ตอนที่แล้วตอนที่ 18 หนิวเอ้อร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 เบื้องหลัง

ตอนที่ 19 วิญญาณปรากฏกาย


ตอนที่ 19 วิญญาณปรากฏกาย

"กรี้ด!"

เนี่ยนหนิวเอ้อร์กรีดร้องและถอยหลังกลับเข้าไปในตู้เสื้อผ้า

"พี่ชายท่านไม่ชอบหนิวเอ้อร์หรือ?" เนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่กลับเข้าไปในตู้เสื้อผ้าเปลี่ยนบุคลิกกลับมาเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆที่น่ารักและไร้เดียงสาอีกครั้ง

การเปลี่ยนแปลงของเนี่ยนหนิวเอ้อร์ทำให้จิตสังหารอย่างรุนแรงในหัวใจของมู่อี้หยุดชะงัก

"ฟิ้ว!"

ในขณะที่มู่อี้กำลังลังเลก็มีบางอย่างเกิดขึ้นอยู่ข้างหลัง เขารู้สึกถึงคลื่นพลังที่แข็งแกร่งและในเวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงลมหายใจฮึดฮัดดังขึ้น มู่อี้รีบหันกลับไปทันที เขาเห็นแสงสีขาวบางๆปรากฏตัวขึ้นบนร่างของซูจินหลุน จากนั้นเงาดำมืดก็ถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว

นางเป็นหญิงสาวที่มีผมยาวถึงไหล่และดูเหมือนจะมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น นางแต่งตัวด้วยชุดสีขาวที่ดูงดงาม แต่ใบหน้าของนางไร้อารมณ์และไร้ความรู้สึกใดๆ

โดยเฉพาะดวงตาของนางที่มีสีดำสนิท ไม่ว่าใครที่ได้พบเจอก็ต้องรู้สึกหนาวสั่นไปจนถึงกระดูกดำตั้งแต่แรกเห็น

เนี่ยนหนิวเอ้อร์เห็นโอกาสในช่วงเวลาที่มู่อี้หันหลังกลับไป นางค่อยๆเดินมาที่ด้านข้างของหญิงสาวอย่างเงียบๆ จับมือ แล้วเอนศีรษะของนางพิงร่างของหญิงสาว

ภาพที่มู่อี้เห็นส่งผลกระทบต่อหัวใจของเขาโดยตรงและเขาไม่อาจรู้สึกโกรธเนี่ยนหนิวเอ้อร์ได้อีกต่อไป

นี่เป็นสิ่งที่น่าสงสารที่สุดในโลก หญิงสาวที่หนีไปกับชายที่เป็นคนรักแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ในท้ายที่สุดไม่กี่ปีต่อมานางกลับมาพร้อมกับลูกสาวที่ป่วยหนักและพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยชีวิตลูกสาวของนาง แต่โชคชะตากลับไม่เข้าข้าง ความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกสาวของนางค่อยๆทำให้นางเป็นบ้าและในที่สุดนางก็เลือกที่จะฆ่าตัวตาย

และวิญญาณของนางไม่สามารถกลับชาติมาเกิดได้เพราะนางต้องอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องลูกสาวของตนเอง

มู่อี้ยังคงจดจำสิ่งที่ซูจงซานบอกเขาได้ เมื่อเนี่ยนหนิวเอ้อร์เสียชีวิตลูกสาวของเขาได้ฝังศพของนางไว้ในสวนหลังบ้าน ก่อนหน้านี้มู่อี้ได้ไปค้นหาบริเวณรอบๆสวนหลังบ้านแล้วแต่กลับไม่พบ ดูเหมือนว่าหลุมฝังศพอาจจะอยู่ในป่าไผ่

ป่าไผ่ที่ยังคงมีชีวิตชีวาแม้จะถูกทิ้งร้างมานาน

ในตอนนี้มู่อี้มองไปยังวิญญาณของหญิงสาวที่ไร้อารมณ์และไร้ความรู้สึกใดๆและเนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอันหน้าเศร้าที่เกิดขึ้น ในใจของเขาเต็มไปด้วยความหดหู่ที่ไม่สามารถอธิบายได้ แม่ลูกคู่นี้ทำให้มู่อี้นึกถึงนักพรตเฒ่าอีกครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์แบบอาจารย์และลูกศิษย์ แต่จริงๆแล้วความรู้สึกที่ทั้งสองคนมีต่อกันไม่ต่างจากพ่อและลูกเลย

เมื่อนักพรตเฒ่าเสียชีวิตมู่อี้ก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ดังนั้นเขาจึงสามารถจินตนาการได้ว่าหญิงสาวที่ต้องเผชิญกับความตายอันน่าสลดใจของลูกสาวจะรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหนและความโศกเศร้าของนางหนักกว่าของเขามากเพราะมันมีความรู้สึกผิดรวมอยู่ด้วย

ซูจินหลุนและซูหยิงหยิงต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ในที่สุดพวกเขาก็สามารถมองเห็นหญิงสาวและเนี่ยนหนิวเอ้อร์ได้ แม้พวกเขาจะทราบดีว่าทั้งสองเป็นใครแต่ความกลัวในใจทำให้พวกเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้

"ไปเกิดใหม่ซะเถอะขอรับ ถ้าท่านยังทำเช่นนี้ต่อไปไม่ช้าก็เร็ววิญญาณของท่านจะต้องสูญสลาย" มู่อี้มองไปที่วิญญาณหญิงสาวคนนั้นแล้วพูดกับนาง ดูเหมือนว่านางจะเสียสติไปแล้วและไม่อาจเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่อี้หญิงสาวคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเขา หลังจากนั้นไม่นานนางก็หันไปมองเนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่กำลังจับมืออีกครั้ง จากนั้นนางก็พุ่งตัวเข้าใส่มู่อี้ด้วยความโกรธทันที

"ย่าห์!"

มู่อี้หรี่ตาแคบลงและสะบัดมือขวาเบาๆ ทันใดนั้นยันต์ปราบปีศาจก็เปลี่ยนเป็นแสงสีขาวและพุ่งเข้าหาร่างของวิญญาณหญิงสาว

นี่เป็นครั้งแรกที่มู่อี้ใช้ยันต์ปราบปีศาจ แต่กลับดูคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่งราวกับว่าเขาผ่านประสบการณ์มามากมาย

หลังจากใช้ยันต์ปราบปีศาจมู่อี้ก็รู้สึกได้ว่ากระแสจิตส่วนหนึ่งของเขาหายไป

เห็นได้ชัดว่าการใช้งานยันต์ของมู่อี้ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เมื่อกระแสจิตของเขาหมดลงยันต์ก็เป็นเพียงเศษกระดาษที่ไร้ค่าเท่านั้น

แสงสีขาวสว่างวาบและเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว วิญญาณหญิงสาวไม่สามารถหลบได้และถูกยันต์พุ่งเข้ามาติดที่หน้าอก

ยันต์ชนิดนี้แตกต่างจากยันต์คุ้มภัยที่มีเพียงพลังในการป้องกันเท่านั้น เดิมทียันต์ปราบปีศาจถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ในการฆ่าโดยเฉพาะ แม้การฝึกฝนบ่มเพาะในปัจจุบันของมู่อี้จะเพิ่งก้าวสู่ขั้นที่ 2 ซึ่งไม่สามารถวาดอักขระที่ทรงพลังได้ แต่ก็สามารถทำให้หญิงสาวที่ถูกยันต์ติดที่หน้าอกดิ้นทุรนทุรายและมีสีหน้าที่เจ็บปวดทุกข์ทรมาณปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง

แม้ว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์ยังเป็นเด็กที่ไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง แต่นางก็รู้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นคนที่ใกล้ชิดกับนางมากที่สุดในชีวิต เมื่อนางเห็นแม่ของตนเองถูกมู่อี้โจมตี ร่างกายของนางก็สั่น ดวงตาทั้งสองข้างของนางกลายเป็นสีฟ้าและมีเขี้ยวงอกออกมาจากปากอีกครั้ง และกระโจนใส่มู่อี้อย่างรวดเร็ว

มู่อี้ไม่ต้องการทำร้ายเนี่ยนหนิวเอ้อร์ดังนั้นเขาจึงจับยันต์คุ้มภัยเอาไว้ในมือ และเมื่อเนี่ยนหนิวเอ้อร์พุ่งเข้ามากระแทกร่างกายของเขายันต์คุ้มภัยก็ทำงานโดยอัตโนมัติทำให้เนี่ยนหนิวเอ้อร์กระเด็นกลับหลังไป แต่นางก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก

หลังจากโจมตีล้มเหลว เนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็ไม่ได้โจมตีมู่อี้อีกต่อไป แต่กลับพุ่งตัวไปหาซูจินหลุนเพราะนางรู้ว่าซูจินหลุนเป็นพวกพ้องของเขา

"กระบี่!"

