ตอนที่แล้วบทที่ 18 ปาฏิหาริย์ของพระเจ้า (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 20 เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรที่ล่มสลาย (อ่านฟรี)

บทที่ 19 การตายอย่างกะทันหันของผู้ศรัทธาเดิม (อ่านฟรี)


ซีเว่ยที่กำลังคิดถึงสิ่งที่เขาจะทำต่อไปในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์หยุดความคิดลงทันที

“เอ๊ะ? แองโกร่าเปลี่ยนจากผู้ศรัทธาที่ตื้นเขินมาเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริงแล้วเหรอ? ดูเหมือนเขาจะทำการขายตรงหาผู้ศรัทธาใหม่ได้ด้วยแฮะ…”

เขาดีใจจนพึมพำออกมาว่า “ดูเหมือนฉันเลือกคนที่ใช่มาแล้วจริง ๆ”

และดูเหมือนเขาจะลืมไปแล้วว่าเขาเคยเรียกแองโกร่าว่า 'ไอ้เซ่อ'

ขั้นตอนต่อไปคือการขยายพื้นที่เพาะปลูกและใช้พืชผลเพื่อซื้อใจคนในเมือง ฉันเชื่อว่าเรื่องง่าย ๆ แค่นั้นแองโกร่าจะทำเองได้

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยขีดจำกัดของพื้นที่เพาะปลูกและราคาเมล็ดพันธุ์ ซีเว่ยจึงไม่ต้องกังวลว่าแองโกร่าจะพัฒนามันเร็วเกินไปจนดึงดูดความสนใจของเทพธิดาแห่งการเก็บเกี่ยว

เขาเดาว่ามันน่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปีก่อนที่เธอจะรู้ และทุกอย่างจะสายเกินไปเมื่อเทพธิดาตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ซีเว่ยค่อนข้างมั่นใจ ในฐานะที่เขาเป็นนักเดินทางข้ามโลกที่มีนิ้วทองของเทพเจ้าแห่งเกม มันคงจะน่าอับอายมากหากเขาไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับเทพเจ้าท้องถิ่นระดับกลางได้หลังจากผ่านไป 2-3 ปี

“ปัญหาสำคัญที่สุดในตอนนี้คือผู้เล่น…”

เนื่องจากพลังศักดิ์สิทธิ์ของซีเว่ยมีจำกัด ขีดจำกัดเลเวลของผู้เล่นจึงมีแค่ 30 แม้ว่ากลุ่มผู้เล่นที่นำโดยเอลีน่าจะยังคงหมกมุ่นอยู่กับการเพิ่มเลเวล และถึงพวกเขาจะเลเวลตันไปก่อนก็ไม่เป็นไหร่ แต่หลังจากที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ไปถึงเลเวล 30 พลังงานเทพเจ้าของเขาก็จะถูกสูบจนแห้งแน่นอน

เรื่องนี้มันมีวิธีแก้ไขง่าย ๆ อยู่ 2 วิธี

วิธีแรกคือพยายามสรรหาผู้ศรัทธาใหม่ ๆ เข้ามา สะสมพลังงานเทพเจ้า และยกระดับความเป็นเทพเจ้าของเขา จากนั้นก็เพิ่มขีดจำกัดเลเวลให้ผู้เล่น

วิธีที่สองคือทำลายเทพเจ้าองค์อื่นและขโมยความเป็นพระเจ้าของพวกเขาตรง ๆ พลังที่อยู่ภายในตัวของเทพเจ้าองค์นั้น จะหลอมรวมเข้ากับความเป็นพระเจ้าของเขา แถมเขาก็จะได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากจากเทพเจ้าองค์นั้นด้วย

หากตัวเลือกแรกนั้นถือเป็นวิถีแห่งราชา ตัวเลือกที่สองนั้นชั่วร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่สำหรับซีเว่ยในปัจจุบัน วิธีที่สองนั้นจับต้องได้มากกว่า

อย่างไรก็ตามซีเว่ยหรือจะกล้าล่วงล้ำอาณาเขตของเทพเจ้าองค์อื่นแบบสุ่ม ๆ ส่วนการสรรหาผู้ศรัทธา มันก็ทำได้ช้าเกินไป มีแต่สวรรค์ที่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการสะสมพลังศรัทธาเพื่อยกระดับจากเทพชั้นล่างไปเป็นเทพชั้นกลาง

แถมยิ่งไปกว่านั้นใช่ว่าการขโมยพลังศักดิ์สิทธิ์จะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดูอย่างสตอฟฟ์สิ เขาได้เป็น ‘เทพเจ้าแห่งช่างฝีมือและไวน์ชั้นดี’ ไปแล้ว เมื่อก่อนเขาเป็นแค่เทพเจ้าชั้นล่างธรรมดา ‘เทพเจ้าแห่งช่างฝีมือ’ แต่เขาก็ได้รับชัยชนะเหนืออดีตเทพเจ้าแห่งไวน์ชั้นดีในการต่อสู้ศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงได้ยึดอำนาจจากอีกฝ่ายมาเป็นของตัวเอง และด้วยเหตุนี้ เขาจึงกลายเป็นเทพเจ้าระดับกลางในปัจจุบัน

“มันยากไปหน่อย ฉันจะหาเทพโง่ ๆ มาเป็นศัตรูที่จะถูกฉันฆ่าง่าย ๆ ได้ยังไง…” ร่างกลม ๆ ของซีเว่ยกะพริบขณะใช้ความคิด

ลำดับชั้นของเทพเจ้าไม่ใช่ตัวบ่งบอกพลังของเทพเจ้า

ยกเว้นสำหรับตรีเอกานุภาพแห่งการสรรค์สร้าง และเทพบิดรทั้งเจ็ดซึ่งได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบัน ไม่มีวิธีที่ชัดเจนในการแยกระดับความแตกต่างระหว่างเทพเจ้าชั้นบน เทพเจ้าชั้นกลาง และเทพเจ้าล่าง มันเป็นเพียงการจัดหมวดหมู่อย่างคลุมเครือตามจุดแข็งและจุดอ่อนของอิทธิพลที่พวกเขามี เช่นเดียวกับประสิทธิภาพของนักบวชในศาสนา และอิทธิพลของเทพเจ้า

ในฐานะที่เป็นเทพเจ้าแห่งเกมที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ เขาจึงไม่สามารถเข้าร่วมสงครามระหว่างเทพเจ้าได้ และที่แย่ไปกว่านั้นคือความเป็นพระเจ้าของเขาได้รับความเสียหาย จนตอนนี้แม้แต่เทพชั้นล่างเขาก็เทียบไม่ติด ถ้าเขาต้องไปแหย่ใครสักคน เขาอาจจะต้องหาเหยื่อที่เป็นเทพเจ้าอ่อนแอซึ่งเป็นเทพที่อยู่ภายใต้เทพชั้นล่างอีกที

และมันก็ยากที่จะหาเทพเจ้าแบบนั้นมาแลกหมัดกันในฐานะมือใหม่

“เจ็บไข่ชะมัด…แม้ว่าตอนนี้ฉันจะไม่มีไข่ก็ตาม”

ซีเว่ยยื่นหนวดไปเกาหน้าผาก ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ซีเว่ยแตกต่างจากเทพเจ้าที่มีผู้ศรัทธาเป็นล้าน ผู้ศรัทธาของเขาหากนับรวมพวกที่เขาพึ่งรับเพิ่มมาเมื่อไม่กี่วันก่อนก็มีไม่กี่สิบคนด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงสามารถสัมผัสได้ถึงผู้ศรัทธาทุกคนของเขา

ทันใดนั้นเอง เส้นพลังศรัทธาของเขาก็ถูกตัดขาด!

ผู้ศรัทธาคนนั้นไม่ได้อยู่ในกลุ่มของเอลีน่า หรือในที่ดินศักดินาของแองโกร่า พวกเขาเป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมตั้งแต่ก่อนที่ซีเว่ยจะข้ามโลกมา

ตามความทรงจำที่เขาสืบทอดมาจากเทพเจ้าแห่งเกม พวกเขาอาจเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถืออย่างเช่นพวกผีพนัน ซีเว่ยจึงไม่คาดหวังว่าความศรัทธาของพวกเขาจะยังคงอยู่มาได้จนถึงตอนนี้

“จากความรู้สึกนี้…มันไม่น่าใช่การเปลี่ยนศาสนา…”

มันเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ศรัทธาที่แท้จริงจะเปลี่ยนใจไปเลื่อมใสศาสนาอื่นเหมือนกับการแอบคบชู้อย่างลับ ๆ เพราะจะไม่มีใครกลายเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริงได้ หากพวกเขาปราศจากความศรัทธาที่แน่วแน่และมั่นคงในตัวเทพเจ้า และหากมันเป็นการเปลี่ยนศาสนาจริง ศรัทธาของพวกเขาจะค่อย ๆ สลายหายไปจนหมดอย่างช้า ๆ

มีเพียงคำอธิบายเดียวสำหรับการที่เส้นพลังศรัทธาของเขาถูกตัดขาดอย่างกะทันหัน นั่นคือผู้ศรัทธาคนนั้นเสียชีวิตแล้ว

เนื่องจากผู้ศรัทธาเดิมเหล่านี้ไม่มีระบบ พวกเขาจึงไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้เหมือนพวกเอลีน่า

มันคงจะดีหากผู้ศรัทธาของเขาเสียชีวิตตามธรรมชาติ แต่หากเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม ความกลัวตายจะทำให้ความรุนแรงทางจิตใจของผู้คนในขณะเผชิญกับความตายพุ่งสูงขึ้นอย่างกะทันหัน

บางทีนั่นอาจเป็นเพราะซีเว่ยเชื่อมโยงกับอารมณ์ของสาวกด้วยสายใยแห่งพลังศรัทธา ก่อนที่คนผู้นั้นจะเสียชีวิต เขาจึงได้ทิ้งพลังงานสุดท้ายไว้ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของซีเว่ย และพลังงานนั้นก็เป็นเหมือนกลุ่มหมอกสีเงิน

ซีเว่ยลังเล แต่ในที่สุดเขาก็เอื้อมหนวดออกไปแตะมัน

มันเป็นความหวาดกลัว ความเศร้าโศก และความเสียใจ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเกลียดชังในตัวเทพเจ้าที่พวกเขาเคารพศรัทธา เทพเจ้าไม่ได้ช่วยเหลือพวกเขาในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการที่สุดในชีวิต

ผู้ศรัทธาไม่ได้ตายด้วยอุบัติเหตุ เขาถูกสังหารและแม้กระทั่งถูกทรมานก่อนตาย

ซีเว่ยเงียบ เขาไม่แน่ใจว่าเขาควรจะคิดยังไง

ครั้งหนึ่งเขาเคยเชื่อว่าเทพเจ้าแห่งเกมเดิมและสาวกพวกนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย อีกฝ่ายเชื่อในเทพเจ้าแห่งเกมองค์ก่อนไม่ใช่เขา ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยชื่อเสียงที่น่ากลัวของเทพเจ้าแห่งเกมองค์เดิม อาจทำให้สาวกเหล่านั้นเปลี่ยนใจได้ตลอดเวลา

แต่ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่าตัวเขาคิดผิด

ทั้งตัวเขาเองและเทพเจ้าแห่งเกมองค์เดิมต่างก็เป็น ‘เทพเจ้าแห่งเกม’ และสาวกของเทพเจ้าแห่งเกมเดิมก็เป็นสาวกของเขาเช่นกัน พวกเขาเป็นคนที่ยึดมั่นศรัทธาและมอบทุกสิ่งให้กับเขา

แม้ว่าเขาจะไม่จำเป็นต้องปฏิบัติต่อผู้ศรัทธาทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แต่ถ้าเขายังคงนั่งดูขณะที่เหล่าสาวกของเขาถูกสังหาร อะไรคือความแตกต่างระหว่างตัวเขากับเทพผู้เลือดเย็นองค์อื่น ๆ ในโลกใบนี้?

“พอแล้ว ฉันอยากจะเป็นเทพเจ้าที่ดีจริง ๆ”

ขณะนั้นเอง เส้นพลังศรัทธาอีกเส้นหนึ่งก็ได้ขาดไปอย่างกะทันหัน

การสังหารหมู่เหล่าสาวกของเทพเจ้าแห่งเกมยังคงดำเนินต่อไป

“เชี่ย! นั่นเป็นการดูถูกฉัน ดูถูกเทพเจ้าแห่งเกม!”

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ซีเว่ยก็สบายใจขึ้นเยอะ “สาวกของข้าอย่างกลัว เทพเจ้าของเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว!”

----------------------------------------------

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด