บทที่ 108
ความร้อนจากลาวาใต้ปล่องภูเขาไฟอันร้อนระอุ ชายหนุ่มผู้หนึ่งผมยาวเปลือยกายนั่งโคจรลมปราณอยู่บนพื้นดินด้านบนปล่องภูเขาไฟ ทันทีที่เหงื่อไหลออกมาก็ระเหยกลายเป็นไอหายไปอย่างรวดเร็ว ผิวหนังเริ่มเป็นสีแดงก่ำจากความร้อน ชั่วน้ำเดือดชายหนุ่มผู้นั้นก็ระเบิดพลังปราณออกมาจากร่าง ตูม พลังระดับสีแดงขั้นหนึ่งพุ่งออกมาจากร่าง ผิวหนังเริ่มกลับมาเป็นเช่นเดิม เสียงถอนหายใจดังออกมา หลังจากนั้นก็รีบลุกขึ้นยืนพุ่งทะยานออกไปจากปล่องภูเขาไฟหายเข้าไปหลังก้อนหินใหญ่ ไม่นานก็เดินออกมาเป็นชายหนุ่มสวมชุดสีน้ำตาลมัดผมหางม้ายกยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับพุ่งทะยานลงจากภูเขาไฟอย่างรวดเร็ว
ปราณดาบสีฟ้ามีประกายสายฟ้ารอบล้อมและปราณมีดสีม่วง พุ่งทะยานเข้าหาสัตว์อสูรแมงป่องพิษตัวสีดำทมิฬหลายสิบตัว เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เศษซากจากการถูกทำลายกระจายไปทั่วบริเวณ ชายหนุ่มทั้งสองพุ่งทะยานไปมาประดุจพยัคฆ์ในฝูงแกะ แต่ทว่ากับเป็นฝูงแมงป่องพิษ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ในขณะที่ทั้งสองกำลังเมามันอยู่กับการสังหาร พื้นดินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แมงป่องที่เหลืออยู่ต่างพุ่งถอยหลังออกมา เสียงของแข็งแทงไปบนพื้นดังสนั่น ชั่วน้ำเดือดเงาสีดำขนาดใหญ่ก็ออกมาปกปิดแสงแดดยามบ่าย เสียงโบกสะบัดมือดังแว่วเข้ามาอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าขนาดใหญ่ปรากฏออกมาที่พื้น เถาวัลย์สีฟ้าขนาดใหญ่พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
“หยางเวย พร้อมแล้วใช่หรือไม่”
“แน่นอนข้าพร้อมแล้ว ลุยกันเถอะ”
อสรพิษสีดำขนาดใหญ่ปรากฏออกมาพร้อมกับพุ่งทะยานไปด้านหน้าเคียงคู่ผู้เป็นนาย เถาวัลย์สีฟ้าพุ่งทะยานติดตามทันที ด้านหน้าหยางเวยเป็นสัตว์อสูรแมงป่องพิษสีทองหลังดำทมิฬตัวใหญ่ระดับสีแดงขั้นต้น มันใช้ก้ามทั้งสองทุบไปมาบนพื้นพร้อมกับใช้หางขนาดใหญ่จ้วงแทง เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาต้านรับการโจมตีจากหางได้อย่างทันท่วงที เปรี้ยง หยางเวยตอนนี้พุ่งทะยานไปตามตัวของอสรพิษกระโดดขึ้นไปอยู่บนหลังของแมงป่องอย่างรวดเร็ว ปราณดาบสีฟ้าพุ่งโจมตีด้านนอก เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เถาวัลย์สีฟ้าพุ่งเข้ารัดหางขนาดใหญ่ไว้ แมงป่องสะบัดตัวอย่างรุนแรงหวังหลุดจากเถาวัลย์สีฟ้า
หยางเวยรีบโบกสะบัดมือขวานำถุงมือผ้าไหมคู่หนึ่งออกมาสวมใส่ หลังจากนั้นก็รีบโคจรลมปราณไปที่มือทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ง้างหมัดต่อยไปที่เกราะอันแข็งแกร่งด้านหลังของแมงป่องพิษ ในจังหวะที่หมัดกำลังจะปะทะประกายสายฟ้าก็พุ่งออกมาจากถุงมือผ้าปรากฏเป็นวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ออกมา เปรี้ยง เกราะด้านหลังมีรอยแตกร้าวอย่างเห็นได้ชัด หยางเวยเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มตะโกนออกมาเสียงดัง พร้อมกับกระหน่ำต่อยหมัดทั้งสองเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง
“ขอบใจเจ้ามากสำหรับถุงมือชิ้นใหม่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
แมงป่องดิ้นไปมาเพราะความเจ็บปวด อสรพิษดำยังคงพุ่งเข้าโจมตีพร้อมกับปราณดาบสีฟ้าอยู่ตลอดเวลา ส่วนหางที่เป็นอาวุธร้ายก็ถูกผนึกจากเถาวัลย์สีฟ้า ไม่นานก็ร้องคำรามออกมาเสียงดัง ฝูงแมงป่องพิษนับร้อยต่างออกมารุมล้อมบริเวณการต่อสู้ พวกมันค่อยๆกระชับพื้นที่เข้ามาอย่างช้าๆ เนี่ยฟงที่คอยโจมตีอยู่ด้านนอกรีบร้องตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว
“หยางเวยใช้สิ่งนั้นเร็ว”
หยางเวยหยุดต่อยหมัดพร้อมกับโบกสะบัดมือขวานำแผ่นหยกออกมาถือไว้ในมือขวา เร่งโคจรลมปราณไปที่แผ่นหยกในมือ วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าพุ่งออกมาล้อมตัวหยางเวยหลังจากนั้นก็หายไป เป็นเนี่ยฟงมายืนแทนหยางเวยและหยางเวยไปอยู่ที่ด้านนอก เนี่ยฟงรีบโคจรลมปราณไปที่ดาบอย่างรวดเร็ว สองลมหายใจก็กระโดดฟาดฟันดาบออกไป ปราณดาบสีฟ้ามีประกายสายฟ้าล้อมรอบ พุ่งเข้าปะทะส่วนหัว เปรี้ยง เศษจากการถูกทำลายกระเด็นร่วงลงพื้น พื้นดินแยกออกเป็นรอยดาบขนาดใหญ่ ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย ฝูงแมงป่องพิษรีบแตกตัวหลบหนีหลังจากที่จ่าฝูงถูกสังหาร เสียงตะโกนดังออกมาจากหยางเวย
“มันสุดยอดมากไอ้บ้าเนี่ยฟง ถุงมือไหมของเจ้ามันเพิ่มพลังทำลายอย่างรุนแรง แผ่นหยกนี้ก็สร้างความแปลกใจให้ข้าไม่น้อยเช่นกัน”
“แผ่นหยกใช้เฉพาะความจำเป็น ข้าไม่อยากเปิดเผยความสามารถมากเกิดไป”
หยางเวยพยักหน้าให้พร้อมกับเก็บแผ่นหยกไว้ในแหวน หลังจากเก็บแก่นพลังปราณเสร็จ ทั้งสองก็เดินสำรวจบริเวณพบเป็นถ้ำขนาดใหญ่ของแมงป่องพิษ ตะเกียงไฟถูกจุดและนำออกมาถือให้แสงสว่าง ทั้งสองมุ่งลงไปสำรวจในถ้ำโดยมีอสรพิษสีดำเฝ้าปากทางเข้าไว้ ทั้งสองเดินลึกเข้าไปสองข้างทางพบเศษซากชิ้นส่วนมนุษย์กองอยู่ตามพื้น ไม่นานทั้งสองก็มาพบกับทางแยกสองทาง ทางหนึ่งเล็กแคบเพียงพอให้มนุษย์หลายคนเดินผ่านฝุ่นเกาะอยู่เต็ม ส่วนอีกทางเป็นทางขนาดใหญ่ตามพื้นมีรอยจากขาของแมงป่อง เกราะสายฟ้าปรากฏออกมามันพุ่งเข้าไปในทางเล็กแคบอย่างรวดเร็วไม่นานก็พุ่งกลับออกมา
“มีทางเดินเข้าไปด้านใน”
สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟง ทั้งสองก็เดินหายเข้าไปในทางเล็กแคบด้านข้าง เมื่อเข้าไปด้านในมีทางเดินยาวเกือบหนึ่งเค่อทั้งสองก็เดินทะลุออกมาเป็นห้องโถงใหญ่ตรงกลางมีศิลาจารึกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ รอบด้านไร้ซึ่งสิ่งใดแต่ทว่าเมื่อทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ศิลาจารึก เกราะสายฟ้าก็พุ่งออกมาป้องกันปราณฝ่ามือสีแดงที่พุ่งเข้ามา เปรี้ยง ชายหนุ่มทั้งสองหันไปมองทิศทางที่ฝ่ามือพุ่งออกมา เป็นชายหนุ่มสวมชุดสีน้ำตาลมัดผมหางม้ายืนจ้องมองทั้งสองอย่างไม่วางตา ไม่นานก็เอ่ยวาจาออกมา
“พวกเจ้าเป็นผู้ใดกัน ถึงได้บังอาจบุกรุกที่นี่”
เนี่ยฟงรีบก้มคารวะก่อนกล่าววาจาตอบ
“ต้องขออภัยพี่ชายขอรับ พวกข้าทั้งสองเป็นชาวยุทธทั่วไปที่สนใจเกี่ยวกับศิลาจารึก จึงออกตามหามันเพื่ออ่านและทำความเข้าใจมัน”
ชายหนุ่มผู้นั้นถึงกับตื่นตกใจเอ่ยถามออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ
“เจ้าว่าอย่างไร เจ้าสามารถอ่านมันได้เช่นนั้นรึ”
“แน่นอนขอรับ”
สิ้นเสียงกล่าวของชายหนุ่มด้านหน้า ชายหนุ่มชุดสีน้ำตาลก็ยืนครุ่นคิดบางอย่าง ไม่นานก็เอ่ยวาจาออกมา
“เช่นนั้นเจ้าอ่านศิลาก้อนนี้ได้หรือไม่”
“แน่นอนหากท่านอนุญาต”
“เช่นนั้นเชิญเถอะ”
ไม่รอช้าเนี่ยฟงโบกสะบัดมือขวา ประกายสายฟ้าพุ่งเข้าหาศิลาจารึก มันค่อยปรากฏเป็นอักษรอักขระศักดิ์สิทธิ์ออกมา มันค่อยๆถูกแปลเปลี่ยนเป็นภาษาที่เข้าใจ เนี่ยฟงจ้องมองวงอักขระศักดิ์สิทธิ์อยู่นานหลังจากนั้นก็อ่านแต่ละด้าน ในระหว่างนั้นชายสวมชุดสีน้ำตาลก็เอ่ยถามบางอย่าง
“เป็นอย่างไรบ้างในศิลามันกล่าวถึงวิธีรักษาหรือไม่”
เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วทั้งสองขึ้นหันมากล่าวต่อชายหนุ่มชุดสีน้ำตาล
“จากที่ข้าอ่านมันเป็นเพียงศิลาจารึกข้อมูลการก่อเกิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่และการปะทุระเบิดออกมาทำลายพื้นที่แถบนี้จนหมด อีกทั้งยังกล่าวถึงผู้คนทั้งหมดย้ายหลบหนีไปทางใต้ หาได้มีสิ่งใดกล่าวถึงการรักษาที่ท่านกล่าวไม่”
ชายหนุ่มชุดสีน้ำตาลเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็มีอารมณ์โกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับสบถออกมาเสียงดัง
“บัดซบ พวกเจ้าต้องโกหกแน่ๆ พี่ใหญ่ต้องไม่กล่าววาจาหลอกลวงข้า เช่นนั้นพวกเจ้าก็ทิ้งชีวิตของพวกเจ้าไว้ที่นี่เถอะ”
หยางเวยได้ยินเช่นนั้นก็ตะโกนออกมาเสียงดัง
“เฮ พี่ชาย เหตุใดจึงไร้เหตุผลเช่นนั้นเล่า เพื่อนข้าก็บอกข้อมูลในศิลาจารึกให้ท่านไปแล้ว ข้าว่าท่านคงถูกพี่ใหญ่ท่านหลอกลวงแล้ว”
“ไร้สาระ พวกเจ้าจงทิ้งชีวิตไว้ที่นี่เถอะ”
ชายชุดสีน้ำตาลกำลังจะพุ่งทะยานเข้าหาชายหนุ่มทั้งสอง แต่ทว่าถูกเถาวัลย์สีฟ้ามีประกายสายฟ้าล้อมรอบพุ่งเข้ารัดตัวเสียก่อน เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่น เสื้อผ้าที่สวมใส่ถูกไหม้จนเห็นผิวหนัง พลังปราณระดับสีแดงขั้นต้นพุ่งระเบิดออกมาจากชายหนุ่มชุดสีน้ำตาล เพียงแต่ว่าก็ไม่อาจจัดการกับเถาวัลย์สีฟ้าลงได้ ไม่นานก็ลงไปนอนแน่นิ่งบนพื้นจ้องมองชายหนุ่มทั้งสองอย่างไม่วางตา เนี่ยฟงรีบเดินเข้าไปจับชีพจรที่ข้อมือ ในระหว่างนั้นก็ขมวดคิ้วจ้องมองชายหนุ่มสวมชุดสีน้ำตาล พร้อมกับครุ่นคิดบางอย่าง
“ท่านลุ่ยกง ท่านคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติหรือไม่ขอรับ”
“เด็กหนุ่มผู้นี้น่าเสียดายนักที่อาจต้องจบชีวิตลงอย่างรวดเร็วเพราะอาการผิดปกติทางร่างกาย แต่เจ้าสามารถรักษาได้ เพียงแต่ว่าชายผู้นี้จะยอมรับความจริงที่ว่าต้องฝึกพลังปราณใหม่ทั้งหมดหรือไม่”
เนี่ยฟงลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยบางอย่างออกมา
“พี่ชายข้าไม่รู้ว่าท่านพบเจอสิ่งใดมา ทำให้ร่างกายท่านผิดปกติเช่นนี้ จุดตันเถียนของท่านมีพลังธาตุสองธาตุแอบแฝงอยู่ ตัวข้าสามารถรักษาให้แก่ท่านได้ เพียงแต่ว่าตัวท่านจะต้องฝึกพลังปราณใหม่ทั้งหมด ท่านสนใจหรือไม่”