เป็นไปไม่ได้ที่มู่อี้จะเข้าไปช่วยเหลือซูจินหลุนจากการโจมตีของเนี่ยนหนิวเอ้อร์ได้ทัน อย่างไรก็ตามยันต์ปราบปีศาจในมือของเขานั้นมีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง และในตอนนี้เขาทำได้เพียงตะโกนเสียงดังเพื่อเตือนซูจินหลุนเท่านั้น

เมื่อได้ยินเสียงของมู่อี้ ซูจินหลุนที่ไม่รู้ตัวว่าอันตรายกำลังจะมาเยือนก็ตั้งสติได้อีกครั้ง เขารีบหยิบกระบี่เล่มใหญ่ขึ้นมาและฟาดฟันไปที่ร่างของเนี่ยนหนิวเอ้อร์ในทันที

กระบี่ขนาดใหญ่เล่มนี้เป็นของทหารผ่านศึกที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชน มันผ่านสมรภูมิมามากมายและถูกอาบด้วยเลือดของมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วน

กระบี่เล่มนี้มีผลกระทบต่อวิญญาณอย่างมาก แม้จะยืนถือกระบี่อยู่เฉยๆวิญญาณก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้

แม้ว่าซูจินหลุนจะเทียบไม่ได้กับเจ้าของกระบี่คนก่อน แต่กระบี่ใหญ่เล่มนี้ก็สามารถทำให้เนี่ยนหนิวเอ้อร์รู้สึกถึงอันตราย นางไม่รอให้กระบี่ใหญ่เล่นงาน ออกห่างจากซูจินหลุนและเปลี่ยนเป้าหมายอีกครั้ง

ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้การตอบสนองของซูหยิงหยิงไม่ได้ดีเท่าซูจินหลุน เมื่อเนี่ยนหนิวเอ้อร์พุ่งตัวเข้าหานาง นางไม่สามารถบังคับให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้และทำได้เพียงเฝ้ามองเนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่ใกล้เข้ามาเท่านั้น. .

โชคดีที่นางยังมียันต์ที่มู่อี้มอบให้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่เนี่ยนหนิวเอ้อร์ใกล้เข้ามายันต์คุ้มภัยก็ทำงานโดยอัตโนมัติ

แสงสีขาวสว่างจ้าและร่างของเนี่ยนหนิวเอ้อร์ถูกผลักกระเด็นออกไปทันที

ช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็เพียงพอแล้วสำหรับมู่อี้ เขารีบกลับมาหาทั้งสองอย่างรวดเร็วและยกตะเกียงทองแดงในมือของเขาขึ้น

ในขณะเดียวกันมู่อี้ก็พยายามส่งกระแสจิตลงในตะเกียงทองแดงและเปลวไฟสีเหลืองขนาดเล็กก็ลุกโชนขึ้นมาอย่างกระทันหัน

วิญญาณหญิงสาวที่กำลังจะโจมตีมาจากอีกด้านหนึ่งก็หยุดชะงักไปทันที ร่างวิญญาณของนางถูกปกคลุมด้วยแสงสว่างและลุกไหม้กลายเป็นควันสีดำในทันที นางล่าถอยกลับไปพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องที่โหยหวน

สำหรับเนี่ยนหนิวเอ้อร์ อาจเป็นเพราะเคยได้ลิ้มรสพลังของตะเกียงทองแดงมาก่อนนางจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงมันตั้งแต่แรกเห็น

"พวกท่านไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?" มู่อี้ถามโดยไม่หันกลับมามอง ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เนี่ยนหนิวเอ้อร์และวิญญาณหญิงสาว

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่อี้ ซูหยิงหยิงก็รู้สึกตัวอีกครั้งราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้ายและพูดด้วยเสียงสั่น "ข้าไม่เป็นอะไร"

“ข้าก็ไม่เป็นอะไรเช่นกัน” ซูจินหลุนพูดในขณะที่เหลือบมองน้องสาวของเขาด้วยความเป็นห่วง

ในตอนนี้มู่อี้รู้สึกเสียใจอย่างมากที่เขาพาซูหยิงหยิงมาที่นี่ด้วย แต่เขารู้ว่าโทษตัวเองไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาและตอนนี้ทำได้เพียงแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด