ตอนที่แล้วตอนที่ 26 ล้มเหลว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 28 เมื่อ 18 ปีก่อน

ตอนที่ 27 ความลับในป่าไผ่


ตอนที่ 27 ความลับในป่าไผ่

ในความจริงแล้วมู่อี้ก็รู้สึกอยากรู้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับป่าไผ่แห่งนี้ แม้ว่าป่าไผ่แห่งนี้จะดูไม่ใหญ่และมีความกว้างไม่มากนัก แต่รอบๆป่าไผ่กลับมีหมอกจางๆปกคลุมซึ่งทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้นได้เลย

ทันทีที่มู่อี้ก้าวเข้าไปในป่าไผ่เขาก็รู้สึกหนาวสั่นและขนลุกชันไปทั่วทั้งร่างกาย แม้แต่หัวใจของเขาก็เต้นเร็วขึ้น

มู่อี้พยายามทำให้ใบหน้าของตนเองดูสงบและผ่อนคลายขึ้น เขายืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับเขยื้อนแล้วพูดว่า "เนี่ยนหนิวเอ้อร์ นี่พี่ชายเองนะ"

เมื่อมู่อี้พูดออกไปจิตใจของเขาก็สงบขึ้นเล็กน้อยแต่ความรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งร่างกายยังคงอยู่

เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครเข้ามาในป่าไผ่แห่งนี้มานานหลายปีแล้วเพราะพื้นดินถูกปกคลุมด้วยใบไผ่หนาหลายชั้นและเมื่อมู่อี้เหยียบลงบนพื้นก็รู้สึกว่ามันนุ่มมาก

เมื่อเดินผ่านต้นไผ่มู่อี้ก็มองมันโดยไม่รู้ตัว พื้นผิวของไผ่เหล่านี้เห็นได้ชัดว่ามีความละเอียดอ่อนและมีสีเขียวมรกตที่งดงาม ในส่วนของรากไผ่ยังสามารถเห็นหยดน้ำที่ส่องประกายใสเหมือนผลึกแก้ว

ในไม่ช้ามู่อี้ก็มาถึงจุดศูนย์กลางของป่าไผ่และมองเห็นเนี่ยนหนิวเอ้อร์อยู่ภายในนั้น

ในตอนนี้เนี่ยนหนิวเอ้อร์กำลังนั่งยองอยู่หน้าต้นไผ่โดยมือเล็กๆทั้งสองข้างของนางวางอยู่บนเข่า และตรงหน้านางมีก้อนหินสีดำวางอยู่ก้อนหนึ่ง

มู่อี้ไม่เห็นวิญญาณแม่ของเนี่ยนหนิวเอ้อร์และรู้สึกสนใจต้นไผ่ที่อยู่ตรงหน้านาง

ต้นไผ่ต้นนี้มีขนาดลำต้นเท่าแขนเด็กเท่านั้นและมีความสูงเพียงเอวของมู่อี้ สิ่งที่พิเศษที่สุดคือต้นไผ่ต้นนี้ไม่มีกิ่ง ไม่มีใบ และมีทั้งหมด 13 ปล้อง นอกจากนี้มู่อี้ยังรู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งของมันดูเหมือนว่าจะมีแสงจางๆเปล่งประกายออกมา

สายหมอกจางๆในป่าไผ่ถูกดูดเข้าไปในต้นไผ่อย่างต่อเนื่องและหลังจากนั้นมันก็ปล่อยออกมาอีกครั้งทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการหายใจของมัน

เนี่ยนหนิวเอ้อร์จ้องมองต้นไผ่ด้วยสายตาที่ว่างเปล่าทำให้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ แม้มู่อี้เดินเข้ามาหาถึงที่นี่นางก็ไม่ได้หันไปมองเขา

"พี่ชาย ข้าไม่อยากพบเขา" ทันใดนั้นเนี่ยนหนิวเอ้อร์พูดขึ้นมา

"ไม่พบเขา? ทำไมล่ะ? เขาเป็นตาของเจ้าไม่ใช่หรือ?"  มู่อี้เดินมาหานางแล้วนั่งลงข้างๆ ดูเหมือนว่านางจะไม่คุ้นเคยกับการมีคนอยู่ใกล้ๆมากนัก ร่างของเนี่ยนหนิวเอ้อร์สั่นเล็กน้อยแต่นางก็ไม่ได้ถอยหนี

“ถึงแม้ว่าตอนนั้นเจ้ายังเด็กมากแต่เจ้าก็จำเขาได้ใช่ไหม?” มู่อี้ยังคงถามต่อไป

"พี่ชาย ข้าจำได้" เสียงของเนี่ยนหนิวเอ้อร์เต็มไปด้วยความสับสนและเศร้าหมอง

"เจ้าจำได้ แล้วทำไมถึงไม่อยากไปพบเขาล่ะ? ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นยังไงเขาก็เป็นตาของเจ้าไม่ใช่หรือ? จริงๆแล้วเขายังคงคิดถึงเจ้าและแม่ของเจ้ามาก " มู่อี้พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"ข้าไม่รู้" เนี่ยนหนิวเอ้อร์ส่ายหัว

"เจ้าบอกข้าได้ไหม?" มู่อี้ถามในขณะที่มองเนี่ยนหนิวเอ้อร์

"ข้าจำได้ไม่มากนัก สิ่งที่ข้ารู้คือข้าอาศัยอยู่กับท่านแม่เพียงลำพัง ข้าไม่สามารถออกจากสวนหลังบ้านแห่งนี้ไปได้และมีเพียงท่านแม่ที่อยู่ข้างกายข้าเท่านั้น ท่านแม่ของข้าไม่สามารถพูดได้ดังนั้นข้าจึงต้องพูดกับเสี่ยวจูในทุกๆวัน เมื่อใดก็ตามที่มีคนเข้ามาข้าก็ไม่กล้าออกไปข้างนอก จนกระทั่งพี่สาวเข้ามาหาข้าและจากนั้นก็มีผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อจับตัวข้า พวกเขาทุกคนล้วนเป็นคนเลวมีเพียงพี่ชายเท่านั้นที่เป็นคนดี เมื่อพี่ชายเอาชนะคนเลวได้ข้าก็สามารถจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้มากมาย" แม้ว่าสิ่งที่เนี่ยนหนิวเอ้อร์พูดจะฟังดูเข้าใจยากแต่มู่อี้ก็เข้าใจความคิดของนาง

มู่อี้คิดว่าที่เนี่ยนหนิวเอ้อร์เปลี่ยนไปเพราะนางได้รับผลกระทบมาจากยันต์สายฟ้า

แม้ว่าจะเป็นฉือกุยจะถูกโจมตีโดยยันต์สายฟ้าในเวลานั้น แต่เนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็ได้รับผลกระทบในระดับหนึ่งเช่นกัน สายฟ้าเป็นปรากฏการธรรมชาติที่มีพลังหยางทำให้ส่งผลต่อวิญญาณของเนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่มีพลังหยินอย่างมาก หลังจากได้รับผลกระทบจากยันต์สายฟ้าไปร่างกายของเนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

ในอดีตแม้ว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์จะเป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบ แต่มันก็เป็นแค่ความฉลาดซึ่งไม่ได้หมายความว่านางจะจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตได้และนางไม่ได้รู้สึกประทับใจในความทรงจำในวัยเด็กของนางเลย

แต่ตอนนี้นางจำได้ทุกอย่าง นางรู้ว่านางตายไปแล้วและแม้แต่แม่ของนางก็ตายไปแล้วเช่นกัน พวกนางเป็นผีที่ไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่อีกต่อไป

ก่อนหน้านี้เนี่ยนหนิวเอ้อร์ไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้นางสามารถรู้ถึงความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับวิญญาณได้อย่างชัดเจน

มู่อี้เข้าใจความโศกเศร้าของเนี่ยนหนิวเอ้อร์เป็นอย่างดีแต่เขาไม่รู้จะปลอบนางได้อย่างไร ถ้าเขาบอกนางไปว่าซูจงซานไม่สนใจว่านางเป็นวิญญาณหรือมนุษย์ก็กลัวว่านางจะไม่เชื่อสิ่งนี้

ยิ่งกว่านั้นมนุษย์และวิญญาณไม่อาจอาศัยอยู่ร่วมกันได้

"ต้นไผ่เหล่านี้อยู่ที่นี่มาตลอดเลยหรือ?” มู่อี้ก็มุ่งความสนใจไปที่ไผ่ที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งนี้เป็นของล้ำค่าและการดำรงอยู่ของป่าไผ่เหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากต้นไผ่พิเศษที่อยู่ตรงหน้าเนี่ยนหนิวเอ้อร์

“ข้าจำได้ว่าเมื่อข้ายังเด็กท่านพ่อของข้าเป็นคนมอบต้นไผ่เหล่านี้ให้กับท่านแม่” หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็พูดออกมา

"พ่อของเจ้า? เจ้าจำเขาได้หรือไม่?" เมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับพ่อของเนี่ยนหนิวเอ้อร์มู่อี้ก็อดไม่ได้ที่จะถาม มู่อี้รู้สึกอยากรู้เกี่ยวกับชายที่ทำให้ไข่มุกแห่งตระกูลซูยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อหนีไปกับเขาและเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น? และทำไมแม่ของเนี่ยนหนิวเอ้อร์จึงพานางที่ป่วยเป็นโรคประหลาดกลับมาคนเดียว?

"ข้าจำไม่ได้ ข้าไม่เคยเห็นหน้าท่านพ่อมาก่อนและท่านแม่ก็ไม่เคยเล่าเรื่องของท่านพ่อให้ข้าฟังเลย ข้ารู้แค่ว่าพ่อของข้าเป็นผู้มอบเสี่ยวจูให้กับท่านแม่" เนี่ยนหนิวเอ้อร์ส่ายศีรษะ

"แล้วหลังจากนี้เจ้าจะทำอะไรต่อไป?" หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่งมู่อี้ก็เอ่ยปากถามออกมา

"เนี่ยนหนิวเอ้อร์ไม่รู้" ใบหน้าของเนี่ยนหนิวเอ้อร์เต็มไปด้วยความสับสน การแสดงออกทางสีหน้าของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆส่งผลกระทบต่อมู่อี้โดยไม่ต้องสงสัย

"เจ้าลองคิดดูให้ดี นอกจากนี้แม่ของเจ้าแตกต่างจากเจ้า นางไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ที่มีพลังหยางได้และต้องอาศัยอยู่ในป่าไผ่ที่มีพลังหยินแห่งนี้ ข้าจะออกไปบอกท่านตาของเจ้าและข้าจะกลับมาในคืนพรุ่งนี้ถ้า ... " มู่อี้อ้าปากค้างและไม่ได้พูดจนจบประโยค

เขาจ้องมองที่เนี่ยนหนิวเอ้อร์อีกครั้งก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกจากป่าไผ่ไป

ด้านนอกป่าไผ่ ซูจงซานกำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อหลังจากเห็นมู่อี้เดินออกมาเขาก็รู้สึกดีใจและมองไปรอบๆตัวมู่อี้ เมื่อเห็นว่ามู่อี้ออกมาจากป่าไผ่เพียงลำพังใบหน้าของเขาก็แสดงความผิดหวังออกมา

"นางไม่อยากพบหน้าข้าและปฏิเสธที่จะให้อภัยข้าใช่ไหม?" ซูจงซานอดไม่ได้ที่จะถาม

"ท่านผู้อาวุโส เนี่ยนหนิวเอ้อร์เพิ่งได้รับความทรงจำก่อนหน้านี้ของนางกลับคืนมาจึงเป็นเรื่องยากที่นางจะยอมรับมันในระยะเวลาอันสั้น แต่ข้าเชื่อว่าถ้าให้เวลากับนางอีกหน่อยนางจะยอมรับท่านอย่างแน่นอน ถ้ามีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ข้าจะบอกให้ท่านทราบในภายหลัง" มู่อี้กล่าว

ในตอนนี้ความคิดของมู่อี้จดจ่ออยู่กับการฉือกุยที่หนีรอดไปได้ มันจะต้องเป็นปัญหาในภายหลังอย่างแน่นอนและเขาจะต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

"ตกลง" ซูจงซานพยักหน้า เขาไม่ใช่คนธรรมดาและตระกูลซูเป็นตระกูลที่อยู่มาหลายทศวรรษ ด้วยอำนาจที่เขามีทำให้เขามั่นใจว่าการจับตัวฉือกุยในครั้งนี้คงใช้เวลาไม่มากนัก

"ท่านนักพรตโปรดมาพักผ่อนที่บ้านของข้าก่อน เมื่อข้าจับตัวชายคนนั้นได้ข้าจะรีบแจ้งให้ท่านทราบโดยเร็วที่สุด"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด