เรื่องสยองที่ 9 : แฟนเก่า
“พวกมึงจะยืนอึ้งกันอีกนานไหม รีบเข้าไปแยกเร็ว !”
ผมร้องตะโกนบอกไอ้คีย์และไอ้ชาที่ยืนอึ้งมองตาค้างอยู่แบบนั้น พี่น้ำไม่จบแค่ตบหน้า ตอนนี้เข้าไปทั้งทุบตี ผลักพี่เอกล้มลงไปกองกับพื้น แถมขึ้นไปนั่งคร่อมตัวแล้วตบไปอีกหลายฉาด ภาพนางร้ายในละครกำลังเข้าไปตบนางเอกจึงปรากฏแก่สายตาคนมองทั่วทั้งห้องสโลปเพียงแต่ต่างกันตรงที่ว่า ...
ตรงนั้นมันคือผู้ชาย และเป็นตัวผมโว้ย !
“ไอ้บ้า ! ไอ้เลว ! แกมันเห็นแก่ตัว !”
แน่นอนว่าตอนนี้พี่น้ำที่อยู่ในร่างผม อะไรที่ผู้หญิงคนหนึ่งเคยทำได้มันเลยทำได้มากขึ้นเป็นสองเท่า ไอ้คีย์กับไอ้ชาที่เข้าไปดึงตัวพี่น้ำแทบจะโดนเหวี่ยงออกมาในทันที ไอ้พี่เอกก็เหมือนจะตั้งหลักได้แล้ว เมื่อหายตกใจก็ทำท่าจะเข้าไปตะลุมบอนกับพี่น้ำอีกรอบด้วยความโมโห เพราะอยู่ดี ๆ ก็มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้เดินขึ้นมาตบหน้าเขาเหมือนกับหาเรื่องทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน
“มึงเป็นบ้าอะไรครับเนี่ย !” ไอ้พี่เอกร้องขึ้นมา พร้อมพุ่งตัวจะเข้าไปบวกกับพี่น้ำ
“พี่ ๆ ใจเย็น ๆ นะครับ น้องปีหนึ่งตกใจหมดแล้ว” ไอ้คีย์พูดขึ้นมาพลางเข้าไปดึงตัวพี่เอกมาคุมสถานการณ์เอาไว้ ตอนนี้คนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นมามอง แถมบางคนเดินมามุงดูแล้วด้วย
“ชามึงพาพี่น้ำ เอ้ย น้องอิฐออกไปก่อน” ไอ้คีย์พูดต่อหันไปบอกไอ้ชาที่กำลังพยายามดึงตัวของพี่น้ำออกไปข้างนอกห้อง
เมื่อไอ้คีย์เห็นไอ้ชาดึงตัวของพี่น้ำออกไปด้านนอกห้องสโลปได้แล้วมันก็หยิบไมค์ขึ้นมาพูดอีกครั้ง
“เอ่อ เมื่อกี้เป็นการแสดงนะครับ พวกพี่อยากให้น้องตกใจเล่น ๆ พี่แถมความตกใจให้อีกอย่างเลยละกัน น้องอิฐ ไม่ใช่รุ่นเดียวกับพวกน้องนะครับ แต่เป็นพี่อิฐ พี่ปีสองครับผม”
เสียงฮือฮาดังตามขึ้นมาทันทีที่ไอ้คีย์พูดจบ ช่างเป็นการเฉลยพี่แฝงที่แสนจะเลวร้ายที่สุด ไอ้คีย์พูดอะไรแถต่อไปอีกไม่รู้ ผมเองก็ไม่ได้ฟัง ตอนนี้ก็ได้แต่ลอยตัวออกมาด้านนอกห้องเพื่อไปหาพี่น้ำกับไอ้ชา
“พี่น้ำ รู้ตัวไหมครับเนี่ยว่าทำอะไรลงไป” ผมพูดออกไปทันทีที่ถึงตัวพี่น้ำ จะโกรธก็โกรธไม่ลง เมื่อเห็นหน้าเจ้าตัวเบะปากทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว ทีเมื่อกี้ละเก่งจัง ทีตอนนี้มาอ่อนแอ เฮ้อ ... ผมละไม่เข้าใจผู้หญิงเลย
“หยุดเลย ไม่ต้องร้องเลยครับ ไปคุยกันที่ห้อง”
“ไอ้ชากูวานขับรถพาพี่น้ำไปส่งที่คอนโดหน่อย” ผมหันไปพูดกับไอ้ชา ซึ่งมันก็พยักหน้ารับ พี่น้ำเหมือนจะรู้ตัวว่าทำผิดเลยเดินคอตกนำหน้าไปที่รถก่อน
“ลุคมึงเมื่อกี้ก็แซบอยู่นะไอ้อิฐ กูชอบ” ไอ้ชาหันมาพูดกับผมพร้อมกับยิ้มขำ ขยิบตาที่จะปิดของมันให้หนึ่งที
มันใช่เวลาไหมวะ !
ถ้ากระโดดเตะก้านคอไอ้ชาได้ ผมทำไปแล้ว ...
ไอ้ชาหลังจากขับรถมาส่งพี่น้ำเสร็จ มันก็กลับไปช่วยงานเพื่อนที่คณะต่อ ตอนนี้ทั้งห้องก็เลยเหลือแค่ผมกับพี่น้ำอีกครั้ง เจ้าตัวเดินไปทรุดตัวนั่งลงที่โซฟากลางห้องอย่างหมดแรง สายตาหันมามองผมก่อนก้มหน้าลงไปที่พื้นอย่างคนสำนึกผิด
หึ ... คิดว่าทำแบบนั้นแล้วผมจะใจอ่อนหรือไง
“พี่น้ำ ผมถามจริง ๆ นะ พี่รักเขามากขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมถึงไม่มีสติขนาดนั้นอะ” ผมพูดออกไปดุ ๆ ทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ พร้อมกับก้มหน้าไปมองคนที่หลบตาผมอยู่
“เราคบกันมาตั้งแต่มัธยมอิฐ เรียนมาด้วยกัน ทำงานมาด้วยกัน เกือบ 7 ปี อิฐคิดดู เขาทำกับพี่แบบนี้ได้ไง แล้วพี่เข้าโรงพยาบาล มีสักครั้งไหมที่เขาเข้าไปหา คิดแล้วก็โมโห เสียใจก็เสียใจ น้อยใจก็น้อยใจ” พี่น้ำพูดออกมาเบา ๆ
“พี่เพิ่งจับได้ครั้งแรกหรอว่าเขามีคนอื่น” ผมพูดออกไป
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในที่สุดผมก็ต้องมานั่งจับเข่าคุยเรื่องแฟนพี่น้ำจริง ๆ จัง ๆ หลังจากที่อยู่ ๆ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาแบบที่ไม่ทันคาดคิด ผมเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งนักหรอก แต่พอเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้แล้วก็คิดว่าคงไม่เข้าไปยุ่งไม่ได้ ถ้าพี่น้ำเกิดแผลงฤทธิ์ องค์ลง ผมคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนอีกแล้ว
“ใช่ พี่ไม่เคยคิดเลย เขาดีมากอะอิฐ ดีจนพี่เชื่อใจเขาสนิท และไม่เคยคิดว่าเขาจะทำแบบนั้นกับพี่ วันที่พี่ไปเลี้ยงเรา คลิปที่ถูกส่งมาก็มาจากไลน์ของเขาเอง สงสัยผู้หญิงคนนั้นเป็นคนส่งมาให้พี่นั่นแหละ พูดไปแล้วก็อย่างกับละคร แต่พอมันมาเกิดกับชีวิตพี่ มันโคตรแย่เลยว่ะ พี่รับไม่ได้”
พี่น้ำระบายเรื่องไอ้พี่เอกให้ผมฟังอีกเกือบชั่วโมง บอกว่าดีอย่างนู้น ดีอย่างนี้ แต่สุดท้ายก็เลว ตอนนี้ผมก็ได้แต่นั่งฟังเธอพูดออกมาให้หมด คนที่รัก คนที่เชื่อใจหักหลังเราไปทำอะไรแบบนั้น ยังไงมันก็เจ็บปวด
“ผมถามคำถามสุดท้าย”
“ว่าไง”
“พี่จะอภัยให้เขาไหม”
ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงถามคำถามนั้นออกไป แต่ผมก็ไม่กลัวที่จะได้รับคำตอบที่ผมไม่ได้คาดหวังไว้หรอกนะ เรื่องของผมกับพี่น้ำ ถึงแม้จะรู้สึกดีด้วย แต่มันก็ยังเป็นแค่การเริ่มต้น มันไม่ได้มากมายจนถึงขนาดที่ผมจะเจ็บปวดจนแบบอกหัก พี่น้ำเห็นผมเป็นเพียงเหลนรหัส ผมหยุดตัวเองแค่ตรงนี้ได้ แน่นอนว่าจะให้เขายืมร่างต่อไป ผมสงสารเขาที่โดนรถชนแล้ววิญญาณมาอยู่ในร่างผมแบบนี้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผมจะขอร่างของผมคืนเอง
พี่น้ำนิ่งไปเกือบนาทีกว่าจะอ้าปากพูดอีกครั้ง เจ้าตัวมองหน้าผมอย่างแน่วแน่
“คงไม่อะอิฐ ความเชื่อใจมันก็เหมือนกับแก้ว ถ้ามันล่วงแตกไปแล้ว ต่อให้ประกอบกลับมายังไง เราก็เห็นว่ามันมีรอยร้าวอยู่ดี”
“ผมดีใจนะ ที่พี่คิดได้แบบนั้น” ผมพูด ส่งยิ้มให้กับพี่น้ำ ที่เหลือก็คงต้องไปให้เวลาเยียวยาต่อไป
“ไปเยี่ยมร่างพี่ที่โรงพยาบาลกันไหม พี่คิดถึงคุณพ่อด้วย” พี่น้ำพูดทำท่าจะลุกจากโซฟา แล้วหยิบข้าวของที่จำเป็นเพื่อที่จะออกไปข้างนอก
“ไปซิครับ” ผมตอบพี่น้ำไป
พี่น้ำลงมาด้านล่างของคอนโดก่อนเรียกแท็กซี่ไปยังโรงพยาบาลที่พี่น้ำพักรักษาตัวอยู่ ไม่นานพวกเราก็มาถึงโรงพยาบาล ผมกับพี่น้ำเดินคู่กันไปจนถึงห้องพักผู้ป่วยก่อนจะเปิดประตูเข้าไปด ทันทีที่สายตาผมหันไปเจอร่างที่นั่งอยู่ที่โซฟาผมก็ถึงกับอึ้ง และพี่น้ำก็คงจะไม่ต่างกัน ร่างนั้นไม่ใช่พ่อพี่น้ำเหมือนปกติ แต่เป็นคนที่พี่น้ำเพิ่งจะนั่งระบายทุกข์เรื่องเขาให้ฟังเกือบสองชั่วโมงเต็ม
พี่เอกกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา ...
โธ่เอ้ย ! อะไรกันวะเนี่ย
ร่างของพี่เอกเหมือนจะรู้สึกตัวถึงผู้ที่เข้ามาใหม่ภายในห้อง เจ้าตัวเลยหันหน้ามามองก่อนจะตกใจไม่ต่างกัน เพราะร่างที่เข้ามาหามันคือไอ้บ้าที่อยู่ดี ๆ วิ่งมาตบเขาอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อเช้านี้
“เฮ้ยนาย ! มาได้ไง เรื่องที่นายเข้ามาตบหน้าฉันเมื่อเช้าที่มหาลัยยังไม่เคลียร์เลยนะ” พี่เอกพูด เจ้าตัวลุกขึ้นยืน จ้องมาหาพี่น้ำในร่างของผมตาขวาง
“พี่น้ำ ... ใจเย็น ๆ มีสติ ตอนนี้พี่น้ำคือผมนะ” ผมร้องบอกพี่น้ำ แอบเหลือบมองมือพี่น้ำ ที่ตอนนี้เห็นเจ้าตัวกำหมัดแน่น เมื่อกี้กว่าจะสงบได้ก็ตั้งนาน ไม่รู้อะไรดลใจให้มาเจอกันอีกรอบเนี่ย
“ผมเป็นเหลนรหัสของพี่น้ำ ผมมาเยี่ยม” พี่น้ำพูดออกไป มองหน้าพี่เอกนิ่ง ๆ ดูเจ้าตัวจะคุมตัวเองได้แล้ว
“งั้นหรอ ถ้านายรู้จักกับน้ำ แล้วมาตบหน้าฉันทำไม ไม่รู้หรอว่าพวกเราเป็นแฟนกัน” พี่เอกพูด มองมาที่พี่น้ำอย่างไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ทำลงไปทำเพื่ออะไร
“พี่นอกใจพี่น้ำ ผมขอโทษละกันที่ทำแบบนั้นกับพี่เมื่อเช้า” พี่น้ำที่อยู่ในร่างของผมกัดฟันพูดออกไป
“ฮะ ! พูดอะไรของนาย” พี่เอกร้องออกมาอย่างตกใจ ท่าทางร้อนรนจนใครก็ดูออกว่ามีพิรุธ
“วันที่พี่น้ำถูกรถชน ผมเห็นคลิปพี่กับผู้หญิงคนอื่น พี่ทำให้พี่น้ำเสียใจมากไม่รู้หรอ”
ทันทีที่พี่น้ำพูดจบประโยค พี่เอกก็อึ้งไปเลย เจ้าตัวก้มหน้ามองพื้นพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น
“เรื่องนั้น มัน ...”
เจ้าตัวเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่ก็เงียบไป
“ผมว่าพี่ไม่ควรอยู่ที่นี่นะ” พี่น้ำพูดขึ้นมาเสียงแข็ง ๆ หลังจากต่างคนต่างนิ่งไปเกือบนาที
ประโยคนั้นดูเหมือนจะทำให้พี่เอกเริ่มไม่พอใจกับรุ่นน้องที่มายืนอยู่ในห้อง เขาตวัดหางตามามองก่อนเดินเข้ามาใกล้กับพี่น้ำ
“นายไม่มีสิทธิมาไล่ฉัน น้ำเป็นแฟนฉัน”
“ถ้าผมเป็นพี่น้ำ ผมคงไม่อยากให้พี่อยู่” พี่น้ำพูดต่อ
ผมเริ่มคิดว่าตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยจะดีแล้ว ผมเลยลอยเข้าไปใกล้ตัวพี่น้ำเอามือแตะไหล่เป็นเชิงให้ใจเย็น ๆ
“แต่นายไม่ใช่ไง ! ในฐานะที่ฉันเป็นแฟนน้ำ และพ่อของน้ำอนุญาตให้ฉันมาดูแล นายเป็นแค่เหลนรหัส ออกไปได้แล้ว นายเยี่ยมแค่นี้เถอะ”
คำพูดที่เหมือนจะไล่ไปในตัวทำเอาพี่น้ำกัดริมฝีปากแน่นก่อนพูดออกมา
“ก็ได้ครับ” พี่น้ำพูด จ้องหน้าพี่เอกก่อนค่อย ๆ หมุนตัวกลับเดินออกจากห้อง
ส่วนตัวผมเองก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก นึกว่าพี่น้ำจะแผงฤทธิ์ขึ้นมาอีกแล้ว ผมเองก็รู้สึกเหม็นขี้หน้าไอ้พี่เอกอะไรนั่นไม่น้อยไปกว่าพี่น้ำหรอก ทำเป็นพูดดี ทำผิดแล้วยังจะมาเฉไฉนอกเรื่อง แต่อีกใจผมก็รู้สึกได้ว่าไอ้พี่เอกนั่นมันยังรักยังแคร์พี่น้ำอยู่ เพราะผมเห็นสายตาตอนที่พี่น้ำพูดเรื่องที่เขานอกใจ แววตาเขาดูเศร้าและรู้สึกผิดมาก ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นแค่เรื่องสนุก ๆ ไม่จริงจังของเขาหรือเปล่า แต่สำหรับผม ถ้าเรามีใครสักคนแล้ว เราก็ไม่ควรที่จะทำให้เขาเสียใจ ไม่ควรที่จะไปสนุกทั้ง ๆ ที่ยังมีอีกคนที่อาจจะเสียใจกับเรื่องสนุกที่เราทำลงไปก็ได้
ช่วงเย็นของวันทั้งไอ้คีย์กับไอ้ชากลับมาถึงคอนโดก็แทบจะล้มตัวลงนอนกันกลางห้อง เห็นมันบอกว่าหมดแรงมากกับกิจกรรมวันสุดท้าย กว่าจะเก็บของนู่นนี่นั่นเสร็จโคตรนาน แถมเคลียร์เรื่องของผมกับพวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ เมื่อเช้าด้วย ไอ้คีย์บอกว่ามันเองก็ไม่รู้จะแก้ตัวแทนผมยังไง ก็เลยบอกว่าเป็นแผนให้ตกใจเล่น ๆ ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เขาละกัน เพราะพี่เอกหลังจากโดนพี่น้ำซัดไปหลายฉาดไอ้คีย์บอกว่าเขาก็เดินแยกออกไปเหมือนกันไม่ได้อยู่รอฟังเหตุผลอะไร ตอนนี้ภาพลักษณ์ผมคงพินาศย่อยยับไปเรียบร้อยแล้ว ไปหลอกเด็กว่าเป็นแผนให้ตกใจเล่นใครเขาจะเชื่อ
เฮ้อ ซวยจริง ไอ้อิฐเอ้ย ...
แต่ก็ช่างมันเถอะ ผมเองก็ไม่ได้แคร์สายตาคนอื่นมากอยู่แล้ว อย่างที่พวกมันบอกผมบ่อย ๆ ผมเป็นพวกติสต์แตก โลกส่วนตัวสูง ไม่แคร์สายตาใคร
“ไปร้องเกะกัน”
อยู่ ๆ เสียงชวนก็ดังขึ้นมาจากพี่น้ำ ทำให้ผม ไอ้คีย์ และไอ้ชาที่นั่งคุยเล่นกันอยู่หันไปมอง อารมณ์ไหนของพี่แกอีกเนี่ย ไอ้คีย์กับไอ้ชาหันมามองผมเป็นเชิงว่าเอาไง ผมก็เลยยักไหล่ ก่อนบอกพวกมันไปว่าไปก็ไป ไม่ได้ไปร้องเกะกันนานแล้ว กีตาร์ในห้องก็สายขาดยังไม่ได้ไปซื้อมาเปลี่ยนเลย
สุดท้ายคนสามคนกับวิญญาณหนึ่งดวงก็มาอยู่ที่ร้านคาราโอเกะที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับคอนโด พวกเราสามคนให้พี่น้ำเลือกเพลงพร้อมร้องได้อย่างเต็มที่ พวกเราจะเป็นคนฟังและร้องคลอเอง
ผมว่าการร้องเพลงมันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีนะ สำหรับคนที่อยากจะปลดปล่อยอะไรบางอย่างในชีวิตออกไป เพราะไม่ว่าเพลงมันจะเศร้าหรือจะสนุก สุดท้ายแล้ว
... ยังไงเราก็เป็นคนร้อง
ถ้าฉันไม่เคยเลิกกับเธอ ชีวิตคงไม่ดีอย่างนี้
มันเป็นความโชคดีที่อยู่ในความโชคร้าย
มองกลับไปก็ไม่เคยเสียดาย
ฉันก็คงต้องขอบคุณ ที่ทิ้งกันไปในวันนั้น
บาดแผลที่ฝากเอาไว้ มันทำให้ได้เรียนรู้
Breaking up with you
Made me strong*
MEAN - สตรอง (STRONG)*