ตอนที่ 18 ปัญหาของหมิงซี่หยิน
ตอนที่ 18 ปัญหาของหมิงซี่หยิน
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย
ลู่โจวในตอนนี้ขมวดคิ้วในทันทีเมื่อมองเห็นหมิงซี่หยิน ศิษย์คนที่สี่ของเขามีค่าความจงรักภักดีลดลงเหลือที่ 58% เท่านั้น นี่จะต้องเกิดปัญหาอะไรบางอย่างขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลู่โจวก็ทำได้เพียงเฝ้ารอความจริงที่จะถูกเปิดเผยเท่านั้น ตัวเขาจะกระโตกกระตากร้อนตัวไปไม่ได้
ในขณะเดียวกันนั้นเอง หมิงซี่หยินที่เห็นอาจารย์ของเขาจึงได้พูดรายงานออกมา "หลังจากที่จัดการกับพวกโจรภูเขาไป ศิษย์ก็ได้ส่งจดหมายกลับมาให้อาจารย์ หลังจากนั้นศิษย์ก็ได้ไปที่หุบเขาพยัคฆ์เพื่อที่จะพบกับน้องแปด...ไม่สิ ศิษย์ไปพบกับเจ้าคนทรยศอย่างซู่ฮ่องกงมา! ศิษย์ได้สอนบทเรียนที่มีค่าให้กับมันไปแล้วครับท่านอาจารย์"
หมิงซี่หยินที่รายงานภารกิจเสร็จหมดแล้วได้แต่รอการตอบโต้ของลู่โจว แต่เมื่อยังเห็นใบหน้าของผู้เป็นอาจารย์ยังไร้อารมณ์ใดๆ อยู่ ในตอนนั้นเองหมิงซี่หยินจึงรีบพูดเสริมออกมา "ท่านอาจารย์ ทุกคำที่ศิษย์พูดล้วนแต่เป็นความจริง ศิษย์ไม่กล้าที่จะโกหกท่านอาจารย์หรอกครับ"
"เจ้าน่ะทำได้ดีมาก! "
"ขอบคุณครับท่านอาจารย์"
"แต่ว่า..."
คำว่า "แต่ว่า" ของท่านอาจารย์ทำให้หมิงซี่หยินรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก หัวใจเขาเริ่มเต้นผิดจังหวะมากขึ้น มากขึ้นในระหว่างที่มองไปยังผู้เป็นอาจารย์คนนี้
ลู่โจวในตอนนี้ยังคงพูดต่อไปอีกว่า "แล้วเรื่องการลักพาตัวครองครัวของศิษย์น้องเล็กล่ะ เจ้าได้ความมายังไงบ้างหรอ? "
"ท่านอาจารย์ ศิษย์กำลังสืบความให้อยู่ครับ ซู่ฮ่องกงได้บอกกับศิษย์ไว้ว่าเจ้านั่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ศิษย์เองก็คิดมาอย่างรอบคอบแล้วว่าเจ้านั่นคงจะไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องทำแบบนี้ แม้ว่าเจ้านั่นจะทรยศท่านอาจารย์แต่ยังไงซะมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับครอบครัวของศิษย์น้องหญิงเลย ข้าคิดว่าเจ้านั่นเองก็คงไม่กล้าที่จะทำเรื่องชั่วร้ายถึงขนาดเล่นงานครอบครัวของศิษย์น้องหญิงได้อย่างแน่นอน"
ลู่โจวที่ได้ฟังแบบนั้นก็พยักหน้าให้
"แล้วเจ้าน่ะยังมีเรื่องอื่น...นอกเหนืออะไรที่ยังไม่ได้บอกข้าไหม? "
"ศิษย์ได้ขอให้ซู่ฮ่องกงสืบเรื่องในครั้งนี้ต่อไป พวกเราจะไม่หยุดจนกว่าจะเจอกับผู้บงการตัวจริงให้ได้! "
"แล้ว? "
"ฮะ? "
"เจ้าน่ะยังปิดบังอะไรอยู่สินะ เจ้าน่ะพูดอะไรกับซู่ฮ่องกงกันแน่ ฮะ? "
หมิงซี่หยินที่ได้ฟังแบบนั้นแล้วหัวใจของเขาก็เต้นรั่วมากยิ่งขึ้น 'ท่านอาจารย์มีตาทิพย์หรือยังไงกัน? นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง? '
หรือเป็นเพราะว่าวรยุทธ์สุดลึกล้ำของท่านอาจารย์จึงทำให้เขาสามารถรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่ชอบมาพากลแบบนี้ได้
"ท่านอาจารย์ พวกเราไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่องอื่นๆ จริงๆ ครับ! " หมิงซี่หยินรู้ดีว่าตัวเขาไม่อาจจะยอมรับความจริงในครั้งนี้ได้ และก็เพราะแบบนั้นแล้วตัวเขาจึงจะต้องซ่อนความจริงในครั้งนี้เอาไว้ ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรตัวเขาก็จะต้องทำ
เมื่อได้ยินแบบนั้น ลู่โจวก็รู้ได้ทันทีว่าหมิงซี่หยินคนนี้คงจะไม่ยอมแพ้บอกความจริงออกมาง่ายๆ แน่ ดังนั้นตัวเขาจึงได้ส่ายหัวก่อนที่จะพูดอะไรออกมา "ลืมมันไปซะเถอะ! ถ้าหากเจ้าไม่ต้องการบอกข้า ข้าผู้ที่เป็นอาจารย์เห็นทีจะบังคับอะไรเจ้าไม่ได้ แต่ครั้งนี้เจ้าน่ะทำงานได้ดีมาก ไปช่วยศิษย์พี่ของเจ้าซ่อมแซมม่านพลังต่อไปก็แล้วกัน ถ้าหากข้าต้องการอะไรข้าจะเรียกใช้เจ้าเอง"
"ศิษย์เข้าใจแล้วครับท่านอาจารย์! " หมิงซี่หยินมองไปที่ทางซ้ายและทางขวา ตัวเขานั้นไม่เห็นศิษย์น้องเล็กอย่างหยวนเอ๋ออยู่เลย ก่อนที่หมิงซี่หยินจะจากไป เขาก็ได้หยุดเดินก่อนที่จะถามอะไรบางอย่างออกมา "แล้วศิษย์น้องเล็กไปไหนแล้วหรอครับ? "
"มันไม่ใช่ธุระอะไรของเจ้า"
"ศิษย์เข้าใจแล้วครับท่านอาจารย์! "
ลู่โจวได้หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาที่พบในศาลาปีศาจลอยฟ้า เขาได้นั่งตัวลงที่โต๊ะน้ำชาก่อนที่จะเริ่มอ่านมันในทันที และเพราะว่าตัวเขาไม่ได้สั่งการอะไรอีกต่อไป หมิงซี่หยินที่ไม่มีอะไรแล้วจึงออกจากศาลาไป
ลู่โจวได้เหลือบตามองหมิงซี่หยินอีกครั้งในระหว่างที่เขากำลังเดินจากไป
'เจ้าหมอนี่จะต้องซ่อนความลับอะไรเอาไว้แน่'
'หรือว่าหมิงซี่หยินจะแอบลอบโจมตีฉันเหมือนกับโจวจี้เฟิงกัน? แต่ทำไมฉันจะต้องกลัวด้วยล่ะ เพราะยังไงซะตอนนี้ฉันยังมีการ์ดประกันชีวิตและการ์ดระเบิดจุดสุดยอดอยู่? '
"หมิงซี่หยิน เจ้าน่ะมีอะไรที่จะพูดอีกไหม? "
หมิงซี่หยินได้เดินวกกลับมาก่อนที่จะกำหมัดและคุกเข่าลง ตัวเขาที่ทำแบบนั้นได้พูดอะไรบางอย่างออกมา "ท่านอาจารย์ ศิษย์กำลังฝึกฝนเคล็ดวิชาเวหาพงพนาจนถึงขั้นสุดท้ายแล้ว แต่ศิษย์ไม่เข้าใจแก่นแท้ของเคล็ดวิชานี้ได้เลย ที่ขั้นสุดท้ายนั้นมันมีอุปสรรคอะไรบางอย่างอยู่ ศิษย์อยากที่จะให้ท่านอาจารย์ชี้แนะแก่ศิษย์"
'เขากำลังทดสอบฉันอยู่...'
ลู่โจวรู้ดีว่าจีเทียนเด๋านั้นจงใจที่จะไม่สอนเคล็ดวิชาเวหาพงพนาทั้งหมดให้กับหมิงซี่หยิน และถ้าหากตัวเขาได้ให้เคล็ดวิชาเวหาพงพนากับหมิงซี่หยินขั้นสุดท้ายไป เขาจะต้องใช้เวลาไม่นานในการฝึกฝนจนไปถึงขั้นสุดท้ายอย่างแน่นอน หมิงซี่หยินนั้นเป็นคนที่มีพรสวรรค์อันร้ายกาจ
และถ้าหากเป็นแบบนั้นจริงๆ ตัวเขาเองนั่นและที่จะตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น
เมื่อคิดได้แบบนั้นแล้วลู่โจวก็ได้กระแอมหนึ่งครั้งก่อนที่จะพูดออกมา "หมิงซี่หยิน เจ้าน่ะรู้ไหมว่าอะไรที่จะยิ่งใหญ่และสำคัญไปกว่าเคล็ดวิชาวรยุทธ์ สิ่งนั้นก็คือความอดทนยังไงล่ะ เบื้องหลังของเหล่ายอดฝีมือนั้นจะต้องฝึกฝนการทำสมาธิรวมไปถึงฝึกตัวเองอย่างหนักมากว่าหลายร้อยปี แต่เจ้าในตอนนี้น่ะยังเป็นแค่เด็กที่เพิ่งจะรู้จักหัดเดินที่เพิ่งจะอายุหกสิบปีเท่านั้น เพราะอะไรกันที่เจ้าอยากจะรีบร้อนไปสู่ระดับสูงสุดแบบนั้นกัน? "
"เอ่อ..."
"ยิ่งไปกว่านั้นการรับรู้ของเจ้าในตอนนี้น่ะกำลังจะถึงขีดจำกัดเข้าไปทุกที ถ้าหากการรับรู้ของเจ้ามันดีพอจริง ตอนนี้เจ้าก็คงไม่หลงผิดและทำลายความอดทนตัวเองแบบนี้แน่นอน"
หมิงซี่หยินที่ไม่สามารถเถียงอะไรได้ได้โค้งคำนับให้กับลู่โจวก่อนที่จะพูดขึ้น "ท่านอาจารย์ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ! ศิษย์ผู้โง่เขลาไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อนเลย" หลังจากนั้นหมิงซี่หยินก็เงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะพูดต่อไปอีก "ท่านอาจารย์ ศิษย์ยังไม่เข้าใจกระบวนท่าเพลงหมัด ดูเหมือนว่าศิษย์จะใช้กระบวนท่าไม่ถูกต้อง ศิษย์อยากให้ท่านอาจารย์ช่วยชี้แนะศิษย์ผู้โง่เขลาคนนี้หน่อย"
'ฮึ? ' ดวงตาของลู่โจวจับจ้องไปที่ใบหน้าของหมิงซี่หยิน 'เขาคนนี้จะต้องได้ฟังซู่ฮ่องกงใส่ร้ายตัวฉันมาอย่างแน่นอน และเพราะแบบนั้นเองสินะเขาจึงกลับมาทดสอบตัวฉันแบบนี้...'
ลู่โจวในตอนนี้ไม่มีอะไรที่จะพิสูจน์ตัวเองได้เลย และตัวเขาเองก็คงไม่อาจใช้การ์ดระเบิดจุดสุดยอดเพียงแค่เพื่อแสดงกระบวนท่าเพลงหมัดเพื่อชี้แนะกับศิษย์คนนี้ได้
แต่ถึงแบบนั้นถ้าหากตัวเขาปฏิเสธไปศิษย์คนนี้จะต้องเกิดสงสัยในตัวของเขามากขึ้นอย่างแน่นอน
แล้วฉันจะไปชี้แนะอะไรเจ้าหมิงซี่หยินได้กัน? ตอนนี้ลู่โจวยังมีวรยุทธ์อยู่แค่ขั้นสังหรณ์หยั่งรู้เพียงเท่านั้น ตัวเขาคงจะชี้แนะลูกศิษย์ที่มีวรยุทธ์อยู่ในขั้นศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้แน่ นี่เป็นเหมือนกับการให้เด็กน้อยด้อยประสบการณ์ไปสอนผู้ใหญ่ยังไงยังงั้น
"ท่านอาจารย์ครับ? " หมิงซี่หยินยังคงเร่งเร้า
ลู่โจวที่จะต้องตอบแล้วได้ถามออกไป "แล้วส่วนไหนล่ะที่เจ้ายังใช้ไม่ถูกต้องกัน? "
"ศิษย์คิดว่าตัวศิษย์ยังใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดจากกระบวนท่าหมัดกระบวนท่านี้ออกมาไม่ได้ ดูเหมือนว่าศิษย์ยังรู้สึกติดๆ ขัดๆ ในตอนที่ใช้กระบวนท่าอยู่"
ในตอนนั้นเองลู่โจวก็ได้พยักหน้าของตัวเขา "เอาล่ะ ไหนลองแสดงให้ข้าดูสิ"
"ได้ครับท่านอาจารย์" หมิงซี่หยินได้ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ผ้าคลุมสีฟ้าของเขาที่ด้านหลังรวมไปถึงผมที่ดกยาวของชายคนนี้ทำให้ตัวเขาดูขึงขังมากกว่าครั้งไหนๆ
ในระหว่างที่หมิงซี่หยินยืนตรง ตัวเขาก็ได้ใช้ขาแตะพื้นไปอย่างเบาๆ ก่อนที่จะบินออกจากศาลาไปอย่างรวดเร็วราวกับนกนางแอ่น ทันทีที่เท้าของเขาแตะพื้นอีกครั้ง สายลมจากการใช้เท้าซ้ายเตะอากาศก็พัดผ่านไปที่กำปั้นซ้ายที่ได้ถูกปล่อยออกไป จากนั้นสายลมนั่นก็พัดผ่านไปที่กำปั้นทางด้านขวา
เพลงหมัดที่ทรงพลังนั้นทำให้พลังที่ออกมาจากเพลงหมัดแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง ตอนนี้ที่รอบตัวของหมิงซี่หยินนั้นเต็มไปด้วยพลังมหาศาลแล้ว หลังจากที่ได้ปล่อยหมัดไปอีกหลายครั้ง หมิงซี่หยินก็ได้ลอยไปกลางอากาศก่อนที่จะพูดขึ้น "ท่านอาจารย์! นี่คือกระบวนท่าเพลงหมัด! "
ลู่โจวในตอนนั้นไม่ได้เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
'เจ้านี่มันกล้าโจมตีฉันเลยอย่างงั้นหรอ? ' ในตอนนั้นเองเขาจ้องมองไปที่หมิงซี่หยินอย่างไม่คาดสายตา ในตอนนั้นเองกระบวนท่าเพลงหมัดที่ถูกปล่อยออกนับร้อยนับพันครั้งก็มารวมตัวกันที่กลางอากาศจนเป็นหนึ่งเดียว ตอนนั้นเองมันก็กำลังพุ่งใส่เป้าหมายที่หมิงซี่หยินได้เล็งเอาไว้!
ตู้ม!
คลื่นพลังอันทรงพลังได้พุ่งชนเข้ากับกำแพงหน้าผาตรงหน้า ในตอนนั้นเองทำให้ก้อนหินถล่มลงมาจากหน้าผาแห่งนั้น หินที่ถูกพลังทำลายจู่โจมได้แตกกระจายจนกลายเป็นห่าฝนหินขนาดย่อมๆ
นั่นมันเป็นหมัดที่ทรงพลัง!
หมิงซี่หยินได้ร่อนลงมาตรงพื้นดิน ในตอนนั้นเองฝนที่เต็มไปด้วยเศษหินก้อนเล็กๆ ก็ยังคงตกลงมา จะต้องใช้เวลาไปอีกสักพักกว่าที่เสียงหินทั้งหมดจะเงียบลง
"ท่านอาจารย์ ช่วยชี้แนะข้อบกพร่องของศิษย์ด้วย"
ถ้าหากจะให้ลู่โจวพูดความจริงออกมา ตัวเขานั้นก็คงจะบอกได้อย่างเดียวว่าไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ด้วยสายตาของเขาในตอนนี้การที่จะตามความเร็วของหมิงซี่ทันยังคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ระดับวรยุทธ์ของทั้งสองคนมันแตกต่างกันมากเกินไป ความเร็วหมัดที่ถูกปล่อยออกมานั้นมันรวดเร็วจนเกินไป พลังที่ถูกปล่อยออกมาจากเพลงหมัดทั้งหมดถูกรวมเป็นหนึ่งเดียวก่อนที่จะถูกปล่อยออกไป
แล้วฉันจะแนะนำอะไรได้กันล่ะ?
ลู่โจวเริ่มค้นหาความทรงจำในตัวของเขา รูปแบบเพลงหมัดกระบวนท่านี้ถูกจีเทียนเด๋าสอนให้กับหมิงซี่หยินด้วยตัวเอง แต่แน่นอนว่าจีเทียนเด๋าไม่ได้สอนกระบวนท่าสุดท้ายให้เหมือนกับเคล็ดวิชาอื่นๆ
ดูเหมือนว่ากระบวนท่าเพลงหมัดของหมิงซี่หยินนั้นจะไม่มีข้อผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่เพลงหมัดนั้นยังไปไม่ถึงขั้นสุดท้าย ดังนั้นพลังของเพลงหมดจึงลดลงอย่างมากนั่นเอง
ในช่วงท้ายของวันนี้ก็จะมีแต่ต้องเลือกเท่านั้น
ลู่โจวในตอนนี้นึกถึงคำพูดหนึ่งที่เคยพูดเอาไว้ 'ศิษย์คิดล้างครู' คำพูดนี้ก็คงจะมีที่มาจากอะไรแบบนี้อย่างงั้นสินะ
ลู่โจวได้ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดออกมา "เจ้าน่ะได้ฝึกฝนกระบวนท่าเพลงหมัดนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ข้าน่ะไม่เห็นข้อผิดพลาดอะไร"
"ฮะ? "
"หมิงซี่หยิน..." ลู่โจวได้เดินไปใกล้ๆ ก่อนที่จะยกมือขึ้นมา และเพราะแบบนั้นเองทำให้หมิงซี่หยินรู้สึกตื่นตกใจ
เพียะ!
หมิงซี่หยินที่เห็นแบบนั้นรีบคุกเข่าลงก่อนจะพูดว่า "ศะ...ศิษย์ผิดไปแล้ว...ได้โปรดอย่าถือสาศิษย์เลย! "
ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นได้ใช้มือลูบเคราก่อนจะถอนหายใจออกมา ตัวเขายังคงพูดต่อไปอีกว่า "ข้าน่ะเห็นทีจะรู้แต่วิธีการสอนวรยุทธ์ให้กับพวกเจ้า แต่ข้าน่ะไม่เคยสอนพวกเจ้าถึงวิธีการปฏิบัติตัวเลย เจ้าน่ะอาจจะใช้วิธีการแบบนั้นหลอกล่อเด็กเมื่อวานซืนบางคนได้ แต่เจ้าน่ะหลอกข้าไม่ได้หรอกนะ! "
"ศิษย์ผิดไปแล้ว! ศิษย์ไม่กล้าหลอกลวงท่านอาจารย์แม้แต่น้อย! " หมิงซี่หยินได้ก้มต่ำลงไปอีก เหงื่อที่ไหลอาบหน้าของเขาไหลออกมาอย่างไม่หยุดพัก 'ท่านอาจารย์มองออกแต่แรกอยู่แล้ว! ท่านอาจารย์รู้แล้วสินะว่าข้าคิดสงสัยเคลือบแคลงใจในตัวท่าน'
"เจ้าสาม! " ลู่โจวได้ตะโกนขึ้น ที่เสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยพลังอะไรบางอย่าง และก็เป็นไปตามที่ตัวเขาคิดเอาไว้ ด้วนมูเฉิงก็ได้ลอยออกมาปรากฏตัวใกล้ๆ ตัวเขา
"สวัสดีครับท่านอาจารย์! "
"เจ้าน่ะคิดว่าจะซ่อนตัวไปได้อีกนานแค่ไหนกันฮะ? "
"ได้โปรดอภัยให้กับศิษย์ด้วยท่านอาจารย์! " ด้วนมูเฉิงได้คุกเข่าลงเช่นกัน ตอนนี้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
ในระหว่างที่ลู่โจวได้จ้องมองไปที่เหล่าศิษย์ทั้งสองที่กำลังสั่นกลัวอยู่ ตัวเขาก็รู้ได้ทันทีว่าจีเทียนเด๋าในอดีตจะต้องปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความหวาดกลัวให้กับเหล่าศิษย์สาวกของเขาอย่างแน่นอน และเพราะแบบนั้นแล้วลูกศิษย์ของเขาที่เป็นวายร้ายอยู่แล้ว เมื่อพวกเขาจนมุมพวกเขาก็จะแว้งกัดกลับมาเหมือนกับในตอนนี้นั่นเอง
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย