HPST ตอนที่ 63: รางวัลพิเศษสำหรับการช่วยเหลือโรงเรียน
HPST ตอนที่ 63: รางวัลพิเศษสำหรับการช่วยเหลือโรงเรียน
“ขอบคุณพระเจ้า!” คุณนายวีสลีย์พูดขณะที่เธอเดินเข้าไปหาแฮร์รี่กับอีวาน “เธอช่วยชีวิตรอน, เธอช่วยชีวิตเขา! พวกเธอทำได้ยังไง?”
“นั้นเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนก็อยากรู้เช่นกัน” สเนปกล่าวขณะที่เขาจ้องไปที่พวกเขาทั้งสี่
อีวานและแฮร์รี่มองหน้ากันเงียบๆ, อีวานจึงโบกมือให้แฮร์รี่เล่าสิ่งที่เกิดขึ้น แฮร์รี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง, แฮร์รี่เดินไปที่โต๊ะทำงานของดัมเบิลดอร์และวางหมวกคัดสรร,ดาบเงิน,และสมุดไดอารี่ของริดเดิ้ลไว้บนโต๊ะ
หลังจากนั้นเราเริ่มเล่าให้ทุกคนฟัง
เขาพูดไปประมาณสิบห้านาที, ทุกคนฟังอย่างตั้งใจ,ทั้งห้องกลายเป็นเงียบสงัด
เขาเล่ากับพวกเขาว่าเขานั้นได้ยินเสียงของบาซิลิสก์,และหลังจากที่สืบสวนแล้วเขาแน่ใจว่าสัตว์ร้ายนั้นก็คือบาซิลิสก์, มันแผงตัวอยู่ในท่อน้ำและเคลื่อนทีไ่ปทั่วทั้งโรงเรียนและโจมตีนักเรียน
หลังจากนั้นเขาก็พูดถึงการต่อสู้,ทั้งการต่อสู้ในห้องนั่งเล่นและในห้องแห่งความลับ, วิธีที่เขาและอีวานไปห้องแห่งความลับยังไงโดยบาซิลิสก์, อีวานถูกทำร้ายโดยคาถาของริดเดิ้ล, หมวกคัดสรรมอบดาบให้กับเขา, และเขาใช้ดาบฆ่าบาซิลิสก์ได้ยังไง
แต่เสียงของเขากลายเป็นลังเล
เขาเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงไดอารี่ของริดเดิ้ล และรอนที่ได้มาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
เมื่อพวกเขาได้ยินเขาพูดถึงชื่อของโวลเดอมอร์ ห้องทั้งห้องก็กลายเป็นเงียบสงบอย่างน่ากลัว วีสลีย์,แฮกริด,และฟัดจ์ตัวสั่น, ท่าทางของสเนปกลายเป็นแปลกเล็กน้อย และลูเซียส มัลฟอยที่ซุกตัวอยู่ที่มุมห้องก็มีท่าทางแปลกผิดปกติ
“เธอหมายความว่าทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของคนที่ไม่ควรเอ่ยนาม? มันไม่ใช่แฮกริดที่ทำเมื่อห้าสิบปีก่อน, เขาถูกจับและใส่ร้ายโดยคนคนนั้น, พวกเรากระทั่งมอบรางวัลสำหรับคุณูปการของเขาแก่โรงเรียน” ฟัดจ์กล่าว
“คอร์นีเลียส, ฉันบอกคุณไปแล้ว, แฮกริดถูกใส่ร้าย, เขาเป็นผู้บริสุทธิ์มาตลอด” ดัมเบิลดอร์กล่าวอย่างใจเย็น
“ใช่ ใช่ คุณเคยบอกแต่นักเรียนที่จับแฮกริด…..” ฟัดจ์พูดด้วยความไม่แน่ใจ
“ชื่อของเขาคือทอม, นักเรียนคนนั้นคือโวลเดอมอร์, เขาเป็นคนจัดฉากการโจมตีต่อเนื่องในปราสาท แต่แฮร์รี่กับผมหยุดแผนการของเขาไว้” อีวานกล่าว
เมื่อเขาได้ยินคำพูดของอีวาน, เขาก้าวถอยหลัง,แม้ว่าเขาจะฟังแฮร์รี่ เขาก็นึกไม่ออกว่าเด็กหนุ่มสองคนที่ไม่ได้แม้แต่จะเป็นวัยรุ่นสามารถเอาชนะพ่อมดศาสตร์มืดที่แข็งแกร่งที่สุดกับบาซิลิสก์ได้
เรื่องทั้งหมดเหมือนดั่งเทพนิยาย
“ท่านรัฐมนตรี, เนื่องจากพวกเราหยุดแผนการของโวลเดอมอร์และช่วยฮอกวอตส์ไว้” อีวานพูดขณะที่จ้องไปที่ฟัดจ์พร้อมกับรอยยิ้ม “แฮร์รี่,เฮอร์ไมโอนี่,รอนและผมจะได้รับรางวัลพิเศษสำหรับการช่วยเหลือโรงเรียนไหม?”
