บทที่ 39 วิชาใหม่!
บทที่ 39 วิชาใหม่!
ผู้อาวุโสทั้งสามรู้สึกตกตะลึงกับคำพูดของกุนไท่ ผู้อาวุโสสิบสี่กล่าวถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเป็นคนแรก
“ข้อเสนอของท่านคือ?”
ผู้อาวุโสสิบหกที่ได้ยินเช่นนั้น ก็หน้าแดงขึ้นมาด้วยความโกธร ก่อนจะคำรามออกมา
“พวกเจ้า! พวกเจ้ากล้าเอาตัวรอดเพียงสองคนรึ? มันไม่กล้าทำอะไรพวกเราอยู่แล้ว เราเป็นคนของราชวงศ์! ถ้ามีใครกล้าทำอะไรกับเราแล้วละก็...หึ มันได้ไม่ตายดีแน่!”
“ท่านคิดว่าท่านฉลาดนัก? ท่านมองสถานการณ์ไม่ออกด้วยซ้ำ หนุ่มน้อยผู้นี้ไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย นับตั้งแต่ท่านเอ่ยถึงราชวงศ์หย่ง! ท่านคิดหรือว่าตนเองมาจากที่สูงแล้วคิดว่าตนเองสูงส่ง? มันไม่ใช่แน่นอน! คนเราเกิดมาต้องไปในระดับที่สูงขึ้นเหมือนๆกันอยู่แล้ว ท่านไม่คิดหรือว่าการได้เป็นมิตรกับผู้เยาว์ที่มีศักยภาพสูงขนาดนี้จะมีสิ่งใดเสียหาย? ไม่แน่หากท่านให้ท้ายเขา ท่านอาจจะมีตำแหน่งในตระกูลสูงขึ้นก็เป็นได้!”
ผู้อาวุโสยี่สิบนางตอบกลับไปด้วยความหยาบคาย นางกับผู้อาวุโสสิบหกมองดูแล้วเหมือนจะเป็นสหายกัน แต่แท้จริงแล้วนางเกลียดอีกฝ่ายอย่างมาก และที่นางยอมติดตามมานั้น เพราะเพื่อผลประโยชน์ต่อตัวนางเองต่างหาก
ใบหน้าของผู้อาวุโสสิบหกแข็งค้าง เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ! เขาไม่เคยเห็นผู้อาวุโสยี่สิบกล้ากล่าวเช่นนี้กับเขามาก่อน แม้คำพูดของอีกฝ่ายจะไม่มีคำว่าโง่ แต่คำพูดแต่ละคำนั้นมันหมายถึงว่าเขาโง่อย่างแน่นอน!
กุนไท่มองไปที่ทั้งสามอย่างเรียบเฉยพลางยิ้มบางออกมา เขาไม่ได้สนใจบทสนทนาของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
“ข้อเสนอของข้าไม่ยาก! ข้าจะสังหารผู้อาวุโสสิบหกที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ข้า ส่วนพวกท่านทั้งสองแค่ปิดบังไว้ไม่ให้ผู้ใดทราบได้! และพวกท่านต้องพาข้าร่วมกับราชวงศ์หย่งโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆทั้งสิ้น แล้วท่านยังจะได้หยกจิตวิญญาณจำนวนมาก! รวมถึงเมื่อข้ามีพลังมากพอแล้ว ข้าจะทำให้พวกท่านมีตำแหน่ง และอำนาจที่สูงที่สุดในราชวงศ์หย่ง ท่านคิดว่าไง?”
ทั้งสามตกใจกับคำกล่าวของกุนไท่ คำพูดพวกนี้มันไร้สาระมากหากเป็นผู้อื่นพูด แต่ไม่รู้ เพราะเหตุใดไม่ทราบ พวกเขารู้สึกว่ากุนไท่สามารถทำได้อย่างที่กล่าวจริงๆ
ตกลง!
ผู้อาวุโสสิบสี่กับผู้อาวุโสยี่สิบตอบตกลงทันที เพื่อรักษาชีวิตของตนเองไว้ รวมถึงได้หยกจิตวิญญาณอีกด้วย เพียงเท่านี้พวกเขาก็ได้ผลกำไรมากพอแล้ว
สำหรับกุนไท่นั้นหยกจิตวิญญาณเขามีอยู่มากมาย เพราะตามข้างทางของถ้ำน้ำตกมีอยู่นับไม่ถ้วน และมีเพียงเขาผู้เดียวที่มีโชควาสนาที่ได้เก็บมันไป!
เมื่อกุนไท่ได้ทำการสังหารผู้อาวุโสสิบหกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้ร่างสัญญาข้อตกลงระหว่างตัวเขากับผู้อาวุโสทั้งสอง เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหักหลังตัวเขาได้
การผูกมัดด้วยการร่างสัญญานั้น หากผู้ใดผิดต่อสัญญาฉบับนี้จะทำให้พวกเขาตกนรกหมกไหม้ และชาติต่อมาจะต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือเกิดมาเป็นคนพิกลพิการไม่สามารถบ่มเพาะได้ จึงทำให้ไม่มีใครกล้าทำผิดต่อสัญญาเลยแม้แต่คนเดียว แต่ก็มีบางคนที่อยากลองของแล้วผลที่ได้ก็เป็นไปตามนั้น!
กุนไท่มีแผนการในใจเขาอยู่แล้ว เขาถึงกลับยอมไว้ชีวิตผู้ที่ต้องการสังหารเขามีชีวิตอยู่ต่อไป เขาดูออกว่า ทั้งสองนั้นทำไป เพราะสมบัติเมื่อพวกพวกเขาใกล้จะตายก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป มันทำให้กุนไท่รู้สึกว่าทั้งสองคนนี้นั้นไม่ได้เลวร้ายมาก
เพียงแค่เป็นพวกโลภมากเท่านั้น แต่ผู้อาวุโสสิบหกนั้นไม่ใช่แค่โลภมาก แต่ยังเป็นคนที่มีจิตใจคับแคบ เจ้าคิดเจ้าแค้นซึ่งแตกต่างกับผู้อาวุโสอีกสองคน ทำให้เขาตัดสินใจจัดการอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้เป็นภัยในอนาคต
ผู้อาวุโสทั้งสองขอตัวกลับก่อน และเชิญกุนไท่เข้าไปในราชวงศ์หย่งด้วยตามสัญญา เพียงแต่กุนไท่ตอบปฏิเสธพวกเขาไป เพราะเขาต้องกลับไปอีกโลกหนึ่ง เพื่อไปเข้าร่วมงานของนิกายที่จัดขึ้น ตอนนี้เหลือเวลาอีกประมาณยี่สิบวันเท่านั้นก่อนที่งานจะเริ่ม เขาต้องใช้เวลาที่เหลือในการทบทวนวิชาใหม่ที่เขาได้รับมา!
ณ โลกแห่งความจริง
กุนไท่ลืมตาตื่นขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่ชวนง่วงอดหลับอดนอน ตาหมองคล้ำที่ราวกับชั่วชีวิตนี้ไม่เคยนอนหลับแม้สักครั้งเดียว ท่าทางเช่นนี้เป็นตอนที่กุนไท่พึ่งกลับมาจากโลกแห่งความฝัน
เขาไม่ได้สภาพแบบนี้นานแล้ว แม้ภายนอกจะเป็นเช่นนั้น แต่ภายในแค่รู้สึกเหนื่อยล้าเท่านั้น ทำให้ชายหนุ่มหาวออกมาเป็นระยะ
กุนไท่เริ่มทบทวนวิชาใหม่ที่ได้มา คือวิชาจุดด่างพร้อยทะลวงจิตใจ! เป็นวิชาสำหรับโจมตีด้วยพลังจิต! มันสามารถทะลวงเข้าสู่จิตใจของอีกฝ่ายได้โดยตรง ก่อนหน้านี้กุนไท่อยากได้วิชาประเภทโจมตีจิตใจมาก เพียงแต่ตอนนั้นเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้น เพราะการได้รับมันมายากเย็นแสนเข็นนัก! แต่ตอนนี้กุนไท่กลับได้มันมาแล้ว เหตุใดเขาถึงจะไม่ดีใจเล่า?
วิชานี้สามารถทำให้ผู้ที่เคยมีแผลใจถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้อีกฝ่ายไม่มีสมาธิในการต่อสู้ตกอยู่ในความโศกเศร้า เป็นเหตุให้อีกฝ่ายพลาดพลั้งก่อนจะพ่ายแพ้ไป!
ชายหนุ่มลุกขึ้นมา พร้อมกับมีแสงอาทิตย์ส่องลงบนใบหน้าที่หล่อเหลา แต่กลับเต็มไปด้วยความอ่อนแรง ผมสีน้ำเงินของเขานั้นยาวถึงเอวแล้ว กุนไท่ตัดมันออกจนเหลือแค่กลางหลังเท่านั้น ตอนนี้เขาต้องการไปแจ้งว่าได้ทะลวงเข้าสู่ระดับหลอมรวมพลังแล้ว! ทำให้เขาตอนนี้มีสถานะใหม่คือ...ศิษย์สายใน!
กุนไท่แวะไปหาเหวินอี้โดยไม่ได้พบกัอีกฝ่ายถึงสองเดือน แต่เมื่อมาถึงกลับไม่พบเหวินอี้ เขาเลยตัดสินใจไปทำเรื่องเลื่อนเป็นศิษย์สายใน เขาได้รับที่พำนับใหม่ มันใหญ่กว่าท่ำนับเก่าหลายเท่าตัว เขาทิ้งข้อความไว้ที่หน้าประตูทางเข้าบ้านของเหวินอี้ โดยบอกเขาว่าเขาได้ที่อยู่อาศัยใหม่แล้ว เมื่อกลับมาแล้วให้แวะไปหาเขาในตามที่อยู่นี้ด้วย
ตอนนี้เหลือเวลาอีกเจ็ดวันเท่าก่อนจะถึงงานชิงสมบัติที่น่าเบื่อหน่ายนี่ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ต้องการเป็นคนอ่อนแอในสายตาของผู้อื่น เขาจะต้องสามารถได้อันดับที่ดีให้ได้!
กุนไท่คิดว่าเมื่อจบงานนี้แล้ว เขาจะกลับไปในโลกแห่งความฝันเพื่อไปชมความแข็งแกร่งของราชวงศ์หย่งสักครั้ง เขาต้องการใช้ราชวงศ์นี้เป็นกำลังทัพของเขาเพื่อไปช่วยบิดาทำสงครามระหว่างทวีปอรุณเบิกฟ้ากับทวีปทรายทมิฬ! แต่กว่าเวลานั้นจะมาถึง เขาจะต้องทะลวงเข้าสู่ระดับผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน!