ตอนที่แล้วบทที่ 42 สองต่อหนึ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44 การต่อสู้ของอัจฉริยะ

บทที่ 43 ตื่นขึ้น


บทที่ 43 ตื่นขึ้น

หนึ่งเดือนผ่านไป ผู้คนจำนวนมากต่างตื่นขึ้นมาจากห้วงแห่งนิทรา พวกเขารู้สึกมึนหัวเนื่องจากการนอนหลับที่ยาวนาน แต่สำหรับสัตว์อสูรนั้นพวกมันกลับไม่เป็นอะไร เพราะบ่อยครั้งที่พวกมันจะจำศีลเมื่อฤดูนั้นมาถึง

“เกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!”

“นี่ข้าหมดสติไปตั้งแต่เมื่อใดกัน?”

เหล่าศิษย์ที่ค่อยๆทยอยตื่นมาต่างตกใจ และประหลาดใจในเวลาเดียวกัน มันไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาก่อน ผู้อาวุโสรวมถึงบุคคลระดับสูงหลายต่อหลายคนต่างสืบหาปัญหา และต้นตอที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

กุนไท่ตื่นขึ้นมา พร้อมกับมองไปรอบๆ มีผู้คนมากมายกำลังลุกจากพื้น ชายหนุ่มสำรวจตนเองว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เมื่อเขาสำรวจร่างกายของตนเองเขาพลันตกตะลึงทันที ตอนนี้พลังจิตของเขานั้นทะลวงผ่านขั้น 5 ไปแล้ว!

ตอนนี้สามารถเรียกได้ว่า พลังจิตระดับกลาง ขั้น 1 ! เมื่อพลังจิตอยู่ในระดับผู้เชียวชาญแล้ว จะสามารถใช้พลังจิตทำให้วัตถุลอยได้! และยังสามารถทำให้วิชาที่เกี่ยวข้องกับพลังจิตทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้น!

ไม่ใช่แค่นั้น ตอนนี้กุนไท่รู้สึกได้ว่ากลิ่นอายของเขาไม่ได้เป็นผลเสียที่ทำให้ร่างกายผอมอีกแล้ว แต่มันกลับผสานเข้ากับกายเนื้อ จนทำให้มันกลายเป็นร่างกายพิเศษ เขารู้สึกได้ว่าเขาสามารถทำให้ร่างกายของตนเองนั้น แปรเปลี่ยนเป็นภาพมายา หรือสร้างภาพมายาขึ้นมาได้!

ช่างเป็นพลังที่ท้าทายสวรรค์นัก! กุนไท่รู้สึกตื่นเต้น เขาอยากจะทดสอบพลังใหม่ของตนให้เร็วที่สุด แต่เมื่อนึกถึงช่วงที่เขาหลับไปนั้น เขาไม่รู้ว่ามีเพียงเขาผู้เดียว หรือไม่ที่นอนหลับอยู่ แต่เขารู้สึกได้ว่าผู้อื่นก็ไม่ต่างกับเขาเช่นเดียวกัน

เมื่อเขาได้ยินการประกาศจากนิกายว่าเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดขึ้น ทำให้งานชิงสมบัติเกิดข้อผิดพลาด ทางนิกายเลยตัดสินใจเลื่อนงานนี้ไปอีกสามวัน และในช่วงสามวันนี้จะส่งคนออกไปตรวจสอบ รวมถึงสืบหาสาเหตุที่แท้จริง

เวลาสามวันผ่านไป การสืบเสาะหากลับไม่ได้พบเจอสิ่งใดเลย และไม่มีใครทราบได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น รวมถึงผู้พิทักษ์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น พวกเขาคิดเพียงว่าเป็นพลังที่เหนือธรรมดา อาจจะมีเทพเซียนองค์ใดมายังโลกมนุษย์แห่งนี้โดยที่ไม่อยากให้เหล่ามนุษย์ล่วงรู้ หรือสัมผัสถึงตัวตนพวกเขาได้

กุนไท่เดินมาที่ลานกว้างโล้งแห่งหนึ่ง มันเป็นสถานที่จัดงานชิงสมบัติ เขาจะต้องเอาชนะการแข่งขันที่เหลือทั้งหมดให้ได้ เพื่อเป็นตัวแทนของศิษย์สายใน!

จากนั้นเขาจะมีโอกาสได้ประลองกับศิษย์หลัก โดยที่หากเอาชนะได้ เขาจะได้รับสมบัติจากเจ้าสำนักโดยตรง แต่เพียงแค่เป็นราชันในหมู่ศิษย์สายในด้วยกันแล้ว ก็ได้รับรางวัลสูงสุดของงานนี้แล้ว และสำหรับกุนไท่นั้น ความต้องการของเขาคือการได้ประลองกับศิษย์หลักเพื่อฝึกฝนการต่อสู้ของตนเองให้ก้าวหน้าขึ้น

การบ่มเพาะจะช่วยในเรื่องของพลังปราณ แต่การฝึกฝนการต่อสู้จะช่วยในเรื่องของการเอาชีวิตรอด และความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง

ที่ลานกว้างนั้นปรากฏชายชราที่สวมอาภรณ์สีฟ้าทั้งหนึ่งพันคนขึ้น พวกเขาแต่ละคนล้วนเป็นผู้อาวุโสที่น่านับถือภายในนิกายฟ้าสวรรค์คำรามพิโรธ

ส่วนที่นั่งที่อยู่ในศาลาทั้งหนึ่งร้อยศาลา ต่างเป็นที่รับชมการประลองสำหรับเหล่าผู้อาวุโสระดับสูง และแขกผู้ทรงเกียรติ แต่ละคนมีระดับที่สูงกว่าระดับผู้เชียวชาญจนเทียบไม่ติดไปแล้ว เพียงแค่คนเดียวก็สามารถทำให้ทวีปขนาดใหญ่ทวีปหนึ่งหายไปได้อย่างง่ายดาย!

เหนือศาลาทั้งหนึ่งร้อย มีตำหนักลอยฟ้าอยู่ตำหนักหนึ่ง มันเป็นของผู้นำนิกาย ผู้นำนิกายเป็นชายวัยกลางคนสวมใส่อาภรณ์สีแดงซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องประดับสีทองอร่าม

ใบหน้าเผยความเที่ยงธรรมดูเป็นเอกลักษณ์ในแบบที่ไม่เหมือนผู้ใด ให้ความรู้สึกราวกับว่าเป็นผู้ที่ถือกำเนิดมาเหนือผู้อื่นอย่างแท้จริง ส่วนที่นั่งข้างๆนั้น มีชายชรากับหญิงชราอีกสองสามคน

พวกเขาเป็นผู้อาวุโสคุมตำหนักที่มีพลังอำนาจเกินผู้อาวุโสระดับสูงจนเทียบไม่ติด และยังมีอีกหนึ่งที่นั่ง ซึ่งอยู่ตำแหน่งที่สูงกว่าผู้นำนิกาย!

ผู้ที่นั่งบนเก้าอี้นั้น เป็นหญิงชราที่ดูใกล้สิ้นอายุขัย เพียงแต่รัศมีที่เปล่งออกมานั้นดูราวกับว่าเป็นเซียนที่ปกครองโลกมนุษย์อย่างแท้จริง นางเป็นอาจารย์ของกุนไท่ นางคือผู้พิทักษ์ไป๋เสวี่ย!

ชั้นบนสุดที่เป็นส่วนของตำหนักลอยฟ้า ปรากฏพลังอำนาจสยบฟ้าออกมา สร้างความกดดันให้แก่ทุกคนอยู่ในลานกว้าง พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่กดทับพวกเขา พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดคุยออกมาแม้แต่น้อย ต่างคนต่างรอคอยให้งานนี้เป็นไปอย่างธรรมชาติ ตรงลานกว้างนั้นมีค่ายกลป้องกันครอบคลุมเอาไว้ ทำให้การประลองของผู้ที่เข้าร่วมไม่สามารถทำอันตรายต่อผู้ชมได้!

กุนไท่ยืนอยู่ในลานกว้างพร้อมศิษย์ที่เข้าร่วมงานชิงสมบัติอีกหลายคน มีศิษย์สายในที่ทั้งอยู่ขั้นรวบรวมพลัง ขั้นกักเก็บพลัง และขั้นขยายพลัง! ปะปนกันไปพวกเขาเหล่านั้นล้วนเป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้ที่หาได้ยาก รูปแบบการต่อสู้ของแต่ละคนนั้นแปลกประหลาด และยังมีประสบการณ์การต่อสู้อันโชกโชน การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น!

ผู้อาวุโสที่เป็นผู้คุมงานออกมากล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ พร้อมกับให้เริ่มการประลองได้ คู่แรกนั้น เป็นคู่ที่เหล่าชายหนุ่มทั้งหลายล้วนจ้องมองไม่กระพริบตา และชื่นชอบเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นการประลองของสาวงาม ทั้งคู่ต่อสู้หลายร้อยกระบวนท่าก่อนจะปรากฏผู้ชนะขึ้น

เหล่าชายหนุ่มทั้งหลายต่างส่งเสียงร้องตระโกนทำให้บรรยากาศงานชิงสมบัติเต็มไปด้วยความครึกครื้น

กุนไท่ยังคงเฝ้าดูการต่อสู้รอบต่อไป เขาได้ต่อสู้เป็นคู่สุดท้าย ในรอบที่สองนั้นมีบุคคลผู้หนึ่งที่กุนไท่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา

จากการคาดเดาของเขาแล้ว กุนไท่รู้สึกว่าอีกฝ่ายมีพลังต่อสู้ข้ามขั้นได้อย่างง่ายดาย การต่อสู้ข้ามขั้นได้นั้นไม่ใช่เรียกแปลกแต่อย่างใด แต่ไม่ใช่กับกุนไท่ที่สามารถสู้ข้ามขั้นได้ถึงสองขั้น!

แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่กุนไท่ก็ไม่เคยประมาทเพราะมันยังมีคำพูดที่ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า! เหนือองค์จักรพรรดิยังมีองค์ราชินี!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด