บทที่ 128
ตึกหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่เหนือสุดของเมือง ทหารหลายร้อยนายยืนเข้าแถวรองคำสั่ง ชายชราผู้หนึ่งผมยาวสีขาวสวมชุดสีเทา ยืนมองอยู่บนชั้นสอง ภายในห้องมีชายหนุ่มสองคนและหญิงสาวอีกหนึ่งคนคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของชายชรา ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทหารสองนายเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับชายชราอีกผู้หนึ่งผมสีดอกเลาสวมชุดขุนนางเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ติดตามมาด้วยทหารอีกสามนายถือดาบติดตามมาด้วย ทันทีที่เสียงประตูปิดลงความเงียบก็เข้าปกคลุมภายในห้อง
“ท่านผู้เฒ่า ท่านต้องจัดการไอ้พวกหนูบัดซบนั่น ที่มันทำร้ายบุตรชายข้า”
“แน่นอนท่านไม่ต้องห่วง เมื่อพวกข้าอยู่ที่นี่”
ไม่นานท่านเจ้าเมืองก็เดินออกจากห้องไป
“เหอะ หากว่าข้าจัดการธุระที่เมืองนี้เสร็จเมื่อไรข้าจะเป็นคนสังหารท่านเจ้าเมื่อนั่นด้วยตัวเอง เอาละพวกเจ้าไปจัดการพวกหนูบัดซบนั่นซะ ทำให้พวกมันตกตายด้วยโรคระบาด”
“ขอรับ”
สิ้นเสียงตอบรับคนทั้งสามที่คุกเข่าอยู่ก็รีบออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วทิ้งไว้ให้ชายชราแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์จ้องมองทหารด้านล่าง ที่ตอนนี้เดินติดตามคนของตนออกไป
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงปราณดาบสีแดงพุ่งลงมาจากบนฟ้าปะทะกับสัตว์อสูรหนอนทะเลทรายตัวใหญ่ เปรี้ยง หยางเวยพุ่งเข้าต่อยไปที่ลำตัวของอสรพิษหางกระดิ่งสีแดงขั้นกลางเสียงดังสนั่น เถาวัลย์สีฟ้ามีประกายสายฟ้าพุ่งเข้ารัดปากของอสรพิษหางกระดิ่งที่กำลังจะพ่นพิษใส่หยางเวย หยางเวยระเบิดพลังสีส้มขั้นสูงกระหน่ำต่อยไปที่ลำตัวของอสรพิษหางกระดิ่งไม่ยั้งมือ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ไม่นานอสรพิษหางกระดิ่งก็สิ้นใจนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เนี่ยฟงไม่ลืมที่จะเข้าไปจัดการกับแก่นพลังปราณหลังจากนั้นก็โยนมันกลับมาให้หยางเวย ทั้งสองก็พุ่งทะยานไปช่วยเย่เตา
กิเลนอัสนีร้องคำรามเข้าขย้ำหนอนทะเลทรายพร้อมกับยกร่างขนาดใหญ่ของมันขึ้นจากพื้นทราย มีดสั้นกลายเป็นดาบถูกฟาดฟันออกไป ปราณดาบสีฟ้ามีประกายสายฟ้าพุ่งเข้าหาหนอนทะเลทรายที่ลอยอยู่ เปรี้ยง ปราณดาบสีฟ้าพุ่งผ่านร่างถูกฟันขาดเป็นสองท่อนร่วงลงสู้พื้น ตูม เย่เตากระโดดลงจากหลังสัตว์อสูรฟันดาบไปที่หนอนทะเลทรายอีกตัวที่กำลังไล่ตามหยางเวย เปรี้ยง เกือบครึ่งชั่วยามทั้งสามก็จัดการสัตว์อสูรที่ดักทางอยู่จนหมด
“เหตุใดพวกสำนักหรือคนของเจ้าเมืองทำไมไม่จัดการสัตว์อสูรพวกนี้ การปกครองของเขตดินแดนที่นี่ช่างแปลกประหลาดนัก”
“เจ้าก็ได้ยินมาไม่ใช่รึว่าที่นี่กำลังเกิดโรคระบาด”
หยางเวยรีบวิ่งเข้ามาหาเนี่ยฟงและเย่เตา
“พวกเจ้าทั้งสองรีบไปเถอะ มีกองกำลังทหารมุ่งหน้ามาที่นี่”
สิ้นเสียงของหยางเวยเนี่ยฟงกระโดดขึ้นหลังกิเลนอัสนีพร้อมกับหยางเวย เย่เตาเองก็ขึ้นไปบนหลังของสัตว์อสูรของตนเช่นกันไม่นานทั้งสามก็พุ่งทะยานหลบหนี กองกำลังทหารที่มาถึงก็ตื่นตกใจไม่น้อยกับภาพที่เห็น มีบางคนขาสั่นลงยืนไม่ไหวลงไปนั่งกับพื้น คนของชายชรารีบโบกสะบัดมือ อินทรีตัวใหญ่ก็ปรากฏออกมา ชายสองคนและหญิงสาวอีกผู้หนึ่งกระโดดขึ้นบนหลังอินทรีตัวใหญ่ หญิงสาวตะโกนสั่งการจากด้านบน
“พวกเจ้าจัดการที่นี่ด้วย”
สิ้นเสียงกล่าวไม่รอเสียงตอบรับ อินทรีตัวใหญ่ก็พุ่งทะยานติดตามไปทางชายหนุ่มทั้งสามหลบหนี บนเมฆก้อนใหญ่มีชายหนุ่มสามคนนั่งหลังสัตว์อสูรสองตัวจ้องมอง ไม่นานก็พุ่งติดตามอินทรีตัวใหญ่ไป
“เนี่ยฟง คนทั้งสามติดตามพวกเราทำไม”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าก็ไม่รู้เช่นกันหยางเวย ทางที่ดีเราต้องจับคนพวกนั้น ไม่แน่อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่กล่าวอ้างเป็นพวกสวรรค์ก็เป็นได้”
เย่เตาที่บินอยู่ด้านหน้าก็หยุดอยู่กลางอากาศ เนี่ยฟงเองที่พุ่งติดตามมากับหยางเวยก็หยุดเช่นกัน ด้านหน้าชายหนุ่มทั้งสามเป็นอินทรีตัวใหญ่ที่พุ่งทะยานออกมาก่อน ชายหนุ่มสองคนและหญิงสาวอีกผู้หนึ่งแสยะยิ้มจ้องมองอย่างไม่วางตา ด้านล่างเป็นพื้นทรายอันร้อนระอุ
“บัดซบนักพวกเจ้าใช้เล่ห์กลอันใด”
ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ ทำให้ชายหนุ่มที่เอ่ยวาจาถามสีหน้าเริ่มแสดงความไม่พอใจ สะบัดมือขวาดาบขนาดใหญ่ก็ปรากฏออกมา เนี่ยฟงพุ่งทะยานลงไปที่พื้นทรายพร้อมกับหยางเวย ชายหนุ่มนั้นพุ่งทะยานลงจากอินทรี ฟาดฟันดาบออกไปปราณดาบสีขาวขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาเนี่ยฟงและหยางเวย เปรี้ยง ปะทะกับเกราะสายฟ้าที่ปรากฏออกมาป้องกัน หญิงสาวอีกผู้หนึ่งก็พุ่งทะยานลงมาเช่นกันกระบี่ในมือถูกฟาดฟัน ปราณกระบี่สีขาวพุ่งเข้าหาประดุจห่าฝน เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เกราะสายฟ้ายังคงต้านรับไว้อย่างดีเยี่ยม
“หยางเวยหลอกล่อพวกมัน เราต้องจับเป็น”
“ได้”
หยางเวยสะบัดมือขวามีดอันแปลกประหลาดก็ปรากฏที่มือ หยางเวยพุ่งเข้าปะทะกับคนทั้งสอง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เมื่อมีจังหวะหยางเวยก็ระเบิดปราณพิษในระยะประชิด ตูม ส่วนเย่เตาและชายอีกผู้หนึ่งต่อสู้ปะทะกันกลางอากาศ ทั้งสองบินวนไปมาพร้อมกับฟาดฟันดาบในมือ ปราณดาบสีขาวและสีแดงปะทะกันดังสนั่น มีบางครั้งที่ปราณดาบจากด้านบนลงมาด้านล่าง เนี่ยฟงสะบัดมือขวาประกายสายฟ้าพุ่งออกมาที่พื้นทรายปรากฏอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าสองวงไม่นานเนี่ยฟงก็ตะโกนออกมา
“หยางเวยข้าพร้อมแล้ว”
หยางเวยรีบระเบิดปราณพิษอีกครั้งพร้อมกับซัดฝ่ามือลงพื้น เปรี้ยง ควันพิษสีม่วงฟุ้งกระจายหยางเวยรีบถีบเท้าพุ่งถอยออกมา ชายหนุ่มและหญิงสาว กระเด็นถอยหลังเมื่อเท้าถึงพื้นก็พุ่งทะยานออกมาด้านหน้า ทันทีที่ผ่านควันพิษสีม่วง ก็เห็นเถาวัลย์สีฟ้ามีประกายสายฟ้าพุ่งเข้ามา ทั้งสองยังไม่ทันที่จะพุ่งหลบหนี เถาวัลย์สีฟ้าก็พุ่งรัดตัวทั้งสองอย่างรวดเร็ว ทั้งสองลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายกับพื้นพยายามระเบิดพลังปราณออกมาแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ชายอีกคนหนึ่งได้ยินเสียงร้องของเพื่อนจึงหันมองดู เย่เตาไม่รีรอบังคับสัตว์อสูรพุ่งเข้าหาพร้อมกับฟาดฟันดาบในมือ ปราณดาบพุ่งเข้าปะทะกับร่างอินทรีตัวใหญ่ เปรี้ยง ชายคนนั้นได้รับบาดเจ็บกระอักเลือดออกมาพร้อมกับร่วงลงพื้น ตูม กระดูกแตกหักทั่วร่างนอนแน่นิ่งลมหายใจรวยริน
เนี่ยฟงเดินเข้าหาชายและหญิงทั้งสองคนที่นอนอยู่ที่พื้น พร้อมกับโยนขวดยาสีขาวนวลให้แก่หยางเวย หยางเวยรีบเทเม็ดยาออกจากขวดแล้วนำไปยัดปากคนทั้งสอง เย่เตาหลังจากปลดทรัพย์ชายอีกคนก็พุ่งเข้ามาหาเนี่ยฟงและหยางเวย ไม่นานเนี่ยฟงก็เอ่ยถามคนทั้งสอง
“พวกเจ้าเป็นใครมาจากไหน”
“พวกเราทั้งสองเป็นเด็กกำพร้าถูกอาจารย์เก็บมาเลี้ยง”
“อาจารย์ของพวกเจ้าเป็นใคร”
“หมอเทวดาเซียวจุ้ย”
เย่เตาได้ยินเช่นนั้นก็ตื่นตกใจกล่าววาจาออกมา
“เซียวจุ้ย เซียวจุ้ยคนของผาไม้ดำหรือไม่”
“ใช่แล้ว”
เย่เตาได้ยินเช่นนั้นก็กำหมัดในมือทั้งสองแน่น ไม่นานเย่เตาก็หัวเราออกมาดังลั่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ในที่สุดข้าก็เจอเฒ่าบัดซบนั่นเสียที”
“เกิดสิ่งใดขึ้นเย่เตา”
“เป็นมัน เป็นมัน ที่วางยาแม่ข้า อ้างว่าแม้ข้าติดโรคร้าย เป็นเพราะแม่ข้าหลงเชื่อคำของมันถึงได้ถูกพิษทรมานจนได้”
เนี่ยฟงกล่าวถามชายหญิงทั้งสองคนต่อ
“โรคระบาดที่พวกเจ้ากล่าวถือมันคืออะไร”
“มันคือพิษที่ปรุงขึ้นพิเศษ ส่วนประกอบพวกข้าไม่รู้ มันไร้สีไร้กลิ่น ใครที่โดนเข้าไปผิวหนังจะค่อยๆเน่าเปื่อยพร้อมกับตกตายไปในที่สุด มันพิเศษตรงที่ใครก็ตามที่สัมผัสตัวผู้ติดพิษจะติดพิษตามไปด้วย”
“ยาแก้พิษมีหรือไม่”
“มีแต่อยู่ที่ท่านอาจารย์”
“เหตุใดพวกเจ้าถึงทำเช่นนี้”
“พวกข้าไม่รู้ หลังจากที่อาจารย์กลับจากผาไม้ดำก็เดินทางมาที่นี่ทันที”
เนี่ยฟงได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
“พวกเจ้ารู้จักที่ตั้งของผาไม้ดำหรือไม่”
“พวกข้าไม่รู้ มีเพียงอาจารย์เท่านั้นที่สามารถไปที่นั่นได้”
เนี่ยฟงหันไปมองหยางเวยและเย่เตา
“พวกเจ้าทั้งสองก็ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองกล่าวแล้ว คิดเห็นว่าอย่างไร”
เย่เตาเอ่ยวาจาออกมาเสียงดังลั่น
“ข้าจะสังหารไอ้เฒ่าบัดซบนั่นแก้แค้นให้แม่ข้า”
“หวังว่าเซียวจุ้ยหมอเทวดาอะไรนั้น จะพกสมบัติติดตัวมาไม่มากก็น้อยนะ”
เนี่ยฟงยกยิ้มพร้อมกับสะบัดมือมีดสั้นก็ปรากฏออกมา วาดผ่านลำคอของทั้งสอง เลือดสีแดงพุ่งกระฉูด เนี่ยฟงปลดแหวนในมือของทั้งสองโยนให้แก่หยางเวย หลังจากนั้นทั้งสามก็กระโดดขึ้นหลังสัตว์อสูรพุ่งกลับไปที่เมือง บริเวณที่ทั้งสามสังหารสัตว์อสูรถูกจัดการพื้นที่จนหมด หลังนั้นทั้งสามก็ปลอมตัวเข้าเมืองอีกครั้ง