บทที่ 5 นักบุญหญิง(ฝึกหัด)
เมื่อเอลีน่านำซีเว่ยกลับมาถึงหมู่บ้านเคนนิงตัน ที่นี่ก็เหลือชาวบ้านที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงไม่กี่คน
การที่พวกชาวบ้านยังสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้จนถึงตอนนี้ นั่นเพราะเขี้ยวมังกรมีนิสัยชอบเล่นกับเหยื่อของมัน
มันจะปล่อยให้ชาวบ้านวิ่งหนีซ้ำแล้วซ้ำอีก จากนั้นมันก็จะไล่ตามพวกเขาและจับพวกเขากลับไปยังจุดเริ่มต้น แล้วปล่อยให้พวกเขาวิ่งหนีไปอีกครั้ง และอีกครั้ง เมื่อชาวบ้านถูกขย้ำจนไม่อาจลุกขึ้นมาขยับได้อีกต่อไป หรือเมื่อมันเริ่มเบื่อ มันก็จะขย้ำพวกเขาจนตายในครั้งเดียว!
ทันใดนั้น จู่ ๆ เขี้ยวมังกรก็เงยหน้าขึ้น และจับจ้องไปยังทางเข้าหมู่บ้าน
มันได้กลิ่นของเหยื่อตัวใหม่ และยังสัมผัสได้ถึงอันตรายที่มาพร้อมกับเหยื่อ
“ท่านซีเว่ย…” เอลีน่าจับปลายเสื้อของเขาขณะที่เธอพูดเสียงสั่นด้วยความกลัว
“ไม่ต้องกลัว” ซีเว่ยพูดอย่างมั่นใจ เขาตบหัวปลอบเธอเบา ๆ
ตอนแรกเมื่อเขาเห็นสัตว์ประหลาดตัวเป็น ๆ ซีเว่ยก็ตกใจ เพราะในโลกเดิมของเขามันไม่มีอะไรแบบนี้
แต่หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักว่า เขี้ยวมังกรไม่มีพลังเวทมนตร์ใด ๆ อยู่ในร่าง แม้ว่ามันจะฉลาดอยู่นิดหน่อย แต่มันก็ไม่ถูกนับว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง
หากเป็นศัตรูระดับนี้ ซีเว่ยสามารถเอาชนะได้เป็น 10 ตัวโดยไม่ต้องกะพริบตาด้วยซ้ำ!
เขี้ยวมังกรคงจะรู้ว่ากำลังถูก 'เหยื่อ' ของมันมองเหยียด ดังนั้นมันจึงคำรามด้วยความโกรธและพุ่งเข้าหาซีเว่ย
เมื่อรู้สึกถึงลมกระโชกแรงที่พัดเข้ามา ซีเว่ยก็ยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา เขาจ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดตัวนั้นโดยที่เขาไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว
ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดก็ถูกพลังที่มองไม่เห็นสะท้อนกลับ
เกราะกระดูกบนร่างของเขี้ยวมังกรแตกเป็นเสี่ยง ๆ แม้แต่หนามแหลมที่หางของมันก็หักครึ่ง เขี้ยวมังกรล้มลงและส่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด
ฉากที่ปรากฏต่อหน้าเธอ ทำให้เอลีน่าตกตะลึง เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
แม้เธอจะรู้สึกว่าชายคนนี้แข็งแกร่ง และสามารถเอาชนะเขี้ยวมังกรได้ แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีพลังมากถึงขนาดที่เอาชนะมันได้ โดยไม่จำเป็นต้องขยับแม้แต่ปลายนิ้ว!
อันที่จริง มันเข้าใจไม่ยากเลยว่าทำไมเขี้ยวมังกรถึงลงเอยแบบนี้
หากคุณถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า ในที่สุดมันก็จะตกลงบนหน้าคุณเอง แม้ว่าซีเว่ยจะเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่อ่อนแอที่สุดในแดนเทพ แต่เขาก็ยังเป็นเทพเจ้า!
ทันทีที่เขี้ยวมังกรโจมตีเขา มันก็ได้กระตุ้นพลัง 'ความพิโรธของพระเจ้า' ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ดังนั้นการโจมตีของมันจึงถูกสะท้อนกลับไปหาตัวมันเองแรงกว่าเดิมถึง 2 เท่า!
เทพเจ้าไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน แต่ถ้าใครต้องการจะท้าทายเทพเจ้า อย่างน้อยพวกเขาก็ต้องเป็น ‘แชมเปี้ยนในตำนาน’ นั่นคือข้อกำหนดเบื้องต้น นั่นคือกฎของธรรมชาติ ถ้าพวกเขาไม่แม้แต่จะผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดดังกล่าว ก็จะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดบนโลกที่สามารถต่อกรกับเหล่าเทพได้
“ท่านซีเว่ย มันจะหนีไปแล้ว!” เอลีน่าตะโกนขึ้นเมื่อเธอเห็นเขี้ยวมังกรกำลังพยายามหนีออกจากหมู่บ้าน เธอกระตุกปลายเสื้อของซีเว่ย เธอเติบโตขึ้นในหมู่บ้านชนบทห่างไกล เธอจึงรู้ว่าสัตว์ป่าแทบทุกตัวเป็นสัตว์ที่มีความอาฆาตพยาบาท หากเธอปล่อยให้เขี้ยวมังกรที่บาดเจ็บหนีไปได้ ไม่นานมันก็จะกลับมาเพื่อแก้แค้นอย่างแน่นอน
“เอลีน่า ข้าทำได้เพียงเท่านี้” ซีเว่ยส่ายหัว “แต่เจ้าต้องการล้างแค้นให้กับครอบครัวของเจ้า ด้วยมือของเจ้าเองหรือไม่?”
ดวงตาของเธอสว่างขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนที่มันจะดับลงอย่างรวดเร็ว เธอส่ายหัว “หนูเอาชนะมันไม่ได้หรอกค่ะ หนูอ่อนแอเกินไป…”
แม้ว่าเขี้ยวมังกรจะอยู่ในสภาพใกล้ตาย แต่เด็กสาวชาวบ้านธรรมดา ๆ อย่างเอลีน่า ก็ยังไม่สามารถทำอะไรมันได้
ซีเว่ยพยักหน้าเห็นด้วย หากเอลีน่ากลัวเกินกว่าจะล้างแค้นให้ชาวบ้าน หรือเธอถูกความเกลียดชังบังตา และรีบวิ่งออกไปหาเขี้ยวมังกรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง เขาคงจะผิดหวังในตัวเธอมาก
แม้เธอจะประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายเช่นนี้ แต่เธอก็ยังมีสติและชั่งน้ำหนักตัวเลือกอย่างใจเย็นแทนที่จะวู่วาม มันเป็นลักษณะที่มีค่าสำหรับเด็กสาวที่เติบโตในหมู่บ้านห่างไกลเช่นนี้
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเทพเจ้าแห่งเกม สามารถมอบพลังให้เจ้าเอาชนะศัตรูตรงหน้าเจ้าได้” ซีเว่ยเกลี้ยกล่อมเธออย่างอดทน
เอลีน่านิ่งเงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาอย่างแน่วแน่ และจ้องมองไปที่ซีเว่ย “ถ้าอย่างนั้น ข้าก็เต็มใจที่จะเป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกม!”
“ความศรัทธาไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถมีได้ด้วยปากเจ้า จงหลับตาและจินตนาการถึงพระนามของพระองค์ในใจเจ้า และสัมผัสถึงพลังของพระองค์ด้วยหัวใจของเจ้า” เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม
ถ้าเขาพูดประโยคนี้กับคนในโลกเดิมของเขา พวกเขาอาจจะคิดว่าเขาบ้า แต่ในโลกใบนี้ พวกเขาเข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงอะไร
เอลีน่าทำตามที่เขาพูด เธอหลับตาเรียกหาเทพเจ้าแห่งเกมในใจของเธอ ในเวลาที่เธอสิ้นหวังมากที่สุด เทพเจ้าที่เธอศรัทธา ไม่แม้จะสนใจฟังคำอ้อนวอนของเธอ ท่านไม่สงสารและไม่ต้องการช่วยเหลือเธอ แต่ซีเว่ย เขากลับเป็นผู้มอบหนทางรอดให้เธอ และจุดประกายแห่งความหวังในใจเธอ ดังนั้นครั้งนี้ เอลีน่าจึงอธิษฐานอย่างจริงใจ และจริงจังที่สุดในชีวิตเธอ
“พูดคำว่า ‘โอ้~เทพเจ้าแห่งเกม โปรดมอบชีวิตใหม่ให้กับเรา’ อย่างจริงใจ” เสียงของเขาดังขึ้นในความเงียบ
“โอ้~ เทพเจ้าแห่งเกม โปรดมอบชีวิตใหม่ให้กับเรา!” เอลีน่าเอ่ยคำนั้นออกมาอย่างจริงใจ
เพียงพริบตา ซีเว่ยก็สัมผัสได้ถึงพลังงานอันบริสุทธิ์ที่เปี่ยมล้นออกมาจากร่างของเอลีน่า
'ใช่แล้ว นี่แหละ!' ซีเว่ยตะโกนอยู่ในใจด้วยความตื่นเต้น
เขาเริ่มทำตามขั้นตอนที่เขาจินตนาการมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยได้ฉายภาพของระบบที่ถูกสร้างขึ้นจากพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขา เข้าสู่จิตสำนึกของเด็กสาว ผ่านเส้นทางแห่งศรัทธาที่ถูกเปิดขึ้นระหว่างพวกเขา จากศรัทธาที่เธอมีต่อเขา
'ทุกอย่างของฉันเดิมพันกับสิ่งนี้!'
โดยไม่รู้ว่าซีเว่ยแอบทำอะไรอยู่ข้าง ๆ เด็กสาวที่หลับตาอธิษฐาน จู่ ๆ ก็พบว่ามีแผ่นเรืองแสงแผ่นบาง ๆ ปรากฏขึ้นในความมืดเบื้องหน้าเธอ
[ผู้เล่น: เอลีน่า]
[คลาส: นักบุญหญิง(ฝึกหัด)]
[เลเวล 1]
[ค่าประสบการณ์: 0/100]
[HP: 50/50]
[MP: 30/30]
[คุณสมบัติ: STR 1 / AGI 1 / INT 2]
[คะแนนทักษะ: 1]
เอลีน่าลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ แต่แผ่นเรืองแสงเบื้องหน้าเธอกลับไม่ได้หายไป ดูเหมือนมันจะไม่ใช่ภาพลวงตา
"นี่ อะไร…?" เอลีน่าพูดกับตัวเองอย่างสับสน
“นี่คือของขวัญจากเทพเจ้าแห่งเกมที่มอบให้แก่เหล่าผู้ที่ศรัทธาในพระองค์ ตราบใดที่เจ้ายังศรัทธาในพระองค์ มันจะไม่หายไป” เขาอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ใช้คะแนนทักษะที่เจ้ามีเรียนรู้ทักษะ และสังหารเขี้ยวมังกรตัวนั้นด้วยตัวเจ้าเอง”
เอลีน่าจ้องไปที่ซีเว่ยอย่างงุนงงอยู่สักพัก เมื่อเธอได้สติเธอก็พยักหน้าแรง ๆ ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะแดงก่ำ เธอพยายามถามออกมาอย่างตะกุกตะกักว่า “หนะ หนูจะเพิ่มคะแนนทักษะได้ยังไง แล้ว…ทักษะคืออะไรเหรอคะ?”
“ทักษะคือพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เทพเจ้าแห่งเกมประทานให้เจ้า” เขาอธิบายอย่างอดทน เขาลืมคิดไปเลยว่าเด็กผู้หญิงบนโลกใบนี้คงจะไม่รู้เรื่องเกมออนไลน์ คงต้องมีคนคอยอธิบายให้เธอฟัง และคนคนนั้นก็คือเขา “เปิดหน้าทักษะขึ้นมา และใช้คะแนนทักษะกับทักษะที่เรืองแสงอยู่ ทักษะที่ไร้แสง หมายความว่าเจ้ายังมีเลเวลหรือความสามารถไม่สูงพอที่จะเรียนรู้”
“มหัศจรรย์มาก…” เอลีน่าเริ่มควบคุมระบบที่ไม่คุ้นเคยอย่างเงอะงะ และพึมพำออกมาเป็นระยะ
ในฐานะเด็กที่เกิดและเติบโตในหมู่บ้านชนบท เอลีน่าเคยเรียนรู้ภาษาชูโมเนียนจากพ่อของเธอมาก่อน แต่ก็รู้เพียงไม่กี่คำ
ถึงกระนั้น เธอก็ยังเข้าใจคำศัพท์ทั้งหมดที่เขียนบนแผ่นเรืองแสงได้ นี่เป็นผลมาจากการที่ซีเว่ยใช้ระบบแปลภาษาเทพเจ้า ในการสร้างหน้าอินเตอร์เฟซของระบบเหล่านี้ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าใจมันได้ แม้คนคนนั้นจะเป็นผู้ไม่รู้หนังสือก็ตาม
เมื่อเห็นเขี้ยวมังกรเกือบจะหนีออกจากหมู่บ้านได้สำเร็จ เอลีน่าจึงเลือกเรียนรู้ทักษะการโจมตี ที่นักบุญหญิงสามารถเรียนรู้ได้ตอนเลเวล 1 'หอกแห่งชัยชนะ'
เธอรวบรวมพลังศรัทธาจนปรากฏเป็นหอกสีทอง เจาะร่างเขี้ยวมังกร ตอกสัตว์ร้ายตัวนั้นตรึงไว้กับพื้น
เจ้าเขี้ยวมังกรได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง มันดิ้นรนอยู่สักพัก ก่อนที่จะขาดใจตาย
เมื่อสัตว์ร้ายตายลง ในที่สุดเอลีน่าก็วางใจ
ทันใดนั้นเธอก็เห็นแสงสีทองส่องออกมาจากร่างไร้ชีวิตของเขี้ยวมังกร ก่อนที่ร่างของมันจะหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงหางแหลมรูปร่างเหมือนเขี้ยวมังกรที่หัก และกรงเล็บที่แหลมคม
“เกิดอะไรขึ้น?” เอลีน่าถามด้วยความประหลาดใจ
“ศัตรูที่ถูกสังหารโดยเหล่าผู้ศรัทธา จะถูกมอบเป็นเครื่องสังเวยแด่เทพเจ้าแห่งเกม และบางครั้งหลังจากร่างของมันถูกสังเวย ก็จะเหลือวัสดุหรือรางวัลบางอย่างไว้ เราเรียกมันว่า ‘ไอเทม’ ไอเทมที่เจ้าได้รับ จะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของศัตรูที่เจ้าเอาชนะได้ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เมื่อเจ้าสังเวยศัตรู เทพเจ้าแห่งเกมก็จะมอบ 'EXP' ให้ตามความแข็งแกร่งของศัตรูที่เจ้าได้สังเวยไป เมื่อแถบ EXP ของเจ้าเต็ม เจ้าก็จะสามารถเพิ่มระดับเลเวล และเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้ และนั่นก็จะทำให้ตัวเจ้าแข็งแกร่งมากชึ้นเรื่อย ๆ!” ซีเว่ยอธิบาย
โดยพื้นฐานแล้วค่า EXP ของผู้เล่นจะมาจากพลังศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเขาได้รับเครื่องสังเวยจากผู้ศรัทธา เขาจะแยกพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับออกเป็น 2 ส่วน 70% จะถูกเก็บไว้ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขา ในขณะที่ 30% จะถูกส่งคืนให้กับผู้ศรัทธาที่ส่งเครื่องสังเวยเข้ามา ผ่านสายใยแห่งศรัทธาในรูปแบบ ‘พรของพระเจ้า’ ในขณะที่พลังศักดิ์สิทธิ์ถูกสะสมไปเรื่อย ๆ พลังศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาได้รับ ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง ที่มนุษย์สามารถนำไปใช้ได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าการเลเวลอัพนั่นเอง
ทันทีที่เขาพูดจบ แสงสีทองก็พุ่งขึ้นมาจากร่างของเด็กสาว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเธอได้เลเวลอัพ หลังจากที่เอาชนะเขี้ยวมังกร
----------------------------------------------