บทที่ 11 ผู้ศรัทธาคนใหม่
“ชุมนุมลับดวงตา…” แองโกร่าขมวดคิ้ว
“เอ่อ โทษทีนะ แต่เจ้าปล่อยข้าไปตอนนี้เลยได้ไหม” โจรหัวโล้นฉีกยิ้มขณะเอ่ยปากถาม
แองโกร่าหันไปหาจินนี่ “ฝังเขาไว้ใต้พื้นดินลึก 100 เมตร เหลือแค่หัวไว้บนดินก็พอ”
"เดี๋ยว! นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสัญญาไว้!” โจรหัวโล้นเด้งตัวลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ
“ข้าบอกว่าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่ข้าไม่เคยพูดว่าจะปล่อยเจ้าไปนี่” แองโกร่ายักไหล่ตอบ “เจ้าก็แค่ถูกฝัง มันเป็นเรื่องของเจ้า ว่าเจ้าจะขุดตัวเองขึ้นมาได้รึเปล่า”
“เจ้า…” โจรหัวโล้นดวงตาแดงก่ำ เขาพุ่งเข้าหาแองโกร่าพร้อมดาบในมือ เขาต้องการสู้ตายอย่างสิ้นหวัง อย่างไรก็ตาม เขากลับหายตัวไปทันทีเมื่อจินนี่ชี้นิ้ว เสียงตะโกนของเขาหายไปครึ่งทางโดยที่เขายังพูดไม่จบ
“ศัตรูของเจ้าถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว” จินนี่โบกมือให้แองโกร่า “งั้นข้าไปล่ะ~”
“เดี๋ยวก่อน”
แองโกร่าพูดรั้งจินนี่ไว้
"อะไร? ข้าบอกแล้วไงว่าข้าจะไม่รับคำสั่งจากเจ้า” จินนี่ตอบ
“ไม่ ข้าแค่อยากถามเกี่ยวกับ ‘ระบบโอเวอร์ลอร์ด’ สิ่งนี้มันคืออะไร” แองโกร่าถามอย่างจริงจัง “มันเป็นเวทมนตร์หรือภาพลวงตากันแน่”
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบครอบครัวตัวเองนัก แต่เขาก็ยังเป็นบุตรจากตระกูลดยุค เขาไม่เหมือนเด็กอย่างเอลีน่าที่เติบโตในหมู่บ้านชนบทห่างไกล เขาเคยเห็นโลกมาตั้งแต่ยังเด็ก ได้สัมผัสกับเวทมนตร์และปาฏิหาริย์มากมาย แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่มีปาฏิหาริย์ใดที่พิเศษเท่ากับการดำรงอยู่ของสิ่งนี้ สิ่งที่เรียกว่า 'ระบบโอเวอร์ลอร์ด'
ยิ่งไปกว่านั้นสัญชาตญาณของเด็กหนุ่มยังสัมผัสได้ว่า ถ้าเขาไม่คว้าโอกาสนี้เพื่อรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากจินนี่ เขาอาจไม่เข้าใจความสามารถของระบบนี้ไปอีกนาน
“เจ้าหัวไวกว่าที่ข้าคิด” จินนี่ตัวฟ้าพูดชม
ความจริงแล้วจินนี่ก็คือซีเว่ยที่ปลอมตัวมา
แม้ว่าบัญชาของพระเจ้าจะมีความสามารถในการสร้างชีวิต (พูดให้ถูกก็คือความสามารถในการสร้าง NPC) แต่ก็ต้องใช้พลังงานมหาศาล เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองพลังเทพมากเกินไป ซีเว่ยจึงสวมชุดปลอมตัว และอวตารตัวเองลงมาเป็นจินนี่ผู้รับใช้ของแองโกร่า
ตั้งแต่แรก เมื่อเขาวางแผนที่จะสร้างหมู่บ้านเริ่มต้นนอกหุบเขาแห่งความตายที่น่าเศร้า เขาก็ได้สังเกตเห็นแองโกร่าผู้สมัครที่มีศักยภาพในการเป็นสาวกของเขา เขาจึงได้เปิดอำนาจระบบชั่วคราวให้อีกฝ่ายทดลองใช้
ตอนแรกซีเว่ยต้องการช่วยแองโกร่าเพียงเล็กน้อย หากแองโกร่าไม่ฉลาดพอที่จะสังเกตเห็นนักฆ่าจินนี่ในคลังระบบ หรือระวังเกินกว่าที่จะใช้มันตามคำอธิบายที่เขาให้ไว้ เขาก็จะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มโจร หากเป็นเช่นนั้นซีเว่ยจะรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ต้องสูญเสียว่าที่สาวกคนใหม่ไป แต่เขาจะไม่ผิดหวัง เนื่องจากพื้นที่รอบนอกของหุบเขาแห่งความตายไม่ได้เล็ก ๆ และเขามีทางเลือกอื่น ๆ นอกเหนือจากแองโกร่ามากมาย
แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่า แองโกร่าไม่เพียงแต่จะยอมรับความช่วยเหลือจากเขาเท่านั้น เขายังไม่สับสนกับคำอธิบายในหน้าอินเทอร์เฟซของระบบ แถมเมื่อซีเว่ยกำลังจะกลับไปยังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขา แองโกร่าก็ได้ถามเรื่องระบบโอเวอร์ลอร์ดโดยตรง และไม่ถามอะไรที่ไร้สาระ
ทันใดนั้นซีเว่ยก็เริ่มสนใจ อนาคตของเด็กคนนี้อาจประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยความช่วยเหลือจากระบบของเขา
“นี่คือระบบ ซึ่งเป็น ‘พร’ ที่เทพเจ้าแห่งเกมประทานให้เจ้า” ซีเว่ยตอบแองโกร่าในฐานะที่เขายังปลอมตัวเป็นจินนี่ในตะเกียง
“ทำไมพระองค์ถึงให้พรแก่ข้า ข้าไม่เคยอธิษฐานถึงพระองค์เลย…อันที่จริง ก่อนหน้านั้นข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเทพเจ้าแห่งเกมมีอยู่จริง” แองโกร่าถามอย่างรวดเร็ว
“พระองค์คงพบว่าเจ้ามีพรสวรรค์ล่ะมั้ง ใครจะรู้?” ซีเว่ยยักไหล่อย่างเสแสร้ง
“เขาเป็นเทพเจ้าเช่นใด?”
แม้ว่าแองโกร่าจะไม่ศรัทธาในเทพเจ้า แต่เทพเจ้าก็ยังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบคุณ และอดไม่ได้ที่จะอยากเรียนรู้เกี่ยวกับเทพเจ้าองค์นี้ เทพเจ้าที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ซีเว่ยคุยโวเกี่ยวกับตัวเองทันที “ท่านคือเทพเจ้าที่สุดยอดมาก ท่านฉลาด กล้าหาญ และหล่อเหลา แม้ว่าในตอนนี้ท่านจะมีสาวกไม่มาก แต่ท่านจะอยู่เหนือเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน! หากเจ้ามีโอกาส เจ้าลองอุทิศตัวเองเพื่อเทพเจ้าแห่งเกมดูสิ แล้วเจ้าจะเข้าใจ~”
จากนั้นก่อนที่แองโกร่าจะได้ถามคำถามอื่น ซีเว่ยก็ระเบิดกลายฝุ่นแสงที่สว่างจ้าทันที เขาหายไปจากสายตาของแองโกร่า
แองโกร่าทำหน้าหนักใจ เขายืนเอ๋อครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติจากเสียงกระพือปีกบนท้องฟ้า
มีนกที่ชอบของเน่ามากมายบินวนอยู่บนฟ้าเหนือหัวเขา
ที่นี่มีศพคนจำนวนมาก ด้วยอากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นเลือด คาดว่าไม่ช้ามันจะไม่ใช่แค่นก เพราะแถวนี้ยังมีสัตว์กินเนื้อดุร้ายบางชนิดอาศัยอยู่ด้วย
แองโกร่าไม่ลังเลอีกต่อไป เขารีบเก็บของจำเป็นทั้งหมดจากรถม้าลงกระเป๋าหลังของเขา ก่อนจากไป เขาโบกมือลาสารถีชราอย่างเงียบ ๆ อันที่จริงแองโกร่าก็อยากจะฝังเขาให้ถูกต้องเช่นกันถ้าเขามีเวลา แต่มันไม่ใช่ ตอนนี้เขาต้องรีบไปแล้ว
“เอาล่ะ ต่อไปจะเป็นการเดินทางเพียงลำพังของข้า” แองโกร่าปลุกใจตัวเองเงียบ ๆ คนเดียว ก่อนที่เขาจะมุ่งหน้าไปยังศักดินาของตัวเอง เมืองเล็ก ๆ ที่ไร้ชื่อและห่างไกล
ในขณะเดียวกัน ซีเว่ยที่เฝ้าดูเด็กหนุ่มจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เริ่มสัมผัสได้ถึงร่องรอยแห่งพลังศรัทธาที่เด็กหนุ่มมีต่อเขา...
☆
“ไฮย๊า!” โจที่ตัวสูงและล่ำสัน พุ่งเข้าหาหมีดำขณะถือดาบที่ดีที่สุดในหมู่บ้านไว้ในมือ
หมีดำก็คำรามและพุ่งเข้าใส่เขาเป็นการตอบแทน
แต่เมื่อโจกระโดดออกไปได้ครึ่งทาง โกวต้านก็พึมพำเบา ๆ ขณะเล็งธนูของเขาไปที่หมีดำว่า “แอคคูเรทช็อต(Accurate Shot)!”
(Accurate Shot ยิงแม่นยำ)
ลูกธนูแทงเข้าไปในจมูกของหมีดำ ทำให้การเคลื่อนไหวของมันผิดเพี้ยนไปจากความเจ็บปวด มันคำรามขณะที่กุมจมูกของตัวเอง
“ฟรอสบอม(Frost Bomb)!” เอ็ดเวิร์ดส่งเสียงมาจากด้านหลังโจ เขาโบกไม้คทายาวขณะปล่อยลูกบอลหิมะสีขาวระเบิดแช่อุ้งเท้าหมีดำ และเกือบทำให้มันล้มลง
(Frost Bomb ระเบิดนำแข็ง)
“สเตร็งเท่น(Strengthen)!” เจสสิก้าร้องออกมาขณะเล็งไม้กางเขนไปทางโจ
(Strengthen เสริมแกร่ง)
“ตอนนี้แหละ!” โจโยนดาบที่ดีที่สุดในหมู่บ้านทิ้งลงพื้น และวิ่งเข้าชาร์ตหมีดำตรงช่วงท้อง กล้ามแขนของเขาปูดขึ้นขณะที่เขาคำรามว่า “ซูเพลกซ์(Suplex)!*”
(Suplex ทุ่มกลับหลัง)
จากนั้นเขาก็ยกหมีดำขึ้นจากพื้น และทุ่มสัตว์ร้ายกลับหลังเอาหัวมันปักพื้นอย่างแรง
ตัวอักษรสีแดงเลือดที่อ่านว่า 'คริติคอล -150' เด้งขึ้นเหนือหัวหมีดำทันที ร่างของมันกระตุกทีหนึ่งก่อนจะร่วงลงนอนคว่ำพื้นและตายทันที
เมื่อศพของหมีดำหายไป ปาร์ตี้กลุ่มนี้ก็ร้องตะโกนออกมาอย่างมีความสุขทันที
พวกเขาทั้งหมดเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวนักล่า และมักจะต้องตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพบหมีดำในป่า
พวกเขาไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งพวกเขาจะเอาชนะมันได้อย่างง่ายดายแบบนี้!
“ค่าประสบการณ์ของหมีดำตัวนี้สูงมาก ข้าเลเวลอัพแล้ว! ข้าจะเลือกทักษะไหนต่อดี เฮฟวี่ช็อต(Heavy Shot) หรือสปลิทช็อต(Split Shot)”
(Heavy Shot ยิงแรง)
(Split Shot แยกช็อต ยิงธนูหลายลูกในการโจมตีครั้งเดียว)
“โห…ค่ามานาของทักษะเมจสูงเกินไปจริง ๆ ข้าใช้แค่ไม่กี่คาถา มานาของข้าเกือบจะหมดหลอดแล้ว”
“ไอ้หมีตัวนี้มันหนักเกินไป กระดูกข้อเท้าข้าร้าวแล้ว…”
มีเพียงเอลีน่าเท่านั้นที่ไม่มีความสุข
“ทำไมข้าถึงช่วยพวกเจ้าไม่ได้? หมีดำตัวนั้นจะหายไปทันทีที่โดนหอกแห่งชัยชนะจากข้าเพียงหอกเดียว” เธอบ่นอย่างไม่มีความสุข
“เพราะมีแต่เจ้าเท่านั้นที่สามารถใช้เวทรักษาได้ไง” โกวต้านพูดด้วยรอยยิ้ม
"ถูกต้อง เจ้าเท่านั้นที่ช่วยเราได้เมื่อเราบาดเจ็บ“เอ็ดเวิร์ดเห็นด้วย”ก่อนอื่นเจ้าช่วยโจหน่อยเถอะ ข้อเท้าเขากำลังบวมเหมือนหมูแล้ว”
“ไม่เป็นไรข้ายังไปต่อได้…” โจตบหน้าอกตัวเองอย่างมั่นใจ แต่ในไม่ช้าใบหน้าเขาก็เปลี่ยนสี “เดี๋ยวก่อน อาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าจะลดค่า STR และค่า AGI จริงเหรอ!”
“อย่าขยับ บาดเจ็บแค่นี้ข้ารักษาได้” เอลีน่ารีบรักษาข้อเท้าของโจอย่างสง่างามตามเอฟเฟกต์ของทักษะ จากนั้นเธอก็หันไปพูดกับเจสสิก้าซึ่งเป็นนักบวชว่า “พี่เจสสิก้า พี่รีบอัพเลเวลและเรียนทักษะรักษาเร็ว ๆ นะ ข้าจะได้ไม่ต้องแอบอยู่ข้างหลังและเฝ้าดูพวกเขาสู้ตลอดเวลา”
“เข้าใจแล้วจ้า ท่านนักบุญหญิงผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเรา~” เจสสิก้าลูบหัวเล็ก ๆ ของเอลีน่าพลางยิ้มแย้มแจ่มใส
ในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวพักกินข้าวเที่ยงกันอย่างมีความสุข ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ดังแว่วมาจากที่ไกล ๆ
“อืม เราควรทำตามวิวรณ์ของเทพเจ้าแห่งเกมให้เสร็จเร็ว ๆ” เอ็ดเวิร์ดหยุดคิดพักหนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาหรอก”
<ติ้ง!>
<เริ่มเควสเสริม: ช่วยเหลือคาราวานพ่อค้า>
<ภารกิจนี้มีเวลาจำกัด โปรดทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด>
เอ็ดเวิร์ด “…”
-------------------------------------------------