บทที่ 130
แสงอรุณลาลับขอบฟ้า ตะเกียงไฟและโคมไฟถูกจุดสว่างไสวไปทั่วทั้งเมือง ผู้คนต่างออกมามุ่งหน้ามาที่ด้านหน้าจวนเจ้าเมือง วันนี้มีการจัดงานเลี้ยงฉลองให้แก่บุตรชายเจ้าเมืองติงเหวิน โต๊ะไม้ถูกจัดวางไว้ด้านหน้าจวนเต็มพื้นที่ เริ่มมีชาวบ้านเข้ามานั่งบ้างแล้ว เกือบชั่วยามบริเวณโต๊ะด้านหน้าจวนก็เต็มไปด้วยฝูงผู้คนชายชราผู้หนึ่งผมสีดอกเลาสวมชุดขุนนางเดินมาพร้อมกับชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดสีแดงด้านหลังมี ชายชราผมยาวสีขาวสวมชุดสีเทาและมีทหารสี่นายเดินติดตาม เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าเมืองติงซุนเวยและบุตรชายติงเหวิน ส่วนอีกคนหมอเทวดาเซียวจุ้ย
ทันทีที่ประธานในงานมาถึงสุราอาหารก็ถูกลำเลียงออกมาวางไว้บนโต๊ะ หมอชราเซียงฟงและลูกศิษย์หยางอู่เตามากันเพียงสองคนเท่านั้น ส่วนหลานชายเซียงเวยถูกอ้างว่าไม่สบายนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงเตี๊ยม ตลอดระยะเวลาเตรียมงานหยางเวยแอบติดสินบนทหารเอาไว้ เมื่อถึงเวลางานก็แอบเข้าไปด้านในห้องครัว โดยปลอมตัวเป็นเด็กขนผักเข้าไปแอบวางยาในน้ำแกง อาหาร และข้าว เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นก็แค่เพียงรอสัญญาณจากเนี่ยฟงเท่านั้นโดยหยางเวยกำแผ่นหยกเอาไว้ในมือตลอดเวลา
เวลาเริ่มดึกหลายคนเริ่มที่จะเมามายติงเหวินตั้งแต่เข้ามาในงานต่างก็หันจ้องมองหาใครบางคนแต่ก็ไม่พบจึงหันไปถามทหารที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“คนของสำนักกระบี่ราชันไม่มารึ”
“เอ่อ มีคนรับใช้ส่งจดหมายตอบกลับมาแล้วขอรับ กล่าวว่าไม่สะดวกมาเจ้าสำนักเก็บตัวฝึกวิชาขอรับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ทำได้เพียงแต่ยกป้านสุราที่อยู่ด้านหน้ายกดื่มจนหมด ชั่วน้ำเดือดงานเลี้ยงที่กำลังสนุกอยู่กลับมีเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ชาวบ้านและทหารจำนวนไม่น้อยต่างลงไปนอนดิ้นกับพื้นดิน เจ้าเมืองติงซุนเวยตื่นตกใจไม่น้อยหันไปมองชายชราเซียวจุ้ย
“มันเกิดสิ่งใดขึ้นท่านหมอ เหตุใดชาวเมืองและทหารของข้าถึงล้มลงเพราะโรคระบาดที่ท่านกล่าวอ้าง”
เซียวจุ้ยเองก็ตื่นตกใจเช่นกัน รีบพุ่งทะยานออกไปตรวจสอบชายผู้หนึ่งที่นอนอยู่ที่พื้น ทันทีที่ตรวจสอบชีพจรก็พบว่ามีอาการเช่นเดียวกับยาพิษของตน เซียวจุ้ยจึงแอบสะบัดมือนำยาถอนพิษออกมาป้อนชายผู้นั้น แทนที่ชายผู้นั้นจะหายกับมีอาการทรุดลงหนักกว่าเดิม เจ้าเมืองที่หรี่ตามองอยู่แล้วก็เอ่ยวาจาออกมาอีกครั้งเสียงดังลั่น
“เหอะ ข้าว่าท่านคงกล่าวอ้างเสียแล้วว่าท่านเป็นหมอเทวดา ท่านเซียวจุ้ย ท่านเป็นใครกันแน่คิดทำสิ่งใดกับเมืองของข้ากัน ทหารจับกุมตัวเซียวจุ้ย”
ทหารจำนวนสิบนายรับพุ่งเข้ามาล้อมตัวเซียวจุ้ยไว้พร้อมกับกำชับดาบในมือแน่น
“บัดซบ มันเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร ถังลู่พาข้าออกไป”
