ตอนที่ 20 เบื้องหลัง
ตอนที่ 20 เบื้องหลัง
เนี่ยนหนิวเอ้อร์กลับไปหาวิญญาณหญิงสาวและจับมือของนางเอาไว้อีกครั้ง วิญญาณของผู้ใหญ่และวิญญาณของเด็กกำลังโอบกอดกันเป็นภาพที่ทำให้มู่อี้รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง
ดูเหมือนว่าทั้งสองจะหวาดกลัวตะเกียงทองแดงในมือของมู่อี้ เนี่ยนหนิวเอ้อร์ไม่กล้าที่จะโจมตีอีกและคืนสภาพกลับไปเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆอีกครั้ง
ซูจินหลุนเหลือบมองไปยังมู่อี้และเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังใช้ความคิดอยู่จึงไม่กล้ารบกวน เขาจับดาบที่ถืออยู่ในมือให้แน่นขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมที่จะปกป้องซูหยิงหยิงได้ตลอดเวลา
มู่อี้กำลังคิดหาทางแก้ไขปัญหาที่กำลังเผชิญในขณะนี้ วิญญาณของผู้ใหญ่และวิญญาณของเด็กคู่นี้แข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้โดยเฉพาะเนี่ยนหนิวเอ้อร์ นางไม่เพียงมีสติปัญญาที่เฉียบแหลมเท่านั้นแต่ยังแข็งแกร่งเป็นอย่างมากอีกด้วย
แม้ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่มู่อี้ก็เข้าใจดีว่ากระแสจิตของเขามีจำกัดและเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ตะเกียงทองแดงได้ตลอดเวลา เมื่อกระแสจิตของเขาหมดลงเนี่ยนหนิวเอ้อร์และวิญญาณหญิงสาวอาจพุ่งเข้ามาโจมตีเขาอีกครั้ง
"หนิวเอ้อร์ เรามาคุยกันดีกว่า ตกลงไหม?" มู่อี้คิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ จากนั้นเขาหันไปมองเนี่ยนหนิวเอ้อร์และพูดออกมา
"พี่ชายจะไม่จับหนิวเอ้อร์ใช่ไหม?" เนี่ยนหนิวเอ้อร์ถามด้วยความไร้เดียงสา
"หนิวเอ้อร์ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ชายไม่ได้มาที่นี่เพื่อจับหนิวเอ้อร์" มู่อี้พูดออกมาช้าๆในขณะเดียวกันเขาก็หยุดส่งกระแสจิตเข้าไปในตะเกียงทองแดง เปลวไฟที่ลุกโชนในตะเกียงทองแดงค่อยๆลดลงเรื่อยๆจนกระทั่งดับมอดไป
เมื่อเห็นเปลวไฟหายไปวิญญาณหญิงสาวก็มีท่าทีที่จะเข้ามาจู่โจมอีกครั้ง ดวงตาสีดำสนิทของนางจ้องมองมู่อี้ด้วยความโกรธแค้นเพราะมู่อี้ได้ทำให้นางต้องทุกข์ทรมาณก่อนหน้านี้
แต่เมื่อเนี่ยนหนิวเอ้อร์ดึงมือของวิญญาณหญิงสาวเบาๆอารมณ์ของนางก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าความโกรธแค้นจะไม่จางหายไปอย่างสมบูรณ์แต่นางก็ไม่พยายามโจมตีเขาอีก
เมื่อเห็นเช่นนี้มู่อี้ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
แม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะทำให้เขาผ่อนคลายมากขึ้น แต่ความจริงแล้วหัวใจของเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียด เขากลัวว่าหากทำผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียวก็อาจหมายถึงชีวิตของเขาไม่ก็สองพี่น้องตระกูลซู นอกจากนี้หากเขาทำไม่สำเร็จคงไม่มีหน้ากลับไปพบซูจงซานได้และไม่กล้าลงมาเหยียบหมู่บ้านแห่งนี้อีก
ยิ่งไปกว่านั้นมู่อี้ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์ เขาคิดว่าการพูดคุยกับเนี่ยนหนิวเอ้อร์อาจเป็นทางออกที่ดีกว่า
"หนิวเอ้อร์บอกพี่ชายได้ไหมว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงมีคนมากมายต้องการที่จะจับตัวเจ้าไป?” มู่อี้ถามอย่างนุ่มนวล ตั้งแต่เริ่มพูดคุยกับนางมู่อี้สังเกตเห็นว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์พูดซ้ำๆว่ามีคนอยากจะจับนาง แต่ในมุมมองของมู่อี้แม้ว่าพระสงฆ์และนักพรตลัทธิเต๋ามีความสามารถในการสะกดวิญญาณ แต่หนิวเอ้อร์ไม่ใช่วิญญาณธรรมดาทั่วไปที่พวกเขาจะสามารถจับไปได้อย่างง่ายดาย