“อะไรนะ!?” ฟัดจ์ค้างไปครู่หนึ่งและกล่าว “เอาล่ะ เนื่อจากพวกเธอได้เอาชนะคนที่ไม่ควรเอ่ยนาม, มันไม่น่าจะมีปัญหาแต่คณะกรรมการต้องอนุมัติก่อนดังนั้นจึงควรใช้เวลาสักสองสามวัน”
“นั่นมันเยี่ยมไปเลย,ขอบคุณครับท่านรัฐมนตรี!” อีวานกล่าวขณะที่เขากระโดดโลดเต้นอย่างเป็นสุข “ถ้ามันเป็นไปได้, ผมอยากให้คุณมอบรางวัลให้พวกเราเป็นการส่วนตัวและข่าวจะถูกนำไปลงในฮอกวอตส์เมจิคและเดรลี่ พรอเฟ็ต ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องชื่นชมผลงานที่กระทรวงได้ทำ”
“ไม่มีปัญหา,เด็กน้อย! ฉันจะมาที่ฮอกวอตส์ในวันพรุ่งนี้พร้อมกับรางวัลและการอภัยโทษของแฮกริด”
ฟัดจ์ดูมีความสุขเมื่อได้ยินว่าชื่อเสียงของกระทรวงจะไม่ตกต่ำลง “อัลบัส, เนื่องจากทุกอย่างก็เรียบร้อยดีแล้ว, ฉันคงต้องกลับแล้ว, คุณก็รู้ ว่ามีอะไรตั้งมากมายที่รอให้ฉันไปทำ”
เขากล่าวลากับทุกคนและออกไปจากห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่, และสเนปก็ตามไป
“ถึงแม้ว่าเราทุกคนจะรู้ว่าโวลเดอมอร์วางแผนเรื่องนี้ แต่เราก็ไม่รู้ว่ารอนมาเจอเข้ากับโวลเดอมอร์ได้อย่างไรและอยู่ภายใต้การควบคุมของเขามาตั้งแต่แรก” ดัมเบิลดอร์กล่าวเมื่อฟัดจ์ออกไปแล้ว “เพราะว่าตามที่แหล่งข่าวของฉันได้มา เขากำลังซ่อนตัวอยู่ในป่าของอัลบาเนีย”
“อะไรนะ!?” คุณนายวีสลีย์พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ “คุณหมายถึงคนที่ไม่ควรเอ่ยนามเป็นคนควบคุมรอน แต่อีวานพึ่งจะบอกว่าพวกเขาที่เอาชนะโวลเดอมอร์ด้วยกัน…...”
“ศาสตราจารย์, ไดอารี่เล่มนั้นคือคนร้าย”
ดัมเบิลดอร์หยิบไดอารี่จากแฮร์รี่และจ้องที่มันเป็นเวลานาน, เขาจ้องไปที่แผ่นกระดาษที่ไหม้เกรียม
โดยวิธีการที่ดัมเบิลดอร์มองไปที่กระดาษพวกนั้น เขารู้ว่าดัมเบิลดอร์ต้องรู้ว่ามันคืออะไร
“นี่มันมหัศจรรย์มาก!” ดัมเบิลดอร์กล่าวอย่างนุ่มนวล “ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดถึง, เขาน่าจะเป็นนักเรียนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่ฮอกวอตส์ผลิดขึ้นมาเลย”
เขาหันไปรอบและบอกกับครอบครัววีสลีย์บางสิ่งเกี่ยวกับชีวิตวัยเรียนของโวลเดอมอร์
“แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจ, รอนมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง?”
“มันเป็นเพราว่าไดอารี่นั่น!” รอนกล่าว “ผมมีมันมาเกือบทั้งปี, เขาพูดคุยกับผม,อีวานพูดถูก ผมมันตัวปัญหา ผมเชื่อไดอารี่มากกว่าเชื่อในตัวของเพื่อนๆ”
“รอน, พวกเราสอนลูกมาไม่ดีหรอ?” คุณวีสลีย์อ้าปากค้าง, “อย่าเชื่อในสิ่งที่สามารถคิดเองได้อย่างอิสระ เห็นได้ชัดว่าไดอารี่น่าสงสัยนั่นเต็มไปด้วยมนต์ดำ!”
“อย่าโทษรอนเลยครับ คุณวีสลีย์” อีวานรีบกล่าวขึ้น “ตอนที่บาซิลิสก์โจมตีที่ห้องนั่งเล่น, รอนได้ช่วยชีวิตของจินนี่ไว้”
“มีพ่อมดเพียงน้อยคนเท่านั้นที่จะสามารถทำลายการควบคุมของโวลเดอมอร์ได้!” ดัมเบิลดอร์กล่าวเสริม “อาเธอร์, คุณควรจะภูมิใจในตัวรอน และฉันก็เชื่อว่าคุณสอนเขามามากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“ซาบซึ้งจริงๆ!” เมื่อตอนที่ทุกคนคิดว่าทุกอย่างจะจบแล้ว, ลูเซียส มัลฟอยก็ยืนขึ้นในทันทีที่ตรงมุมห้องพร้อมกับเยาะเย้ย “ดัมเบิลดอร์, อย่าลืมว่าคณะกรรมการได้พักงานคุณ, คุณควรจะห่วงตำแหน่งของคุณมากกว่าไดอารี่ตลกๆกับเด็กหลงตัวเองนะ”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ จู่ๆก็มีจดหมายปรากฏขึ้นที่บนโต๊ะทำงานของดัมเบิลดอร์
“ฉันก็อยากจะบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน,ลูเซียส!” ดัมเบิลดอร์กล่าวอย่างใจเย็น “ฉันพึ่งจะติดต่อกับพวกคณะกรรมการและพวกเขาก็บอกกับฉันว่าพวกเขาคิดว่าฉันเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับงานนี้”
“ถ้างั้นมันก็…….” ลูเซียสกล่าวขณะที่กำลังเหล่ตามอง
“ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาบอกฉันถึงสิ่งที่น่าสนใจ, ดูเหมือนว่ามีบางคนขู่ว่าจะสาปแช่งครอบครัวของพวกเขาหากพวกเขาไม่เห็นด้วยกับการพักงานของฉัน” ดัมเบิลดอร์กล่าวขณะที่ยิ้มให้ลูเซียส
“เป็นมุกตลกที่ขำดีนี่!” ใบหน้าของลูเซียสซีดลงกว่าปกติ, ดวงตาของเขาดูเหมือนจะโกรธด้วย “ถ้าเป็นแบบนี้, ฉันคงจะต้องกลับแล้ว, ฉันหวังว่าการโจมตีจะไม่เกิดขึ้นอีก! ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว ในฐานะกรรมการของโรงเรียน, ฉันคงจะเป็นทุกข์มาก!”