ตอนที่ 29-30
ตอนที่ 29 : เหยาซือหยาน
เส้นขอบฟ้า
มวลเมฆดำมืดหนาทึบ สายฟ้าที่ม้วนตัวเคลื่อนผ่าน
ภายใต้โลกหล้าอันงดงามใบนี้ มันมีสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนในเทือกเขาจิ่วเหยา เหล่านั้นล้วนซ่อนตัวด้วยเกรงว่าจะเปิดโอกาสให้ศัตรูพบเห็น
ภายในมวลเมฆหนาทึบบนฟากฟ้า มันมีร่างสีดำที่วูบไหว
ทุกสถานที่ซึ่งผ่าน ห้วงมิตินั้นจะปริแตกออก!
เวลาเดียวกันนั้น ทางด้านหลังที่เคลื่อนผ่านจะเกิดเป็นร่างจำนวนมากประหนึ่งเงาตามติด
“เหยาซือหยาน กับขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่ห้ายังปล่อยให้หลบหนีไปได้ ตาเฒ่านั่นมีชีวิตหลายร้อยปีเสียเปล่า!”
“เหยาซือหยาน ตอนนี้เผ่าพันธุ์สัตว์อสูรไม่สามารถปกป้องตนเองได้แล้ว เช่นนั้นคิดหรือว่าจะมีผู้ใดมาช่วยเหลือเจ้าได้?!”
“เหยาซือหยาน คว้าเอาไว้ ข้าอุทิศร่างนี้ให้แก่เจ้า!”
……
เสียงร้องบังเกิดที่ด้านหลัง
นามเหยาซือหยานมีชื่อเสียงโด่งดังในจักรวรรดิเทียนชิงและพื้นที่ใกล้เคียง
ตำนานกล่าวขาน ว่านางคือบุคคลแรกในลำดับมือสังหารที่ปลิดชีวิตไปนับไม่ถ้วน หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นราชันสังหาร
ทว่านางยังมีอีกตัวตนหนึ่ง!
นั่นก็คือราชวงศ์สัตว์อสูรแห่งเทือกเขาจิ่วเหยา!
สัตว์อสูรส่วนใหญ่ที่เพิ่งฝึกฝน พวกมันจะเริ่มโดยการฝึกฝนแก่นภายใน
สำหรับมนุษย์แล้ว แก่นภายในดังกล่าวของสัตว์อสูรสามารถนำมาใช้ได้หลากหลาย
พลังวิญญาณอันรุนแรงที่อัดแน่นของแก่นภายในไม่ใช่อะไรที่มนุษย์สามารถขัดเกลาขึ้นมาได้ ไม่เช่นนั้นหนทางเดียวที่รอคอยคือร่างระเบิดและตกตาย
ดังนั้นมนุษย์จึงหาทางได้รับซึ่งแก่นภายในของสัตว์และอสูรทั้งหลาย พวกมันเหล่านั้นจะถูกนำไปบำรุงเลี้ยงร่างกาย หรือไม่ก็นำไปสร้างเป็นอาวุธวิญญาณ
สัตว์อสูรระดับสูงเพียงใด แก่นภายในร่างของมันก็ยิ่งทรงอำนาจมากเท่านั้น
เหยาซือหยานกัดริมฝีปากแดง ใบหน้าของนางเผยซึ่งความเย็นเยียบ
ในภารกิจลอบสังหารเมื่อหลายเดือนก่อน นางถูกเปิดโปงตัวตนว่าเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์สัตว์อสูร
สัตว์อสูรขอบเขตทดสอบเต๋าสามารถแปรเปลี่ยนร่าง และแก่นภายในถือเป็นสมบัติอันยิ่งใหญ่ที่แทบไม่อาจหาพบได้โดยง่าย!
หลายวันก่อน เหยาซือหยานในที่สุดก็ข้ามผ่านขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุด ข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้าและก้าวขึ้นสู่ขอบเขตราชัน!
ผู้ใดทราบกัน ว่าสัตว์อสูรจะสามารถข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้าที่แสนอันตรายต่อชีวิตได้!
ทว่าขณะที่เหยาซือหยานเพิ่งข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้า นั่นคือช่วงเวลาที่อ่อนแอ ยอดฝีมือผู้อื่นขอบเขตทดสอบเต๋าได้จัดตั้งหน่วยออกล่านางที่บาดเจ็บหนัก!
เรื่องการข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้าที่รุนแรง เหยาซือหยานไม่เคยบอกกล่าวต่อเหล่ามนุษย์
หรือก็คือ ในเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรมีผู้ทรยศ!
เพราะเรื่องนี้ จึงเป็นผลให้ดวงตาของนางวาวโรจน์ด้วยโทสะ!
ครืน!
ทันใดนี้แสงส่องสว่างสีทองจึงวาบผ่าน
เหยาซือหยานไม่หลบเลี่ยง ทว่ารับการโจมตีโดยตรง
ร่างนั้นถูกปะทะอย่างรุนแรง ริมฝีปากต้องกระอักออกซึ่งโลหิตสีม่วงฟุ้งกระจาย
แสงสีทองวกกลับ หากพิจารณาให้ดี เช่นนั้นจะทราบว่าภายในคือถ้วยสีทอง!
“อมิตาพุทธ”
นักบวชรูปหนึ่งซึ่งมีรูปลักษณ์แปลกประหลาดได้เคลื่อนผ่านอากาศพร้อมรับถ้วยทองคำในอ้อมแขน ชุดสีแดงเข้มนั้นพลิ้วไหสกับสายลมราวกับเลือดที่แห้งกรัง!
“ไม่นึกเลยว่าอสูรนักบวชอู๋เซี่ยงที่โด่งดังจะลงมือ”
เหยาซือหยานปาดเช็ดคราบเลือดจากมุมปาก รอยยิ้มเย้ยหยันเผยชัดผ่านใบหน้าที่งดงามนั้น
“แก่นอสูรขอบเขตราชันถือว่าเป็นสิ่งหาได้ยากมากล้ำ”
รอยยิ้มโฉดชั่วปรากฏที่ใบหน้าอู๋เซี่ยง ริมฝีปากนั้นแลบลิ้นเลียออก
อสูรนักบวชผู้นี้มีชื่อเสียงโด่งดังในทวีปเทียนหลัน กำลังนั้นคือขอบเขตราชันระดับที่สอง!
เผชิญหน้ากับตัวตนขอบเขตราชัน บุคคลทั้งห้าที่ขอบเขตทดสอบเต๋าจึงชะงัก เหยาซือหยานค่อยสูดลมหายใจเข้าลึกได้ แววตาของนางเผยการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยว
“ไม่ดีแล้ว! รีบถอย!”
รับรู้ถึงพลังงานผันแปรคิดหลบหนีจากเหยาซือหยาน อู๋เซี่ยงจึงเผยสีหน้าแปรเปลี่ยน!
มีแต่ผู้อยู่ขอบเขตราชันเช่นเขาจึงทราบว่าชีวิตของสัตว์อสูรราชวงศ์นั้นทำอะไรได้ นั่นก็คือหากเทียบเปรียบด้านกำลัง ราชวงศ์นั้นสามารถโจมตีได้เหนือกว่าระดับปัจจุบันของตนเอง!
แก่นอสูรที่คล้ายหยกสีม่วงปรากฏจากปากของเหยาซือหยาน มันเบ่งบานออกซึ่งคลื่นพลังทำลายล้างเจิดจ้า
ตู้ม!
ห้วงมิติถูกฉีกกระชาก ความว่างเปล่าอันแปรผันได้บังเกิด
ในพริบตานี้ ผู้ไล่ล่าทั้งห้าที่ขอบเขตทดสอบเต๋าไม่ตกตายก็เลือนหาย ร่างเหล่านั้นปะทุออกซึ่งพลังวิญญาณอันรุนแรงชวนสะพรึง!
ชุดนักบวชถูกฉีกกระชาก ถ้วยสีทองเร่งรีบนำหลบซ่อน ร่างนั้นถูกความว่างเปล่าที่ผันแปรดึงดูดเข้าไป!
ขณะนี้เองที่แก่นอสูรจึงหม่นแสงลง
เมื่อเหยาซือหยานถูกกลืนกินหายตามเข้าไป ใบหน้างดงามของนางกลายเป็นซีดขาว ออร่าที่ร่างนั้นเริ่มแหดแห้ง เป็นนางร่วงหล่นลงไปอย่างไม่อาจต่อต้าน
เส้นผมยาวของเหยาซือหยานพลิ้วไหวกลางอากาศ ภายในใจของนางมีแต่ความโศกเศร้า ที่ทุกสิ่งคล้ายต้องจบสิ้นที่นี่และวันนี้...
ตอนที่ 30 : แขกไม่ได้รับเชิญจากฟากฟ้า
ลั่วฉวนยังคงนอนเอกเขนกที่ทางเข้าร้านรับชมมวลเมฆสีดำบนฟากฟ้าด้วยสายตาสงสัยต่อสภาพอากาศ
ก่อนหน้านี้เขาได้เห็นแสงสว่างสีม่วงวาบผ่านหมู่เมฆสีดำ กล่าวได้ว่าเป็นภาพอันงดงาม
เป็นลั่วฉวนไม่ทราบ ว่าก่อนหน้าที่ฟากฟ้าเบื้องบนเกิดเรื่องใดขึ้น
เพราะระยะความแข็งแกร่งของเขาจำกัดไว้ที่สิบกิโลเมตรจากร้าน
“หือ? นั่นอะไร?”
ลั่วฉวนอุทานคำเบา
เพราะเขาได้เห็นจุดสีดำขนาดเล็กร่วงหล่นจากฟากฟ้าอย่างรวดเร็ว
และจุดที่น่าจะเคลื่อนคล้อยลงมา ก็น่าจะเป็นตรงที่เขาอยู่นี้
จุดสีดำเข้ามาใกล้ ลั่วฉวนจึงตื่นตระหนก
เพราะนั่นคล้ายว่าจะเป็นสตรีผู้หนึ่ง...
สตรีผู้นั้นสวมใส่ชุดสีดำ ดวงตาหลับ ทั้งร่างมีแต่บาดแผลปกคลุม
แน่นอนว่าที่ชวนต้องตาที่สุดคือเส้นผมยาวสีม่วงของนาง
ทว่าเหนือสิ่งอื่นใด ไฉนจึงมีสตรีร่วงหล่นจากฟากฟ้า?
หรือแสงสว่างสีม่วงที่เกิดขึ้นในมวลเมฆสีดำนั้นข้องเกี่ยวกับนาง?
แม้เกิดคำถามมากมายภายในใจ กระนั้นลั่วฉวนก็ไม่คิดให้อีกฝ่ายตกตาย
ลั่วฉวนก้าวเดินออกก่อนร่างจะเลือนหายจากหน้าร้านในพริบตา
ก่อนที่จะปรากฏอีกครั้งก็กลางอากาศแล้ว
สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาต่อเนื่อง ทว่าลั่วฉวนกลับไม่เปียกเพราะหยดน้ำฝนแม้เพียงเม็ด!
ขณะเดียวกันนี้ ร่างของสตรีที่ร่วงหล่นจึงมาถึงตรงหน้าลั่วฉวน
เขาจึงยืดมือออกเข้าไปคว้ารับนางเอาไว้
อย่างกะทันหัน สีหน้าลั่วฉวนพลันต้องแปรเปลี่ยน
ที่มือของเขา มันเผยเสียง ‘แกร๊ก’ ดังออกมา
แม้ไม่บาดเจ็บ กระนั้นก็อดไม่ได้ที่จะชะงัก
แน่นอนว่าแม้มีบัพไร้เทียมทานจากระบบ มันก็ยังไม่ใช่ไร้เทียมทานโดยตลอดเวลา
ก่อนหน้านี้เขายื่นมือออกไปอย่างไม่คาดคิด นั่นคือการใช้กำลังของขอบเขตจิตวิญญาณ
อย่างไรแล้วร่างที่เคลื่อนคล้อยก็ต้องมาพร้อมแรงเฉื่อยที่รุนแรง กล่าวว่าร่างมนุษย์เพิ่งร่วงหล่นสู่อ้อมแขนของเขาก็ว่าได้
ลมหายใจของสตรีตรงหน้าติดขัด ใบหน้านั้นซีดเผือด ลั่วฉวนจึงพานางเข้าไปในร้านโดยไม่คิดใดให้มากความ
จากนั้นจึงค่อยวางร่างของนางลงบนเตียงอย่างเบามือ จากนั้นจึงเริ่มพิจารณาสภาพร่างกายของนาง
ด้วยเพราะอะไรไม่ทราบ เพียงมองครั้งแรกก็ทำเขาตื่นตะลึงได้
อาการบาดเจ็บภายในของสตรีตรงหน้า มันเกินกว่าที่ลั่วฉวนคาดคิดเอาไว้มาก
อวัยวะภายในทั้งห้าเคลื่อนอยู่ผิดตำแหน่ง และยังมีอาการบาดเจ็บรุนแรงที่ภายในอย่างสาหัส
เส้นโคจรพลังถูกขัดขวาง พลังวิญญาณอุดตันและคลุ้มคลั่ง
นางเสียเลือดมากเกินไป กระดูกยังแตกหักหลายสิบท่อน
แม้เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตทดสอบเต๋าบาดเจ็บเพียงนี้ อย่างน้อยก็ต้องมีไข้ขึ้นสูง
แต่แล้วพลังงานสีม่วงแปลกประหลาดได้ปรากฏจากร่างของนาง มันกำลังเข้าซ่อมแซมและสะกดอาการบาดเจ็บเอาไว้
แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บเหล่านี้ไม่มีทางรักษาหายได้ทันเวลา
ลั่วฉวนประหลาดใจที่ได้ทราบ ว่าที่สตรีนางนี้ไม่ได้สติก็เพราะร่างกายขาดซึ่งเรี่ยวแรงและกำลัง!
สตรีนางนี้เพียงสวมใส่ชุดสีดำเรียบง่าย ผิวสีขาวที่เผยออกของนางก็เพราะเสื้อผ้าฉีกขาดเป็นบางส่วน
ร่างนั้นเพรียวบางและงดงาม
ด้วยสภาพนอนบนเตียงเช่นนี้ยิ่งน่าเวทนา
แม้เป็นดาวเคราะสีครามของชีวิตก่อนหน้า ต่อให้ศัลยกรรมมากมายเพียงใด หรือแตกแต่งด้วยเครื่องสำอางเพียงใด มันก็ยังยากหาผู้งดงามเทียบเท่านางได้!
ไม่มีทาง! สตรีงดงามเช่นนี้ไม่เคยพบเจอมาก่อนที่ดวงเคราะสีครามใบนั้น
นางราวกับเซียนร่วงหล่นจากฟากฟ้าสู่แดนดิน
“คล้ายนางจะเยาว์วัยกว่าเราเสียอีก!” ลั่วฉวนมองพิจารณา “ทั้งยังดูดี รู้สึกผิดนัก... น่าเสียดาย...”
และคำกล่าวอันไร้สาระจึงพล่ามต่อไป
ขณะนี้เองที่ลั่วฉวนได้ตระหนักว่ามีสิ่งผิดปกติ
เขานึกย้อนถึงเรื่องราวที่มวลเมฆสีดำด้านบน จากนั้นจึงเป็นสตรีผู้นี้ร่วงหล่นจากฟ้า
หรือจะเป็นนางที่ลงมือด้านบนแห่งนั้น?
ลั่วฉวนจึงเริ่มจินตนาการอยู่ภายใน
เป็นไปได้ว่าโฉมงามที่ดูอ่อนแอนางนี้ แท้จริงแล้วคือยอดฝีมือที่ซ่อนเร้น
ลั่วฉวนคิดว่ามันมีความเป็นไปได้สูงพอควร
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ลั่วฉวนจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับตนเอง
ต่อให้นางแข็งแกร่งล้นฟ้า เช่นนั้นมีหรือจะสูงส่งกว่าได้เมื่ออยู่ในร้านแห่งนี้แล้ว?
......
ไม่พลาดการอัพเดตตอนใหม่ ติดตามได้ที่ : https://bit.ly/32ciG6V