เห็นได้ชัดว่าพระสงฆ์และนักพรตลัทธิเต๋าไม่ใช่คนที่เนี่ยนหนิวเอ้อร์พูดถึง
"มีพี่สาวคนหนึ่งมักจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อจับเนี่ยนหนิวเอ้อร์อยู่เสมอ แต่พวกเขาก็ถูกเนี่ยนหนิวเอ้อร์ไล่จนกลัวหัวหดกลับไปทุกครั้ง" เนี่ยนหนิวเอ้อร์พูดด้วยความภาคภูมิใจ
"พี่สาว?" คำพูดของเนี่ยนหนิวเอ้อร์ทำให้มู่อี้รู้สึกว่าสิ่งที่เขาคาดเดาถูกต้อง ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมาที่นี่เพื่อจับวิญญาณมาก่อน และดูเหมือนหนิวเอ้อร์จะพูดว่า ‘พี่สาว’ มาที่แห่งนี้มากกว่าหนึ่งครั้ง
แต่ 'พี่สาว' ที่นางพูดถึงเป็นใครกัน? ทำไมนางถึงต้องการจับตัวเนี่ยนหนิวเอ้อร์? หรือว่าจะมีวิญญาณอีกตนนอกเหนือจากวิญญาณแม่ลูกคู่นี้?
มู่อี้รู้สึกขนลุกไปทั่วหนังศีรษะของเขา นี่เขาเข้ามาในรังของวิญญาณอย่างนั้นหรือ? เขาติดตามนักพรตชรามาหลายปีและไม่เคยเห็นวิญญาณตัวเป็นๆมาก่อน แต่หลังจากที่ลงมาจากภูเขากลับได้พบวิญญาณสองแม่ลูกและอาจจะมีมากกว่านี้อีก นี้เป็นโชคดีหรือโชคร้ายสำหรับเขากันแน่?
"เนี่ยนหนิวเอ้อร์จำคุณย่าที่เคยมาที่นี่เมื่อสองสามวันก่อนได้ไหม?" มู่อี้ถามในขณะที่หัวใจของเขาเต้นรัว
"ใช่คุณย่าที่ชอบพูดกับตัวเองหรือเปล่า?" เนี่ยนหนิวเอ้อร์ถามมู่อี้อย่างงุนงงและเอียงศีรษะของนางเล็กน้อย
"ใช่ คุณย่าคนนั้นแหละ เจ้าได้ทำร้ายนางหรือเปล่า?" มู่อี้พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขารู้สึกว่ากำลังจะได้รับกุญแจสำคัญในการปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆและบางทีคำตอบของหนิวเอ้อร์อาจช่วยไขความข้องใจให้เขาได้. .
ในความเป็นจริง ตั้งแต่แรกพบเนี่ยนหนิวเอ้อร์มู่อี้ก็มีความสงสัยในใจอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้เขาได้ช่วยหญิงชราตระกูลซูจากวิญญาณชั่วร้าย แต่สิ่งที่เขาสัมผัสได้จากวิญญาณที่ขับไล่ในเวลานั้นเป็นความรู้สึกที่หนาวเหน็บและชั่วร้าย
แม้ว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์จะเป็นวิญญาณเช่นกัน แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงความชั่วร้ายในดวงวิญญาณของนางเลย
มู่อี้จำคำพูดของนักพรตชราที่เคยบอกเขาก่อนหน้านี้ได้ "ในโลกแห่งนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่เหล่าวิญญาณ แต่เป็นมนุษย์" วิญญาณในโลกนี้ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด วิญญาณส่วนใหญ่ต้องอยู่ภายในเงามืดเพราะกลัวแสงแดดและมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นอันตราย
บางทีวิญญาณอาจเป็นมิตรยิ่งกว่าเหล่าผู้คนที่พร้อมจะช่วงชิงความแข็งแกร่งโดยไม่สนใจชีวิตมนุษย์ในโลกใบนี้เสียอีก
ดังนั้นมู่อี้จึงคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นเนี่ยนหนิวเอ้อร์หรือแม่ของนางก็เป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะทำร้ายหญิงชรา
ท้ายที่สุดพวกนางก็อยู่ที่นี่มานานมากแล้ว หากเป็นฝีมือของพวกนางจริงในทุกๆเดือนมักมีคนมาทำความสะอาดที่นี่แต่ทำไมถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคนเหล่านั้นเลย?
หญิงชรามาที่นี่และถูกใครบางคนลอบทำร้ายอย่างนั้นหรือ?
ยิ่งมู่อี้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับที่แห่งนี้มากขึ้นเท่าไหร่ก็ทำให้เขารู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นและดูเหมือนว่าเขาจะปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเนี่ยนหนิวเอ้อร์กล่าวว่ามี 'พี่สาว' มาที่นี่เพื่อจับนางหลายครั้งทำให้มู่อี้รู้สึกมั่นใจในการคาดเดาของตนเองมากขึ้น
หากหญิงชราไม่ใช่เหยื่อของแม่ลูกที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่? อีกฝ่ายมีวัตถุประสงค์อะไรในการทำเช่นนี้?
มู่อี้เงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปยังเนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่กำลังเอนกายพิงแม่ของนางอยู่
ตอนนี้มู่อี้มีคำตอบในใจของเขาแล้ว เป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่ายคือเนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
วิญญาณอย่างเนี่ยนหนิวเอ้อร์เป็นสิ่งที่ต้องการสำหรับคนที่เลี้ยงวิญญาณและยังเป็นสิ่งที่หายากมากอีกด้วย
สมมติว่ามีคนพบเจอเนี่ยนหนิวเอ้อร์โดยไม่ตั้งใจและต้องการที่จะจับนาง แต่อย่างไรก็ตามตระกูลซูเป็นตระกูลใหญ่และไม่เป็นสองรองใครในเมืองฟุเนียว ภายในคฤหาสน์ตระกูลซูมีองค์รักษ์ที่แข็งแกร่งคอยประจำการอยู่มากมาย แม้พวกเขาจะไม่สามารถรับมือกับวิญญาณร้ายได้แต่คงไม่มีปัญหากับการจัดการคนที่บุกรุกเข้าไปอย่างแน่นอน
บางทีคนคนนั้นอาจเป็นคนเลี้ยงวิญญาณ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เหล่าองค์รักษ์พบตัวเขาจึงส่งวิญญาณหญิงสาวเข้าไปเพื่อจับตัวเนี่ยนหนิวเอ้อร์ แต่เขาไม่คิดว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์จะแข็งแกร่งเป็นอย่างมากและสามารถขับไล่วิญญาณตนนั้นออกมาได้
แต่เมื่อไม่นานมานี้คนคนนั้นก็เริ่มคิดหาหนทางอื่นได้นั่นก็คือการสั่งให้วิญญาณทำร้ายหญิงชราและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงชราถึงแม้นางจะไม่ได้มาที่บ้านร้างหลังนี้ก็ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้
เมื่อหมอที่มีชื่อเสียงทุกคนไม่สามารถรักษาอาการป่วยของนางได้ คนในครอบครัวของนางจึงต้องพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อหาวิธีการรักษาและพวกเขาจะต้องคิดว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่ทำให้หญิงชราต้องล้มป่วยเช่นนี้
แม้ว่าจะไม่มีใครรู้สาเหตุการป่วยที่แท้จริงของหญิงชราก็ตาม มู่อี้ก็เชื่อว่าบุคคลนั้นมีวิธีที่จะเสนอตัวเข้ามารักษาอย่างแน่นอน
ด้วยวิธีนี้ตระกูลซูจะต้องเชิญนักพรตลัทธิเต๋าเข้ามาในบ้านเพื่อสะกดวิญญาณอย่างแน่นอน หลังจากนั้นเขาก็จะสามารถเดินผ่านประตูเข้าไปในบ้านตระกูลซูได้อย่างสง่างาม ไม่ว่าเขาจะทำอะไรภายในบ้านร้างก็ไม่มีใครสงสัยเขา ไม่เพียงแต่เขาจะจับเนี่ยนหนิวเอ้อร์ได้เท่านั้น แต่เขายังจะได้รับรางวัลจากตระกูลซูอีกด้วยเท่ากับว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว
แต่น่าเสียดายที่คนๆ นั้นไม่ได้คาดการณ์ไว้ว่ามูยี่จะปรากฎตัวขึ้น!