ระบบใช้จ่ายตอนที่ 61
ติดตามผลงานของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:แปลNiyay
บทที่ 61: ความรู้สึกของฉันมันเหมือนแตกกระจายไปทั่วพื้น
“ใช่…ถูกต้องค่ะ…” เลขานุการรู้สึกได้เลยว่าเหงื่อที่ไหลตามร่างกายของเธอวันนี้เทียบไม่ได้กับวันอื่นๆ ตัวเธอนั้นจบปริญญาเอกในด้านเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ เธอช่วยหงเหว่ยกูลดภาระของเขาลงได้มาก แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าสมองของเธอไม่สามารถจัดการกับข้อมูลนี้ได้เลย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการหงต้าหลี่ หรือเพียงเพราะโชคของสุนัขของเขากันแน่
หลังจากคิดเป็นเวลาสองชั่วโมง ด้วยระดับ IQ ของเธอ เธอจึงได้ข้อสรุป 144 ข้อ คือ มันยังคงเป็นปริศนาที่แก้ไม่ได้
ส่วนปัญหาในตอนนี้คือ เธอยังคงต้องรายงานอีกสามเรื่อง " คือว่า ... ยังมีอย่างอื่นอีกนะคะ ซีอีโอหง ไม่ใช่แค่นี้ ... "
" มีอย่างอื่นอีกเรอะ! " ลูกตาของหงเหว่ยกูเกือบจะถลนออกมา " แปปนะ ให้ฉันได้จิบน้ำแล้วสูดหายใจลึก ๆ ก่อน โอเค เธอมียาระงับหัวใจไม่ให้เต้นเร็วไหม? เอามาให้ฉันที ไม่งั้นฉันคงจะหายใจไม่ทันแน่ "
" ค่ะ…แต่ซีอีโอหง สภาพร่างกายของท่านแข็งแรงเสมออยู่แล้วนะคะ ดังนั้นตัวดิฉันจึงไม่ได้เตรียมไว้ให้ค่ะ " เลขานุการเช็ดเหงื่อของเธออีกครั้ง ร่างกายของเธอตอนนี้เย็นมาก
" เฮ้อ งั้นก็ลืม ๆ มันไปซะเถอะ " หงเหว่ยกูสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และรู้สึกสงบขึ้น " แล้วเราจะรออะไรอีก? พูดต่อเลยสิ ฉันยังต้องฟังสิ่งที่เธอพูดอยู่นะ! ดูเหมือนว่าแผนการในครั้งนี้ของเจ้าลูกเกเรจะทำให้ฉันประหลาดใจมากพอสมควรเลยแฮะ "
“ค่ะ…คือว่า…” ทันใดนั้นเลขาฯ ก็ดูเหมือนจะทรุดตัวลง " เรื่องนี้ เรื่องนี้เกี่ยวกับ ... ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าสิ่งที่ฉันเรียนมาหลายปีมานี้ มันเหมือนไร้ประโยชน์เลยค่ะ ท่านซีอีโอหง ลองค้นหาคำแสลงในอินเทอร์เน็ตทั่วไปของวันนี้ดูสิค่ะ ท่านจะได้ทราบถึงปัญหาต่าง ๆ ได้หมดและท่านต้องแปลกใจต่อหน้าโชคของท่านนายน้อยต้าหลี่เลยค่ะ "
" บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนี้เลย! " หงเหว่ยกูลูบเคราของเขา " แล้วก็พูดให้ช้า ๆ ด้วยนะ "
" โอเค รับทราบค่ะ " เลขานุการสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า " หลังจากคอนเสิร์ตของนักร้องลี่เนียนเหว่ย ทำให้เธอมีค่าตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและฉับพลัน เพียงไม่กี่วันข้างหน้า ก็ได้มีหลายบริษัทที่ต้องการให้ลี่เนียนเหว่ยรับรองและโฆษณาผลิตภัณฑ์ของพวกเขา บริษัททั้งหมดที่ต้องการลี่เนียนเหว่ยมีถึง 23 แห่ง และพวกเขาเสนอค่าโฆษณา มูลค่าโดยรวม คือ 8 ล้านหยวน แต่บริษัทต่าง ๆ กลับถูกปฏิเสธโดยท่านนายน้อยต้าหลี่ค่ะ "
" โอ้? เจ้าตัวน้อยต้าหลี่มีศิลปินที่มีค่าตัวสูงมากขนาดนี้เลยหรือ แต่เขากลับปฏิเสธข้อเสนอเนี่ยนะ? ทำไมถึงเป็นแบบนั้นเล่า? ” ด้วยสินทรัพย์และสถานะทางการเงินของหงเหว่ยกู แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่ามันน่าเสียดายอยู่นิดหน่อย แต่ตัวเขาก็ไม่ได้กังวลกับการขาดทุนครั้งนี้เลย เขาแค่อยากรู้เกี่ยวกับเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้ลูกของเขาตัดสินแบบนี้มากกว่า
" เหตุผล..เหตุผลก็คือ ... " เลขานุการกลืนน้ำลายเต็มปากแล้วพูดว่า " เหตุผลก็คือท่านนายน้อยต้าหลี่ กล่าวว่า การนอนบนต้นขาของลี่เนียนเหว่ย …ต้นขาของเธอรู้สึกสบายมากและกลัวว่าเธอจะไม่มีเวลาว่างให้กับนายน้อยค่ะ ..."
แค่ก แค่ก แค่ก… หงเหว่ยกูเกือบจะหายใจไม่พร้อมสำลักน้ำลายของเขาเอง หลังจากไออย่างรุนแรงมาพักหนึ่งแล้ว เขาก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า " ไอ้ลูกบ้าคนนี้เนี่ยนะ แม้ว่าจะปฏิเสธบริษัทที่อยากได้ตัวเนียนเหว่ย แต่เขาก็ควรจะคิดถึงเหตุผลที่ดีกว่านี้นะ ยังไงก็เถอะ มันเป็นเหตุผลของเขาแหละนะ แล้วเหตุผลที่ว่าก็คือการนอนบนต้นขาของลี่เนียนเหว่ย สรุปมันนอนหลับสบายจริงๆเหรอ? "
“ใช่…ใช่แล้วค่ะ…” เมื่อพูดถึงประเด็นนี้ ใบหน้าของเลขานุการก็เป็นสีแดงและเธอก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูก “ปัญหา คือเพราะนายน้อยต้าหลี่ปฏิเสธที่จะให้ลี่เนียนเหว่ยไปทำงาน เธอจึงมีค่าตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในไม่กี่วันค่าตัวของเธอก็เพิ่มขึ้นเป็นราคาสูงถึง 800,000 หยวน นั่นหมายความว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของภาษีจะต้องบวกเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และบริษัทที่เสนอค่าตัวเธอตอนนี้ มีมูลค่า ... 18,500,000 หยวน ค่ะ”
หลังจากที่เลขานุการพูดจบ เธอก็อดพูดไม่ได้ว่า " พอดิฉันได้ยินเรื่องนี้ ความรู้สึกของฉันก็เหมือนแตกกระจายไปทั่วพื้น เรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกันคะเนี่ย โอ้มายก๊อด "
" โอเค ฉันเข้าใจแล้ว " หงเหว่ยกูเองก็ทำอะไรไม่ถูก " ไอ้ลูกบ้าคนนี้ทำให้คนรอบข้างยุ่งเหยิงไปหมดเลยนะ " เมื่อพูดอย่างนี้ เขาก็หัวเราะ " ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เขาเป็นลูกชายของฉัน สายตาของเขาช่างแหลมคมเสียจริง ๆ ศิลปินที่กำลังจะถูกทิ้งแต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เธอทำเพียงไม่กี่วันดันทำให้เธอดังเป็นพุ่งแตก และแรงจูงใจแรกที่หงต้าหลี่จะปั้นลี่เนียนเหว่ยก็เพราะเขาต้องการเพียงแค่จะใช้เงินเท่านั้น "
หงเหว่ยกูหัวเราะอย่างขมขื่นและส่ายหัว " นี่คือสิ่งที่เรียกว่า 'ชีวิตจะมีความหมายยามไม่สนใจมัน' สินะ เฮ้อ นี่มันคาดไม่ถึงจริง ๆ ฉันเองก็ได้ตรวจสอบลี่เนียนเหว่ยแล้ว เธอมีความสามารถและมีศักยภาพ และเธอมีทุกสิ่งที่ซุปเปอร์สตาร์ควรมี นอกจากนี้เธอยังไม่ทำตัวหยิ่งเหมือนซุปเปอร์สตาร์คนอื่น ๆ ยังไงก็เถอะ ถ้าฉันเป็นคนวางแผนที่จะสนับสนุนเธอ ฉันก็คงไม่ทำเหมือนต้าหลี่ แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ต้าหลี่ทำจะทำให้เกิดปาฏิหารย์ขึ้น ตัวอย่างก็เช่น: การที่ใช้รถยนต์หรูหรามาเป็นแสงบนเวทีสำหรับคอนเสิร์ต และยังจัดคอนเสิร์ตฟรีอีกด้วย นี่เป็นสิ่งที่คนอื่นจะไม่ทำ ยกเว้นลูกชายที่ใช้เงินไปวัน ๆ ของฉันแน่นอน "
“ใช่แล้ว…ท่านพูดถูกเลยค่ะ…” เมื่อพูดความจริงแบบนั้น เลขานุการที่มีความภาคภูมิใจอยู่เสมอก็ได้แต่ก้มหัวตัวเองลงด้วยความไม่มั่นใจในตัวเองเลย " ฉันคิดว่า ถ้าเทียบกับท่านนายน้อยแล้ว ดิฉันเทียบไม่ติดเลยสักนิดเดียว "
" นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกนะ " หงเหว่ยกูหัวเราะและกล่าวว่า " สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ มันดีอยู่แล้ว เธอนะแค่ขาดเรื่อง ... โชค โชคนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ มันไม่มีใครทำได้หรอก "
เลขานุการก็ได้แต่คิดและพูดก่อนสรุปไปว่า : " ความจริงแล้ว ฉันเองก็คิดว่าโชคเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถเฉพาะตัวนะคะ "
" ฮ่าฮ่าฮ่า ดี ๆ งั้นก็แสดงว่าหงต้าหลี่ลูกของฉันเป็นคนมีความสามารถด้านดวงสินะ " อารมณ์ของหงเหว่ยกูในวันนี้ดีผิดปกติ " โอ้ ว่าแต่เขากำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ? รายงานกิจกรรมีที่เขาทำให้ฉันฟังทีสิ "
" รับทราบค่ะ " แม้แต่คนตาบอดยังบอกได้เลยว่าหงเหว่ยกูรักและกังวลหงต้าหลี่มากแค่ไหน ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยของเขา ซึ่งจริงๆแล้ว เลขานุการมีงานที่ต้องรู้ทันทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัวของหงต้าหลี่ " ท่านนายน้อยได้ซื้อเว็บไซต์ขนาดเล็กก่อนหน้านี้ด้วยค่ะ ชื่อเดิมเรียกว่า หลิงเตียน ท่านนายน้อยได้เปลี่ยนชื่อเป็น จงเตียน แต่... แต่ท่านนายน้อยได้ว่าจ้างพนักงานแค่หนึ่งคนเป็นผู้จัดการฝ่ายบริการธุรกิจที่รู้เพียงวิธีการใช้จ่ายเงิน แล้วทิ้งทุกอย่างให้แก่เขาและท่านนายน้อยก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับมันอีกเลยค่ะ "
" เขาได้ว่าจ้างผู้จัดการฝ่ายบริการธุรกิจที่รู้เพียงวิธีการใช้จ่ายเงิน อย่างนั้นหรือ? " หงเหว่ยกูรู้สึกว่าสมองเขามันจะประมวลผลไม่ทันซะแล้ว " สถานการณ์ในวันนั้นเป็นยังไง? บอกรายละเอียดให้ฉันฟังสิ "
เลขานุการสาวก็กล่าวว่า " ท่านนายน้อยต้าหลี่ได้สัมภาษณ์ผู้สมัคร ผู้สมัครมีทั้งหมด 37 คนมาสัมภาษณ์ และผู้สมัครทั้งหมดล้วนแต่มีพรสวรรค์ มีคุณสมบัติสูง เป็นถึงระดับด็อกเตอร์ของสาขาเศรษฐศาสตร์และระดับด็อกเตอร์สื่อโฆษณา แต่พวกเขาทั้งหมดกลับโดนท่านนายน้อยต้าหลี่ปฏิเสธค่ะ "
" เอ๊ะ แล้วคนสุดท้าย เขาจบการศึกษาจากที่ไหนกัน? " หงเหว่ยกูถามด้วยความสับสน
" คนสุดท้าย ..." เลขานุการได้เช็ดเหงื่ออีกครั้ง " คนสุดท้าย บอกว่าเขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นที่สาม แล้ว... แล้วเขาก็บอกว่าเขาจะใช้จ่ายเงินจำนวนมากเข้าไปในเว็ปไซต์จงเตียนนี้ จากนั้นท่านนายน้อยต้าหลี่ตัดสินใจทันทีและกล่าวออกมาว่า: 'ฉันเลือกนาย!' นี่คือคำพูดโดยตรงของท่านนายน้อยต้าหลี่ค่ะ "
ท้ายที่สุดแล้วหลังจากพูดจบ เลขานุการก็อดพูดออกมาไม่ได้ ว่า " พอดิฉันได้ยินเรื่องนี้… "
" โอเค ไอเจ้าลูกบ้าเอ้ย คนธรรมดาที่ไหนมันจะไปทำแบบนั้นกัน " หงเหว่ยกูยิ้มและกล่าวว่า " ในเวลานี้ เราจะต้องไม่ทำอะไรเหมือนเดิม ดูผลลัพธ์ที่เขาจะทำได้เถอะ ยังไงแค่เว็บไซต์เล็กๆมันก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ให้เขาได้เล่นกับมันเท่าที่เขาต้องการ สิ่งที่เธอต้องทำตอนนี้คือ ต้องดูว่าหงต้าหลี่มีเงินในบัตรพอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่มีอะไรให้เล่น จะว่าก็ว่าเถอะ ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม? "