สิ้นเสียงกล่าวแต่ก็ยังไม่มีผู้ใดปรากฏตัวมาช่วยเหลือ เซียวจุ้ยจึงสะบัดมืออีกครั้งซัดฝ่ามือลงพื้น ตูม ควันพิษสีเทาพุ่งโพยออกมาเซียวจุ้ยพุ่งทะยานหลบหนี แน่นอนว่าเย่เตารอคอยเวลานี้อยู่แล้วจึงพุ่งออกติดตาม เนี่ยฟงเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนก็แสดงตัวเป็นหมอชราเซียงฟง รักษาคนได้รับพิษ ทันทีที่ยาถูกป้อนไม่ถึงหนึ่งเค่อทหารรายหนึ่งก็เริ่มที่จะอาการดีขึ้น
เย่เตาพุ่งติดตามเซียวจุ้ยมาไม่นานก็ต้องรีบพุ่งหลบปราณดาบที่พุ่งเข้ามาจากด้านข้าง เปรี้ยง เย่เตาพุ่งหลบได้อย่างทันท่วงทีรีบสะบัดมือถือดาบคู่ใจแน่น เซียวจุ้ยเองก็ตื่นตกใจหันมามอง
“ถังลู่เจ้าหายไปไหนมา”
“ต้องขออภัยขอรับท่านอาจารย์”
“จัดการตัวบัดซบนั่นซ่ะ”
สิ้นเสียงกล่าวชายผู้ถูกเรียกขานว่าถังลู่ก็พุ่งเข้าปะทะชายหนุ่มด้านหน้า เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เสียงดาบปะทะกันดังลั่น ประกายไฟจากการปะทะสว่างจ้าออกมาเป็นระยะๆ เนี่ยฟงเห็นว่าเย่เตาออกไปนานแล้วจึงแอบสะบัดมือขวาถือแผ่นหยกเอาไว้โคจรลมปราณเข้าไปที่แผ่นหยก ในขณะเดียวกันแผ่นหยกในมือหยางเวยก็ส่องแสงขึ้น หยางเวยพุ่งทะยานออกจากหน้าต่างโรงเตี๊ยมมุ่งหน้ามาที่จวนเจ้าเมืองอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางหยางเวยก็ได้ยินเสียงการปะทะกันมาจากด้านข้างจึงพุ่งติดตามไปยังเสียงปะทะ เมื่อมาถึงก็พบเย่เตากำลังถูกชายชุดดำไล่ต้อน
หยางเวยรีบสะบัดมือสวมถุงมือไหมพร้อมกับพุ่งทะยานเข้าไปช่วยเหลือ ฝ่ามือสีม่วงพุ่งเข้าหาชายชุดดำจากด้านซ้ายแต่ว่ากลับพุ่งผ่านไปปะทะกับพื้นดิน เปรี้ยง ชายชุดดำถีบเท้าขวาเบี่ยงตัวหลบได้อย่างทันท่วงที หยางเวยแสยะยิ้มพุ่งเข้าประชิดอย่างรวดเร็ว ง้างหมัดขวาต่อยไปที่ชายโครงด้านซ้าย เปรี้ยง หยางเวยรีบถีบเท้าพุ่งถอยออกมาเพื่อหลบดาบที่ฟันลงมา เคร้ง เย่เตาใช้ดาบเข้าต้านรับ เมื่อเห็นเช่นนั้นหยางเวยรีบพุ่งเข้าประชิดอีกครั้ง เปรี้ยง เปรี้ยง ชายชุดดำกระเด็นออกไปทางซ้ายพร้อมกับกระอักเลือดออกมา
ชายชราเซียวจุ้ยที่ยืนอยู่เมื่อเห็นว่าคนของตนเริ่มสู้ไม่ไหวก็คิดใช้พิษ สะบัดมือขวาซัดปราณฝ่ามือพิษสีม่วงออกมา หยางเวยแสยะยิ้มพุ่งเข้าปะทะต่อยหมัดขวาออกไป เปรี้ยง ควันพิษสีเทาพุ่งโพยออกมา ชายชราเซียวจุ้ยหัวเราะดังลั่น แต่ทว่าไม่นานก็ต้องเงียบเสียงลงเพราะชายหนุ่มด้านหน้าหาได้เป็นอะไร
“ท่านก็ใช้ปราณพิษเช่นนั้นหรือขอรับ มาดูกันว่าพิษของท่านกับของข้าใครจะรุนแรงกว่ากัน”
หยางเวยพุ่งทะยานเข้าหาเซียวจุ้ยพร้อมกับซัดฝ่ามือออกไป ปราณฝ่ามือสีม่วงเข้าปะทะกันกลางอากาศ เปรี้ยง ควันสีเทาและสีม่วงฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ทั้งสองซัดฝ่ามือปะทะกันกลางควันพิษ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เย่เตาเดินเข้าหาชายชุดดำอย่างช้าๆพร้อมกับกวัดแกว่งดาบในมือ
“ถังลู่ เอ้ย ถังลู่ ข้าเคยเตือนเจ้าแล้วว่าอย่าทำงานให้กับผาไม้ดำเจ้าก็ไม่เชื่อข้า พี่น้องของเจ้าแต่ละคนล้วนไม่ตายดีทั้งสิ้น เหตุใดเจ้าไม่เชื่อข้าตั้งแต่ตอนนั้น”
