บทที่ 46 ก้อนเมฆที่แปลกประหลาด
บทที่ 46 ก้อนเมฆที่แปลกประหลาด
ภายในหัวของช่างลี่นั้นปรากฏภาพเหตุการณ์ในอดีตมากมาย ก่อนจะมาฉายฉากที่เขารู้สึกว่าเจ็บปวดมากที่สุด
ช่างลี่คุกเข่าลง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบทั่วทั้งใบหน้า ความโศกเศร้า และอับอายฉายผ่านใบหน้าอย่างชัดเจน
“ข้าขอโทษด้วยท่านพ่อ ข้าผิดไปแล้ว! ข้าทำให้ท่านอับอาย...ข้าจะเลิกฉี่รดที่นอนแล้ว! ข้าสัญญา!”
เสียงของช่างลี่นั้นดังระงมไปทั่วทำให้ผู้คนได้ยินกันโดยไม่ได้ตั้งใจ
“เจ้าลูกไม่รักดี! เจ้าอายุ 15 แล้ว แต่ยังฉี่รดที่นอนอยู่ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น!”
เสียงของชายวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยความโกธรเคียงตรงกลางของลานกว้าง พร้อมกับปรากฏภาพบิดาของช่างลี่ที่เป็นภาพลวงตาขึ้น ทำให้ผู้ชมทุกคนได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
“ท่านพ่อขอโทษ!”
เสียงสะอื้นของช่างลี่ยังคงสั่นไม่หยุด ทันใดนั้นฝูงชนพลันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของพวกเขานั้นดังขึ้นไปจนถึงสวรรค์ชั้นฟ้าเลยทีเดียว!
“อะไรกัน! ช่างลี่ที่เป็นถึงอัจฉริยะที่หาจับตัวได้ยาก! กับ....ฉี่รดที่นอนตอนอายุ 15ปี ฮา ฮ่าๆๆๆ แล้วยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้ 30 ปีแล้วยังจะฉี่รดที่นอนอยู่อีกหรือไม่!”
ผู้ชมคนหนึ่งกล่าวขึ้นพลางหัวเราะทั้งน้ำตาออกมา
“หากเป็นข้านะ ข้าคงไม่มีหน้าไปเจอผู้ใดอีกตลอดชั่วชีวิตนี้แล้ว ข้ายอมกินฉี่ตัวเองเพื่อไปเกิดใหม่ยังดีเสียกว่า!”
ผู้ชมอีกคนกล่าวเสริมขึ้นมาด้วยความสนุกสนาน มีสายตาของใครหลายๆคนมองไปที่กุนไท่ด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับสาบานว่าจะไม่เป็นศัตรูกับชายหนุ่มผู้นี้เป็นอันขาด!
ช่างลี่พลันได้สติกลับคืนมา และรู้ตัวแล้วว่าตนเองทำสิ่งใดลงไป เขากล่าวยอมแพ้ทันที พร้อมกับรีบหายไปจากสายตาทุกคนด้วยความอับอาย!
“ช่างเป็นวิชาที่น่าหวาดหวั่นนัก! หนุ่มน้อยผู้นี้สามารถเอาชนะได้จริงหรือ?”
ผู้นำนิกายตกตะลึง ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาได้เห็นพลังของกุนไท่ด้วยเต็มสองตาคู่นี้แล้ว!
“เสี่ยวไท่ มีพลังมากกว่าที่ข้าคาดไว้เยอะเลย!”
ผู้พิทักษ์ก็รู้สึกไม่ต่างกับผู้นำนิกายเท่าใดนัก
“ยินดีกับท่านผู้พิทักษ์ด้วยที่ได้ศิษย์ที่มีศักยภาพล้ำเลิศ คาดว่านิกายแห่งนี้คงสงบสุขไปอีกพันปีเป็นแน่!” ผู้อาวุโสตำหนักผู้หนึ่งกล่าวประจบขึ้น
กุนไท่ตกตะลึง และรู้สึกเหลือเชื่อ วิชานี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว เขารู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายอับอายได้มากถึงขนาดนี้ ผู้ใดจะไปล่วงรู้เล่าว่าวิชานี้จะน่าสะพรึงกลัวปานวิชามาร!
สงสัยคงจะใช้มันพร่ำเพรื่อไม่ได้เสียแล้ว ตอนนี้เขาได้สร้างศัตรูมาอีกหนึ่ง คาดว่าความแค้นครั้งนี้คงมิอาจสะสางได้โดยง่าย
“ผู้ชนะกุนไท่!”
กุนไท่เดินออกจากลานกว้างไปเพื่อกลับที่พัก เขายังคงรู้สึกตกตะลึงไม่หายกับวิชานี้ ชายหนุ่มเลิกความคิดไร้สาระอีกต่อไป ก่อนจะเอาหยกจิตวิญญาณออกมาเพื่อเริ่มบ่มเพาะ
ตอนนี้ข่าวเกี่ยวกับช่างลี่กระจายไปทั่วเกือบทั่วทั้งสำนักแล้ว ผู้ที่ไม่ได้มาชมการประลองนั้นพวกเขาคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องแต่งที่กุขึ้นมาเพื่อทำให้อีกฝ่ายมีชื่อเสียง
เช้าวันต่อมา ตะวันขึ้นขอบฟ้าสาดแสงสวยงามให้กับทุกสรรพสิ่งบนโลก กุนไท่เดินไปที่ลานกว้าง เพื่อเข้าร่วมการประลองในรอบต่อไป เขาคาดหวังว่ารอบต่อไปขอให้เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่านี้!
กุนไท่มองการต่อสู้ของอัจฉริยะมากมายที่ต่อสู้กันด้วยพลังทั้งหมดที่มี สายตาของเขาจ้องมอง และเสาะหาจุดอ่อนของแต่ละคน เพื่อจะได้จัดการคู่ต่อสู้ได้ง่ายขึ้น
และแล้วกุนไท่ก็ได้ไปถึงลานประลอง คราวนี้คู่ต่อสู้ของชายหนุ่มนั้นคือ ซูฮวา! ที่ต่อสู้ในรอบแรกกับจิวหู แต่ในตอนนี้นั้นนางแตกต่างออกไปจากในตอนนั้นอย่างสิ้นเชิง เพราะพลังปราณที่กุนไท่สัมผัสได้จากอีกฝ่ายนั้นมีความสงบมากขึ้น และดูลึกล้ำมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก
“อย่าคิดว่าข้าจะอ่อนแอ โปรดอย่าได้ยั้งมือ!”
ซูฮวากล่าวขึ้นพลางจับจ้องไปที่กุนไท่ด้วยสายตาเยือกเย็น
“แน่นอน ข้าไม่เคยดูถูกคู่ต่อสู้โดยเฉพาะอัจฉริยะอย่างท่านแล้ว ข้ารู้สึกเป็นเกียรติเสียด้วยซ้ำ!”
กุนไท่ตอบกลับไปด้วยท่าทีสงบ เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น กุนไท่พลันระเบิดกลิ่นอายออกมาถาโถมเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างไม่บันยะบันยัง ซูฮวารู้สึกว่าพลังปราณที่ไหลเวียนในร่างกายเกิดอาการอ่อนแรงลง นางรีบโคจร และป้องกันกลิ่นอายนั่น แต่นางก็รู้สึกได้ว่าพลังของตนถูกข่มไปถึงสามส่วน!
นางพลันใช้พลังของกายธาราสวรรค์ออกมา ทำให้พลังต่อสู้ของนางเพิ่มสูงขึ้นจนน่าหวาดหวั่น ก่อนจะใช้วิชาต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา ซูฮวาต้องการจัดการอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ตนเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
วิชาระดับสามัญชน ขั้นสูง! มหาสมุทรไร้ขอบเขต!
กุนไท่เห็นอย่างนั้นสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรีบจบการต่อสู้นี้โดยเร็ว ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะทำแบบนางเช่นเดียวกัน
วิชาระดับสามัญชน ขั้นสูง! ดัชนีเก้ามายา!
ขณะที่มหาสมุทรสีฟ้าที่ครอบคลุมบนผืนฟ้าเหล่านั้นกำลังตกลงมาใส่กุนไท่นั้น เขารีบใช้วิชาต่อสู้ออกมาอย่างรวดเร็ว ดัชนีทั้งเก้าสายนั้นมีคุณสมบัติสามารถทะลุทะลวง มันทะลวงผ่านผืนน้ำนั้นพุ่งเข้าหานางโดยตรง โดยที่พลังของมันไม่ได้ลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย!
นางไม่สามารถหลบได้ทันก่อนที่ดัชนีนั้นจะสร้างบาดแผลให้นางทำให้เกิดรอยเลือดที่อาภรณ์ของนางขึ้นที่ไหล่ซ้าย กุนไท่ได้เลี่ยงจุดตายไปที่เรียบร้อยแล้ว ซูฮวาก็ทราบเรื่องนี้ดีนางเลยตัดสินใจยอมแพ้เพื่อไม่ให้เสียหน้าไปมากกว่านี้
“ผู้ชนะ กุนไท่!”
ผู้อาวุโสคนเดิมเป็นคนกล่าวขึ้น เขาหันมามองกุนไท่ด้วยสายตาชื่นชม พร้อมกับพยักหน้าให้อีกฝ่าย และเริ่มการประลองคู่ต่อไป
พรุ่งนี้เป็นการต่อสู้รอบสุดท้ายแล้ว หากกุนไท่สามารถเอาชนะได้ เขามีคุณสมบัติในการท้าสู้กับศิษย์หลัก หากเอาชนะได้เขาจะมีสถานะเป็นศิษย์หลักทันที แต่มันเป็นไปได้ยากอย่างมาก เพราะศิษย์หลักทุกคนมีการบ่มเพาะระดับผู้เชี่ยวชาญ ขอบเขตผู้เยี่ยมยุทธ์เป็นอย่างต่ำ!
ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของกุนไท่ เขาไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ หากไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของขลุ่ยจักรพรรดิวิญญาณ และมีสมบัติสวรรค์เป็นไพ่ตายชิ้นสุดท้ายอีกด้วย!
กุนไท่ยืนอยู่อย่างสง่างามกลางลานกว้างซึ่งขัดกับใบหน้าที่อดหลับอดนอนของเขาเป็นอย่างมาก บรรยายกาศรอบตัวที่ดูเรียบง่ายน่าคบหานั้นดึงดูดสตรีเพศได้อย่างไม่น่าเชื่อ รัศมีความยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดกระจายออกมา ตั้งแต่ตอนที่กุนไท่เอาชนะผู้ที่มีพลังมากกว่าตนเองถึงสองขั้นนั้น ทำให้ได้รับความสนใจอย่างมาก
บนท้องฟ้านั้นมีกลุ่มเมฆแปลกประหลาดอยู่ ท้องฟ้าสีครามที่มีก้อนเมฆสีขาวล่องลอยและเคลื่อนตัวไปอย่างเชื่องช้าอยู่นั้น มีก้อนเมฆสีดำก้อนหนึ่งที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น มันอยู่เหนือลานกว้างที่กุนไท่กำลังประลองราวกับว่ากำลังเฝ้าชมดูการประลองเหมือนกับผู้อื่น ทันใดนั้นภายในก้อนเมฆปรากฏเสียงของคนผู้หนึ่งดังกระหึ่มขึ้น!
“ข้าเจอตัวอันตรายแล้ว! ข้าจะบันทึกการต่อสู้ทั้งหมดแล้วส่งให้ท่านขุนพลอสูรได้ดู รอก่อนเถอะเจ้าพวกมนุษย์! ข้าจะแย่งชิงทวีปศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้า เคี๊ยกๆๆๆ!”