ตอนที่แล้วตอนที่ 113 อุปสรรคตั้งแต่เริ่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 115 ยอมโดนประณาม

ตอนที่ 114 พ่อมดมืด Dark Magic


ตอนที่ 114 พ่อมดมืด Dark Magic

ภายในป้อมปราการ Mirage Tower เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครมที่มาจากเหล่ามอนสเตอร์อสูรกายจำนวนนับร้อยนับพันตัวที่อาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ พวกมันทั้งหมดต่างร้องโหยหวนสอดประสานขานรับกับบทสวดประหลาดที่ฟังไม่ได้ศัพท์ที่ดังมาจากด้านบน

‘โฮกกกกก’ ‘ว้ากกกก’

ทันทีที่บทสวดจบลงสัตว์อสูรน้อยใหญ่ที่อยู่ในป้อมปราการก็ล้วนแต่แตกตื่นคลุ้มคลั่ง แววตาของพวกมันล้วนจับจ้องมายังประตูเลื่อนบานหนึ่งที่ซ่อนอยู่ตรงด้านหลังรูปปั้น ที่กำลังค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ

“พื้นที่มีค่อนข้างจำกัด พวกนายต้องสอดประสานกันให้ดีและก็อย่าประมาท” เจสเปอร์และสมาชิกคนอื่นในกิลด์ Rising Sun ทั้งหมด ยกเว้นไอรีนที่ติดธุระไม่ได้ออนไลน์ ก็โผล่พ้นมาจากประตูบานเลื่อน ก่อนที่แต่ละคนจะงัดเอาสกิลน้อยใหญ่ที่พวกเขามีตีฝ่า ฝูงมอนสเตอร์ที่ถาโถมกระหน่ำเข้ามาอย่างสุดกำลัง

‘พลั่ก!!’

โดยริคเตอร์ผู้เล่นคลาสผู้พิทักษ์ที่มีค่าความป้องกันสูงกว่าคนอื่น เป็นคนแรกที่โผล่พ้นประตูออกมา ก่อนที่จะยกโล่ของเขาให้ตั้งตรงพลางวิ่งสวนออกไปเพื่อเคลียร์เส้นทาง มอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้กับปากประตูล้วนถูกโล่ของริคเตอร์ที่แข็งแกร่งผลักกระเด็นจนถอยร่นออกไป

‘ฉึก!!’ ‘ฉึก!!’ เมื่อหน้าที่ของผู้พิทักษ์สำเร็จลุล่วง ลูกธนูจำนวนหนึ่งก็ได้ลอยออกมา จากทางด้านหลังของริคเตอร์เพื่อเก็บงานในส่วนที่เด็กหนุ่มทำตกหล่น

“เปิดทางได้ดีริคเตอร์ ได้เวลาที่พวกเรามากอบโกยค่าประสบการณ์กันแล้ว ฟังฉันให้ดีสามคนแรกที่ทำความเสียหายได้มากที่สุดในหมู่พวกเรา สิ้นเดือนนี้ฉันเพิ่มเงินโบนัสให้!!”

‘โบนัส!!’

“เฮ้เจส!!...ทำแบบนี้ไม่ถูกนะ ฉันเป็นนักกวีจะไปทำดาเมจเหมือนคนอื่นได้ยังไง เห็นใจคนเล่นสายสนับสนุนบางสิ” โบม่อนที่มักวางตัวเป็นพี่ใหญ่อยู่เสมอ ได้พูดขัดเจสเปอร์ที่จะแจกโบนัสอย่างไม่เต็มใจเพราะการแจกโบนัสโดยวัดจากค่าความเสียหายเป็นเกณฑ์ ผู้เล่นสายสนับสนุนอย่างเขาก็ถือว่าต้องอดร่วมสนุกไปโดยปริยาย

“โทษทีโบม่อนฉันลืมไป...งั้นเอาใหม่ผู้ที่ทำดาเมจสูงสุดต้องแบ่งเงินให้ นักกวีจอมงก คนนี้คนละ 20 เปอร์เซ็นต์ด้วยตกลงไหม”

เจสเปอร์กล่าวออกมาแบบติดตลก โดยเขาตั้งใจที่จะจิกกัดโบม่อนคืนบางก็เท่านั้นเอง

“หยุดเลยเจ้ซันนี่...วางขวดน้ำยา Fire & Acid Bottle ที่อยู่ในมือนั่นลงเลย ลืมไปแล้วหรือไง ขวดหนึ่งมีมูลค่าตั้ง 10 เหรียญทอง แถมการสร้างพวกมันก็ค่อนยุ่งยากมากพอสมควร เจ้จะให้ผมหักจากเงินเดือนไหม”

เจสเปอร์ยกมือร้องห้ามเจ้ซันนี่โดยทันที เมื่อเห็นขวดน้ำยาที่อยู่ในมือของเธอกำลังจะถูกขว้างปาออกไป

“พอเลย!!เจ้ห้ามร่วมกิจกรรมนี้คิดจะโกงคนอื่นไม่ไหวเลยเลขาคนนี้...แล้วอย่าให้เห็นน่ะว่าไปแอบปา ผมหักเงินเดือนจริงๆแน่”

‘ห้ามเข้าร่วม?’ ‘โกง?’

“ร้านค้าและร้านอาหารทำกำไรได้ตั้งเท่าไร ฉันใช้แค่ 10 เหรียญทอง ร้องซะเสียงดัง??!! รวยแต่งกเหมือนเดิม” เจ้ซันนี่เบ้ปากมองบนอย่างหงุดหงิดกับการกระทำของเจ้านายหนุ่มที่มีเงินมากมายแต่กับงกกับน้ำยา [Fire & Acid Bottle] เพียงแค่ขวดเดียว

เจสเปอร์รู้ดีว่าอนุภาพของน้ำยา Fire & Acid Bottle ของเจ้ซันนี่ ถ้าถูกขว้างปาออกไปจะสามารถทำให้พวกเขาประหยัดเวลาในการกำจัดมอนสเตอร์ไปได้มากพอสมควร แต่นั่นก็ไม่ได้ความว่าตัวเขาอยากที่จะให้มันเป็นแบบนั่น เจสเปอร์อยากทำให้กิลด์ Rising Sun แข็งแกร่งในทุกๆด้านทั้งขีดความสามารถ ไวพริบในการต่อสู้ ไม่ใช่หวังพึ่งแต่พลังของอุปกรณ์เพียงอย่างเดียว การที่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น มีแต่ต้องสู้จริงเท่านั้นรวมถึงตัวเขาด้วยเช่นกัน

กิลด์ Rising Sun ต่างรับมือกับเหล่าฝูงมอนสเตอร์ที่ถาโถมเข้ามาปะทะซึ่งประกอบไปด้วยก็อบลิน หมาป่าตาเดียวและกูลซอมบี้(Ghoul) ได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้มอนสเตอร์พวกนี้จะมีจำนวนที่มากกว่าพวกเขาหลายเท่าก็ตาม

หลังจากสิ้นสุดการปะทะในรอบแรก สิ่งที่พวกเขาต่างทำกันเป็นอย่างแรกคือการตรวจเช็คลำดับความเสียหายที่ทำได้ของตัวเองกันอย่างคึกคัก ผิดกับเจสเปอร์ที่หาได้สนใจตารางอันดับพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย...??!!

โดยสมาชิก 3 อันดับแรกที่ทำความเสียหายได้มากที่สุดจากการปะทะมอนสเตอร์ที่อยู่ในบริเวณห้องโถงชั้น 1 ก็คือ เจสเปอร์ ทวิสเต็ดและหิมะน้อย สำหรับเจสเปอร์และทวิสเต็ดพวกสมาชิกคนอื่นดูจะไม่ค่อยแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ชายทั้งสองทำได้มากนักเพราะพวกเขารู้ดีว่าฝีมือและการควบคุมของเจสเปอร์และทวิสเต็ดนั้นจัดว่าอยู่ในระดับสูงกว่าพวกเขา แต่สำหรับหิมะน้อย จอมเวทย์สาว ที่มักจะไม่ค่อยได้เห็นเธอออกมาโชว์ฝีมือมากเท่าใดนักกับติดอยู่ในกลุ่ม 3 อันดับแรก.สร้างความอับอายให้กับเหล่าชายฉกรรจ์ที่เหลือไม่มากก็น้อยโดยเฉพาะ สลิป คลาสลับผู้เบิกทางที่ทำความเสียหายเป็นอันดับน้อยที่สุดถ้าไม่นับรวมโบม่อนนักกวีที่ครอบครองตำแหน่งอันดับโหล่เอาไว้อย่างมั่นคง

“เจ้ซันนี่ไหนๆพี่ก็ไม่มีสิทธิเข้าร่วมอยู่แล้ว มาช่วยน้องชายคนนี้เก็บไอเทมที่ดรอปจากมอนสเตอร์เถอะ...เจ้าพวกนั้นนี้มันคิดว่าตัวเองรวยกันมากแล้วหรือไงถึงตีมอนสเตอร์แล้วไม่เก็บของ??”

แม้ในตอนนี้ตัวเขาถือว่าเป็นคนร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรกรีนเวต้าไปแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยหลงลืมรสชาติของการเป็นคนล้มละลายที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเขาเลยแม้เสี้ยววินาทีเดียว และยิ่งประกอบกับการที่เขาล่วงรู้ข้อมูลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยเงินและจำนวนเหรียญทองที่มีอยู่ในตอนนี้คงยังไม่พอที่จะทำให้แผนการเหล่านั้นประสบความสำเร็จไปได้

“เอาล่ะๆ...ดูตารางกันจนพอใจแล้วใช่ไหมนี้มันพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น คึกคักกันหน่อย คนที่รู้ตัวว่าทำได้ไม่ดีก็ต้องขยันให้มากขึ้น ฝึกให้มากกว่าเดิมและอย่าไปคิดว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงทีมเด็ดขาด ส่วนคนที่ทำอันดับได้ดีอยู่แล้วก็อย่าได้ชะลาใจไป มั่นคงและรักษาระดับของตัวเองเอาไว้ให้ดีเพราะตำแหน่งของพวกนาย มีคนรอพร้อมเสียบอยู่ตลอดเวลา”

คำพูดของเจสเปอร์เป็นได้ทั้งน้ำอุ่นๆที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจให้ผ่อนคลาย แต่ก็เปรียบดั่งน้ำเย็นที่ราดใส่ตัวให้หนาวเหน็บได้ในเวลาเดียวกัน

หลังจากที่คณะเดินทางได้ยึดห้องโถงทางเดินชั้น 1 ได้เป็นที่เรียบร้อย เจสเปอร์ก็เดินหน้ากวาดล้างเคลียร์มอนสเตอร์ที่หลงเหลืออยู่ภายในชั้น 1 จนหมดสิ้น แต่ในระหว่างที่เขากำลังจะเตรียมตัวไปยังชั้นถัดไป ทางด้านทางขึ้นของบันไดที่ทอดยาวไปยังชั้น 2 ก็ได้มีศัตรูจำนวนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาจากความมืด เข้ามาขวางทางพวกเขาเอาไว้

‘แกว๊ก’

[การ์กอยล์ : LV 30]

[พลังชีวิต : 18,000]

[พลังโจมตี : 195-232]

[ลักษณะ : มอนสเตอร์ประเภทบินได้ ไม่มีการระบุธาตุจำเพาะได้ บางตำนานกล่าวว่าต้นกำเนิดของการ์กอยล์แท้ที่จริงแล้วคือมังกรสายพันธุ์หนึ่งที่ขายวิญญาณให้กับราชาปีศาจ Diablo เพื่อแลกกับการมีชีวิตที่เป็นอมตะ]

ฝูงการ์กอยล์จำนวนหนึ่งได้บินออมาจากประตูแห่งความมืด ตามการอัญเชิญของพ่อมดมืดคนหนึ่งที่โผล่ขึ้นมาเป็นยามพิทักษ์ชั้นหนึ่ง ซึ่งเมื่อมองจากค่าสถานะและหลอดพลังชีวิตที่อยู่เหนือหัวของมัน เจสเปอร์ก็พอจะรู้ว่ามันคือ มินิบอสประจำ ชั้น 1

‘มินิบอส’

[พ่อมดมืด Dark Magic: LV 35 (มินิบอส)]

[พลังชีวิต : 69,518]

[พลังโจมตี : ไม่ระบุ]

[รายละเอียด : พ่อมดมืด Dark Magic ข้ารับใช้ของมังกรปีศาจ Xanidarth ไม่สามารถระบุความเป็นมาและความสามารถของมันได้]

‘Dark Magic!! เหตุใดถึงมาโผล่ในสถานที่แห่งนี้ได้ ??!!’

เจสเปอร์ถึงกับอุทานออกมาเมื่อได้เห็นร่างของ Dark Magic มินิบอสที่เป็นผู้พิทักษ์ประจำชั้นที่ 1 ของป้อมปราการ Mirage Tower ส่วนสาเหตุที่ทำให้เจสเปอร์ต้องอุทานออกมาด้วยความตกใจก็เป็นเพราะว่า ในอดีตของเขาพ่อมดมืด Dark Magic กลุ่มนี้ถือเป็นหนึ่งใน NPC ที่มอบคลาสอาชีพลับ ที่มีชื่อว่า ‘เนโครเมนเซอร์(Necromancer)’ให้กับผู้เล่นนั่นเอง

คลาสลับอาชีพเนโครเมนเซอร์นั้นเป็นคลาสอาชีพที่พัฒนาต่อมาจาก อาชีพจอมเวทย์ อีกขั้นหนึ่ง โดยผู้เล่นที่เลือกเล่นอาชีพจอมเวทย์ เมื่อเลเวลและค่าประสบการณ์ครบตามกำหนด สามารถเลือกที่จะพัฒนาอาชีพไปเป็นขั้นต่อไปได้อย่าง พ่อมด/แม่มด หรือจะพัฒนาไปเป็นเนโครเมนเซอร์ คลาสอาชีพลับที่ถูกค้นพบโดยผู้เล่นคนหนึ่งในอดีตของเจสเปอร์ก็ได้

กลับกันตรงที่ว่าเหตุใด พ่อมดมือ Dark Magic ผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพ่อมดที่แจกคลาสอาชีพลับ เนโครเมนเซอร์ ถึงมารับใช้มังกรปีศาจ Xanidarth ไปได้

ยิ่งคิดเจสเปอร์ก็ยิ่งสับสน แต่จากการสันนิฐานของเขาที่ดูจะเป็นสิ่งอ้างอิงผลลัพธ์ได้ดีที่สุดแล้ว คงหนีไม่พ้นการย้อนเวลาของเขา ที่อาจไปกระทบกับเส้นเรื่องบางอย่างจนทำให้รูปแบบของโลก The Era Online เปลี่ยนไปจากเดิมและเป็นไปได้อีกว่า การที่องค์หญิงซีซีเรียเป็นตัวละครหลักในดำเนินเรื่องราวคือสาเหตุที่ทำให้ พ่อมดมืด Dark Magic ถึงได้มาโผล่มา ณ ที่แห่งนี้

เมื่อพ่อมดมืด Dark Magic รับใช้มังกรปีศาจ Xanidarth เช่นนี้แล้วอาชีพ เนโครเมนเซอร์ ยังจะมีอยู่อีกหรือไม่? หรือว่าในโลกของ The Era Online จะมีอาชีพลับอื่นเข้ามาแทนที่อีก ดูจะเป็นคำถามที่เจสเปอร์ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว

‘เรื่องของเนโครเมนเซอร์เอาไว้จบแล้วค่อยคิดแก้ปัญหาก็ยังไม่สาย เวลานี้เขาควรต้องโฟกัสกับการต่อสู้ก่อน’

“ฝากพวกนายจัดการการ์กอยล์ที่บินวนไปมาด้วย ส่วนฉันจะรับมือกับมินิบอสเอง...สลิป มอนสเตอร์การ์กอยล์พวกนี้เหมาะกับทักษะของนายมากที่สุดถึงเวลาที่นายจะได้ออกโรงโชว์ฝีมือที่มีแล้วเพราะงั้นอย่าทำให้ฉันผิดหวัง!!” เจสเปอร์ชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้วก่อนที่จะชี้ไปที่ดวงตาทั้งสองข้างของเขา ก่อนที่จะหันปลายนิ้วทั้งสองด้านไปยังดวงตาของ สลิป เสมือนว่า เขาจะจับตามองดูผู้เบิกทางคนนี้เอาไว้ตลอด

“ได้เลยลูกพี่!!”

‘It’s showtime!!’

เมื่อได้รับกำลังใจจากเจสเปอร์ สลิปที่ดูหม่นหมองจากการที่ค่าความเสียหายที่ตัวเองทำได้อยู่ในอันดับต่ำที่สุด ก็ได้ฮึดขึ้นสู้อีกครั้ง ก่อนที่จะเหวี่ยงแส้ในมือเกี่ยวรัดเข้ากับการ์กอยล์ตัวหนึ่งที่บินอยู่ทางด้านบนอย่างแม่นยำ

‘แกว๊ก!’

การ์กอยล์ที่รู้ตัวว่ามันถูกจับพันธนาการด้วยแส้ที่ลอยมา มันก็พยายามสาดลำแสงสีแดงจากดวงตาของมันไปทั่ว ลำแสงสีแดงจากดวงตาของการ์กอยล์ที่ถูกยิงออกมา เมื่ออาบลงกับรากไม้ที่ขึ้นเกาะกุมป้อมปราการ รากไม้แห้งๆเหล่านั้นก็ได้กลายเป็นหินในทันที ซึ่งลำแสงสีแดงที่ว่านั้นก็คือพลังที่คล้ายกับดวงของราชินีเมดูซ่า

ทว่าเมื่อลำแสงเหล่านั้นได้พลาดเป้า...สลิปที่ปักหลักอยู่ทางด้านล่างด้วยสองเท้าที่มั่นคง ได้ทำการแระตุกแส้ในมือกระชากร่างของการ์กอลย์ที่ถูกแส้ของเขาพันธนาการร่างเอาไว้จากบนอากาศให้ร่วงลม ก่อนที่จะใช้อาวุธอีกข้างที่ถืออยู่ในมือกระหน่ำฉีกร่างของการ์กอยล์มังกรปีศาจตัวน้อยนี้อย่างน่าสงสาร

“ฮะฮ่า! ลูกพี่เห็นไหมผมทำได้” สลิปหัวเราะอย่างสะใจ...การได้ฆ่าการ์กอยล์ตัวนั่นไปอย่างรวดเร็วเป็นการปลดล็อคความกดดันที่มีอยู่ในตัวของ สลิป ให้หมดไปอย่างแท้จริง

เรื่องบางเรื่องผู้นำทุกคนไม่จำเป็นที่จะต้องลงไปจัดการปัญหาของสมาชิกไปเสียทั้งหมด บางครั้งก็ควรที่จะต้องปล่อยให้บุคคลนั่นได้แก้ปัญหาที่มีอยู่ในใจด้วยตัวของเขาเองบาง ดั่งเช่นที่เขาพูดกระตุ้นก่อนหน้าที่ พร้อมกับปล่อยให้สลิปลงมือจัดการปัญหานั่นด้วยตัวเอง...

‘บรึ้ม!!’

“เออ...เห็นแล้วเก่งมาก!!” เจสเปอร์ม้วนตัวหลบเวทย์มนต์ของพ่อมดมืด Dark Magic ที่พุ่งตรงเข้ามาอย่างกระชันชิด ก่อนที่พื้นที่ตรงจุดนั้นจะระเบิดออกเป็นหลุมสีดำขนาดย่อมๆ

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ

www.facebook.com/writelazy

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด