บทที่ 112
อรุณเริ่มลาลับขอบฟ้า ผู้คนด้านในค่ายต่างเตรียมตัวรับศึกของค่ำคืนนี้ กำลังเสริมจากสำนักมังกรผยองราชันมีเพิ่มเข้ามาเกือบสามร้อยคน บวกกับกำลังทหารที่ตามมาสมทบอีกห้าร้อยนายที่ดักซุ่มอยู่ด้านนอกเจ้าสำนักหานเจิ้งเปาส่งคนออกไปลาดตระเวนรอบค่าย ในกระโจมใหญ่เหล่าผู้นำต่างถูกเรียกเข้าประชุมอีกครั้งเพื่อวางแผนรับมือ เนี่ยฟงและหยางเวยถูกเชิญเข้าร่วมเพราะฝีมือในการสังหารโจรร้ายเมื่อคืน ในกระโจมใหญ่มีเหล่าผู้อาวุโสผู้นำกลุ่มและชายหนุ่มหลายคนที่เข้าร่วมประชุมด้วย หลายคนหันมามองเนี่ยฟงและหยางเวยด้วยความสงสัย
การประชุมเป็นไปอย่างน่าเบื่อ หลายคนกล่าวอวดอ้างฝีมือของกลุ่มตน บางครั้งก็มีทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง การประชุมจึงล่าช้าเข้าไปอีก ในที่สุดเนี่ยฟงและหยางเวยก็ขอตัวออกมาด้านนอกก่อน ทั้งสองมุ่งหน้าไปหาอะไรทานที่กระโจมเสบียง ในระหว่างทางก็มีชายหนุ่มสี่คนสวมชุดสำนักมังกรผยองราชันเดินเข้ามาขว้างทาง เป็นหยางเวยเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ท่านเจ้ามีธุระอะไรหรือไม่ หากไม่รบกวนหลีกทาง”
ชายผู้หนึ่งในสี่คนกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว
“ธุระพวกข้าทั้งสี่ตอนนี้ยังไม่มี แต่หากพวกข้าทั้งสี่ไม่หลีกทางเล่า”
หยางเวยยกยิ้มหันไปมองเนี่ยฟงหลังจากนั้นก็หันหลังกลับไป เนี่ยฟงได้แต่ส่ายศีรษะไปมาหันหลังตามหยางเวยไป ด้านหลังชายหนุ่มทั้งสี่ก็หัวเราะออกมาดังลั่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็ไม่เท่าไหร่นี้หว่า ไหนใครกล่าวว่าพวกมันทั้งสองเก่งกาจสังหารพวกโจรได้เยอะ เหอะ ไม่เห็นพวกมันจะมีพิษสงอันใด ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เสียงตะโกนหัวเราะเยาะเย้ยดังมาจากชายหนุ่มทั้งสี่ หยางเวยเดินนำเนี่ยฟงออกไป ทั้งสองเดินออกจากค่ายไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่ใช้พัก หยางเวยจัดการก่อไฟย่างเนื้อสัตว์อสูรโดยหาได้สนใจใครหลายคนที่จ้องมองอย่างไม่วางตา
“ข้าแปลกใจยิ่งนักที่เห็นเจ้าทำแบบนี้หยางเวย”
“รอให้พวกโจรบุกก่อนเถอะ คนเหล่านั้นจะกล่าวสิ่งใดไม่ออก”
หยางเวยหาได้กล่าวสิ่งใดต่อ นั่งย่างเนื้อสัตว์อสูรต่อไปเรื่อย ๆ หลังจากทานเนื้อสัตว์อสูรย่างจนอิ่มหยางเวยก็จัดเก็บทำความสะอาดบริเวณไม่นานก็พุ่งขึ้นไปนั่งโคจรลมปราณบนกิ่งไม้ พร้อมกับเนี่ยฟงรอเวลาพวกโจรบุกเข้ามา เสียงโบกสะบัดมือขวาดังขึ้น วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ปรากฏออกมา บดบังทั้งสองหายไปจากสายตาผู้คน ความเงียบค่อยๆเข้าปกคลุมบริเวณ ผู้คนด้านในค่ายต่างดับไฟเฝ้ารอเวลาอยู่กระโจม เกือบสองชั่วยามไม่นานก็ไร้ซึ่งแสงดวงจันทร์เพราะถูกบดบังจากเมฆก้อนใหญ่ เสียงตะโกนโห่ร้องดังมาจากบนเขา พร้อมกับเสียงย่ำเท้าพุ่งลงมา ทันทีที่เมฆก้อนใหญ่ถูกสายลมพัดพาออกไป กลุ่มโจรกลุ่มใหญ่ก็พุ่งทะยานลงมาจากบนเขา
อักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงปรากฏขึ้น มันขยายครอบคลุมไปทั่วทั้งเขตค่าย เหล่าผู้นำกลุ่มต่างๆนำบรรดาลูกน้องออกมาเผชิญหน้า หัวหน้าโจรเงามายาและเจ้าสำนักหานเจิ้งเปาจ้องมองกันอย่างไม่วางตาเช่นกัน ส่วนเนี่ยฟงและหยางเวยยังคงนั่งมองอยู่บนกิ่งไม้เช่นเดิม ไม่มีเสียงกล่าวใดๆดังแว่วออกมา เสียงโบกสะบัดมือนำอาวุธคู่ใจออกมาถือไว้ในมือแน่น ชั่วน้ำเดือดทั้งสองฝ่ายก็พุ่งเข้าปะทะกัน พวกโจรโบกสะบัดมือนำก้อนบางอย่างกลมๆออกมาถือไว้ ทันทีที่เข้ามาในระยะก็ขว้างก้อนกลมในมือลงพื้น ตูม ตูม ตูม ตูม เสียงระเบิดดังสนั่น ควันพิษสีเทาพุ่งโพยออกมา หลายคนตะโกนออกมาเสียงดัง
“บัดซบ พวกมันเล่นลูกไม้”
“อย่างสูดดมเข้าไป ควันมีพิษ”
“ไอ้สารเลวเอ๊ย”
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ปราณดาบและปราณฝ่ามือพุ่งออกจากกลุ่มโจรหลายสิบคน พุ่งเข้าหากลุ่มควันสีเทา เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังออกมาจากกลุ่มควัน เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาด้วยเช่นกัน ปราณฝ่ามือขนาดใหญ่ถูกซัดออกมาจากผู้อาวุโส ควันพิษสีเทาพุ่งย้อนเข้าหาพวกโจร ต่างกระโดดหลบหนีกันจ้าละหวัน
“ปล่อยให้เด็กๆจัดการกันเถอะ ข้าจะเล่นกับไอ้แก่พวกนี้ก่อนก็แล้วกัน”
เสียงตะโกนดังออกมาจากชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งที่ไม่ได้ปรากฏกายเมื่อคืน เมื่อกล่าวเสร็จก็พุ่งเข้าหากลุ่มผู้นำทันที พลองเหล็กถูกเรียกออกมาถือไว้ในมือ มันถูกกวัดแกว่งอย่างคุ้นชิน เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ชายผู้นั้นลงมืออย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทุกครั้งที่ลงมือ ผู้อาวุโสคนที่เป็นเป้าหมายต่างถูกทุบตีไม่ต่างจากเด็กน้อย
“หยางเวยเจ้าคอยคุ้มกันข้า ข้าจะวางประทับอักขระศักดิ์สิทธิ์”
“ได้ เจ้านำทางเถอะ”
เนี่ยฟงพุ่งทะยานลงไปติดตามมาด้วยหยางเวย ที่ตอนนี้ถือมีดอันแปลกประหลาดอยู่ในมือ เนี่ยฟงพุ่งผ่านไปมาเพื่อโบกสะบัดมือขวา แอบประทับอักขระศักดิ์สิทธิ์ตามร่างกายพวกโจรที่มีพลังฝีมือสูงระดับสีแดงขึ้นไป แน่นอนว่าเนี่ยฟงต้องใช้ความแม่นยำและว่องไว อีกทั้งยังแอบใช้หยางเวยบดบังสายตา ส่วนหยางเวยนั้นก็ต้องฟาดฟันมีดในมือป้องกันพวกโจรที่บุกเข้ามา จากที่สังหารพวกโจรเมื่อคืนทำให้ทั้งสองเป็นที่หมายหัวพอสมควร หยางเวยต้องรับศึกหนักสามต่อหนึ่ง ปราณพิษถูกระเบิดออกมาทั่วร่าง หลังจากทั้งสามได้รับพิษก็ถึงหยางเวยสังหารลงทันที
ทั้งสองยังคงวิ่งวนไปมาทั่วสนามรบ ทหารที่ดักซุ่มอยู่ก็เริ่มที่จะกระชับวงล้อมเข้ามา ไม่นานก็ล้อมคนของค่ายโจรทั้งหมด แต่ทว่าก็ล้อมอยู่ได้ไม่นานก็ต้องวิ่งหนีกันแตกกระเจิง ฝ่าเท้าขนาดใหญ่จากบนฟ้าพุ่งลงมาเหยียบย่ำเหล่าทหารด้านล่างเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ทั้งหมดเป็นน้ำมือของหัวหน้ากลุ่มโจรเงามายา เจ้าสำนักหานเจิ้งเปาคำรามออกมาเสียงดัง ซัดฝ่ามือเข้าหาหัวหน้ากลุ่มโจรทันที ต่างฝ่ายต่างซัดฝ่ามือเข้าหากันเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เหล่าทหารที่แตกกระเจิงพุ่งเข้าประจำที่ ใช้หอกเหล็กปลายแหลมในมือจ้วงแทงพวกโจรที่ถูกซัดกระเด็นออกมา
สัตว์อสูรส่งเสียงร้องคำรามพุ่งเข้าปะทะกันเสียงดังลั่น ยิ่งปะทะกันนานยิ่งดุเดือด ปราณดาบและปราณฝ่ามือปลิวว่อน เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เนี่ยฟงยังคงแอบประทับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์เช่นเดิม เมื่อทุกอย่างประทับเสร็จสิ้นหลงเหลือเพียงหัวหน้ากลุ่มโจรเงามายาเท่านั้น เนี่ยฟงก็รีบโบกสะบัดมือขวาถือมีดสั้นมาไว้ที่มือพุ่งเข้าปะทะพวกโจรที่รุมล้อมหยางเวย มีดสั้นวาดผ่านลำคอพวกโจรไปอย่างรวดเร็ว หยางเวยเมื่อเห็นเนี่ยฟงพุ่งเข้ามาช่วยเหลือก็เอ่ยถามออกไป
“แผนการของเจ้าเสร็จสิ้นแล้วใช้หรือไม่”
“แน่นอนเหลือเพียงแค่หัวหน้ากลุ่มโจรเท่านั้นที่ยังเข้าไม่ถึงตัว”
หยางเวยระเบิดปราณพิษออกมาเต็มกำลังอีกครั้ง เก็บมีดอันแปลกประหลาดเรียกถุงมือไหมออกมาสวมใส่ ในจังหวะนั้นเองสัตว์อสูรกลุ่มใหญ่จากพวกโจรก็พุ่งเข้าหาชายหนุ่มทั้งสอง เป็นฝูงสัตว์อสูรแรดเขาดำจำนวนหกตัวพุ่งเข้ามา ชายหนุ่มทั้งสองหาได้มีความหวาดกลัวไม่ พุ่งเข้าปะทะเช่นกัน หมัดขวาถูกง้างออกมา วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏออกมาก่อนที่จะปะทะ เปรี้ยง เปรี้ยง สัตว์อสูรแรดเขาดำสองตัวกลายเป็นแสงพุ่งเข้าหาร่างผู้เป็นนาย ติดตามมาด้วยฝ่ามือสีม่วงเข้าปะทะด้วยเช่นกัน เปรี้ยง เปรี้ยง เส้นทางที่ทั้งสองพุ่งผ่านมีแต่ความตาย โจรหลายสิบคนตกตายไปเพราะมีดสั้นและหมัดของชายหนุ่มทั้งสอง
สถานการณ์เริ่มแปรเปลี่ยนหลังจากที่ทั้งสองเข้าร่วมการต่อสู้ กลุ่มโจรหลายร้อยคนถูกสังหารด้วยน้ำมือของชายหนุ่มเพียงสองคน หัวหน้าโจรเงามายาหวังจะเข้าไปสังหารชายหนุ่มทั้งสองให้ตกตายคามือ แต่ก็กระทำไม่ได้เพราะเจ้าสำนักมังกรผยองราชันเฝ้าติดตามตัวแจ ผ่านไปเกือบชั่วยามเห็นว่าหากไม่หลบหนีมีหวังจบสิ้นเป็นแน่ จึงตะโกนเสียงดังให้กลุ่มโจรของตนหลบเข้าไปในค่าย ชั่วน้ำเดือดเหล่าโจรร้ายก็พุ่งทะยานหลบหนี เนี่ยฟงรีบเก็บมีดสั้นในมือโบกสะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏอยู่ที่พื้น พร้อมกับนำก้อนหินจำนวนมากโยนไปที่กลางวงอักขระศักดิ์สิทธิ์
หยางเวยตั้งท่าพร้อมง้างหมัดขวารอเวลาบางอย่าง ชั่วน้ำเดือนเกิดบางอย่างเกิดขึ้น อยู่ๆชายผู้หนึ่งที่เป็นพวกโจรเงามายาปรากฏกายออกมา หยางเวยที่ตั้งท่ารออยู่แล้วต่อยหมัดขวาเข้าที่ใบหน้าของชายผู้นั้นอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง ศีรษะกระเด็นหลุดออกจากลำคอ ทิ้งศพนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น หลังจากนั้นก็มีพวกโจรปรากฏกายออกมาอย่างต่อเนื่อง