บทที่ ๘
ทวนเข็มนาฬิกา
โดย ศศิศิลป์
••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
บทที่ ๘
"เป็นเกย์แล้วเป็นยังไง!! "
ตุลย์อึ้ง เมื่อคนที่ควรจะทำงานอยู่ ยืนอยู่พร้อมถุงข้าวที่หน้าประตู
"หึ ก็สกปรกไง พวกผิดเพศ! วิปริต!! " ชาติพ่นทั้งหมดใส่เธียร์
"คนที่เห็นคนอื่นเป็นคนไม่เท่ากันต่างหากที่ใจสกปรก ปากแบบนี้จะอยู่ถึงแก่หรือเปล่าวะ.." เธียร์เลือดขึ้นหน้า
"มึง!! อ๋อ... นี่มึงจะยอมรับว่าเป็นเกย์ใช่ม-"
"เออ! กูเป็น! ถ้าหมายถึงกูชอบผู้ชายน่ะใช่ กูชอบผู้ชาย...ไม่สิ เสรีทางเพศอะรู้จักปะ เจอใครดีๆ ศึกษากันได้กูก็ชอบเขาหมดแหละ แต่ไม่ต้องห่วงนะปากแบบนี้กูไม่เอาแน่ๆ.." เธียร์โมโหจนควันออกหู
"ถุย! กูจะอ้วกว่ะ นี่ไงไอ้ตุลย์ คนที่มึงปกป้อง มึงก็คงเป็นเหมือนมัน น่าขยะแขยง! "
ตุลย์นิ่งเงียบ
นั่นทำให้เธียร์ผิดหวังเล็กน้อย
แต่บริบทสังคมตอนนี้จะให้เข้าใจและยอมรับเลยทันที เขาก็คงจะคาดหวังมากเกินไป
"สนใจกันมากหรอ ว่าคนจะมองมายังไง สุดท้ายทุกคนก็กินข้าว ทำทุกอย่างเหมือนกัน แต่จะมาตัดสินกันแค่เพราะรสนิยมทางเพศที่แม่งเป็นเรื่องส่วนตัวเนี่ยนะ เหอะ ..."
เธียร์กระแทกถุงข้าวลงบนโต๊ะอย่างแรง แต่เขาจะไม่ยอมไปไหน ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น แต่ตุลย์จะไม่เผชิญถ้อยคำแบบนั้นคนเดียวแน่ๆ
"แล้วจะเอายังไง มึงมันอยู่ร่วมโลกกับคนอื่นไม่ได้เลยดิ หืม? อยู่ยากนะอย่างนี้เนี่ย ประเสริฐชิบหายเลยมั้งการยืนชี้หน้าด่าแค่เพราะคนอื่นไม่ได้เป็นเหมือนที่ตัวเองคิดอะ... แล้วแม่งไม่ได้ขอร้องให้เสือกมาคาดหวังด้วยนะ.." อีโมล้วนๆ
บอกตรงๆว่าโมโหมาก คงเพราะสังคมที่จากมาเปิดกว้างพอแล้ว หลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย แต่เหมือนทุกคนพร้อมเปิดพร้อมเรียนรู้...นั่นเป็นด้านดีของโซเชียล
"พอเถอะ.." ตุลาเอ่ยออกมา ทำให้เธียร์ที่ยืนมองชาติอย่างเอาเรื่องชะงักไป
"ข้าโอเคนะ เอ็งจะเป็นยังไงก็ช่าง .." บ่วงตบไหล่เพื่อน
"ข้าก็เข้าใจ น้าข้าก็เป็นคนที่รักเพศเดียวกัน เขาก็เป็นน้าที่ดีของข้าคนหนึ่ง " อ๋องบอก
"มันไม่ต้องดีก็ได้ปะวะ คือเขาก็เป็นคนไง.." เธียร์พึมพำ คนดีมันก็เป็นสิ่งที่ทุกคนพึงทำได้ แต่จะมีรสนิยมแบบไหนก็คนไงโว้ย ไม่ใช่ต้องเป็นคนดี เอาว่าไม่ได้ไปทำใครเดือดร้อนก็พอไหม ตาเขาแทบจะกรอกเป็นวงกลมแล้ว
"ขอบใจพวกเอ็งนะ แต่ข้าไม่ได้เป็นอย่างที่ชาติมันว่า... ข้าแค่โมโหที่มันพูดไม่ดี"
คำที่ได้ยินทำเอาเธียร์ใจฝ่อ นี่สุดท้ายแล้วทุกคนได้รับอะไรจากสิ่งที่เขาพูดบ้างหรือ
"หึ ได้ยินแล้วใช่มั้ยไอ้ตุ๊ด ออกไปได้แล้ว! พวกกูจะซ้อม...อ้อ แล้วก็อย่ามายุ่งกับเพื่อนกูอีกละ!!" ชาติยิ้มเย้ย
เธียร์มองตุลาด้วยความผิดหวัง นี่ไม่ใช่ตุลย์ อิษวัต คนที่ออกตัวเรียกร้องสิทธิ์ให้เรื่องนี้เสมอมา สุดท้ายแล้วที่ได้ยินและรับรู้มาเขาก็ทำทุกอย่างเพียงเพื่อหน้าตาและชื่อเสียงสินะ
ที่ออกมาปฏิเสธข่าวลือเกย์ก็คงจะเพราะรับไม่ได้อยู่เป็นนัย เขาเข้าใจแล้ว และเขายอมแพ้...
อดีตของตุลย์ทำให้เขาผิดหวัง และคงเดินหันหลังให้กับอดีตวันนี้แล้ว โชคชะตาช่างเล่นตลกส่งเขามาเจอกับคนๆ นี้
เพลงถูกเล่นเป็นรอบที่เท่าไหร่ตุลาไม่ได้นับ เขาเล่นซ้ำๆ ย้ำๆ จนเข้าปาก แต่บ่วงกลับให้สัญญาณทุกคนหยุดมันไว้ก่อน
"พักหน่อยเถอะว่ะ ข้าว่าเราซ้อมหลายรอบมากแล้ว"
"ก็จริง กินข้าวเสร็จนึกว่าจะมีแรงขึ้น แต่ทำไมไอ้ตุลย์มันยังเหนื่อยๆอย่างนี้ ไหวแน่เรอะ?" อ๋องถาม ข้าวที่เธียร์ซื้อมาทุกคนได้กินมันยกเว้นชาติที่ยอมไปซื้อใหม่มา บอกว่ากินไม่ลง
"หรือมึงคิดถึงมัน?" ชาติหาเรื่อง
"เฮ้ย ข้าว่าหยุดหาเรื่องมันเรื่องนี้เถอะ มันก็บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นอย่างเอ็งว่า.." อ๋องทนไม่ไหวจะเข้าไปประจันหน้าเพื่อนอีกคน
"ไม่ต้อง.." ตุลย์ดึงไหล่เพื่อนเอาไว้
"ฟังนะ กูไม่ใช่พวกชายรักชาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องตั้งท่ารังเกียจคนพวกนั้น และวงมันเข้าที่เข้าทางได้ต้องยอมรับมั้ยวะ ว่าเธียร์ก็มีส่วน เพราะฉะนั้นอย่าปากพล่อยหน่อยเลยว่ะ! "
"ถุย! กูมาถึงวันนี้ได้ก็เพราะความสามารถ ไม่ใช่เพราะไอ้คนผิดเพศอย่างที่มึงว่า! ที่เราพยายามมาทั้งหมด มึงจะบอกว่าดีได้เพราะใครไม่รู้ที่เจอไม่กี่เดือนหรอวะ" ชาติไม่พอใจ
"แล้วที่มันไม่เข้าที่เข้าทางอยู่นาน พอเขามาชี้ทางให้มันก็ดีอย่างนี้ไม่ใช่หรอวะ? " ตุลย์ตอกกลับ
"มึงเปลี่ยนไป! แค่เพราะคนๆ เดียวเนี่ยนะ.." ชาติถลึงตา ก่อนที่จะเดินหัวเสียออกไป
"อย่าคิดมากเลย ข้าว่ามันไร้สาระ ข้าเห็นด้วยนะ ว่าตั้งแต่เจอพี่เขาพวกเราดีขึ้นจริงๆ เอ็งก็เหมือนจะโดนดึงบางอย่างด้านดนตรีออกมา" อ๋องตบไหล่ ตุลานั่งไหล่ตก
ฟากของเธียร์จากที่ตั้งใจว่าจะมาเพื่อที่จะจัดการชุดให้วงอย่างที่อีกคนบอกไว้ ซื้อข้าวไปฝากทุกคน แต่เปล่าเลย... กลับต้องไปเจอความผิดหวัง
ทั้งที่เขาไม่ควรจะหวังด้วยซ้ำ สังคมตอนนี้มันมืดบอดและเหยียดเพศขนาดนั้นเชียว ชาติถึงได้มองรังเกียจขนาดนั้น แต่จุกอกมากกว่า
เมื่ออดีตของตุลย์ อิษวัต ที่เขารู้จักมา ตัวนำเรื่องความเสมอภาคทางเพศและเรียกร้องสมรสเท่าเทียมจนเป็นที่รักของทุกคนโดยเฉพาะชาว lgbtq+ กลับกลายเป็น...นายตุลา เด็กผู้ชายที่แคร์เพื่อนจนแสดงท่าทีอย่างนั้น...
