ตอนที่ 107 ผลักภาระ
ตอนที่ 107 ผลักภาระ
หัวหน้าสมิธดูอ้ำอึ้งกับคำถามที่ได้ยินอยู่บาง แต่เมื่อ NPC คนดังกล่าวได้สบตากับผู้กล้าแปลกหน้าที่อยู่ด้านหลังตรงมุมห้อง หัวหน้าสมิธก็เปลี่ยนท่าทีเป็นความมั่นใจเฉกเช่นเดิมอีกครั้ง ก่อนที่จะเอ่ยปากตอบคำถามที่เหล่าผู้กล้าถามมาในตอนต้น
“การที่พวกท่านเหล่าผู้กล้าไม่รู้จักอาวุธที่สามารถเติบโตได้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะอาวุธที่มีคุณสมบัติแบบนี้ในอาณาจักรกรีนเวต้ามีน้อยยิ่งกว่าน้อยเสียอีก แถมการตีขึ้นรูปของมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ช่างตีเหล็กธรรมดาๆจะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้และจากความรู้และความเข้าใจในการเป็นช่างตีเหล็กมาอย่างยาวนานของข้า สามารถบอกพวกท่านได้เพียงว่า มีช่างตีเหล็กแค่ 2 คนเท่านั้นที่ข้ารู้จัก ถึงจะสร้างดาบที่มหัศจรรย์นี้ขึ้นมาได้ โดยคนแรกก็คือช่างตีดาบในตำนาน‘อิฟริท’และอีกคนก็คือช่างตีดาบนามว่า ‘KS’ ที่พวกท่านคงได้เห็นการสรรสร้างของช่างคนนี้ด้วยตาของตัวเองแล้ว”
‘ช่างตีดาบในตำนาน อิฟริท?’
“หัวหน้าสมิธท่านหมายถึงช่างตีเหล็กในตำนาน อิฟริทที่ว่ากันว่าเป็นช่างตีเหล็กที่เก่งที่สุดในอาณาจักรกรีนเวต้าอย่างนั้นหรอ? ไม่ทราบว่าท่านรู้หรือไม่ว่า ช่างในตำนานคนนี้อยู่ที่ใด โปรดบอกพวกข้าที่”
ทันทีที่ได้ยินชื่อของช่างตีเหล็กในตำนานนามว่า อิฟริท ผู้เล่นที่อยู่บนบริเวณชั้นสองของทางร้านก็ตื่นเต้นจนหลงลืมช่างตีเหล็ก KS หรือคลาซ่าผู้ติดตามของเจสเปอร์ไปเสียสนิท แต่จะไปโทษเหล่าผู้เล่นพวกนี้ก็คงจะไม่ได้ ในเมื่อพวกเขามีโอกาสที่จะได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับช่างตีเหล็กในตำนานอย่าง อิฟริท จากหัวหน้าสมิธที่เป็นเสมือน NPC ระดับสูงของเมืองอัลคาเดีย หากเป็นเจสเปอร์เองเขาก็ไม่รีรอที่จะถามแบบนี้เช่นเดียวกัน
แต่ถึงกระนั้นตัวตนของช่างตีเหล็กในตำนานอย่างอิฟริทไม่ใช่เรื่องที่ NPC ระดับหัวหน้าสมิธจะล่วงรู้ได้ เพราะหากวัดกันตามพรสวรรค์และตัวตนความยิ่งใหญ่ของทั้งคู่ หัวหน้าสมิธคงเป็นเพียงเพียงช่างตีเหล็กระดับปานกลางเท่านั้นในสายตาของ อิฟริท
“ด้วยความสัตย์จริง ถ้าข้ารู้ข้อมูลของท่านอิฟริทเพียงเล็กน้อย ข้า ‘สมิธ’ คนนี้จะไม่มีรีรอที่จะออกตามหาท่านผู้นั้นด้วยข้าตัวเองเลย แต่น่าเสียดายถึงแม้ข้าจะพยายามค้นหาสักเพียงใด แต่ก็ไม่เคยเลยที่จะค้นพบที่อยู่ของท่านอิฟริท”
แววตาของหัวหน้าสมิธเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัดในสายตาของ NPC ทุกคนที่เลือกทางเดินในการเป็นช่างตีเหล็กล้วนแล้วแต่มอง ช่างตีเหล็กในตำนานอย่างท่านอิฟริท เป็นดั่งปรมาจารย์ที่ขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดของสายอาชีพของพวกเขาเหมือนที่หัวหน้าสมิธแสดงความนับถือออกมาจากใจจริง
ไม่ใช่แค่หัวหน้าสมิธคนเดียวเท่านั้นที่แสดงอาการเศร้าสร้อยออกมา เหล่าผู้เล่นเองก็แสดงอาการผิดหวังออกมาไม่ต่างกัน
“เอาล่ะ! กลับมาต่อกันที่อาวุธที่มีคุณสมบัติเติบโตได้ชิ้นนี้กันต่อ พวกท่านคงเห็นคุณสมบัติของดาบเล่มนี้แล้วใช่หรือไม่? พลังโจมตีและค่าสถานะของพวกมันในตอนนี้ยังเป็นแค่ระดับเริ่มต้นเท่านั้น แต่เมื่อใดก็ตามที่พวกท่านสามารถรวบรวมแร่ที่ดาบเล่มนี้ต้องการจนครบแล้วละก็ ดาบเล่มนี้จะยกระดับของตัวเองขึ้นไปอีกขั้น และคนที่จะสามารถทำให้พวกมันเติบโตขึ้นได้มีเพียงช่างตีเหล็กที่สร้างมันขึ้นมาอย่าง ช่างตีเหล็ก KS เท่านั้น” หัวหน้าสมิธสบตากับเจสเปอร์ที่อยู่ด้านหลังอีกครั้ง ก่อนที่จะได้รับการพยักหน้าเป็นการยืนยันว่าตัวเองนั้นได้พูดในสิ่งที่เจสเปอร์ต้องการครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมเจสเปอร์ถึงเอาดาบที่มีค่าอย่างดาบเล่มนี้มาขายนั้นก็เป็นเพราะว่า แกนกลางของดาบเล่มนี้นั้นมาจาก บอสออร์ค Huga แม่ทัพของเหล่าออร์คที่ทรงพลัง การที่จะเอาดาบเล่มนี้ไปใช้หรือนำติดตัวไปเป็นอะไรที่ค่อนข้างอันตราย เนื่องจากแกนกลางของออร์ค Huga จะเป็นตัวดึงดูดเหล่าออร์คที่ทรงพลังเข้าหาตัว อย่างที่เจสเปอร์ได้เคยบอกไปว่าบอสแผนที่มักจะมีการเกิดค่อนข้างที่จะแปลกประหลาด บอสบางตัวอาจจะกลับมาเกิดซ้ำอีกครั้งอยู่เรื่อยๆ แต่กับบางตัวมีเพียงแค่ชีวิตเดียวเท่านั้น ดังเช่น ราชินี Medusa และ บอส Huga ที่ถูกเจสเปอร์พิชิตไป และการที่บอสถูกสังหารไปทำให้ผู้เล่นที่เป็นคนสังหารบอสตัวนั้นได้อภิสิทธ์อันชอบธรรมในการครอบครองตำแหน่งเดิมของบอสแผนที่เหล่านั้น ทำให้เผ่าพันธุ์ของบอสแผนที่ตายไปต้องการทวงตำแหน่งอันทรงเกียรติของเผ่าพันธุ์มันกลับคืนก็เท่านั้นเอง
โดยเจสเปอร์เองก็ถูกสาปจากราชินีเมดูซ่ามาด้วยครั้งหนึ่งแล้วทำให้เผ่าพันธุ์งูของราชินีเมดูซ่าออกตามล่าเจสเปอร์หนักหนาพออยู่แล้วการที่จะไปดึงดูดเผ่าพันธุ์ออร์คให้มาสนใจอีกคงเป็นอะไรที่เกินกว่าแรงของเขาที่จะกระทำได้ บางอย่างมีคุณค่ามีประโยชน์แต่คนเราควรรู้จักลิมิตของตนเองหากยิ่งไปไล่ตามและไขว่คว้าในหลายๆสิ่งหลายอย่างอาจทำให้เจสเปอร์สูญเสียทุกอย่างไปหมดก็เป็นได้ การปล่อยมือจากดาบของออร์คเล่มนี้จึงเป็นการปลดเปลืองสิ่งต่างๆพร้อมกับยกผลักภาระที่หนักอึ้งนี้ให้แก่คนอื่นก็เท่านั้นเอง
และอีกหนึ่งสาเหตุที่เจสเปอร์ตัดสินใจเปิดเผยดาบเล่มนี้ออกไปสู่สาธารณะชนก็เพื่อที่จะให้ผู้เล่นที่เล่นเกม The Era Online ทุกคนได้รู้จักการมีอยู่ดาบของที่มีลักษณะเติบโตเช่นนี้ภายในเกมจะได้ไม่เกิดข้อครหาถึงดาบ Eternal Menos Warblade ที่เขาครอบครองอยู่ในภายหลัง เหมือนเช่นที่เคยถูกตั้งข้อสงสัยถึงการทำ Perfect First clear แบบในครั้งก่อนอีก
“แล้วคนที่สร้างดาบเล่มนี้อยู่ที่ใดกันล่ะ พวกเราอยากพบตัวท่าน KS สักครั้งจะได้หรือไม่?”
“เกรงว่าจะทำให้พวกท่านต้องผิดหวัง ช่างตีเหล็ก KS ที่สร้างดาบเล่มนี้ขึ้นมา เวลานี้ไม่ได้เป็นคนของสมาคมช่างตีเหล็กอีกต่อไปแล้ว ถึงเราจะมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่เกรงว่าข้าคงไม่อาจที่จะไปบังคับฝืนใจให้ทำเรื่องที่นอกเหนือจากการสร้างอาวุธไม่ได้อีกแล้วอีก”
เมื่อผู้เล่นทุกคนที่อยู่ในที่นี้ได้ยินสิ่งที่หัวหน้าสมิธพูดออกมา พวกเขาจึงได้แต่พยักหน้าด้วยความเสียดาย แต่จะให้พวกเขาถามอะไรต่อนั้นก็ดูจะโจ่งแจ้งเกินไป เพราะคำตอบที่พวกเขาได้จากหัวหน้าสมิธนั้นค่อนข้างจะเคลียร์ในระดับหนึ่งแต่ก็ยังมีจุดที่คลุมเครืออยู่อีกมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เจสเปอร์จงใจทิ้งเอาไว้ให้ผู้เล่นคนอื่น สงสัยในเรื่องนี้ต่อไป
ตามหลักนิสัยของมนุษย์เรายิ่งสงสัย ยิ่งอยากรู้ และการที่จะทำให้ตัวเองรู้ในเกม The Era Online ก็ต้องอาศัยการพูดคุยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าความสนิท แล้วยิ่งผู้เล่นอยากผูกมิตรกับหัวหน้าสมิธมากขึ้นเท่าไร สิ่งแรกที่จะมัดใจ NPC พวกนี้ได้อย่างแรกเลยคือ ต้องอุดหนุนสินค้าและช่วยทำเควสให้กับ NPC ผู้นั้นเสียก่อน ส่วนฝ่ายที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากการกระทำของคนเหล่านั้น ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนนอกจาก เจสเปอร์ที่นั่งยิ้มอยู่ด้านหลังเพียงลำพัง
“ฉันสนใจดาบเล่มนั้น มันมีราคาเท่าใด หัวหน้าสมิธจงบอกมาเถิด ฉันบลัดฮาวด์ ยินดีที่จะรับซื้อพวกมันตามที่ท่านเสนอราคา” ในที่สุดแผนการที่เจสเปอร์คาดหวังเอาไว้ก็เกิดขึ้น หลังจากที่ต้องนั่งรอคอยเกริ่นเรื่องราวมาตั้งนาน บลัดฮาวด์ชายเลือดร้อนผู้นำแห่งกิลด์ Outlaws ก็ได้เดินตกมายังหลุมพรางของเขาที่ขุดเอาไว้สักที
“โอ้! ท่านผู้กล้าบลัดฮาวด์ช่างใจร้อนยิ่งนัก ข้าไม่เคยบอกกับพวกท่านเสียหน่อยว่าพวกเราร้านค้าสมาคมช่างตีเหล็กจะขายดาบเล่มนี้ให้กับพวกท่านในวันนี้?”
“ถ้าท่านไม่ขาย แล้วเอามาล่อพวกเราทำไม!!”
ผู้เล่นที่อยู่บริเวณชั้นสองต่างยืนขึ้นประท้วงทันทีถึงสิ่งที่หัวหน้าสมิธได้กล่าวออกไป แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้ร้องโวยวาย หัวหน้าสมิธก็ได้ยกมือขึ้นห้าม แผ่รังสีที่แข็งแกร่งที่มีอยู่ในตัวออกมา กดดันไม่ให้พวกเขาหลงลืมไปว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร
“ใจเย็นๆผู้กล้าทุกท่าน ร้านค้าของข้าเป็นร้านใหญ่ จะกล่าวอะไรออกไปพล่อยๆคงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่อย่างที่ข้าบอกไป ว่าดาบเล่มนี้จะไม่ถูกซื้อขายในวันนี้! และราคาของดาบเล่มนี้ก็เกินก็มีค่ามากเกินกว่าที่ข้าคนนี้จะกำหนดได้ ข้าจึงอยากให้ผู้กล้าทุกท่านที่อยู่ในวันนี้เป็นคนประเมินราคาของพวกมันแทนข้าก็แล้วกัน”
“ท่านหัวหน้าสมิธหมายความว่าให้พวกเราเป็นคนกำหนดราคาของพวกมันด้วยตัวเองอย่างนั้นใช่หรือไม่?”
“ถูกต้อง!! ดาบเล่มนี้อาจมีราคาแค่ 1 เหรียญทองแดงหรือ1เหรียญเงิน ล้วนแล้วแต่พวกท่านเป็นผู้กำหนด แต่ข้าขอบอกเพียงว่า ผู้ที่ให้ราคาสูงที่สุดเท่านั้นถึงจะมีสิทธิครอบครองดาบเล่มนี้ หวังว่าข้าจะได้พบกับพวกท่านอีกครั้งใน 15 วันหลังจากนี้ ไว้พบกันใหม่”
“การประมูล!!”
การประมูลคือเป้าหมายหลักที่เจสเปอร์หวังไว้มาตั้งแต่ต้นโดยการประมูลเป็นเหมือนดาบสองคมที่สามารถทำให้ผู้เล่นคนหนึ่งเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้ในพริบตาหรือสามารถทำให้ผู้เล่นคนหนึ่งต้องล่มละลายเป็นเลยก็มี ไม่มีใครรู้ว่าไอเท็มชิ้นหนึ่งจะถูกขายออกในราคาเท่าไหร่ มันอาจจะถูกกว่าราคาจริงหลายเท่าแต่ก็อาจจะสูงเกินกว่าความน่าจะเป็นก็ได้เช่นกัน ถือว่าเป็นการทำกำไรที่ต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะล้มเหลวเอาไว้อยู่ตลอดเวลา แต่อะไรคือสิ่งที่ทำให้เจสเปอร์ตัดสินใจทำเช่นนี้ คงมีแต่ต้องรอให้ถึงวันประมูลก่อนเท่านั้นถึงจะตอบคำถามนี้ได้
หัวหน้าสมิธกล่าวจบ เขาและช่างตีเหล็กฝึกหัดก็ได้ทำการเก็บไอเท็มที่วางอยู่ในตู้ไปไว้ในที่ปลอดภัย พร้อมทั้งทำการส่งมอบไอเท็มชุดเซ็ต Bronzed ที่ตกหล่น ให้กับผู้กล้าคนอื่นๆ พร้อมทั้งปิดการชุมนุมที่เกิดขึ้นบนชั้นสองของร้านลง..
..............
หลังจากที่ท่านเจ้าเมือง Fernando แจกจ่ายเควสจนครบเวลาที่กำหนดแล้ว NPC ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ก็เดินกลับเข้าไปยังโรงตีเหล็กของทางสมาคม ภายใต้การคุ้มกันของ ทหารองค์รักษ์และ 2 ผู้เล่นที่แอบติดตามอยู่ห่างๆ
แต่ทันทีที่ 2 ผู้เล่น ร็อคสตาร์และคาซิอุส คิดจะตามเข้าไปในเขตของกิลด์ Rising sunที่อยู่ภายในสมาคม ชายทั้งสองก็ถูก NPCช่างตีเหล็กฝึกหัดในละแวกนั่นเข้าห้ามปราม
“ที่นี้เป็นเขตหวงห้าม ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าได้เชิญท่านผู้กล้า กลับออกไปด้วย!!” ช่างตีเหล็กฝึกหัดมองมายังร็อคสตาร์และคาซิอุสด้วยสายตาที่ดุดัน ก่อนที่จะผลักดันให้ทั้งสองออกห่างจากเขตหวงห้ามที่พวกเขาได้รับคำสั่งให้ดูแลและปกป้องสถานที่แห่งนี้
“เราจะทำยังไงกันดีคาซิอุส!! NPCท่านเจ้าเมืองคนนั่นก็เข้าไปยังเขตหวงห้ามไปแล้ว เราไม่อาจใช้ลูกไม้หลบหลัง NPC ได้แล้วนะ?”
“เราคงทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากรีบออกจากที่นี้ไปแบบเงียบๆ แล้วก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีคนของกิลด์ Outlaws มาเห็นพวกเรา”
แม้ชายทั้งสองจะเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ แต่สังคมในเกม ออนไลน์ ทั่วทุกเกมล้วนเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด ผู้เล่นอ่อนแอที่ไร้คนปกป้องมักจะถูกเล่นงานจากผู้ที่แข็งแกร่งกว่าอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แถมร็อคสตาร์และคาซิอุสยังได้ปะทะคารมกับผู้เล่นสังกิดกิลด์ Outlaws ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการข่มแหงรังแกผู้เล่นที่อ่อนแอด้วยแล้ว จึงไม่แปลกเลยที่ชายทั้งสองจะมีปฏิกิริยาวิตกกังวลเช่นนี้
“ไอ้สองคนนั้นมันกำลังจะออกจากร้านแล้ว ส่งข้อความไปบอกคนข้างนอกให้เตรียมตัว อ้อ...แล้วก็ระวังให้ดีอย่าให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ล่ะ เพราะมันอาจส่งผลกระทบกับลูกพี่บลัดฮาวด์ที่กำลังเจรจาธุรกิจอยู่ด้านบน เข้าใจไหม!!”
1 ใน 2 ผู้เล่นของกิลด์ Outlaws ที่อยู่ด้านในสมาคมได้ทำส่งข้อความที่ว่าไปให้หัวโจ๊กที่เคยมีเรื่องกับร็อคสตาร์และคาซิอุส ที่ดักรออยู่ด้านนอกให้เตรียมพร้อม ก่อนที่จะแอบติดตามผู้เล่นทั้งสองคนนั้นไปอย่างลับๆ
..............
“สองคนนั้นใช่ไหมที่ลูกพี่ให้พวกเราเฝ้าอยู่ห่างๆ”
“. . .”
เป็นเสียงพูดคุยของชายลึกลับ 2 คนที่ยืนมอง ร็อคสตาร์และคาซิอุส ที่กำลังวิ่งออกจากบริเวณสมาคมด้วยท่าทีหวาดระแวง....
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy
