยหยัน
“ทหารตัวจริงต้องเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเอง”
“ทหารตัวจริงต้องอ่านสีหน้าของผู้ใต้บังคับบัญชาให้ออก ถ้าพวกเขาไม่พร้อมเสี่ยงชีวิต แกก็ไม่มีสิทธิไปสั่งพวกเขา”
เหตุผลที่แม็กซ์แมนเลือกรักษาชีวิตของทหาร เป็นเพราะ ตาชั่งความคิดของเขา มันเอียงไปทางซูฮยอนอย่างจัดเจน จนทำให้ความลังเลของเขาถูกยกทิ้งไปจากหัว
แม็กซ์แมนไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่ เพราะว่าตอนนี้เขามีโทษประหารชีวิตครอบกระลาหัวอยู่
คลื่น คลื่น
เพร้ง
ปราสาทเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงพร้อมกับไอพลังแห่งความมืดที่เริ่มแทรกซึมออกมาจากกำแพง
แม็กซ์แมนรู้สึกตกใจพร้อมกับผลักทหารให้อยู่ด้านหลัง
‘ข้าจะฆ่าพวกแกทั้งหมด’
“วิ่งหนี เร็วเข้า”แม็กซ์แมนตะโกนบอกทหาร
ทหารทุกนายก็เพิ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ครั้งแรก ทำให้พวกเขาทำตัวไม่ถูก
แต่เมื่อได้ยินคำสั่งของแม็กซ์แมนบอกให้หนี พวกเขาจึงพากันวิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต
“วิ่ง!!!!”
“ออกจากปราสาทให้เร็วที่สุด”
“เร็วเข้า ใส่เต็มแรงเลย วิ่งให้สุดชีวิต”
ทหารทุกนายวิ่งกรูกันไปอย่างเป็นระเบียบ แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีพลังงานอะไรบ้างอย่างยิงออกมาจากกำแพง
ปิ๊ว ปิ๊ว ปิ๊ว
ลำแสงคล้ายหอกนับร้อยต่างพุ่งเข้าหาร่างกายทหาร
เมื่อเห็นดังนั้น แม็กซ์แมนจึงตัดสินใจปลดปล่อยพลังเวทย์ออกมา เพื่อปกป้องทหารชั้นผู้น้อย
แต่พลังเวทย์ของแมฌกซ์แมนมีน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถปกป้องทหารทุกนายได้
“จบสิ้นแล้วสินะ..”เขาคิด
หวืด!!!!
ทันใดนั้นเอง ลูกไฟขนาดมโหฬารก็พุ่งเข้าใส่กำแผงปราสาทอย่างจัง
ตูม
เปลวเพลิงที่ร้อนแรงแทรกซึมเข้าสู้กำแพงปราสาท อุณหภูมิของบริเวณรอบๆก็พุ่งสูงขึ้น
ความร้องของเปลวเพลิงสามารถแผดเผาผิวหลังให้ไหม้เกรียมได้ในทันที....
หอกสีดำที่พุ่งโจมตีทหาร ถูกเปลวเพลิงกลืนกินไปจนหมด
“อะไรกัน...”แม็กซ์แมนบ่นอู้อี้
“พี่ชาย เป็นผู้รับผิดชอบที่นี่สินะ” ซูฮยอนถาม
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของซูฮยอน แม็กซ์ก็หันหน้าไปมอง
ตอนแรกเขาคิดว่าซูฮยอนเป็นศัตรูตัวปัญหา แต่เขากลับคิดผิด เพราะตอนนี้ซูฮยอนกำลังช่วยชีวิตของทหารอยู่
“พี่ชาย พี่เลือกเส้นทางได้ถูกต้องแล้ว ตอนนี้ก็ถึงท่าพี่ชายแล้ว พี่รีบหนีออกไปเถอะ”ซูฮยอนพูดอย่างมาดนิ่ง
“ทำไม..?”แม็กซ์แมนถาม
“โถ้พี่ชายก็ขี้สงสัยจัง เหตุผลนะช่างมันเถอะ ตอนนี้เอาชีวิตให้รอดก่อนดีกว่าไหม”
คำพูดของซูฮยอนเป็นคำพูดที่ถูกต้อง การรักษาชีวิตของทหารเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด แม็กซ์แมนไม่สามารถปล่อยในทหารหลายนายเสียชีวิตเพราะความประมาทของเขาได้
“ดอนัลด์”
“ครับท่าน”
“ข้าขอสั่งในเจ้า นำทหารทุกนายออกจากปราสาทแห่งนี้ซะ คำสั่งของเจ้าก็เหมือนกับคำสั่งของข้า”แม็กซ์แมนสั่ง
“ทำไมละขอรับ หัวหน้าจะทำอะไรกันแน่”ดอดัลด์ถาม
“เจ้าก็ได้ยินคำสั่งของข้าอย่างชัดเจนไม่ใช้หรือไง พวกเรามีเวลาไม่มากแล้ว”
เมื่อได้ยินคำตำหนิของแม็กซ์แมน
ดอนัลด์ในฐานะรองผู้บัญชาการก็พยักหน้าแล้วทุบอกตัวเอง
เป็นดั่งที่แมกซ์แมนพูด ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลามาเอ้อระเหยอีกต่อไป ถึงแม้ซูฮยอนจะช่วยสกัดหอกสีดำที่พุ่งออกมา
แต่ก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าต่อจากนี้จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“วิ่ง หนีออกจากปราสาทให้ได้” ดอนัลด์ตะโกนบอกทหาร
ดอนัลด์เริ่มวิ่งนำขบวน ทั้งเขาและแม็กซ์แมนต่างช่วยกันดูแลทหารมานาน ทำให้ทหารทุกนายทำตามคำสั่งของดอนัลด์อย่างว่าง่าย
ซูฮยอนหันหน้าไปมองกลุ่มทหารที่พากันออกไปนอกปราสาทอย่างเร่งรีบ ก่อนจากย้ายสายตาไปมองแม็กซ์แมน
“พี่ชายจะทำอะไรกันแน่?”
“ข้าก็แค่อยากเห็นด้วยตาของตัวเอง ว่าการตัดสินใจของข้าถูกต้องหรือไม่”แม็กซ์แมนตอบ
“พี่ชายยังคิดว่าผมเป็นศัตรูอยู่สินะ”ซูฮยอนถาม
“ใช่...”แมกซ์แมนตอบกลับมาโดยไม่คิด
แม็กซ์แมนได้เลือกคำตามคำพูดซูฮยอนก็จริง แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี
ถึงแม้เขาจะถูกตีตราว่าเป็นคนทรยศ แต่เพื่อรักษาชีวิตของทหารเขากลับไม่เคยคิดเสียใจเลยสักนิด
อย่างไรก็ตามเพื่อความสบายใจ แม็กซ์แมนต้องตรวจสอบให้ได้ ว่าตัวตนที่แท้จริงของซูฮยอนเป็นใครกันแน่
“ข้าซาบซึ้งอย่างมากที่เจ้าช่วยชีวิตทหาร ในฐานะที่ข้าเป็นผู้บัญชาการ ข้าคิดว่าคำพูดของเจ้า มันดูหน้าฟังยิ่งกว่าคนโหดเหี้ยมที่สั่งทหารให้ไปตายซะอีก แต่ว่า..”
แม็กซ์แมนหลับตาลงและเปิดขึ้นอีกครั้งก่อนจะพูดต่อ
“ข้าไม่สามารถขจัดความไม่สบายใจนี้ออกไปได้ ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อน ฉะนั้นข้าจึงไม่รู้ว่าการเลือกของข้าถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้อง....ก็ไม่เป็นไร ข้าของรับมันไว้แต่เพียงผู้เดียว”
มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ เพราะซูฮยอนคือคนแปลกหน้า แถมยังบุกรุกปราสาทของพวกเขาอีก
ถึงแม้ซูฮยอนจะช่วยเหลือทหาร แต่แม็กซ์แมนก็วางใจไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นแม็กซ์แมนจึงอยู่ที่นี้ เพื่อตรวจสอบด้วยตัวเองว่าเขาคิดถูกหรือไม่
“ช่างมันเถอะ..ทำตามที่พี่ชายต้องการเลย”ซูฮยอนพูด
เปรี้ยง เปรี้ยง
ผนังของปราสาทเริ่มเกิดการปริแตกขึ้น ซูฮยอนจึงตัดสินใจปล่อยสกิลเพลิงพิโรธออกมาอีกครั้ง
จนพลังของซูฮยอนเข้าปะทะกับพลังของลิชชี่
“น่าปวดหัวเป็นบ้า”ซูฮยอนคิด
โชคดีที่แม็กซ์แมนเลือกเชื่อคำพูดของเขา
ถ้าแม็กซ์แมนเลือกเชื่อฟังคำสั่งที่ลอยมาตามอากาศและยืนหยัดต่อสู้กับซูฮยอน
สิ่งที่เขาทำได้ คงมีแต่หลบหนีออกไปตั้งหลักก่อน....
ซูฮยอนเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าข้างใต้ปราสาทมีอะไรกันแน่ แต่ถ้าทหารเลือกสู้ ซูฮยนอก็ไม่สามารถผลีผลามได้ เพราะเขาอาจใส่แรงมากเกินไป จนทหารเสียชีวิต
“ตั้งแต่ฉันเกิดมา การตัดสิ้นใจครั้งนี้หน้าปวดหัวที่สุด”ซูฮยอนคิด
วุป วุป
“อืม...ถึงแม้มันจะหน้าปวดหัว แต่ดูเหมือนการตัดสินใจของฉันจะมาถูกทางนะ”
ซูฮยอนปิดกั้นกำแพงของปราสาททั้งหมดด้วยเปลวเพลิง เพื่อปกป้องทหารจากหอกสีดำ
นอกจากปิดกั้นแล้ว ซูฮยอนยังต้องตั้งสมาธิให้ดี เพื่อไม่ให้เปลวเพลิงของเขาทำร้ายทหาร
การใช้ทั้งพลังเวทย์และเพ่งสมาธิไปพร้อมๆกัน เป็นเรื่องที่ยากมากๆ แม้แต่ผู้เชียวชาญยังหอบจับ
แม็กซ์แมนที่อยู่กับซูฮยอนมาโดยตลอดอยากรู้จริงๆว่าซูฮยอนต้องแบกรับเหนื่อยขนาดไหนถึงปล่อยพลังเวทย์ออกมาได้นานขนาดนี้
ในฐานะที่แม็กซ์แมนก็ใช้พลังเวทย์ได้ เขารู้แจ้งถึงความยากลำบากในการคงสภาพของเวทมนต์ไว้ ว่ามันยากแค่ไหน
เมื่อทหารทุกนายออกไปนอกปราสาทหมดแล้ว ซูฮยอนจึงดับเปลวเพลิงของตัวเอง
“ฟู่”ซูฮยอนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
นามมากแล้วที่ซูฮยอนไม่ได้ใช้พลังเวทย์มากขนาดนี้ ถึงแม้ว่าปัจจัยเวทย์ของเขาจะเพิ่มขึ้นมากมายในช่วงปีที่ผ่านมา แต่มันก็มีขีดจำกัด
ซูฮยอนนั่งลงกับพื้นแล้วตรวจสอบบริเวณรอบๆ
“ดูเหมือนมันก็เหนื่อยเป็นด้วยแฮะ”ซูฮยอนคิด
หลังจากที่ซูฮยอนและลิชชี่ปล่อยพลังใส่กันได้สักพัก ในที่สุดหอกสีดำก็จางหายไป
ต้องขอขอบคุณมันที่ทำให้ซูฮยอนมีเวลาพักหายเหนื่อยสักหน่อย
“พี่ชายจะไม่ออกไปจริงๆเหรอ”ซูฮยอนยืนขึ้นแล้วถามแม็กซ์แมนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ผมปกป้องพี่ชายไม่ได้หรอกนะ”
“ไม่ต้องห่วง ข้าดูแลตัวเองได้”แม็กซ์แมนกล่าว
“เอ่อ...แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ”ซูฮยอนตอบกลับไป
“ไม่ต้องห่วงข้า ถ้าข้าตายมันก็เป็นเพราะความอ่อนแอของข้า ข้าไม่เป็นผีไม่หลอกเจ้าหรอกสบายใจได้ ข้าแค่ต้องการยืนยันให้เห็นกับตาว่าปราสาทแห่งนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
แม็กซ์แมนเป็นคนที่อ่อนแอ แต่เขาก็มีนิสัยดื้อรั้น ซูฮยอนอยากรู้จริงๆ ว่าคนแบบเขากล้าต่อต้านราชอาณาจักรได้ยังไง
‘ไม่แปลกใจว่าทำไมทหารทุกนายถึงเชื่อฟังคำสั่งของเขามากขนาดนั้น’ซูฮยอนคิดในใจ
แม็กซ์แมนเป็นผู้บัญชาการที่ทหารทุกนายรักและเคารพ ฉะนั้น....เมื่อแม็กซ์แมนตัดสินใจไม่เชื่อฟังคำสั่งขอผู้มีอำนาจ ทำให้ทหารคนอื่นๆไม่มีใครคัดค้านเลยสักคน
แต่ก็ต้องขอบคุณแม็กซ์แมนที่ทำให้เรื่องราวต่างๆง่ายขึ้น
“เอาล่ะ เวลาปิดฉากเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว”ซูฮยอนพูด
ซูฮยอนปัดเศษฝุ่นออกจากกางเกงและบิดขี้เกียจ
ทางด้านแม็กซ์แมนก็เตรียมดาบของเขาและฟันกับอากาศรอไปพร่างๆ
“งั้นก็ไปกันเถอะ”
“เจ้ากำลังจะลงไปชั้นใต้ดินใช่หรือไม่”แม็กซ์แมนถาม
“ใช่”ซูฮยอนตอบกลับ
“ข้าจะนำทางให้เอง ตามข้ามา”
แม็กซ์แมนผู้รู้ทุกซอกทุกมุมของปราสาท อาสาเดินนำทางให้
“พี่ชายไม่ต้องทำอย่างงั้นหรอก”
เปรี้ยง
ซูฮยอนฟาดดาบลงพื้นปราสาทอีกครั้ง ก่อนจะปล่อยพลังเวทย์ออกมา
ตูม ตูม
“เห้ย”
แม็กซ์แมนตะโกนออกมาอย่างเสียงหลง เขาหันกลับไปมองซูฮยอนที่กำลังจริงจังอยู่กับการทำลายพื้นปราสาท
“นี้เจ้าจะทำลายปราสาทอีกแล้วหรือ”
“ผมจำเป็นต้องทำ เพราะเวลามันเหลือไม่มากแล้ว”ซูฮยอนพูด
“แต่ว่า...”
“ถ้ายังชักช้าอืดอาดต่อไป ทหารทุกนายได้ตายกันหมดแน่ๆ”
เมื่อมีความตายของทหารมาเกี่ยวข้อง แม็กซ์แมนก็ปิดปากเงียบสนิด
มันไม่มีวิธีไหนได้ผลนอกจากจะยกเรื่องทหารมาอ้างอีกแล้ว
แคร็ก...
ขณะที่พื้นของปราสาทกำลังพังทลายลง ซูฮยอนก็กระโดดลงไปด้านล่างและมองดูแม็กซ์แมน
แม็กซ์แมนกระโดดตามซูฮยอนมาติดๆ ถึงแม้เขาจะไม่ใช้เวทย์มนต์ แต่เขาก็ลงมาได้อย่างปลอดภัย
สมแล้วที่เขามีศักยภาพมากกว่าทหารคนอื่น
“อืม..เขามีทักษะพอตัวเลยนี้หน่า”ซูฮยอนคิด
แม็กซ์แมนสามารถใช้เวทย์มนต์ได้ก็จริง แต่เขาก็ถนัดการใช้ดาบมากกว่า
ความแกร่งแข็งของแม็กซ์แมนอาจจะเทียบได้กับลิชชี่ทั้ง 3 ตัว ที่ซูฮยอนเพิ่งสู้ไป
อย่างน้อยที่สุด ซูฮยอนก็คิดว่าแม็กซ์แมนอาจจะไม่ใช้ตัวถ่วงอะไรมาก
ใต้ดินมันมืดสนิท แม้แต่แสงเทียนยังไม่มี ต่อให้มีแสงเทียนความสว่างของแสงเทียนอาจไม่สามารถส่องสว่างออกมาได้.....
เพราะว่าใต้ดินมันเต็มไปด้วยพลังงานอะไรบางอย่างลอยอยู่เต็มไปหมด
มันเป็นพลังที่สัมผัสดูแล้วน่าขนลุก
เมื่อมีพลังงานลอยอยู่เต็มอากาศ ทำให้มันสามารถกลบกลื่นเหม็นอับได้จากชั้นใต้ดินได้เป็นอย่างดี...
“ที่นี่ทำไหนกัน”แม็กซ์แมนบ่นพึมพำ
หลังจากแม็กซ์แมนเห็นครั้งแรก เขาก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะเขาไม่เคยเห็นสถานที่แห่งนี้มาก่อนเลยสักครั้ง
ชั้นใต้ดินที่แม็กซ์แมนรู้จัก มันคือห้องขังสำหรับทหารที่ผิดวินัยเท่านั้น มันไม่ได้มีสภาพเป็นแบบนี้เลย
แม็กซ์แมนในฐานะที่เป็นถึงผู้บัญชาการ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในปราสาท มีที่แห่งนี้ด้วย
“ระวัง อย่าขยับ”ซูฮยอนพูด
ในขณะที่แม็กซ์แมนกำลังจะเดินไปข้างหน้า ซูฮยอนรีบคว้าไหลของเขาไว้ทันที
“ถ้าเผลอขยับอีกก้าวเดียว ข้อเท้าของพี่ชายได้หายไปแน่ๆ”
“…!”
แม็กซ์แมนหันไปมองรอบๆด้วยอาการหวาดเกรง เขาเห็นใบดาบหลายพันเล่มกำลังดิ้นอยู่กับพื้นราวกับพวกมันมีชีวิต
พวกมันไม่ใช้อาวุธ ธรรมดาทั่วไป มันเป็นดาบที่สร้างจากพลังเวทย์
“น่าเสียดายจัง นึกว่าขาของคนทรยศจะขาดออกไปแล้วซะอีก”
เงาของใครบางคนโผล่ออกมาจากมุมมืดพร้อมกับน้ำเสียงที่หน้าขนลุก
“ทรยศ?..ทรยศบ้านป้าแกสิ ฉันนึกไม่ถึงเลยนะว่าคนที่หลอกใช้คนอื่น จะพูดคำว่าทรยศออกมาได้”
ลิชชี่ที่กำลังจ้องมองแม็กซ์แมน เมื่อได้ยินเสียงของซูฮยอนด่าทอมันอยู่
มันก็หันไปมองซูฮยอนด้วยสายตาไม่พอใจ
“เด็กน้อยแกมาจากที่ไหนกัน”ลิชชี่ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ฉันคือบุรุษที่ตกมาจากฟากฟ้า เพื่อมาฆ่าเสนียดอย่างแกไงหล่ะ”ซูฮยอนพูด
คำกล่าวของซูฮยอนไม่ผิด เพราะหน้าที่ของซูฮยอนคือการไล่ฆ่าตัวปัญหาอย่างมัน
เพื่อทำให้เป้าหมายของเขาสำเร็จโดยสมบูรณ์
และบางที ภารกิจสุดท้ายของชั้นที่ 20 อาจจะอยู่ตรงหน้าของซูฮยอนแล้วก็ได้
“แกกำลังรับบทบาทเป็นฮีโร่อยู่หรือไง”ลิชชี่ถาม
“เมื่อกี้แกพูดว่าฮีโร่งั้นเหรอ”ซูฮยอนขมวดคิ้วแล้วตอบกลับไปอย่างอารมณ์เสีย
“ระวังคำพูดของแกด้วย คำที่แกพูดมา มันทำให้ฉันมีน้ำโหสุดๆ”