เฮอะ วงการบันเทิงอะเนอะ
และตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้ก็คือการมายืนด้อมๆ มองๆ รั้วบ้านตัวเองอีกแล้ว เหมือนจะไม่มีใครอยู่เลย สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับมานั่งแหมะอยู่ที่ร้านของพี่ชัย
"ลางานไปแป๊ปเดียวก็กลับมานั่งอยู่นี่ แล้วนี่จัดการเรื่องหอพักได้ยังวะ? "
"ไปหามาแล้วพี่ ได้แถวนี้ หอเก่าๆ เดือนละ 2,000 "
"เฮ้ยอยู่ได้หรอวะนั่น ดีหรือเปล่า เงินพอใช้มั้ย? "
"ได้พี่ ตัวคนเดียว..ไม่มีของอะไรอยู่แล้ว.."
"เออสู้เอาหน่อยแล้วกัน ชีวิตก็แบบนี้.." ชัยตบไหล่เบาๆ
เขาคงไม่มีหน้าจะกลับไปอยู่บ้านหลังนั้นอีก...
งานดนตรีวันที่ 3 มีนาคมหน้าร้อน มันถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ เด็กใส่ชุดมัธยมมารวมกันเต็มไปหมด รวมถึงวงปีนเกลียวที่เป็นหยดสุดท้ายของวัยมัธยมก็มาอยู่ที่นี่ด้วย
บางกลุ่มก็ตกแต่งความเป็นมัธยมด้วยแฟชั่นต่างๆกันไป แต่พวกเขาเลือกที่จะแต่งแบบเกเรๆ รองเท้าเปลี่ยนสลับสีเล็กน้อย ตุลย์ใส่เสื้อยีนทับนอก อ๋องและชาติโพกผ้าคาดไว้ตรงหน้าผาก ส่วนบ่วงโพกปิดหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง
"พวกเราพร้อมนะโว้ย.." บ่วงถามตอนที่กอดคอกันเป็นวงกลม
"พร้อมสิโว้ย" ตุลย์เรียกเสียง ก่อนจะเฮกันหนึ่งที
พิธีกรประกาศเรียกพวกเขาขึ้นไป
"สำหรับวงต่อไปนี่เรียกได้ว่าชื่อก็เตะหู ฝีมือก็ไม่ธรรมดานะ ถ้าใครได้ไปดูงานปลายปีที่ผ่านมานี่ต้องบอกเลยว่า สะแด่วแห้วมาก! " จังหวะพูดส่งเข้า ตุลย์ส่งสายตาไปมองรอบๆ อย่างตื่นเต้น คนมากันคับคั่ง มีเสียงเชียร์ดังทั่ว
ใจเขาเต้นตุ้บๆ ... วันนี้จะเป็นจริงอย่างที่เธียร์ว่ามั้ยนะ แล้วอีกคนจะมายืนยันมันด้วยตัวเองหรือเปล่า..
"ไปเจอกันเลยกับวง 'ปีนเกลียว'!! " สิ้นเสียงนั้น เสียงกลองของบ่วงก็เคาะเป็นจังหวะ ก่อนเสียงเบสของอ๋องจะดังขึ้น
เพลงที่ถูกนำมาเล่นวันนี้คือเพลง เดี๋ยวจะโดน ความกวนแบบเท่ๆ และดูเกเร ทำให้ทุกคนสนุก ทั้งวัยรุ่นชายและสาวๆที่กรี๊ดกับความแปลกของจังหวะ และเนื้อเพลงชวนให้กระโดด ทำให้บรรยากาศคึกคัก รวมถึงความเต็มที่ของวงทำให้โชว์จบลงไปอย่างสวยงาม เสียงเฮดังลั่น
และแทบไม่ต้องลุ้นผล เพราะทุกคนตัดสินมันได้ทันทีจากการชมการเล่น
"และวงที่ได้ที่หนึ่งของปีนี้ได้แก่....ปีนเกลียว!!" เสียงเฮดังลั่น ตุลย์ ชาติ อ๋องและบ่วงกระโดดตัวปลิว ตีมือกัน
"ทำได้แล้วโว้ย! "
"เยสสส!! "
"พวกเราทำได้โว้ยย!! "
"ดีใจชิบเป๋ง!! "
ทุกคนกระโดดกอดกันท่ามกลางเสียงเชียร์ พร้อมกับรับรางวัลของปีไป ตุลย์มองไปด้านล่างเจอพี่ชายสองคนยกนิ้วมือชื่นชมให้ แต่กวาดมองเท่าไหร่ก็ไม่เห็นคนที่บอกเขาเสมอว่ายังไงเขาก็ทำสำเร็จ....เธียร์ไม่มา
"สำหรับเพลงสุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนมาก ขอบคุณงานวันนี้ ขอบคุณทุกคนที่ทำให้วันนี้ของเราแม่งโคตรมีความสุข และอยากขอบคุณใครอีกคนหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าวันนี้ได้มาหรือเปล่า...
ขอบคุณที่ทำให้ปีนเกลียวเป็นอย่างวันนี้ เขาบอกเสมอว่าเราจะมีวันนี้ และเรามีมันจริงๆ ไปฟังเลยครับ.... ถ้าไม่ได้ยิน"
เพลงที่เขาแต่งในวันที่ใจเต้นแรงกับเธียร์ครั้งแรกจนรู้สึกประหม่า วันที่เผลอสัมผัสอีกคนไป
วันที่ทบทวนกับตัวเองว่าที่ผ่านมาจะเดินมาถึงตรงนี้มั้ยนะ...ถ้าไม่ได้ยินสิ่งที่เธียร์บอกเล่าเรื่องในอนาคตพวกนั้น เพลงถูกเล่นในบรรยากาศที่สวยงาม ผู้คนโบกมือให้อย่างเข้าจังหวะ เป็นภาพที่สวยงามที่สุดในชีวิตตุลา
เลิกจากงานประกวด พวกเขาตกลงรับปากพี่โต้งแมวมองจากงานประกวดครั้งก่อนที่เคยมาติดต่อให้ไปทำเพลง วันนี้เป้าหมายสำเร็จ ไม่รอช้าที่จะคว้ามันไว้...
แต่แทนที่ตุลาจะไปฉลองกับเพื่อน เขากลับมาที่บ้านอย่างไวเพื่อมาหาคนที่เป็นส่วนหนึ่งของวันนี้ แต่กลับไม่มีวี่แวว...
"ไปไหนวะ.." เวลานี้อีกคนควรจะอยู่บ้านแล้ว
"เขาไม่อยู่แล้วล่ะ.." โตเดินเข้ามาบอก
"ไปไหน? "
"เธียร์ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแล้ว วันนี้เพิ่งเอารูปที่ฝากล้างมาให้เอง เขาฝากนี่ไว้ให้เอ็งด้วย.."
ตุลย์รับซองเล็กๆ มา
ข้างในเป็นจดหมายกระดาษน้ำตาลแผ่นหนึ่ง
______________________
•••••••••••••••••••✉••••••••••••••••••••
ตุลย์...
ชนะใช่มั้ย?
รู้อยู่แล้วว่าเธอต้องชนะ
ทุกอย่างเรารู้อยู่แล้ว ... ขอบคุณที่ช่วยเหลือกันตั้งแต่วันนั้น เป็นคนอื่นเขาก็คงไม่ดีขนาดนี้ และเขาคงไม่เชื่อเรื่องที่ฟังดูเหมือนคนเสียสติที่เราเล่า ขอบคุณมากจริงๆ
ได้ก้าวเดินมาถึงจุดหนึ่งแล้ว หลังจากนี้ก็มีสติ รอบคอบ ทำตามความฝันต่อให้เต็มที่ สักวันเธอจะอยู่ในจุดที่สูงมากและมั่นคง ...มันจะเป็นอย่างนั้น
วันนี้คงไม่รบกวนอีกต่อไปแล้ว ขอโทษด้วยที่วุ่นวายไปสั่งสอนเรื่องเธอกับเพื่อน เธอตอนนี้คงยังไม่เข้าใจมัน...สักวันก็จะเข้าใจเอง
โชคดี
เธียร์...
•••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
__________________________________
จดหมายจบลงแค่นั้น มีรูปหนึ่งใบแนบไว้เป็นภาพของวงปีนเกลียว และภาพที่ตุลากำลังมองมาทางกล้อง เธียร์ถ่ายมันไว้ตอนที่ขอกล้องจากโตเข้าไปคุยกับโต้งเมื่องานปลายปี จังหวะที่เธียร์จะเดินกลับมาที่พวกเขายืน เธียร์ถ่ายภาพเขาไว้
นี่เขายิ้มให้อีกคนแบบนี้เองน่ะหรือ...
"ทำไมเขาไม่อยู่รอให้ข้าเอง.." โตฟังแล้วถอนหายใจตบไหล่
"ชนะแล้ว ก็เดินต่อไปนะ ข้ารู้ว่าเอ็งเก่งอยู่แล้ว" ตุลาพยักหน้า ก่อนจะหอบร่างกายเข้าไปในห้องของตนเอง ...
•••••••••••⏱•••••••••••
๗ กันยายน ๒๕๖๓