ถังลู่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วทั้งสองขึ้นหันจ้องมองชายหนุ่มด้านหน้า
“เจ้าเป็นใคร เหตุใดเจ้ากล่าวเหมือนรู้จักข้า”
เย่เตาไม่กล่าวสิ่งใดโคจรลมปราณไปที่ดาบฟาดฟันดาบออกไป ปราณดาบสีแดงพุ่งออกมา ถังลู่ถึงกับตื่นตกใจเอ่ยวาจาออกมา
“เป็นท่าน เป็นท่านเช่นนั้นหรือนาย”
ถังลู่กล่าวยังไม่ทันจบประโยคก็ถูกปราณดาบสีแดงผ่าร่างขาดเป็นสองท่อนเย่เตาเดินเข้าไปหยิบแหวนที่มือขวาแล้วพุ่งไปสมทบกับหยางเวย เมื่อมาถึงก็พบว่าเซียวจุ้ยถูกหยางเวยทุบตีจนลงไปนอนกับพื้น เย่เตาโยนแหวนให้แก่หยางเวย หลังจากนั้นทั้งสองก็แบกร่างของเซียวจุ้ย กลับไปที่จวนเจ้าเมือง
ทันทีที่ทั้งสองแบกร่างของเซียวจุ้ยเข้ามาก็มีทหารหลายสิบนายล้อมชายหนุ่มทั้งสามเอาไว้ เนี่ยฟงรีบสะบัดมือขวานำขวดยาสีขาวนวลโยนให้แก่หยางเวย
“หลานข้า ให้ท่านเจ้าเมืองสอบปากคำชายชราผู้นั้น”
“ขอรับท่านปู่”
หยางเวยรีบเทเม็ดยาออกจากขวดป้อนยาให้แก่เซียวจุ้ยอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตบหน้าอย่างถนัดถนี่ เพียะ แก้มขวาปูดบวมเซียวจุ้ยเริ่มรู้สึกตัว หยางเวยก็ส่งตัวให้กับทหาร เจ้าเมืองรีบสอบสวนด่วนในคืนนั้นจนทราบความจริงทั้งหมดว่าเป็นแผนการของผาไม้ดำ แน่นอนว่าที่เซียวจุ้ยเปิดมาบอกทุกอย่างเพราะเม็ดยาที่หยางเวยให้ทานก่อนส่งมอบตัว ทั้งสามได้รับเสียงชื่นชมไม่น้อยจากชาวเมืองและทหาร ไม่นานก็มีประกาศจากเจ้าเมือง ถึงการประหารเซียวจุ้ยในวันรุ่งขึ้น งานเลี้ยงก็ต้องจบลงต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน หมอชราเซียงฟงและผู้ติดตามถูกย้ายมาพักที่จวนเจ้าเมืองแทน
เกือบรุ่งเช้าเสียงเคาะระฆังดังลั่นพร้อมกับเสียงตะโกน
“นักโทษหลบหนี นักโทษหลบหนี”
ทั้งสามคนที่พักอยู่ในจวนเจ้าเมืองก็รีบตื่นนอน เนี่ยฟงหันไปมองเย่เตา
“เย่เตาเจ้าไปกับข้า หยางเวยเจ้าอยู่ที่นี่คอยดูอย่าให้เกิดสิ่งใดขึ้นที่นี่”
“วางใจเถอะ”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงและเย่เตาก็พุ่งทะยานออกไปจากห้องพัก
“เนี่ยฟงเจ้ารู้หรือว่าตาเฒ่าบัดซบนั้นจะไปไหน”
“ข้ามั่นใจว่ามันต้องไปที่เสาหินด้านหลังเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ”
ทันทีที่ทั้งสองมาถึงก็พบว่าเซียวจุ้ยอยู่ที่นี่แล้วกำลังทำอะไรบางอย่างที่เสาหิน
“เจ้าจัดการตาเฒ่านั้นเถอะ ข้าจะจัดการเสาหินเอง”
เย่เตาสะบัดมือขวาถือดาบคู่ใจในมือฟาดฟันดาบออกไป เซียวจุ้ยเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบหลบหนี ทันทีที่ทั้งสองพุ่งออกไปจากเสาหิน เนี่ยฟงก็สะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏขึ้นมาไม่นานมันก็จางหายไปที่พื้น เนี่ยฟงรีบติดตามเย่เตาและเซียวจุ้ยไปทันที ไม่ถึงห้าลมหายใจก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นนานนับสิบลมหายใจ เสาหินขนาดใหญ่ถูกทำลายจนหมดสิ้น