บทที่ 41 รอบประลองตัวต่อตัว

บทที่ 41 รอบประลองตัวต่อตัว

พลังอำนาจที่ลึกล้ำรวมถึงรัศมีของผู้ที่เกิดมาเหนือผู้อื่น ทำให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก กุนไท่ยืนอยู่ข้างสนาม เพื่อรอต่อสู้ในรอบถัดไป

ศิษย์จำนวนมากจ้องมองมาที่กุนไท่ด้วยความหวาดกลัวโดยเฉพาะเฟิงเหลย มันกลืนน้ำลายลงคอดังอึก มันคิดว่าหากกุนไท่ต้องการจัดการกับมันคงง่ายดายปานถอดอาภรณ์

แต่มันก็ยังคงคิดว่าตัวมันสามารถจัดการกุนไท่ได้ โดยการหยิบยืมความแข็งแกร่งจากผู้อื่น มันพลันยิ้มเยาะอย่างชั่วร้าย พลางหัวเราะในใจ หึ! แม้เจ้าจะแข็งแกร่งแต่ก็ยังมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเจ้ามากมายในนิกายแห่งนี้ รอดูไปเถอะ!

มันรู้ตัวว่ามันสู้กุนไท่ไม่ได้ มันเลยถอนตัวออกไป ส่วนการประลองรอบต่อไปของกุนไท่ ชายหนุ่มสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย!

ต่อไปจะเป็นการประลองของแต่ละลาน ซึ่งแต่ละคนมีความแข็งแกร่งที่เหนือชั้นมาก บางคนอาจจะมีพลังต่อสู้ข้ามขั้นได้เลย!

ข่าวลือเรื่องพลังของกุนไท่นั้นแผ่กระจายไปอย่างรวดเร็ว พลังที่แปลกประหลาดที่สามารถทำให้คนนอนหลับได้มันเกินจริงมาก และส่วนมากไม่มีใครเชื่อข่าวลือนี้ แต่ยังคงมีความสงสัยใคร่รู้ ส่งผลให้พวกเขาเหล่านั้นมาชมการประลองของกุนไท่

ภายในหอคอยสูงเสียดฟ้าแห่งหนึ่ง ส่วนลึกในเขตหวงห้ามของนิกาย มีผู้อาวุโสทั้งสามคนที่ก่อนหน้านี้มาชมการประลองของกุนไท่อยู่ ขณะนี้กำลังคุกเข่าด้วยความเคารพอย่างหาที่เปรียบมิได้ หนึ่งในนั้นกล่าวขึ้นมาทำลายความเงียบ พลางส่งกระจกทองแดงอย่างนอบน้อม

“ท่านผู้พิทักษ์ ข้าน้อยได้บันทึกภาพเคลื่อนไหวการต่อสู้ของศิษย์ท่านแล้ว โปรดลองดู!”

ผู้พิทักษ์รับกระจกนั้นมา ก่อนจะมองไปดูกระจกแล้วภาพก็ปรากฏขึ้นมา มันเป็นภาพเคลื่อนไหวที่กุนไท่แสดงพลังออกมา! ผู้พิทักษ์ตกตะลึงทันที เมื่อเห็นการประลองของกุนไท่ ก่อนจะเก็บกระจกนั้นไว้แล้วกล่าวขึ้นมาว่า

“ขอบใจพวกเจ้าทั้งสามมาก เชิญพวกเจ้าไปพักเถอะ ส่วนงานชิงสมบัติรอบหลักนั้น ข้าจะไปดูด้วยตนเอง”

“ข้าน้อยทำตามคำสั่งของผู้อาวุโส! มิอาจสามารถรับคำชมได้ นิกายปลอดภัยได้ก็เพราะมีท่านอยู่ ท่านเปรียบเสมือนเป็นมารดาของนิกายแห่งนี้ ที่คอยเมตตาพวกเราทุกคนให้อยู่กันได้อย่างสงบสุข!”

หลังจากที่ผู้อาวุโสหนึ่งในนั้นกล่าวจบ อีกสองคนที่เหลือล้วนพยักหน้าเห็นด้วยทันทีก่อนจะจากไป ผู้พิทักษ์มองการจากไปของทั้งสามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะกลับไปบ่มเพาะต่อ

การประลองนี้เป็นการประลองตัวต่อตัว มีผู้เข้ารอบด้วยกันทั้งหมดหกคนสองรอบ ส่วนรอบสุดท้ายนั้นคือการประลองแบบสามคน ซึ่งจะหาผู้ชนะเพียงผู้เดียวแล้วได้เข้าสู่งานชิงสมบัติที่แท้จริง และรอบแรกนั้นกุนไท่ได้ประลอง!

“คู่แรกกุ้ยเหรินพบกับกุนไท่!”

หญิงสาวที่เป็นผู้ตัดสินกล่าว แม้ภายนอกในสายของผู้อื่นนางจะเป็นหญิงงาม แต่นางนั้นแท้จริงแล้วมีอายุถึงร้อยปีเลยทีเดียว!

กุ้ยเหรินเป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าดุดันอันเป็นเอกลักษณ์ การเดินแต่ละก้าวของเขาดูแข็งแรง และป่าเถื่อน พลังปราณรอบตัวให้ความรู้สึกราวกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย ผมสีดำที่กระเซอะกระเซิง ยิ่งเพิ่มความป่าเถื่อนขึ้นไปอีก

มันจ้องมองมาที่กุนไท่ด้วยความต้องการต่อสู้อย่างรุนแรง ราวกับว่าชั่วชีวิตนี้ปรารถนาเพียงแค่การต่อสู้เพียงอย่างเดียว

“ข้ากุ้ยเหริน ขอคำนับคู่ต่อสู่! น้องชายขอให้การต่อสู้นี้เป็นการต่อสู้ที่ดีด้วยเถอะ!”

“ข้ากุนไท่! โปรดแสดงความแข็งแกร่งของท่านให้ข้าได้ประจักษ์!”

กุนไท่ตอบกลับไป พลางปลดปล่อยพลังออกมาเต็มที่ เขาดูออกว่าชายหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งกว่าผู้อยู่ในระดับเดียวกันจนเทียบไม่ติด ความสามารถอาจจะมากกว่าหมิงเซียนด้วยซ้ำ!

แต่กุนไท่ก็ไม่ได้กังวลเลยแม้แต่น้อย เพราะระดับพลังของพวกเขาทั้งคู่เท่ากัน หากอีกฝ่ายมากกว่าหนึ่งขั้น เขาอาจจะเสียปรียบอยู่บ้าง แต่ถ้าเขาใช้พลังทั้งหมดมันจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง!

ตอนนี้มีผู้มาชมการประลองเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากข่าวลือเกี่ยวกับพลังของกุนไท่ มันทำให้พวกเขารู้สึกสนใจระคนสงสัย เกี่ยวกับชายหนุ่มผู้นี้ จะเป็นอย่างที่ข่าวลือได้กล่าวเอาไว้หรือไม่?

กุ้ยเหรินใช้พลังกายที่ไม่ต่างจากสัตว์ป่าพุ่งเข้าหากุนไท่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปลี่ยนมือกลายเป็นกรงเล็บแล้วตะปบใส่กุนไท่อย่างเลือดเย็น!

กุนไท่เบี่ยงตัวหลบอย่างคล่องแคล่วว่องไว ราวกับคาดเดาได้อยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับสวนอีกฝ่ายด้วยพลังมายาที่สร้างขึ้นมา มันมีรูปร่างเป็นหอกสามเล่ม และพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายอย่างไม่ทันตั้งตัว

ฟึบ!

กุ้ยเหรินไม่เกรงกลัวหอกทั้งสามเลยแม้แต่น้อย มันชกหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังปราณที่ป่าเถื่อน แต่แล้วสิ่งที่ทำให้เขาตกใจ นั่นก็คือ...หอกทั้งสามนั้นกลับกลายเป็นหมอกควันแล้วจางหายไป มันคือมายา! สัญชาตญาณบอกเขาว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย เขาพลันใช้วิชาป้องกันออกมา

วิชาระดับระดับสามัญชนขั้นสูง! ร่างอสูรสัตว์ป่า!

รอบตัวของกุ้ยเหรินปรากฏชั้นพลังป้องกันสีแดงเลือด พร้อมกับปล่อยคลื่นความร้อนออกมา ทำให้ผู้ชมรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้น มันไม่ใช่อุณหภูมิจากเปลวเพลิงแต่เป็นความร้อนจากร่างกาย!

ร่างกายของสิ่งมีชีวิตทุกตัวจะมีความร้อนอยู่ แต่ผู้ที่สามารถฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งแล้วจะสามารถดึงเอาความร้อนในร่างกายมาใช้ได้ และความร้อนในส่วนนี้ทรงพลังยิ่งกว่าเปลวเพลิงเสียอีก เพราะเปลวเพลิงนั้นเป็นพลังจากภายนอก แต่ความร้อนจากร่างกายเป็นของคนผู้นั้นเอง!

แต่มันสายไปเสียแล้ว! กุนไท่ปรากฏกายขึ้นมา พร้อมกับใช้พลังมายาทำให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดาย ถึงจะพ่ายแพ้แต่อีกฝ่ายนั้นสามารถต่อต้านกลิ่นอายของเขาได้ จึงไม่ได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปในทันที

เพียงเท่านี้ก็น่าชื่นชมแล้วสำหรับผู้ที่มีระดับเดียวกับกุนไท่ แต่ก็ต้องถูกสะกดข่มพลังไปถึงสามส่วน เรื่องนี้ทำให้กุ้ยเหรินเสียเปรียบเป็นอย่างมาก แต่ทั้งหมดนี้คือพลังของกุนไท่ เขาไม่ได้ใช้วิธีคดโกง หรือใช้สิ่งอื่นมาช่วยเหลือแต่อย่างใด

กุนไท่เดินลงจากลานประลอง พลางพยุงกุ้ยเหรินลงจากเวทีมาด้วย การต่อสู้นี้จบลงไปเพียงแค่สิบลมหายใจเท่านั้น ตั้งแต่ต้นจนจบมันเกิดขึ้นเร็วมาก ข่าวลือเกี่ยวกับพลังของกุนไท่นั้นทำให้ทุกคนเริ่มเชื่อแล้ว และยังเชื่อมั่นอีกว่าชายหนุ่มผู้นี้ต้องแข็งแกร่งกว่านี้อีกเป็นแน่

อีกฝ่ายยังคงเก็บพลังไว้อยู่ไม่ยอมเปิดเผยทั้งหมด เพราะการเอาชนะคู่ต่อสู้โดยไม่ใช้วิชาต่อสู้สักวิชานั้นเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ คงจะมีแต่ผู้ที่มีระดับหลอมรวมพลัง ขั้นกักเก็บพลังเป็นแน่ที่สามารถทำให้กุนไท่ต้องเอาจริงได้!

การประลองครั้งนี้นั้นกุนไท่ใช้พลังไปแค่ห้าส่วนเท่านั้น เพราะไม่ต้องการเปิดเผยพลังมากเกินไป มันจะทำให้อีกฝ่ายรู้วิชาของเขาแล้วเตรียมรับมือไว้ได้!

กุ้ยเหรินขอบคุณอีกฝ่ายที่พาตัวเขาลงจากเวทีก่อนจะจากไป กุนไท่เตรียมตัวการประลองในรอบต่อไปที่เป็นแบบสามคน เขาเฝ้าดูการประลองแบบไม่ใส่ใจนัก

ตอนนี้ตัวแทนทั้งสามขึ้นมาบนลานประลองแล้ว มีผู้ชนะเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะได้เข้าสู่งานชิงสมบัติในวันพรุ่งนี้!

เมื่อเริ่มแล้ว อีกสองคนที่อยู่บนลานประลองนั้นพลันเข้าหากุนไท่พร้อมกันราวกับว่าต้องการจัดการชายหนุ่มก่อนเป็นอันดับแรก!