ตอนที่ 49-50
ตอนที่ 49 : อนาคตของร้าน
รับชมรอยยิ้มบนใบหน้าเหยาซือหยาน ลั่วฉวนจึงรู้สึกราวกับว่าเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องช่วยนางให้คลายปมออก
ผ่านการนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ลั่วฉวนจึงคิดตัดสินใจ
เขาเดินกลับขึ้นชั้นบน จากนั้นจึงกลับลงมา ในมือถือกระดานสีขาวขนาดใหญ่มาด้วย
“เถ้าแก่คิดทำอะไรหรือ?” เหยาซือหยานกล่าวถาม
“เขียนกฎของร้านแห่งนี้ลงไป เช่นนั้นจะได้ไม่ต้องกล่าวทุกครั้งที่ลูกค้าสอบถาม” ลั่วฉวนกล่าวบอก
“ยอดเยี่ยม” เหยาซือหยานพยักหน้ารับ จากนั้นจึงรับกระดานสีขาวจากมือลั่วฉวน “เถ้าแก่ ให้ข้าเขียนเอง!”
ลั่วฉวนตอนแรกคิดเขียนเอง กระนั้นตอนนี้ส่งให้เหยาซือหยานแทน
ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ลั่วฉวนจึงกล่าวเสริม “เขียนกฎลงไปสามข้อ”
“สินค้าภายในร้านสามารถซื้อได้คนละชิ้นต่อหนึ่งอย่าง”
“ห้ามสร้างปัญหาในร้าน หากลงมือต้องรับความเสี่ยงด้วยตนเอง”
“สินค้าในร้านไม่มีการลดราคา”
“เรียบร้อยแล้วเถ้าแก่!”
เหยาซือหยานเขียนไปครู่จึงเรียบร้อย อักษรสีดำทั้งสามแถวเรียงรายงดงามบนกระดานสีขาวแผ่นนี้
“นำไปแขวนเลย” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ
เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า ชีวิตดำเนินไป ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นในนครจิ่วเหยา
เพียงพริบตาจึงผ่านพ้นไปหนึ่งสัปดาห์
ระหว่างช่วงเวลานี้ นอกจากลูกค้าประจำทั้งสองคนแล้ว คณะของโจวหู่และเว่ยฉิงจู่ก็มาเยือนเป็นประจำเช่นกัน กล่าวได้ว่าทั้งสองแวะมาเยี่ยมเยือนร้านแทบทุกวัน
ทางด้านปู้ฉืออีเวลานี้ก็มาเยือนที่ร้านบ่อยครั้ง เพราะนางต้องการสรรพคุณของบะหมี่กึ่งสำเร็จไปใช้เพื่อฝึกฝน
ความเร็วการฝึกฝนเพิ่มขึ้นสิบเท่า แม้คงอยู่ได้หนึ่งชั่วโมง แต่เทียบกับผลลัพธ์พยายามอย่างหนักทั้งวันได้!
และวันนี้เองที่ลั่วฉวนได้สำเร็จงานที่ระบบมอบหมายให้!
“ระบบเจ้าของร้านสุดแกร่ง
เจ้าของร้าน : ลั่วฉวน
ระดับ : เจ้าของร้านหนึ่งดาว
การฝึกฝน : ระดับที่สอง
อัตราส่วนปัจจุบัน : 10%
ภารกิจที่ดำเนิน : โคล่า 100/100 แท่งเครื่องเทศ 100/100
รางวัล : รับโอกาสสุ่มโชค”
ระดับที่สองภายในหนึ่งสัปดาห์ กำลังของลั่วฉวนได้เพิ่มขึ้นจากระดับที่หนึ่งเป็นระดับที่สองแล้ว
หากบรรดาผู้ฝึกตนแห่งทวีปเทียนหลันทราบ เช่นนั้นคงแตกตื่นกันยกใหญ่
ในเวลาเพียงสองสัปดาห์ จากสามัญชนทั่วไปได้กลายเป็นขอบเขตที่สอง นี่กล่าวได้ว่าเป็นความเร็วยากกระทำได้!
กระนั้นลั่วฉวนไม่คิดสนใจแต่อย่างใด ก็แค่ระดับที่สองไม่ใช่หรือ?
อย่างไรมันก็ดาษดื่นจนกว่าจะถึงระดับที่หก
“ระบบ เริ่มการสุ่มโชค” ลั่วฉวนกล่าวอยู่ภายใน
แสงจึงสว่างวูบที่ตรงหน้า ลั่วฉวนปรากฏในห้วงมิติสุ่มโชคอีกครั้งหนึ่ง
ทว่าครั้งนั้นแตกต่างออกไป เพราะระบบถึงกับเผยเสียงรบกวน
“เพราะจำนวนการสุ่มโชคของเจ้าของร้านถึงสี่ครั้ง ขอให้เลือกทิศทางการพัฒนาร้านต้นตำรับด้วย”
“ทิศทางการพัฒนา?” ลั่วฉวนเกิดสงสัย “ระบบ อธิบายให้มากกว่านี้”
“ด้วยเพราะถูกเรียกว่าร้านค้า ดังนั้นจึงต้องมีสินค้าขายมากมาย และสินค้าต้องแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ การฝึกฝน การพักผ่อน การอาหาร และการบันเทิง... ทางเลือกของเจ้าของร้านจะส่งผลต่อเส้นทางในอนาคตของร้านต้นตำรับ”
ลั่วฉวนพยักหน้ารับ โดยรวมถือว่าทราบกระจ่าง ทว่าก็แปลกใจอยู่เช่นกัน
เหมือนว่าเจ้าของร้านเช่นเขาก็มีอนาคตที่ต้องกำหนดเองด้วย
หากฟังจากระบบ ภายหน้าร้านต้นตำรับจะกลายเป็นศูนย์การค้าสินค้านานาชนิดนับไม่ถ้วน!
ด้วยคิดอยู่พักหนึ่งลั่วฉวนจึงตัดสินใจ
“ระบบ ตอนนี้ขอเลือกการฝึกฝน”
ทวีปเทียนหลัน ทุกสิ่งอย่างคือผู้ฝึกตน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะเลือกเส้นทางแห่งการฝึกฝน
“การเลือกสำเร็จเรียบร้อย! เจ้าของร้านสามารถเริ่มการสุ่มโชคได้แล้ว”
เสียงดังขึ้น ลั่วฉวนทราบตอนนี้ว่าวงล้อสุ่มโชคนั้นมีขนาดเล็กลง ส่วนว่ารางวัลเป็นอะไรบ้างนั้นก็ไม่ทราบเช่นเคย
ตอนที่ 50 : ดื่มด่ำกับเกมเสมือนจริง
ลั่วฉวนรับชมที่วงล้อสุ่มโชค จากนั้นจึงสั่งให้มันเริ่มหมุน
วงล้อหมุนออกเร็วรี่
เพียงไม่กี่ชั่วลมหายใจ ลั่วฉวนจึงสั่งให้หยุด
วงล้อสุ่มโชคหยุดลงเชื่องช้าง ตัวบ่งชี้หยุดตรงพื้นที่สีน้ำเงิน
“ขอแสดงความยินดีต่อเจ้าของร้าน ที่ชนะได้รับเกมเสมือนจริง หอคอยแห่งการทดสอบ”
“ร้านเริ่มทำการปรับแต่งใหม่ ระยะเวลาแล้วเสร็จหกชั่วโมง”
เกม?
ได้ยินเสียงระบบเอ่ยออกมา ลั่วฉวนจึงเกิดนึกสงสัยว่าได้ยินอะไรผิดไปหรือไม่
เล่นเกม = ฝึกฝน?
ระบบ ลั่วฉวนผู้นี้อ่านหนังสือมาเยอะแยะ อย่าได้ล้อกันเล่นแล้ว
นับเป็นโชคดีที่ตั้งแต่สุ่มโชคครั้งก่อนหน้าก็เตรียมใจไว้ระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่แปลกใจแต่อย่างใดนัก
เหมือนว่าระบบคาดเดาความคิดของลั่วฉวนได้ คำจึงกล่าวออก “ผู้ที่เล่นเกมหอคอยแห่งการทดสอบ ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจะกลับคืนสู่ร่างผู้เล่น”
ลั่วฉวนถึงกับพูดกล่าวไม่ออก
ระบบนี่มันออกจะเกินไปแล้ว!
เพียงเล่นเกมก็ทำให้ผู้คนแข็งแกร่งขึ้นได้ ลั่วฉวนจึงแทบคิดอยากจะบอกว่าระบบนี้ฉาวโฉ่เกินไปแล้ว
ขณะนี้ลั่วฉวนเกิดความสงสัยเต็มอกต่อเกมที่เรียกว่าหอคอยแห่งการทดสอบ
กลางดึก ยังเหลือเวลาอีกหกชั่วโมงจึงปรับแต่งร้านใหม่เสร็จสิ้น ลั่วฉวนจึงได้แต่ต้องรอคอยวันพรุ่งนี้
ค่ำคืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เพียงพริบตาฟ้าก็สางกลายเป็นเช้าตรู่ของวันใหม่แล้ว
หลังล้างหน้าเล็กน้อย ลั่วฉวนจึงเดินลงบันไดมาด้วยความตื่นเต้น
และขณะนี้เองที่เหยาซือหยานก็ออกจากห้องเช่นกัน
นางหันมองแผ่นหลังลั่วฉวนที่เดินลงบันไดไป สีหน้านั้นเผยออกซึ่งความสงสัย
“ทำไมเหมือนรู้สึกได้ ว่าเถ้าแก่วันนี้ดูอารมณ์ดี...”
ผู้คนที่มาเยือนล้วนทราบว่าตัวตนของลั่วฉวนประหนึ่งเทพที่ไม่เคยยิ้ม
แต่วันนี้นั้นแตกต่างออกไป
ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เหยาซือหยานจึงหยุดคิดมาก จากนั้นจึงเข้าห้องน้ำไปชำระกายให้เรียบร้อยเพื่อรับวันใหม่
อีกทางหนึ่ง ลั่วฉวนที่ลงมายังร้านชั้นแรก เขาต้องตื่นตะลึงกับสิ่งที่เผยให้เห็นตรงหน้า
ภายในร้าน ชั้นวางว่างเปล่าทั้งหลายเลือนหายไปแล้ว
ที่บนกำแพงหันไปทางประตูร้าน มันปรากฏเป็นหน้าจอขนาดใหญ่
การเปลี่ยนแปลงภายในร้านระดับสะท้านสะเทือนต่อมความคิดได้เกิดขึ้น เพราะที่ร้านมันปรากฏที่นั่งนับสิบเรียงราย
และตรงที่นั่ง มันจะมีหมวกสีขาวเงินวางเอาไว้
ตรงหน้าที่นั่งคือหน้าจอ มันสำหรับใช้แสดงผลของเกมที่เล่น
ไม่ว่ามองอย่างไร ร้านเล็กแห่งนี้ก็ไม่น่ายัดของเช่นนี้มาได้
แต่สำหรับร้านต้นตำรับแห่งนี้ เพียงที่นั่งนับสิบก็ไม่ได้ทำให้ดูแออัดแม้แต่น้อย
หากสำนักที่คงอยู่มายาวนานได้พบเห็นสิ่งนี้ พวกเขาคงพร้อมใจกันตื่นตะลึง
เพราะปรากฏการณ์ภายในร้าน มันถูกควบคุมเอาไว้ด้วยพลังแห่งมิติ!
บางทีอาจเรียกมันว่าค่ายอาคมมิติควบคุมพื้นที่
“เถ้าแก่ พวกนี้คืออะไรกัน?”
เหยาซือหยานก้าวเดินลงจากชั้นที่สอง ที่พบเห็นคือร้านเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ดังนั้นนางจึงกล่าวถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
“เกมเสมือนจริง” ลั่วฉวนตอบ
เหยาซือหยานชะงักฝีเท้า
นางไม่ทราบว่ามันคืออะไร
“เดี๋ยวเล่นให้ดู”
ลั่วฉวนกล่าวคำ จากนั้นจึงไปนั่งพร้อมสวมใส่หมวกโลหะ
ทันทีที่สวมหมวกโลหะ ลั่วฉวนจึงรู้สึกได้ถึงจิตสำนึกที่หลุดพ้นจากร่างกาย ขณะนี้ได้เข้าสู่พื้นที่สีดำอันไม่คุ้นเคย
พร้อมกันนี้ร่างกายลั่วฉวนจึงเริ่มก่อตัวขึ้น
ความแตกต่างคือร่างกายนี้ไม่มีพลังวิญญาณแต่อย่างใด เป็นร่างกายของมนุษย์ทั่วไป
“ตรวจสอบพบว่าผู้เล่นเข้าใช้งานเป็นครั้งแรก ต้องการสร้างบัญชีผู้เล่นหรือไม่?”
เสียงระบบที่น่าจะเป็นของเกมได้ดังขึ้น
พร้อมกันนี้ หน้าต่างข้อความจึงปรากฏในมิติสีดำพร้อมอักษรส่องสว่าง
มันมีสองตัวเลือกเผยให้เห็น
“สร้าง” และ “ไม่สร้าง”
......
ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ :https://bit.ly/32ciG6V